บริษัทเวียดนามสุดทุ่ม แจกทีวี 40 นิ้ว เป็นของขวัญปีใหม่ พนักงาน 4,400 คน ทำดีใจกันยกใหญ่ ลั่นเป็นกำลังใจในการทำงานที่ดี
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม เกิดกระแสไวรัลในโลกออนไลน์เวียดนาม โดยมีคลิปบันทึกเหตุการณ์พนักงานหลายร้อยคนถือโทรทัศน์กลับบ้านถูกโพสต์บนโซเชียลจนดึงดูดความสนใจของสาธารณชน
ตามรายงาน บริษัทเมนซ่า อินดัสทรีส์ จำกัด มีสำนักงานใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรม VSIP เมืองกว๋างหงาย ประเทศเวียดนาม ซึ่งทุ่มทุนแจกโทรทัศน์ขนาด 40 นิ้ว เป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่คนงานทั้ง 4,400 คน โดยกิจกรรมแจกทีวีมีขึ้นในวันที่ 28 และ 29 ธันวาคมผ่านมา...
นาย ผ่าม ไทตง ประธานสหภาพการค้าเขตเศรษฐกิจตุงคัตและนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดกว๋างหงาย กล่าวว่า พนักงาน 4,400 คนได้รับทีวีขนาด 40 นิ้วคนละเครื่อง ของขวัญชิ้นนี้มอบให้กับคนงานจริง แม้ว่าสภาพอากาศในเมืองกว๋างหงายจะหนาวและมีฝนตกแต่พนักงานหลายพันคนก็รู้สึกอบอุ่นมาก เพราะพวกเขาได้รับของขวัญอันมีค่ามากหลังจากทำงานหนักให้กับบริษัทเป็นเวลาหนึ่งปี...
โดยพนักงานคนหนึ่งที่ทำงานที่บริษัทเมนซ่า อินดัสทรีส์ จำกัด ให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันทำงานที่บริษัทนี้มามากกว่า 5 ปีแล้ว ปีนี้บริษัทมอบทีวีให้พนักงานแต่ละคน ซึ่งทำให้ฉันและพนักงานหลายคนของบริษัทมีความสุขมาก ของขวัญชิ้นนี้ไม่เพียงแต่เป็นรางวัลสำหรับความพยายามในปีที่ผ่านมา แต่ยังเป็นแหล่งกำลังใจที่ดีอีกด้วย ช่วยให้สมาชิกสหภาพแรงงานและพนักงานมีความอบอุ่นและสบายใจมากขึ้น”...
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อัปเดตข้อมูลเหตุรถชนคนที่นิวออร์ลีนส์ ปรับลดจำนวนผู้เสียชีวิตเหลือ 14 ศพ และตอนนี้พวกเขาเชื่อว่า คนร้ายลงมือเพียงคนเดียว และได้แรงบันดาลใจจากกลุ่มไอซิส
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ (FBI) ประกาศในงานแถลงข่าวในวันพฤหัสบดีที่ 2 ม.ค. 2568 ว่า ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุขับรถชนผู้คนที่ถนนบอร์บอน ในเมืองนิวออร์ลีนส์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา น่าจะลงมือเพียงคนเดียว โดยไม่มีผู้สมรู้ร่วมคิดคนอื่น
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สงสัยว่าคนร้าย ซึ่งได้รับการเปิดเผยชื่อในภายหลังว่า ชามซุด-ดิน จับบาร์ อาจมีผู้สมรู้ร่วมคิด เนื่องจากพวกเขาพบวัตถุต้องสงสัยเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่จุดอื่นๆ นอกจากจุดเกิดเหตุด้วย
แต่ล่าสุด FBI ไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้นแล้ว โดยระบุว่า “ณ จุดนี้เราไม่ได้ประเมินแล้วว่า มีคนอื่นเกี่ยวข้องกับการโจมตีครั้งนี้ นอกจากนาย ชามซุด-ดิน จับบาร์” นายคริสโตเฟอร์ ไรอา รองผู้ช่วยผู้อำนวยการแผนกต่อต้านการก่อการร้ายของ FBI กล่าว
ส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่ถูกพบใกล้ทางแยกของถนนบอร์บอนกับถนนออร์ลีนส์ กับอีกลูกที่ถูกพบห่างออกไปราว 2 ช่วงตึก เป็นนายจับบาร์ที่นำไปวางเอาไว้เองราว 1 ชั่วโมงก่อนก่อเหตุ
FBI เผยว่ารายงานเรื่องการพบวัตถุต้องสงสัยอื่นๆ เป็นความเข้าใจผิด หรือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้การไม่ได้จริง อุปกรณ์ที่ใช้การได้ที่เจ้าหน้าที่พบมีเพียง 2 ลูกเท่านั้น
นอกจากนั้น นายไรอาระบุด้วยว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่พบความเชื่อมโยงที่แน่นอน ระหว่างเหตุโจมตีที่นิวออร์ลีนส์ กับเหตุรถไซเบอร์ทรัคของบริษัทเทสลาระเบิด ที่หน้าโรงแรม ทรัมป์ โฮเทล ในนครลาสเวกัส ซึ่งเกิดขึ้นห่างกันไม่กี่ชั่วโมง โดยย้ำว่า ตอนนี้การสืบสวนยังอยู่ในช่วงเริ่มแรกเท่านั้น
เมื่อวันที่ 3 มกราคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สถานการณ์สู้รบในตะวันออกกลางยังคงตึงเครียด ล่าสุด กองทัพอิสราเอลได้ยิงสกัดขีปนาวุธและโดรนที่ยิงโจมตีจากเยเมนเข้ามาในดินแดนอิสราเอลไว้ได้ในวันศุกร์(3 ม.ค.)นี้ ทว่าเศษซากอาวุธดังกล่าวที่ถูกยิงสกัด ได้ร่วงตกลงในพื้นที่โมดีอิน ทางตอนกลางของประเทศอิสราเอล ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย อย่างไรก็ดี รายละเอียดของความเสียหายจากเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ
หน่วยบริการฉุกเฉินของอิสราเอลเปิดเผยว่าทางหน่วยงานได้ทำการรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายหรือผู้ตื่นตกใจกับเหตุโจมตีดังกล่าวที่พากันหาที่หลบภัย หลังเสียงเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังขึ้นในพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ของประเทศอิสราเอล
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นกองทัพอิสราเอลประกาศว่าได้ยิงโดรนที่ถูกโจมตีจากเยเมนไว้ได้หนึ่งลำ โดยยิงสกัดไว้ได้ก่อนที่จะเข้ามาในเขตแดนของอิสราเอล
นับเป็นเหตุการณ์โจมตีอิสราเอลจากเยเมนต่อเนื่องครั้งล่าสุดที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกบฎฮูตีที่เคลื่อนไหวอยู่ในเยเมน ซึ่งประกาศสนับสนุนกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ที่ถูกอิสราเอลทำสงครามโจมตี หลังกลุ่มฮามาสบุกเข้าไปโจมตีสังหารผู้คนในอิสราเอลอย่างเหี้ยมโหดมากกว่า 1,200 คนและจับเป็นตัวประกันกว่า 250 คน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปี 2023...
อิสราเอลถล่มกาซา คร่าชีวิตผบ.ตร. – ประชาชน 67 ราย UNRWA ชี้ ไม่มีที่ไหนปลอดภัย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมว่า ทางการอิสราเอลยังคงเดินหน้าถล่มฉนวนกาซาด้วยการโจมตีทางอากาศ ที่ได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปอย่างน้อย 68 ราย ซึ่งรวมถึงที่ค่ายพักที่เป็นเต็นท์แห่งหนึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว 11 ราย หนึ่งในนั้นคือพลเอกมาห์มูด ซาลาห์ ผู้บัญชาการตำรวจกาซาและพลเอกฮุสซัม ชาห์วัน ผู้ช่วยของเขา รวมถึงผู้พลัดถิ่นชาวปาเลสไตน์อีก 9 ราย
การโจมตีเกิดขึ้นในเขตอัล-มาวาซี ซึ่งถูกกำหนดว่าเป็นเขตปลอดภัยสำหรับพลเรือนในช่วงต้นของสงครามที่กินเวลา 14 เดือนระหว่างอิสราเอลและฮามาสซึ่งปกครองฉนวนกาซา ขณะเกิดเหตุโจมตีซาลาห์และชาห์วันกำลังตรวจสอบผู้ที่พักอาศัยอยู่ในค่ายดังกล่าว
แถลงการณ์ระบุว่า การก่ออาชญากรรมด้วยการลอบสังหารผู้บัญชาการตำรวจในฉนวนกาซา เป็นพฤติกรรมของกลุ่มผู้ยึดครองที่ยืนกรานที่จะแพร่กระจายความวุ่นวายในกาซา และทำให้ประชาชนต้องทนทุกข์ทรมานมากขึ้น
ขณะที่การโจมตีทางอากาศอื่นๆ ของอิสราเอลคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปอย่างน้อย 57 คน ซึ่งรวมถึง 6 คนในสำนักงานใหญ่กระทรวงมหาดไทยในข่านยูนิส และคนอื่นๆ ในค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลียทางตอนเหนือของกาซา ค่ายชาตีที่ตั้งอยู่บริเวณชายหาด ค่ายมากาซีตอนกลางของกาซา และเมืองกาซา
ด้านกองทัพอิสราเอลกล่าวว่า ได้ทำการโจมตีโดยใช้ข่าวกรองในเมืองอัล-มาวาซีซึ่งอยู่ทางตะวันตกของเมืองข่านยูนิสและได้กำจัดชาห์วัน โดยอ้างว่าเขาเป็นผู้นำกองกำลังฮามาสในฉนวนกาซาตอนใต้ และไม่ได้กล่าวถึงการตายของซาลาห์
เมื่อทางโฆษกของกองทัพอิสราเอลถูกถามเกี่ยวกับรายงานผู้เสียชีวิตในวันดังกล่าวซึ่งสูงที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา เขากล่าวว่า กองทัพอิสราเอลปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศในการทำสงครามในฉนวนกาซา และได้ดำเนินมาตรการป้องกันที่เป็นไปได้เพื่อบรรเทาความเสียหายของพลเรือน พร้อมกับกล่าวหาว่ากลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซาใช้พื้นที่ที่อยู่อาศัยเป็นที่กำบัง ซึ่งกลุ่มฮามาสปฏิเสธเรื่องดังกล่าว
นายฟิลิปเป้ ลาซซารินี หัวหน้าองค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) โพสต์บนเอ็กซ์ว่า เมื่อปีใหม่เริ่มต้นขึ้น เราก็ได้รับคำเตือนอีกครั้งว่าไม่มีเขตมนุษยธรรม หรือแม้กระทั่งเขตปลอดภัย ทุกวันที่ยังไม่อาจบรรลุข้อตกลงหยุดยิง จะนำมาซึ่งโศกนาฏกรรมที่มากขึ้น...
สำนักงานปราบปรามการทุจริตเกาหลีใต้ ระงับปฏิบัติการควบคุมตัวประธานาธิบดียุน ซอก ยอล หลังจากเกิดการเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่สอบสวนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดีเป็นเวลานานหลายชั่วโมง
สำนักงานปราบปรามการทุจริตเกาหลีใต้ ระงับปฏิบัติการควบคุมตัวประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ซึ่งถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง เนื่องจากความพยายามใช้กฎอัยการศึกที่ล้มเหลว หลังจากเกิดการเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่สอบสวนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดีเป็นเวลานานหลายชั่วโมง
สำนักงานสอบสวนการทุจริตระดับสูง (CIO) กล่าวว่า ได้ระงับการดำเนินการตามหมายจับเมื่อเวลา 13.30 น. หรือประมาณ 5 ชั่วโมงหลังจากที่เจ้าหน้าที่สอบสวนเดินทางไปถึงบ้านพักประธานาธิบดีเพื่อควบคุมตัวนายยุน
CIO กล่าวในหนังสือแจ้งต่อสื่อมวลชนว่า "เราพิจารณาแล้วว่าการดำเนินการตามหมายจับนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากการเผชิญหน้ากันอย่างต่อเนื่อง จึงได้ระงับการดำเนินการดังกล่าวเนื่องจากกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ในสถานที่ซึ่งเกิดจากการต่อต้าน เราวางแผนที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปหลังจากการตรวจสอบ"
CIO กล่าวต่อว่า "เรารู้สึกเสียใจอย่างมากต่อพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยที่ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด" เจ้าหน้าที่จาก CIO เดินทางไปถึงประตูบ้านพักประธานาธิบดี เมื่อเวลาก่อน 07.00 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยยานพาหนะของ CIO ไม่สามารถเข้าไปในบริเวณบ้านพักประธานาธิบดีได้ เนื่องจากมีรถโดยสารปิดกั้นถนนทางเข้าอยู่ เจ้าหน้าที่ CIO ต้องเดินเท้าเข้าประตูที่เปิดอยู่เพื่อเข้าไปภายในพื้นที่ แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดี และทหารที่ถูกส่งมาอารักขา ในขณะที่นายปัก ชอง-จุน หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดี ไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าไปภายในบ้านพัก โดยอ้างว่าเป็นพื้นที่หวงห้ามและพื้นที่ความมั่นคง
ทั้งนี้ นายยุน กำลังถูกสอบสวนในความผิดฐานก่อการกบฎ หลังจากเขาประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม เขาถูกรัฐสภาลงมติถอดถอน ให้หยุดปฎิบัติหน้าที่และถูกออกหมายจับ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการออกหมายจับประธานาธิบดีที่ยังคงอยู่ในตำแหน่ง
ด้านนายยุน กัป-กึน หนึ่งในตัวแทนทางกฎหมายของยุน กล่าวกับสำนักข่าวยอนฮัปว่า การดำเนินการตามหมายจับที่ผิดกฎหมายและไม่ถูกต้องนั้นไม่ถูกต้องตามกฎหมาย "ขณะนี้กระบวนการคัดค้านหมายจับอยู่ระหว่างการพิจารณาที่ศาลรัฐธรรมนูญและศาล เราจะดำเนินการทางกฎหมายต่อสถานการณ์ที่ผิดกฎหมายของการดำเนินการตามหมายจับ"
ทีมทนายความของยุน ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้สั่งระงับการดำเนินการตามหมายจับ รวมถึงคัดค้านการดำเนินการตามหมายจับแยกต่างหากต่อศาลแขวงตะวันตกกรุงโซล.
ที่มา Yonhap
วันศุกร์ ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2568:ผู้เกี่ยวข้องอ้างว่า ทางการจีนจะขึ้นเงินเดือนข้าราชการหลายล้านคนทั่วประเทศในสัปดาห์นี้ หลังจากขึ้นเงินเดือนข้าราชการครั้งหลังสุดในปี 2558
รอยเตอร์รายงานอ้างผู้เกี่ยวข้องว่า การขึ้นเงินเดือนดังกล่าวจะเทียบเท่ากับการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจครั้งเดียว 12,000-20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 413,640-689,400 ล้านบาท) ข้าราชการทั้ง 48 ล้านคนได้รับการขึ้นเงินเดือนเฉลี่ยเดือนละ 500 หยวน (ราว 2,360 บาท) หากเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยจะได้ขึ้นเดือนละเกือบ 300 หยวน (ราว 1,415 บาท) ข้าราชการหลายรายจะได้รับการขึ้นเงินเดือนย้อนหลังไปถึงเดือนกรกฎาคม 2567 โดยจะได้รับในครั้งเดียว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเป็นแห่งแรกว่า จีนจะขึ้นเงินเดือนให้แก่ครูอาจารย์ ตำรวจ และข้าราชการทั่วประเทศ อย่างไรก็ดี รอยเตอร์ได้ตรวจสอบกับสำนักงานสารสนเทศสภาแห่งรัฐจีน ซึ่งเป็นโฆษกรัฐบาล แต่ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ ขณะที่ข้าราชการจีนเริ่มโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์เรื่องการขึ้นเงินเดือนตั้งแต่ช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันขึ้นปีใหม่
จีนประกาศขึ้นเงินเดือนข้าราชการครั้งหลังสุดในปี 2558 ครั้งนั้นขึ้นมากกว่าร้อยละ 30 หวังปราบปรามการทุจริตและเพิ่มอำนาจการใช้จ่ายของผู้บริโภค จำนวนผู้สมัครเข้ารับราชการในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่านับจากปี 2557 แม้ว่ารัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่งมีปัญหาทางการเงิน และเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา มีหนุ่มสาวชาวจีนสมัครสอบเป็นข้าราชการมากเป็นประวัติการณ์ถึง 3.4 ล้านคน เนื่องจากเป็นงานที่มีความมั่นคงในยามที่งานในภาคเอกชนมีแรงกดดันสูง
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012