สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปทรงเปิดนิทรรศการ สวัสดีปีแพะ 2558 ที่ร้านภูฟ้าผสมผสาน ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ซึ่งร้านภูฟ้าผสมผสานร่วมกับกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลองปีมิ่งมงคลในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ 2 เมษายน 2558
ในการนี้ทรงเปิดนิทรรศการ สวัสดีปีแพะ 2558 ทรงลงพระนามาภิไธยในภาพวาดฝีพระหัตถ์ซึ่งเป็นภาพแพะ จากนั้น พระราชทานหญ้าให้แพะจำนวน 2 ตัว รับสั่งด้วยว่า แพะน่ารัก ก่อนทอดพระเนตรนิทรรศการภายในร้าน
นอกจากนี้ทางร้านภูฟ้าเตรียมชุดสินค้าจากภาพฝีพระหัตถ์ มะแมแพะน่ารัก พร้อมลายพระหัตถ์พรพระราชทานสำหรับปีมะแมว่า ส.ค.ส. 2558 มะแมแพะน่ารัก ฟาร์มฉันมีแพะอยู่สองชนิด แบล็กเบงกอลดำสนิทตัวไม่ใหญ่ แพะจำนาปารีสูงกว่าใคร ต้องติดใจงามสง่าน่ารักจัง เหล่าพวกแพะปีมะแมนำแต่สุข ปีนี้ห่างภัยไกลทุกข์กว่าหนหลัง ทั้งแข็งแรงร่างกายมีพลัง ประดุจดังจิตหมายสบายเอย จัดทำเป็นชุดสินค้าพิเศษ อาทิ เสื้อ การ์ด สมุดบันทึก วางจำหน่าย
(14 พ.ย.) สำนักข่าวอิศราได้เปิดเผยข่าวอ้างว่า "พันเอก"อ้างคำสั่ง "นาย"ตบเท้าบีบ ThaiPBS ถอด "ณาตยา-รายการเสียงปชช." โดยเป็นรายงานจากแหล่งข่าวภายในสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ระบุว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย. มีนายทหารกลุ่มหนึ่ง จำนวน 4 - 5 คน นำโดยพันเอก ชื่อย่อ ส. เดินทางมาพบผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ฯ พร้อมอ้างว่าเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ขอร้องไม่ให้สถานี เผยแพร่รายการ เสียงประชาชนต้องฟังก่อนปฎิรูป อีกต่อไป ภายหลังจาก ไม่พอใจวิธีการตั้งคำถามของ น.ส.ณาตยา แวววีรคุปต์ ผู้ดำเนินรายการ ในขณะทำหน้าที่ดำเนินรายการตอนที่ชื่อ "ฟังเสียงคนใต้ก่อนการปฏิรูป" ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และมีการออกอากาศไปแล้วเมื่อ 8 พ.ย. ในหลายประเด็น และมีเนื้อหาการพาดพิงการรัฐประหารร่วมอยู่ด้วย ซึ่งนายสมชัย สุวรรณบรรณ ผอ.สถานโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้มีการรายงานข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการให้บอร์ดบริหารไทยพีบีเอสรับทราบไปแล้ว
แหล่งข่าวยังระบุว่า หลังจากที่นายทหารกลุ่มนี้เดินทางมาเข้าพบ ผู้บริหารไทยพีบีเอสได้ออกคำสั่งเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนำเสนอรายการในเวทีที่ จ.นครปฐม ซึ่งเป็นเวทีที่จัดต่อเนื่องจากเวทีหาดใหญ่ใหม่ ให้เหลือแค่การนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของข่าวแทน และไม่มีน.ส.ณาตยา เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย โดยจะนำเข้าในวาระการประชุมของคณะกรรมการนโยบายองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ในวันนี้ (14 พ.ย.) ซึ่งทางฝ่ายบริหารจะนำเสนอข้อมูลทั้งหมดให้ที่ประชุมรับทราบ
ด้านแหล่งข่าวจากไทยพีบีเอสอีกรายได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเอเอสทีวีผู้จัดการเพิ่มเติมว่า นายทหารในสังกัดนี้เคยเตือนทางสถานีโทรทัศน์ฯ ถึงการดำเนินรายการดังกล่าวมาแล้ว 1 ครั้ง โดยหลังจากเทปรายการที่ จ.สงขลา ออกอากาศก็ได้รับคำเตือนเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งต่อมาในการจัดรายการที่ จ.นครปฐม น.ส.ณาตยา ก็ไม่ได้เป็นพิธีกรดำเนินรายการ แต่ไปรับชมในฐานะคนในพื้นที่ และได้กล่าวแนะนำผู้ดำเนินรายการทั้ง 2 ก่อนที่จะลงจากเวทีไป แต่ก็กลับเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ถือเป็นการเตือนครั้งที่ 3 จนผู้บริหารต้องเรียกประชุมก่อนถกเถียงกันอย่างหนักทั้งฝ่ายที่เห็นว่าควรยอมลดบทบาทของ น.ส.ณาตยา เพื่อรักษาองค์กร กับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยที่จะให้ทหารมาข่มขู่ในเสรีภาพของสื่อมวลชน แต่สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปให้น.ส.ณาตยา พักการจัดรายการชั่วคราว
ขณะที่เว็บไซต์เฟซบุ๊กของ ณาตยา แวววีรคุปต์ ก็ได้มีผู้มาให้กำลังใจ น.ส.ณาตยา ซึ่งในนั้นก็มีกลุ่มขาหุ้นพลังงานอยู่ด้วย ทั้งนี้รายการดังกล่าวมีรูปแบบในการสะท้อนปัญหาสังคมภายในพื้นที่ โดยเจาะลึก พูดคุยกับตัวแทนชุมชนถึงปัญหาต่างๆ และแนวทางแก้ไข โดยมักจะไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด
โอบามาใช้คำสั่งฝ่ายบริหารรื้อฟื้นระบบคนเข้าเมืองภานใน 21 พ.ย. เผยโรบินฮู้ด 4.5 ล้านคนได้อยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วยการขยาย deferred action ให้กับพ่อแม่ของพลเมืองอเมริกันและผู้ถือใบเขียว เพื่มวีซ่านักวิชาชีพไฮเทคอีก 5 แสนใบ
สำนักข่าว Fox News รายงานข่าวเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดี บารัค โอบามา เตรียมประกาศคำสั่งฝ่ายบริหาร (executive action) รวม 10 จุดแก้ไขและปฏิรูปการเข้าเมืองโดยจะไม่มีการเนรเทศคนนับล้านออกนอกประเทศ คาดว่าจะประกาศวันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายนนี้ หรืออาจเลื่อนไป 2-3 วัน
แหล่งข่าวกล่าวว่าทำเนียบขาวระบุว่า ข้อเสนอนี้ได้ถูกส่งเป็นพิมพ์เขียว ไปให้สำนักงานรัฐบาลกลางทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยประธานาธิบดีโอบามาได้รับผลสรุปจากเจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงภายในก่อนเดินทางไปประชุมร่วมในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค ทั้งการประชุมสุดยอดกลุ่มเอเปกที่จีนและกลุ่มเอเชียนที่พม่า
ข้อเสนอ 10 ประการที่ฝ่ายบริหารจะดำเนินการ ประกอบด้วยการเพิ่มความมั่นคงทางชายแดนถึงการจ่ายเงินเพิ่มแก่เจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นทุกคนเพื่อบำรุงขวัญ
สำหรับข้อเสนอที่มีการถกเถียงกันมากที่สุดคือ เรื่องการเนรเทศผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายออกจากสหรัฐนับล้านๆ คน แต่กระนั้นก็ดีได้ข้อสรุปว่า จะมีการขยาย deferred action ออกไป ครั้งแรกอนุญาตให้เด็กที่เข้ามาอยู่สหรัฐอย่างผิดกฎหมายตั้งแต่เด็กๆ ได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อ แต่คราวนี้ขยายไปยังบิดามารดาของพลเมืองอเมริกันและผู้ถือใบเขียว
ทั้งนี้ข้อเสนอดังกล่าวมีการคำนวณว่า จะทำให้บุคคล 4.5 ล้านคนที่เรียกว่า illegal immigrant adults ที่มีลูกเกิดหรืออยู่ถูกกฎหมายได้รับสิทธิประโยชน์ทันที
เมื่อเดือนมิถุนายน 2012 รัฐบาลโอบามา สร้างโครงการ deferred action ขึ้นมาเพื่อให้บุคคลที่อยู่อย่างผิดกฎหมายตั้งแต่เด็กอยู่ในสหรัฐต่อไปได้โดยต้องเข้ามาสหรัฐก่อนมิถุนายน 2007 และอายุไม่เกิน 31 ปี ณ เดือนมิถุนายน 2012
ต่อมาเปลี่ยนแปลงโดยเพิ่มเป็นบุคคลผู้นั้นต้องเข้ามาอยู่อย่างผิดกฎหมายก่อนอายุ 16 ปี และเข้ามาอยู่ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2010 ทำให้คนเหล่านี้ประมาณ 300,000 คนมีสิทธิ์อยู่อย่างถูกต้อง
ฟ็อกซ์นิวส์รายงานว่า บุคคลที่เป็นผู้วางแผนดำเนินงานเรื่องนี้คือ Esther Olavarria จากกระทรวงความมั่นคงภายใน ซึ่งเคยเป็นทนายระดับสูงด้านนโยบายอิมมิเกรชั่น ให้กับอดีตวุฒิสมาชิกเท็ด เคนเนดี้ มาก่อน
การแก้ปัญหาระบบคนเข้าเมืองยังจะเพิ่มรายได้ให้กับเจ้าหน้าที่ Immigration and Customs Enforcement officers (ICE) เพื่อเพิ่มขวัญและกำลังใจ
พร้อมกันนี้ กระทรวงความมั่นคงภายในจะมีส่วนลดค่าธรรมเนียม 50% ให้กับ 10,000 คนแรก ที่ก้าวออกมาแปลงสัญชาติเป็นพลเมืองอเมริกัน โดยมีข้อยกเว้นว่าจะต้องไม่มีรายได้เหนือระดับความยากจน 200%
สำหรับบุคคลที่มีอาชีพด้านเทคโนโลยี (Tech Jobs) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ จะเสนอเพิ่มวีซ่านักวิชาชีพ อีกประมาณ 500,000 คนให้ได้วีซ่าประเภทนี้ รวมทั้งคู่สมรสด้วย
โครงการนี้ จะทบทวนคดีอาญาที่เรียกว่า Secure Communities แต่จะมีโครงการใหม่เข้ามาทดแทน
รายงานข่าวเปิดเผยว่า บรรดา ส.ส.พรรคเดโมแครตหลายคนสนับสนุนแนวคิดให้ประธานาธิบดีใช้คำสั่งของฝ่ายบริหารแก้ปัญหาคนเข้าเมืองเพราะสภาผู้แทนราษฎรที่กุมเสียงข้างมากโดยพรรครีพับลิกันไม่ยอมนำร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าพิจารณา แม้ว่าจะผ่านวุฒิสภามานานแล้วก็ตาม ทั้งนี้ในรายละเอียดจะต้องรอฟังการประกาศคำสั่ง ของฝ่ายบริหารไปในเร็วๆ นี้
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2557 ที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอแอนเจลิส กงสุลบรรณา วังวิวัฒน์ เชิญสื่อมวลชนไทยเข้าประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ของ DMV วาโรนิก้า มอนเตมาเยอร์ ประจำสาขา Thousand Oaks ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานให้กับ California Department of Motor Vehicles กว่า 30 ปี ได้นำเอาข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับกฎหมายและขั้นตอนการขอทำใบขับขี่ที่ออกมาใหม่ ภายใต้ AB60 (Assembly Bill) มาแจ้งให้ทราบ
ทั้งนี้เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กระทรวงความมั่นคงภายในสหรัฐยอมรับรูปแบบของใบขับขี่เป็นเหมือนกับใบขับขี่ปกติทุกอย่าง แต่จะมีคำว่า Federal Limits Apply กำกับอยู่บริเวณมุมบนด้านขวา หมายถึงไม่สามารถนำไปใช้กับหน่วยงานของรัฐบาลกลางได้ ขึ้นเครื่องบินไม่ได้ หรือเข้าไปในตึกของรัฐบาลกลางไม่ได้ ใช้เพื่อจุดประสงค์ในการขับรถในแคลิฟอร์เนียเท่านั้น
ส่วนใบขับขี่สำหรับเยาวชนจะมีลักษณะเป็นแนวตั้ง ซึ่งแตกต่างจากใบขับขี่ทั่วไปเพื่อง่ายต่อการสังเกต
ดีเอ็มวี ได้เตรียมรับมือหลายประการเพื่อตอบรับกับการทำใบขับขี่ครั้งนี้ ประกอบด้วย เพิ่มเจ้าหน้าที่จาก 500 คน อีก 405 คน รวมทั้งให้การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อทำความเข้าใจเรื่องการทำใบขับขี่พิเศษ โดยเชื่อว่าใน 3 ปีแรกจะมีคนไปยื่นขอทำมากถึง 1.4 ล้านใบ นอกจากนี้ดีเอ็มวียังได้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถใช้ถนนในแคลิฟอร์เนีย ประกอบด้วยตำรวจ เชอร์รีฟ เจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นให้ยอมรับใบขับขี่ประเภทนี้ตามกฎหมายเอบี 60 โดยให้ดูแลปฏิบัติกับผู้ถือใบขับขี่ประเภทพิเศษนี้เหมือนปกติโดยทั่วไป
กฎหมายเอบี 60 อนุญาตให้ทุกคนในแคลิฟอร์เนียสามารถยื่นขอทำใบขับขี่ได้โดยไม่ต้องมีเอกสารของรัฐบาลกลางที่จะต้องแสดงตัวว่าอยู่ในประเทศนี้อย่างถูกต้อง ถือว่าเป็นสิ่งดี เพราะทุกคนต้องการขับรถปลอดภัย มีความรู้เรื่องกฎจราจร และมีประกันอุบัติเหตุ ใบขับขี่ตามกฎหมาย เอบี 60 ใช้ได้สำหรับผู้ขับเฉพาะ Class C (ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป) และใบขับขี่ Class M สำหรับรถมอเตอร์ไซค์เท่านั้น ยังไม่มีการออกใบขับขี่ประเภทธุรกิจ และไม่มีการออก ID Card ให้
นางวาโรนิก้า เปิดเผยว่าขั้นตอนการขอทำใบขับขี่ประเภทนี้เหมือนกับการขอทำใบขับขี่ปกติทั่วไป โดยจ่ายค่าธรรมเนียม 33 ดอลลาร์ ต้องผ่านการตรวจสายตา ต้องสอบทั้งข้อเขียนและปฏิบัติ
สำหรับเอกสารสำคัญ 2 ประเภทที่จะต้องนำไปประกอบหลักฐานแสดงต่อเจ้าหน้าที่ดีเอ็มวีคือ 1.เอกสารแสดงยืนยันการพักอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และ 2. เอกสารที่แสดงยืนยันตน ชื่อ นามสกุล และวันเดือนปีเกิด
ในวันที่ 1 มกราคม DMV จะเปิดทำการรับทำใบขับขี่โดยให้ผู้ต้องการทำเดินเข้าไปทำได้ใน 4 สำนักงานคือ ที่ เมือง San Jose, Lompoc, Stockton และ Granada Hills โดยสามารถทำการนัดหมายดีเอ็มวีที่ใกล้บ้านท่านได้จากเว็ปไซต์ www.dmv.ca.gov หรือที่หมายเลข 800-77-0133
นางวาโรนิก้า กล่าวย้ำว่าผู้ที่ต้องการสอบควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อน เพราะหากสอบครั้งแรกไม่ผ่าน การนัดหมายสอบครั้งที่สองหรือสาม อาจจะใช้เวลานานมาก ซึ่งสำหรับคนไทยสามารถเลือกข้อสอบที่เป็นภาษาไทยได้ด้วย
นอกจากนี้ผู้ที่ต้องการทำใบขับขี่ จะต้องเคลียร์เรื่องต่างๆ ให้เรียบร้อยเสียก่อนเช่น เช่น ใบสั่งปรับ การขึ้นศาล เมาแล้วขับก็ต้องไปอบรม และเสียค่าปรับให้เรียบร้อย หากต้องการทราบว่าประวัติของท่านเคลียร์หรือไม่ ให้ไปที่ดีเอ็มวีแล้วขอ Driving Record จะเสียค่าธรรมเนียม 5 ดอลลาร์ ใบขับขี่ตามกฎหมาย เอบี 60 จะใช้ได้เฉพาะในรัฐแคลิฟอร์เนียเท่านั้น แต่ในอนาคตอาจมีการพิจารณาหารือกันระหว่างรัฐ เช่น วอชิงตัน โอเรกอน เนวาด้า ยูทาร์ โคโลราโด้ มินิโซต้า เป็นต้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความให้คนในชาติ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2557 ถึงการเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC) ครั้งที่ 22 ตอนหนึ่งว่า ผมได้พูดคุยกับผู้นำหลายประเทศในลักษณะทวิภาคี ประเด็นสำคัญๆ เป็นเรื่องของปัญหาการอุดหนุนราคาหรือการ Subsidize สินค้าทางการเกษตร ราคาน้ำมัน ราคาเชื้อเพลิง ทุกประเทศ โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคนี้มีปัญหาเดียวกันหมด ต้องร่วมมือกับเอกชนแก้ไขปัญหา อีกทั้งเรื่องของการจัดระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน เรื่องของคนที่เข้ามารับราชการใหม่ และชี้แจงเรื่องการแก้ปัญหาภาคใต้
ระหว่างงานเลี้ยง มีการต้อนรับอย่างอบอุ่น ผู้นำทั้ง 21 ประเทศได้พบทักทายจับไม้จับมือกัน ผมมีโอกาสได้พบท่านประธานาธิบดีโอบามา ซึ่งท่านได้แสดงความห่วงใย ผมก็ขอบคุณและยืนยันกับท่านว่ารัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด ได้พบกับท่านประธานาธิบดีปูติน ท่านถามว่า ประเทศไทยเป็นอย่างไร เรียบร้อยหรือยัง ผมตอบว่าเรียบร้อยดี ขอเวลาเราหน่อย ท่านก็เข้าใจ ทุกประเทศทักทายจับมือกันหมด ทุกคนให้เกียรติซึ่งกันและกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ไม่ได้พูดถึงเรื่องความขัดแย้ง ผมบอกทุกประเทศว่า สำหรับวันนี้ประเทศไทยสงบสุขพอสมควรแล้ว ประชาชนมีความสุข ปลอดภัย และการท่องเที่ยวดีขึ้น รัฐบาลไทยขอเชิญทุกประเทศให้มาเยือนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูการท่องเที่ยวนี้ ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นบอกว่าจะยกเลิกคำเตือนนักท่องเที่ยวที่มีอยู่
การหารือเป็นคณะใหญ่ ทั้งหมด 21 คณะ เป็นการพูดคุยในเรื่องของการพัฒนา อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความมั่นคงด้านพลังงาน ด้านอาหาร และการสร้างความเชื่อมโยงระบบสาธารณูปโภค ให้เชื่อมต่อกับเศรษฐกิจ และเรื่องของข้อตกลงเขตการค้าเสรี (Free Trade Agreement : FTA) สำหรับท่านที่กังวลว่าประเทศไทยอาจเสียผลประโยชน์ในการข้อตกลงต่างๆ
ผมขอยืนยันน่ะครับถึงประเทศเราเป็นประเทศเล็กแต่เรามีศักดิ์ศรีข้อตกลงทั้งหมด ต้องตั้งอยู่บนความไว้วางใจซึ่งกันและกันลดความหวาดระแวงมีผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกันทุกครั้งที่ผมและคณะไปเยือนต่างประเทศเรานำเกียรติยศของคนไทยไปด้วย ไม่อยากให้เหมือนที่ผ่านมาที่ตกลงกันหลายครั้งแล้ว ทำไม่ได้ ทุกประเทศ พร้อมที่จะลงทุนกับไทย ประโยชน์ที่ได้รับคือความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ผมยืนยันว่าจะต้องไม่มีการทุจริตในทุกโครงการ และจะต้องเกิดขึ้น รัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนได้มารับรู้ รับทราบพร้อมกัน ไม่มีนอกมีในทั้งสิ้น ยืนยันครับ