ข่าว
“เฉลิม”ปัดแนวคิดมหานครรัฐปัตตานี

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 13มี.ค. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช. ระบุบทสรุปสุดท้ายในการแก้ปัญหาภาคใต้คือการตั้งมหานครรัฐปัตตานี ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ว่า ตนได้สอบถามเลขาธิการ สมช.แล้ว ยืนยันว่าไม่ได้พูดอย่างนั้น เป็นการแปลความผิดของพรรคประชาธิปัตย์ เลอะเทอะ ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันเลย แล้วใครจะมาเรียกร้อง การลงนามกับนายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นวันก่อน ก็ไม่ได้เขียนข้อเสนอนี้ มีแค่กระดาษเปล่า ยืนยันได้ว่ารัฐบาลไม่มีแนวคิดเรื่องดังกล่าวแน่นอน

เมื่อถามว่ารัฐบาลได้ให้นโยบายกับคณะกรรมการที่จะไปเจรจากับแกนนำกลุ่มต่าง ๆ อย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ให้เจรจาอย่างไรก็ได้ให้สงบเรียบร้อย ยืนยันไม่ใช้ความรุนแรง และจะแบ่งแยกดินแดนไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะรัฐไทยเป็นรัฐเดียว ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ตอนนี้พวกเพ้อฝันอิจฉา เพราะเรามาถูกทางแล้ว ทั่วโลกชื่นชมการแก้ปัญหาของนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่าถ้าไม่ตั้งมหานครรัฐปัตตานี บทสรุปสุดท้ายของการเจรจาควรจะออกมาในแนวทางใด ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เรื่องคดีความก็ต้องมาว่ากัน โดยใช้มาตรา 21 ส่วนหมายจับตาม ป.วิอาญา ก็ต้องดูเป็นกรณีไป เมื่อเขาต้องการให้ยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ ก็ต้องทำให้เห็นว่าสถานการณ์รุนแรงน้อยลง และเมื่อพูดคุยก็จะให้เข้าใจกันดีขึ้น ตอนนี้กำลังมาได้ดีแล้ว อย่าไปพูดเรื่องมหานครรัฐปัตตานี มหานครยะลา หรือมหานครนราธิวาสเลย มันเป็นไปไม่ได้ เพราะรัฐไทยเป็นรัฐเดียว

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปพูดคุยนายฮัสซัน ตอยิบ จนนำมาสู่เงื่อนไขการตั้งมหานครรัฐปัตตานี ร.ต.อ.เฉลิม ย้อนถามว่า ใครบอก พ.ต.ท.ทักษิณ รักบ้านรักเมือง จึงได้ไปประสานกับนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียให้ช่วยเรื่องนี้ เพราะท่านเป็นตำรวจเก่า รู้ดีว่าถ้ามาเลเซียไม่ให้ที่พักพิง ไม่สนับสนุน การแก้ปัญหาก็ทำได้ง่าย ท่านทักษิณ เป็นนักเรียนเตรียมทหาร นายร้อยสามพรานที่ 1 ชีวิตโตมาจากราชการ จะมีใครไปคิดอย่างนี้

เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าแนวคิดการตั้งมหานครรัฐปัตตานีพับไปได้เลยใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มีใครคิด ยืนยันว่าไม่มี.

พระเทพฯ′ ทรงโน้มพระวรกาย พระราชทานปริญญาให้สาวพิการ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร ทรงโน้มพระองค์พระราชทานปริญญาบัตรแก่ น.ส.อภิรดี โปร่งใจ บัณฑิตสาวมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่พิการนั่งวีลแชร์ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม เป็นภาพที่สร้างความตื้นตันใจให้ผู้พบเห็น และมีผู้นำไปโพสต์ทางอินเตอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีคนเผยแพร่คลิปวิดีโอหัวข้อ "ดูแล้วน้ำตาไหล ทรงพระเจริญ" เผยแพร่ลงในเว็บไซต์ยูทูบและโซเชียลมีเดีย ความยาว 27 วินาที เป็นคลิปวิดีโอ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง รุ่นที่ 38 ประจำปี 2556 เป็นช่วงที่พระราชทานปริญญาบัตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาจิตวิทยา แก่ น.ส.อภิรดี โปร่งใจ หรือ "น้องน้อย" นักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ ที่นั่งรถวีลแชร์ มีอาการสมองพิการ กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีอุปสรรคต่อการเดินและการเคลื่อนไหวของมือ เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา โดยทรงโน้มพระองค์เพื่อพระราชทานปริญญาบัตรให้ น.ส.อภิรดี ไม่ถือพระองค์ สร้างความตื้นตันให้กับผู้ร่วมงานพระราชทานปริญญาบัตรอย่างยิ่ง

ทั้งนี้นายเชิดพงษ์ แก้วรักษ์ เป็นผู้โพสต์คลิปดังกล่าวเผยแพร่ทางยูทูบ และมีผู้คนเข้ามาชมคลิปนี้กันหลายหมื่นวิว

“สุกำพล”มองแง่ดี“ทักษิณ”สไกป์เร่งนิรโทษกรรม

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 13 มี.ค. ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.5) พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือเกี่ยวกับพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อละเว้นผู้กระทำความผิดทางการเมืองว่า ถือเป็นเวทีที่ดี เมื่อเปิดเวทีให้ใช้แล้วใครที่มีโอกาสก็ควรใช้ เมื่อเชิญแล้วก็ควรจะไป ส่วนจะสำเร็จหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขอให้ชกบนเวที อย่าชกข้างเวที ถ้าไม่เห็นด้วยต้องไปคุยกันบนเวที ไม่ใช่ไม่พอใจ ไม่ถูกใจตัวเองแล้วไม่ไป ซึ่งทุกฝ่ายต้องได้รับความเป็นธรรม เพราะมีกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว ส่วนทหารที่ได้รับความสูญเสียตนดูแลอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ควรได้รับการนิรโทษกรรมด้วยนั้น เป็นเรื่องที่คณะทำงานที่เกี่ยวข้องต้องคุยกัน ซึ่งต้องฟังมติส่วนรวมอยู่แล้ว ตนเป็นคนข้างนอก ไม่อยากให้ความคิดเห็นมาก ถ้าออกมาอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ทั้งนี้อย่ามองว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณ สไกป์มาจะทำให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้น ขอให้มองในเรื่องดีๆบ้าง เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนๆหนึ่งที่มีสิทธิออกความคิดเห็น ลองไม่เสนอข่าวบ้างก็จบ ไม่มีอะไรมาก

เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สไกป์ว่า ให้รัฐบาลเดินหน้าพ.ร.บ.นิรโทษกรรม และอย่าอ่อนข้อให้กองทัพ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า คิดว่าท่านไม่ได้พูดอย่างนั้น ขอให้ไปถามท่าน ถามตน ตนไม่รู้ แต่คิดว่า จะไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง และมีผู้ออกมาชุมนุม สื่ออย่าไปกลัวและอย่าไปคิด ส่วนที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่า มีกลุ่มคนออกมาต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมในช่วงเดือนเม.ย.นี้นั้น ต้องไปถามนายณัฐวุฒิ ตนคงตอบไม่ได้ว่าจะชุมนุมหรือไม่ ตนคิดในแง่ดีเสมอว่า การปรองดองต้องไปด้วยกัน สื่ออย่าถามคนนั้นหรือคนนี้ว่ามีความเห็นอย่างไร มันไม่ดี อย่างนี้ถือว่าเสี้ยม ถ้าอยากให้ประเทศชาติเดินไปด้วยดีต้องทำให้ดี

เมื่อถามว่าแสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ไว้ใจกองทัพ พล.อ.อ.สุกำพล ย้อนถามว่า รู้ได้อย่างไร อยากให้ช่วยแปลให้ดี อย่าแปลให้ประเทศไทยแตกแยก ทำอย่างนี้ไม่ไหว ถ้าเราจะเดินทางไปสู่การปรองดองต้องไปด้วยกัน ใครเห็นแตกแยกอย่างไร ต้องคุยกันในเวที อย่าไปจับตรงนี้แล้วมาพูด คนโน้นด่าคนนี้ คนนี้ด่าคนโน้นก็ไม่จบ แล้วจะปรองดองได้อย่างไร.