ข่าว
บึมสนั่นคอนเสิร์ต ‘แมนเชสเตอร์ อารีนา’ ดับ 19 เจ็บ 50

สำนักงานตำรวจเมืองแมนเชสเตอร์ออกแถลงการณ์ระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 22:35 น. วันจันทร์ที่ 22 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น (ราว 4:35 น. วันอังคาร ตามเวลาไทย) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่สนามกีฬา ‘แมนเชสเตอร์ อารีนา’ ขณะกำลังมีการจัดงานคอนเสิร์ตของ ‘อาเรียนา แกรนเด’ นักร้องสาวชื่อดังชาวอเมริกัน โดยจนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้ว 19 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 50 คน และตำรวจจะถือว่านี่เป็นคดีการก่อการร้ายจนกว่าจะได้ข้อมูลเป็นอย่างอื่น ขณะเดียวกัน มีรายงานด้วยว่า พบวัตถุต้องสงสัยอาจเป็นระเบิดอีกลูกหนึ่งที่สวนสาธารณะ คาธีดรัล การ์เดนส์ ซึ่งอยู่ห่างจากแมนเชสเตอร์ อารีนา ไม่ถึง 300 ม. ซึ่งในเวลาต่อมา สำนักงานตำรวจเมืองแมนเชสเตอร์ ทวีตข้อความบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ยืนยันว่า อีกไม่นานพวกเขาจะทำการกู้ระเบิดที่คาธีดรัล การ์เดนส์ ด้วยวิธีระเบิดแบบควบคุมความเสียหาย ประชาชนไม่ต้องตกใจหากได้ยินเสียงอะไร อย่างไรก็ดีหลังจากระเบิดแล้ว ตำรวจก็ออกมายืนยันว่า วัตถุต้องสงสัยที่พบเป็นเพียงเสื้อผ้าที่ถูกนำมาทิ้งไว้เท่านั้น ไม่ใช่ระเบิด ทั้งนี้ ข่าวระบุว่า เสียงระเบิดดังขึ้นหลังจากอาเรียนา แกรนเด ร้องเพลงสุดท้ายจบ โดยนักร้องสาวไม่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ขณะที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเสียงระเบิดเกิดจากอะไร แต่เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ที่ปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บระบุว่า พวกเขามีบาดแผลคล้ายเกิดจากสะเก็ดระเบิดหรือกระสุน

คุณใหม่ สิริกิติยา บรรจุเป็นข้าราชการสำนักสถาปัตย์ฯ กรมศิลปากร ซี 3

คุณสิริกิติยา เจนเซน พระธิดาคนเล็กในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้รับบรรจุเป็นข้าราชการระดับ 3 กลุ่มงานวิชาการการอนุรักษ์ สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากรเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมาหลังจากที่มีการฝึกงานที่หน่วยงานดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2559 โดยที่ผ่านมาปรากฏภาพคุณสิริกิติยา ตรวจเยี่ยมโบราณสถานต่างๆ มาเป็นระยะๆ แหล่งข่าวจากกรมศิลปากร เปิดเผยว่าข้าราชการต่างปลื้มปิติยินดีที่คุณสิริกิติยา สนใจงานกรมศิลปากร ถือเป็นมิติใหม่ที่บุคคลสำคัญในพระบรมวงศานุวงศ์ให้ความสนใจถึงกับมาบรรจุที่กรมศิลปากร เชื่อว่าจากนี้งานกรมศิลปากรจะถูกจับตามองจากสังคม และจะทำให้ข้าราชการทำงานกันอย่างขันแข็งและกระตือรือร้นมากขึ้น ทั้งนี้ล่าสุดคุณสิริกิติยา ได้ตอบรับที่เป็นกรรมการดูแลงานเกี่ยวกับมรดกโลก


เนติวิทย์ ถามกลับ”ใครคือความอับอายของชาติ”

กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวตอนหนึ่งระหว่างปาฐกถาพิเศษเรื่อง “บทบาทมหาวิทยาลัยไทย ต่อไทยแลนด์ 4.0” ถึงกรณีที่นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นักกิจกรรม นักเคลื่อนไหว ได้รับเลือกเป็นประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงมีสำนักบางสำนักเสนอข่าวแนวคิดของเนติวิทย์เรื่องการพยายามยกเลิกพิธีหมอบกราบว่า เป็นเรื่องน่าเสียดาย และทำให้เสียชื่อสถาบันการศึกษา นั้น ล่าสุด นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ได้โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊กตอบโต้ กรณีดังกล่าวระบุว่า “ใครคือความอับอายของชาติ เมื่อผ่านการศึกษา ผ่านการอบรมมาแล้ว ฝึกวินัยมาแล้ว น่าจะรู้จักเคารพกติกาของบ้านเมือง ถ้าอยากเล่นการเมืองก็มาตั้งพรรคการเมืองสิ แต่ตัวเองกลับเล่นนอกกติกา ทำรัฐประหาร ยึดอำนาจ เท่านั้นยังไม่พอ ยังริดสอนสิทธิคนอื่นอย่างต่อเนื่อง สำหรับผมและคนรุ่นใหม่อีกหลายๆคน ท่านนายกรัฐมนตรีได้ ทำลายชื่อเสียงของประเทศไทยมาเกือบจะ 3 ปีแล้ว” ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความกล่าวถึงกรณีดังกล่าว โดยตอบโต้พล.อ.ประยุทธ์ สั้นๆว่า “ผมจบจุฬา… ไม่เห็นเสียชื่อ คนไม่ได้เรียนจุฬาฯ ยุ่งอะไรด้วย…”


นุสบา โต้ เนติวิทย์ ไม่เคยเห็นใครลบหลู่แล้วมีจุดจบที่ดี

ในขณะที่การเมืองภายใน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำลังร้อนฉ่า กรณี นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เพิ่งได้รับเลือกเป็นประธานสภานิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเสนอให้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ การถวายบังคมพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 และถูกวิพากวิจารณ์อย่างหนักในเวลานี้นั้น ล่าสุด ดาราสาวสวย ดีกรี เกียรตินิยมอันดับ 2 คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นุสบา ปุณณกันต์ ภรรยาของนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความใน ไอจีส่วนตัว nusbapunnakanta เกี่ยวกับเรื่องนี้ “ที่พระบรมรูป 2 รัชกาลแห่งนี้ ฉันมักไปหมอบกราบสักการะอยู่เป็นประจำ ตั้งแต่ก่อนสอบเข้าจุฬาฯ จนถึงปัจจุบัน ทุกวันเวลาแวะเวียนไปจะนำกุหลาบสีชมพู ธูปเทียนไปเอง และทุกครั้งไม่ว่าแดดจะร้อนเปรี้ยงสักเพียงไหน เมื่อเริ่มหมอบกราบ จะรู้สึกว่ามีเมฆก้อนใหญ่ทำให้เกิดร่มเงา ลมเย็นใบไม้ปลิว ผู้ศรัทธาเท่านั้นที่จะรับรู้ได้เอง เชื่อหรือไม่แต่ไม่ควรลบหลู่ ไม่เคยเห็นชีวิตของใครผู้ลบหลู่แล้วมีจุดจบที่ดี”

องอาจ เชื่อบิ๊กตู่ยังเดินตามโรดแมป ชี้หากจำเป็นเลื่อนเลือกตั้งต้องอธิบายให้ชัด

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ระบุว่า หากสถานการณ์ยังไม่สงบก็เลือกตั้งไม่ได้ ว่า คิดว่าถึงแม้จะมีระเบิดที่รพ.พระมงกุฎแกล้า ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดเหตุการณ์หนึ่ง รัฐบาลและคสช.ก็ควรเดินหน้าประเทศไทยให้เป็นไปตามโรดแมปที่ถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ เพราะการเดินหน้าไปตามโรดแม็ปจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นจากสังคมให้กลับคืนมาได้ ทั้งกับคนไทยในประเทศและกับนานาชาติได้ด้วย เพราะถ้าเราไปเปลี่ยนแปลงโรดแม็ปก็จะทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นประชาชนจะยิ่งมีความรู้สึกว่าไม่มีความมั่นคงในประเทศเพิ่มขึ้น อย่างน้อยที่สุดทำให้ผู้คนในสังคมมีความรู้สึกว่าประเทศเดินต่อไปได้ โดยไม่มีเหตุการณ์ระเบิดมาทำให้ประเทศต้องสะดุดหยุดลง

เมื่อถามว่า สิ่งที่นายกฯพูดอาจทำให้ถูกมองว่า ต้องการอยู่ต่อได้ นายองอาจ กล่าวว่า ดูจากสิ่งที่นายกฯพูดมาตลอด แม้กระทั้งสิ่งที่พูดล่าสุด ตนคิดว่านายกฯไม่ประสงค์จะเลื่อนเวลาออกไปจากโรดแมป เพราะนับจากนี้ไปจนกระทั้งถึงโรดแมป รัฐบาลยังมีเวลาอีก ปีครึ่ง หรือ2 ปีในการทำงาน ซึ่งมีเวลามากพอในการทำอะไรให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศโดยไม่ไม่จำเป็นต้องเลื่อนเวลาออกไปเพราะมีอำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่ ดังนั้นนายกฯควรเดินไปตามโรดแมปน่าจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนร่วมมากว่า

เมื่อถามว่าถาม พรรคฯกังวลหรือไม่ว่าอาจจะมีการเลื่อนเลือกตั้งออกไป นายองอาจ กล่าวว่า ไม่ได้กังวล ว่าจะเลื่อนเลือกตั้งหรือไม่เลื่อนเลือกตั้ง เพราะเราดูตามความเป็นจริงและดูตามเหตุผล ถ้ามีเหตุผลเพียงพอที่จำเป็นและรับฟังได้ เราก็รับฟัง ซึ่งรัฐบาลและคสช.ก็ต้องอธิบายให้สังคมเข้าใจว่าจำเป็นต้องเลื่อนเลือกตั้งออกไปเพราะอะไร และถ้าจะไม่เป็นไปตามโรดแมปเพราะอะไร แต่ถ้ามีเหตุผลไม่เพียงพอ รัฐบาลและคสช.ก็จะเหนื่อยในการทำงานต่อไป


“ยิ่งลักษณ์” เที่ยวงาน OTOP Midyear 2017 แม่ค้าบ่นคิดถึงเข้าสวมกอด

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเยี่ยมชมงาน OTOP Midyear 2017 จัดขึ้นที่ชาเลนท์เจอร์ 1-3 อิมแพ็คเมืองทองธานี ซึ่งเป็นการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์จากทั่วประเทศ มีทั้งอาหาร เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มท้องถิ่น หัตถกรรม ประติมากรรม งานแกะสลัก งานศิลป์ ต่างๆ ยาสมุนไพรพื้นบ้าน เครื่องประดับจิวเวอรี่ เเละ อื่นๆ อีกมากมาย

ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินซื้อของเกือบทุกภาคที่นำมาจัดจำหน่าย อาทิ ผ้าจกไทยวน ผ้าไหม เครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ในกล่องสำหรับขึ้นเครื่อง ชุดเครื่องเงิน ผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ ข้าวแต๋น ขนมไทย อาหารเพื่อสุขภาพ ผลไม้ประจำฤดูกาล อาหารเด่นของแต่ละภาคเช่นปลากุเลาเค็มภาคใต้ ชมวิธีการชงชาและชิมชา ฯลฯ โดยมีประชาชน พ่อค้าแม่ค้าต่างเข้ามาขอถ่ายรูปพร้อมสวมกอดและบ่นคิดถึงให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งบางคนถึงกับน้ำตาคลอ ในขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ให้กำลังใจกลุ่มผู้ค้าจังหวัดต่างๆด้วย


กต.เตือนคนไทยต่างแดนระวังตัวมากขึ้น หลังเหตุบึมที่ 'แมนเชสเตอร์'

เมื่อวันที่ 23 พ.ค.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงเหตุระเบิดในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศยังไม่ได้รับรายงานเข้ามา แต่ได้รับรู้จากข้อมูลข่าวสาร สิ่งที่กังวลคือพื้นที่เกิดเหตุมีคนไทยได้รับผลกระทบหรือไม่ หากพบว่ามีกระทรวงจะรีบดูแลช่วยเหลือทันที ซึ่งหลังจากนี้ต้องมีการแจ้งเตือนคนไทยในประเทศต่างๆ ให้ระมัดระวังตัว โดยเฉพาะการอยู่ในพื้นที่คนพลุกพล่าน เพราะเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ส่วนเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น นายดอน กล่าวยอมรับว่า มีผลต่อภาพลักษณ์ประเทศ แต่สิ่งที่กังวลคือความปลอดภัยของประชาชน และโรงพยาบาลเป็นสถานที่ที่ไม่ควรก่อเหตุ เพราะมีผู้ป่วยพักรักษาตัวอยู่ จึงไม่ควรมีเรื่องร้ายซ้ำอีก ดังนั้นการก่อเหตุในโรงพยาบาลถือว่าผิดหลักมนุษยธรรมอย่างมาก ปกติไม่มีใครเขาทำกัน "เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่มีใครอยากให้เกิด เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะต้องดูแลป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ และจะดียิ่งขึ้นเมื่อได้ตัวผู้กระทำผิดมาสอบสวนเชิงลึกหาตัวผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดให้ความสนใจและแสดงความเสียใจกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นพิเศษ เพราะถือว่าเป็นเพียงข่าวข่าวหนึ่งเท่านั้น เรายังสามารถให้ความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวได้อยู่ แต่ทุกคนต้องช่วยกันเฝ้าติดตามเป็นหูเป็นตาแทนเจ้าหน้าที่ด้วย" นายดอน กล่าว

‘ทรัมป์’ เริ่มต้นได้สวย ขายอาวุธให้ซาอุฯ ได้ถึง 4 ล้านล้านบาท

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ทางการสหรัฐอเมริกาประกาศความตกลงขายอาวุธและบริการทางทหารล็อตใหญ่ให้กับซาอุดีอาระเบีย รวมมูลค่าสูงถึง 110,000 ล้านดอลลาร์หรือราว 4 ล้านล้านบาท ในการเริ่มต้นการเยือนตะวันออกกลางและยุโรป ซึ่งเป็นการเดินทางไปยังต่างประเทศเป็นครั้งแรกของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ท่ามกลางเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่เกี่ยวกับการเมืองภายในของประเทศ นอกเหนือจากนั้นบริษัทธุรกิจของซาอุดีอาระเบียยังตกลงที่จะลงทุนในหลายโครงการในสหรัฐอเมริกาเป็นมูลค่ากว่า 200,000 ล้านดอลลาร์อีกด้วย ทรัมป์ กล่าวแสดงความชื่นชมต่อความตกลงดังกล่าวและความตกลงทางธุรกิจซึ่งบรรลุผลระหว่างการพบหารือหลายรอบกับตัวแทนทางการซาอุดีอาระเบียเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ซึ่งนายอาเดล อัล จูเบียร์ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบียระบุว่ามีมูลค่ากว่า 380,000 ล้านดอลลาร์ว่า เป็นวันที่มหัศจรรย์มากสำหรับการลงทุนในสหรัฐอเมริกา นอกจากจะมีเงินมาลงทุนหลายแสนล้านดอลลาร์แล้วสามารถก่อให้เกิดการจ้างงานอีกมหาศาล ในขณะที่นายฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีอ้างว่าความตกลงด้านอาวุธครั้งนี้เป็นความตกลงการค้าอาวุธครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ