ข่าว
ประชาชนร่วมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์

เฟซบุ๊ก บีบีซีไทย รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.ของวันที่ 27 เมษายน มีกลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการควบคุมตัวประชาชนในวันนี้ ซึ่งทางการระบุว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ได้ไปรวมตัวกันที่ประตูท่าแพ เชียงใหม่ เพื่อแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ ท่ามกลางการสังเกตการณ์ของเจ้าหน้าที่ทหารกลุ่มหนึ่ง ซึ่งได้ถ่ายรูปผู้ที่ไปร่วมแสดงกิจกรรม ที่ได้สลายตัวอย่างรวดเร็ว

อีกด้านหนึ่ง นักศึกษาและผู้เข้าร่วมเสวนา “ไม่ได้พูด หรือ พูดไม่ได้ : เสรีภาพในการแสดงความคิดในมิติที่หลากหลาย” ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้ยืนไว้อาลัยให้กับเสรีภาพที่หายไป ในกรณีมีนักเขียนถูกจับที่ขอนแก่นและกรุงเทพฯ เมื่อเช้าวันที่ 27 เมษายน

“ชวน” นำทีมปชป. ฟังสวดพระอภิธรรม “บรรหาร” คืนที่ 5

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 27 เมษายน ที่ศาลากลางน้ำ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ผู้สื่อข่าวรายงานจากว่า บรรยากาศพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมศพ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี คืนที่ 5 ได้มีบรรดาบุคคลสำคัญ ทั้งนักการเมือง นักธุรกิจ ข้าราชการ เดินทางมาร่วมเคารพศพอย่างคับคั่ง อาทิ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี นายมารุต บุนนาค อดีตประธานรัฐสภา และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายเกียรติ สิทธีอมร นายจุติ ไกรฤกษ์ นายนริศ ขำนุรักษ์ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู นายชินวรณ์ บุญเกียรติ และอดีตลูกพรรคชาติไทย อาทิ นายสุรสิทธิ์ นิติวุฒิวรลักษณ์ นายวิรัตน์ รัตนเศรษฐ นายนพดล พลเสน นายอนุรักษ์ จุรีมาศ นายพีระเดช ศิริวันสาณฑ์ นายเชวงศักดิ์ เร่งไพบูลย์วงศ์ ร่วมไปถึง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา ด้วย

นอกจากนี้ยังมี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) นายประสพสุข บุญเดช อดีตประธานวุฒิสภา นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร นายบุญพันธ์ แขวัฒนะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายกันตธีร์ ศุภมงคล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมพิธีด้วย


ต้านไม่ไหว! นิตยสาร ‘อิมเมจ’ ปิดตัว เลิกจ้างพนักงาน เหตุขาดทุนเดือนละหลายล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ 27 เมษายน ได้มีกระแสข่าวแพร่สะพัดว่าผู้บริหารของ ‘อิมเมจ (IMAGE)’ นิตยสารชื่อดังของเมืองไทย ได้มีการแจ้งต่อพนักงานในกองบรรณาธิการว่าจะนิตยสารจะหยุดดำเนินการชั่วคราว จึงได้สอบถามเรื่องดังกล่าวไปยังโจ – วิโรจน์ วชิรเดชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ทรีแดนซ์ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ถือหุ้นบริษัท อิมเมจ พับลิชชิ่ง จำกัด ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง

โดยโจ วิโรจน์ กล่าวว่า วันนี้บริษัทประกาศปิดนิตยสารให้พนักงานทั้งหมดประมาณ 30 คนได้รับทราบ เนื่องจากจะมีการเลิกจ้างพนักงานเกือบทั้งหมด และก็ได้จ่ายเงินให้พยักงานตามกฎหมายแรงงานทุกบาททุกสตางค์ ซึ่งสาเหตุที่อิมเมจต้องปิดตัวลงนั้นเป็นเพราะสื่อสิ่งพิมพ์อยู่ในขาลง โดยตอนแรกที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากทางจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เมื่อเดือนมิถุนายน 2558 แม้จะเข้าใจว่าธุรกิจสิ่งพิมพ์คงจะขาดทุนตามกระแสโลกในตอนนี้ แต่ก็คิดว่าน่าจะขาดทุนน้อยลง ทว่าในความเป็นจริงกลับขาดทุนมากขึ้นเรื่อยๆ เดือนละหลายล้านบาท โดยไม่สามารถแก้ไขอะไรได้

“เราได้ประชุมผู้ถือหุ้น ว่าเราควรเดินต่อไหม หรือหยุดได้บทสรุปว่ายังไงอิมเมจก็ขาดทุนหนักก็เลยหยุด แต่ตัวบริษัท หัวหนังสือยังเป็นของบริษัทอยู่ บางทีวันดีคืนดี ถ้าสิ่งพิมพ์กลับมาอาจเอามาพิมพ์ใหม่ก็ได้ ซึ่งเราคุยมานานเหมือนกัน เพิ่งมาไฟนอลกลางมี.ค. ว่าจะปิดแล้ว จริงๆ แล้วพนักงานก็ระแคะระคาย คนอยู่มานานเขาอยากได้เงินก้อนไปทำอะไร เขาก็รอว่าเมื่อไหร่ ทุกคนโอเคก็เซ็นเอกสาร ผมจ่ายเงินให้ถึงพ.ค. มีเวลาเก็บของ จากกันด้วยดี ไม่ได้ทำร้ายเขา วันดีคืนดีอยากทำหนังสือก็อาจมาร่วมงานกัน” วิโรจน์กล่าว

พร้อมบอกด้วยว่า สำหรับนิตยสารอีก 5 ฉบับที่ตนมีอยู่อย่าง อิน แม็กกาซีน, แม็กซิม, มาดาม ฟิกาโร่, เฮอร์เวิล์ด และแอตติจูด แม้จะขาดทุนเหมือนกัน แต่ก็เห็นว่าขาดทุนน้อยลงเรื่อยๆ เพราะมีการใช้หัวหนังสือต่อยอดไปยังธุรกิจอื่นๆ จึงทำให้สามารถอยู่รอดได้ อย่างไรก็ตามสำหรับอิมเมจ ฉบับสุดท้ายที่วางขายจะเป็นฉบับเดือนพฤษภาคม

“ผมว่า ณ วันนี้ผมต้องหยุดการไหลของเลือดก่อน ตั้งหลักใหม่ ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ต้องห่วงกลับมาแน่นอน เมื่อไหร่ว่ากัน” วิโรจน์กล่าวในที่สุด


ฉาวอีก! สื่อเมืองผู้ดีเผยครอบครัวนักท่องเที่ยวอังกฤษถูกทำร้ายโหดเหี้ยมที่หัวหิน

หนังสือพิมพ์เทเลกราฟของอังกฤษเผยแพร่ข่าวครอบครัวนักท่องเที่ยวอังกฤษถูกทำร้ายอย่างเหี้ยมโหดที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ขณะเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งหาตัวผู้ที่ลงมือทำร้ายนักท่องเที่ยวครอบครัวนี้ และได้จับกุมผู้ต้องสงสัยไปแล้ว 2 จาก 4 ราย และร้องขอความช่วยเหลือให้ช่วยแจ้งเบาะแสของผู้กระทำผิด อย่างไรก็ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลของผู้ต้องหารวมไปถึงอาการของผู้ถูกทำร้ายแต่อย่างใด

ทั้งนี้เว็บไซต์ ‘ไทยวีซ่า’ ได้เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งแสดงให้เห็นว่าครอบครัวของนักท่องเที่ยวอังกฤษกลุ่มนี้ซึ่งมีชาย 2 และหญิงหนึ่งคนถูกทุบตีจนหมดสติโดยกลุ่มชายไทยที่รุมต่อยตีทำร้ายจนนักท่องเที่ยวทั้งหมดนอนหมดสติอยู่บนพื้น ชายไทยกลุ่มนี้ยังเข้าไปเตะซ้ำ โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นบนถนนที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่เฝ้ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่

เทเลกราฟระบุว่าไทยกำลังเผชิญกับปัญหาภาพลักษณ์ว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความรุนแรงหลังเหตุทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษไม่ได้มีการออกแถลงการณ์เป็นการเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับจ.ประจวบคีรีขันธ์แต่อย่างใด


เบลเยียมส่งตัว ‘อับเดสลาม’ ให้ฝรั่งเศสแล้ว เตรียมขึ้นศาลฟังข้อกล่าวหา

เมื่อวันที่ 27 เมษายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ทางการเบลเยียมดำเนินการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน นายซาเลาะห์ อับเดสลาม ผู้ต้องสงสัยสำคัญร่วมก่อเหตุโจมตีช็อกโลกกลางกรุงปารีสของฝรั่งเศสเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ให้แก่ทางการฝรั่งเศส ที่คาดว่าจะมีการนำตัวนายอับเดสลามขึ้นศาลเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในวันเดียวกันนี้ตามเวลาท้องถิ่น

จากการเปิดเผยของนายฟรองซัวส์ โมแลงส์ อัยการฝรั่งเศสระบุว่า นายอับเดสลามอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ทางการฝรั่งเศสแล้วเมื่อเดินทางถึงดินแดนของฝรั่งเศสเมื่อเวลา 09.05 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันเดียวกัน และจะถูกนำตัวขึ้นศาลเพื่อรับฟังข้อกล่าวหา โดยอัยการจะขออำนาจคุมขังนายอับเดสลามเป็นการชั่วคราว

แหล่งข่าวใกล้ชิดชุดสอบสวนเปิดเผยว่า นายอับเดสลามถูกส่งตัวมาทางเครื่องบิน ทางกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยนายอับเดสลามจ้างทนายความในการต่อสู้คดีแล้วคือ นายฟรองก์ แบร์ตง ทนายชาวฝรั่งเศส

ทั้งนี้ อับเดสลาม วัย 26 ปี เป็นชาวโมร็อกโกถือสัญชาติฝรั่งเศส แต่เติบโตขึ้นในประเทศเบลเยียม ถูกตำรวจเบลเยียมรวบตัวไว้ได้ในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา หลังหลบหนีการตามล่าจับกุมของทางการมาได้นานราว 4 เดือน จากการตกเป็นผู้ต้องสงสัยร่วมก่อเหตุโจมตีต่อเนื่องหลายจุดในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 เดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ถึง 130 คนต้องเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก

ด้านสเวน แมรี ทนายความที่รับทำหน้าที่แก้ต่างให้นายอับเดสลามในเบลเยียมก่อนหน้านี้ เปิดใจกับหนังสือพิมพ์ลิเบราซิยงในวันเดียวกันนี้ โดยยอมรับว่าเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับตนเองที่จะต้องแก้ต่างให้กับลูกความที่ก่ออาชญากรรมอันน่าอับอาย และว่า มีช่วงเวลาที่ตนคิดจะถอนตัว ซึ่งหากล่วงรู้ถึงเหตุโจมตีกรุงบรัสเซลส์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ตนก็อาจจะไม่รับทำคดีนี้

แมรีกล่าวถึงเหตุโจมตีสนามบินและสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมเมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 32 ราย บาดเจ็บอีกราว 300 คน และยังกล่าวถึงนายอับเดสลามอีกว่า เป็นคนปัญญาอ่อนจากย่านโมเลนบีค เป็นลูกน้องมากกว่าจะเป็นหัวหน้า สมองกลวงเหมือนที่เขี่ยบุหรี่อันว่างเปล่า และเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของคนรุ่นจีทีเอ (เกมดังเกมหนึ่ง)ที่คิดว่าตนเองอยู่ในวิดีโอเกม


เวเนฯแล้งจัด กระทบจ่ายไฟ สั่งจนท.รัฐทำงานสัปดาห์ละ 2 วันลดใช้ไฟฟ้า แต่เงินเดือนเท่าเดิม

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลเวเนซุเอลา ประกาศให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทำงานสัปดาห์ละ 2 วันเท่านั้น เพื่อเป็นการลดการใช้พลังงาน ท่ามกลางวิกฤตพลังงานที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศเวเนซุเอลา

ข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้ นายนิโกลาส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา เพิ่งจะประกาศให้เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอยู่ราว 2.8 ล้านคน ไม่ต้องทำงานในวันศุกร์ในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมนี้ เพื่อลดปริมาณการใช้พลังงานลง อย่างไรก็ตาม นายมาดูโรได้กล่าวต่อประชาชนผ่านทางรายการประจำสัปดาห์เมื่อวันที่ 26 เมษายนว่า “ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ต้องทำงานวันพุธ พฤหัสบดี และศุกร์” โดยเงินเดือนยังคงได้เท่าเดิมแม้ว่าเวลาในการทำงานจะลดลงก็ตาม

รายงานระบุว่า เวเนซุเอลากำลังประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก ขณะที่เขื่อนหลักในเวเนซุเอลามีระดับน้ำเหลืออยู่ในขั้นใกล้วิกฤต ซึ่งเขื่อนแห่งนี้เป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าถึง 2 ใน 3 ของประเทศเวเนซุเอลา


จีนเปิดตัวสะพานแขวนยาวที่สุดในเอเชีย

28 เม.ย.59 สะพานแขวนหลงเจียงข้ามแม่น้ำหลงเจียง แม่น้ำสายหลักในมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ข้ามไปยังประเทศเมียนมาร์ เริ่มเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ทดลองสัญจรไปเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 5 ปี

โดยตัวสะพานมีความยาว 2,470 เมตร อยู่สูงกว่า 280 เมตร เหนือหุบเขาเบื้องล่าง เป็นสะพานแขวนที่มีความยาวมากที่สุด และสูงที่สุดในเอเชียด้วย เป็นรองแค่สะพานโกลเด้นเกต ในนครซานฟรานซิสโกของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น โดยจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปใช้สัญจรอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 1 พฤษภาคมที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ สะพานใหม่นี้จะเชื่อมการคมนาคมจากเมืองเป่าซาน และเถิงชง เพื่อผ่านตรงไปยังประเทศเมียนมาร์ ช่วยให้การคมนาคมขนส่งทางรถจากจีนไปยังเมียนมาร์และประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

ทรัมป์ประกาศนโยบายต่างประเทศสไตล์“อเมริกาต้องมาก่อน”

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ประกาศแนวนโยบายต่างประเทศหลังกวาดชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นทั้ง 5 รัฐ เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ชูนโยบาย”อเมริกาต้องมาก่อน” พร้อมกล่าวโจมตีนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ว่าเป็นหายนะและความพินาศโดยสมบูรณ์

ทั้งนี้ทรัมป์ประกาศว่าตนเองเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐที่น่าจะเป็นไปได้ของพรรครีพับลิกัน และระบุว่าสิ่งที่เขาพูดไม่ใช่เรื่องของ”ลัทธิทรัมป์”และทั้งหมดยังคงสามารถเปลี่ยนแปลงได้หากเขาได้รับเลือก อย่างไรก็ดีเนื้อหาส่วนใหญ่ยังคงเป็นการโจมตีการทำงานของรัฐบาลโอบามาว่าอ่อนแอและสับสนซึ่งเขาตั้งใจจะพลิกฟื้นมัน

ทรัมป์ประกาศว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศสหรัฐที่เต็มไปด้วยสนิมเกรอะกรัง โดยระบุถึงประเด็นสำคัญหลายประเด็น อาทิ เรื่องกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอสที่เขาระบุว่าการควบคุมการแพร่ขยายของลัทธิหัวรุนแรงยังคงเป็นนโยบายหลังของสหรัฐและโลก ภายใต้การนำของเขาไอเอสจะพบกับหายนะ แต่เขาไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ

ขณะที่ในประเด็นเรื่ององค์กรสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ ทรัมป์ชี้ว่าต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรและหารือเกี่ยวกับการปรับปรุงเรื่องงบประมาณที่สหรัฐให้กับนาโต้เสียใหม่ ส่วนการมีปฎิสัมพันธ์กับชาติพันธมิตรนั้น ประเทศที่สหรัฐเข้าไปปกป้องจะต้องจ่ายเงินสำหรับการป้องกันนั้น ไม่อย่างนั้นสหรัฐก็จะปล่อยให้ประเทศเหล่านั้นหาทางป้องกันตนเอง

อย่างไรก็ดีนายจอช เออร์เนส โฆษกทำเนียบขาวออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาของทรัมป์ถึงความล้มเหลวในนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลโอบามา โดยยืนยันว่านโยบายต่างประเทศของรัฐบาลทำให้สหรัฐปลอดภัยและแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้าที่โอบามาจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2552 เพราะไม่เพียงแต่ความร่วมมือกับชาติพันธมิตรจะแข็งแกร่งขึ้น แต่นโยบายหันกลับมาให้ความสำคัญกับเอเชียอีกครั้งหนึ่งก็ยังเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐทั้งในแง่ยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจควบคู่กันไป