ข่าว
ม็อบ'เมียนมา'เดือดรายวัน ผู้ชุมนุมถูกยิงดับอีก 6 ราย จับนักข่าว 6 คนรวมเอพี

3 มีนาคม 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สถานการณ์การชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐประหารในประเทศเมียนมายังคงเดือดระอุ ล่าสุดเกิดเหตุปะทะรุนแรง ที่มีผู้ชุมนุมอย่างน้อย 6 ราย ถูกกองกำลังฝ่ายความมั่นคงของเมียนมายิงเสียชีวิต ในระหว่างการใช้กำลังรุนแรงเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง

ในขณะที่การชุมนุมประท้วงในเมืองมยินจาน ทางตอนกลางของเมียนมา ได้เกิดเหตุเผชิญหน้าอย่างรุนแรงระหว่างตำรวจปราบจลาจลกับกลุ่มผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตา กระสุนยาง และกระสุนจริง เข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 10 ราย

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า นายเทียน จอ ช่างภาพสำนักข่าวเอพีวัย 32 ปี และผู้สื่อข่าวชาวเมียนมาอีก 5 คน ถูกจับกุมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในข้อหาสร้างความหวาดกลัว เผยแพร่ข่าวปลอม หรือก่อกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐโดยทางตรงหรือทางอ้อม ด้านสำนักข่าวเอพีเรียกร้องให้ปล่อยตัว เทียน จอ ในทันที เนื่องจากผู้สื่อข่าวอิสระต้องได้รับอนุญาตให้รายงานข่าวได้อย่างเสรีและปลอดภัยโดยไม่ต้องเกรงกลัวต่อการถูกลงโทษ

สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองเมียนมา (AAPP) เผยว่า มีผู้ประท้วงกว่า 1,200 คนถูกจับกุมนับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา ในจำนวนนี้ มีผู้ประท้วงราว 900 คนที่ยังคงอยู่ในเรือนจำหรือถูกตั้งข้อหา ทั้งยังระบุว่า มีผู้สื่อข่าว 34 คนที่ถูกจับกุม และได้รับการปล่อยตัวแล้ว 15 คน

‘หมอชายแดน’เล่า‘ผลข้างเคียง’ หลังฉีดวัคซีน ย้ำอย่าเพิ่งถอดแมสเด้อหมู่เฮา

3 มีนาคม 2564 เพจเฟซบุ๊ก “เรื่องเล่าหมอชายแดน” โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ “ผลข้างเคียง” ภายหลังรับการฉีดวัคซีนโควิดของ “ซิโนแวค” มีเนื้อหาดังนี้...

โรงพยาบาลแม่สอดดำเนินการฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์ในวันที่ 2-5 มีนาคม 2564

ผ่านมาได้สองวัน

วันที่ 2 มีนาคม ฉีดวัคซีน 211 คน มีผลข้างเคียง 4 คนคิดเป็น 1.9% ทุกคนมีคลื่นไส้อาเจียน พะอืดพะอม

วันที่ 3 มีนาคม ฉีดวัคซีน 238 คน ไม่มีใครมีอาการข้างเคียงเลยค่ะ

หมอเบียร์ฉีดเมื่อวาน ตอนแรกรู้สึกคอแห้งอยากกินของเปรี้ยวๆ ก็เลยกินบ๊วยเค็มอร่อยดี ไม่เจ็บแขนตรงที่ฉีดเลย ไม่มีไข้ ทำงานต่อได้ทันที บอกตรงก่อนฉีดกลัวนะไม่ใช่ไม่กลัวแต่ the show must go on ..สู้โว้ย

วัคซีน SINOVAC เป็นชนิดเชื้อตาย โดยเอาไวรัสที่องค์ประกอบครบมาทำให้ตายไม่แบ่งตัวด้วยวิธีการหนึ่ง แล้วฉีดเข้าไปในร่างกายในปริมาณที่เหมาะสมต่อการกระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมิคุ้มกัน โดยการศึกษาบอกว่าประสิทธิภาพตั้งแต่ 50-92% ในแต่ละกลุ่มประชากร ส่วนตัวคิดว่าการสร้างภูมิอย่าฝากความหวังไว้กับวัคซีนอย่างเดียว เราก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีมากๆ ภูมิจะได้ขึ้นเร็วๆ

ส่วนจะได้วัคซีนชนิดไหนก็ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส อีกสองสามชนิดผลิตจากคนละเทคนิค โดยใส่ mRNA ชิ้นส่วนของไวรัสโควิดเข้าไปในเปลือกของไวรัสอีกชนิดหนึ่ง พอร่างกายย่อยเปลือกมันได้ มันก็จะออกมากระตุ้นภูมิต้านทานของมนุษย์ เขาว่ามันจะมีประสิทธิภาพดีกว่า แต่การศึกษาก็ยังไม่มากด้วยกันทุกยี่ห้อนั่นแหละ โลกจะต้องจารึกว่าครั้งหนึ่งพวกเราชาวโลกสามัคคีกันต่อสู้ข้าศึกตัวจิ๋วที่มองไม่เห็นขนาดไหน

พวกเราที่ยังไม่ได้ฉีด หรือฉีดบางชนิดที่ไม่ตรงใจก็ไม่ต้องน้อยอกน้อยใจเพราะเดี๋ยวสักพักวัคซีนก็คงออกมาแพร่หลายจนเลือกซื้อ เลือกฉีดไม่ทันกันเลยล่ะค่ะ ในอนาคตก็คงได้ฉีดทุกปีแบบไข้หวัดใหญ่นั่นแล

อย่างไรก็ดีแม้ว่าจะฉีดวัคซีนไปแล้ว ก็มีหลักฐานแค่ว่าลดความรุนแรงของการเป็นโรคโควิด-19 จากปอดอักเสบเหลือแค่หวัดเล็กๆน้อยๆ ก็อย่าเพิ่งถอดแมสเด้อหมู่เฮา ใส่ป้องกันต่อ การ์อย่าตกจ้า เชื่อหมอนะ


โดนทุกดอก!‘พิชิต’ตบหน้านักประชาธิปไตยใหม่ ปั่น‘saveแอมมี่’สะท้อนคุณภาพ

3 มีนาคม 2564 นายพิชิต ไชยมงคล อดีตโฆษกกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) แนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว “Pichit Chaimongkol” ระบุว่า..

คุณภาพนักประชาธิปไตย (ใหม่)

การออกมา save แอมมี่ สะท้อนคุณภาพการเคลื่อนไหวมากเลยครับ

แอมมี่นี่เลยธง และเคลื่อนไหวสุ่มเสี่ยงมากจนต้องประณามอย่างรุนแรง ไม่ใช่มา save แอมมี่ แล้วกล่าวโทษกฎหมาย

ไม่ใช่อะไรก็ปกป้องกันเองนะครับ ดูพฤติกรรมบ้าง เพราะเมื่อพฤติกรรมทราม มันสะท้อนคุณภาพที่คุณเคลื่อนไหว ซึ่งมันก็สะท้อนวิธีคิดของคนออกมาปกป้องด้วย

เรากำลังถูกการเคลื่อนไหวแบบไม่ยึดโยงสังคม ใช้คำว่า เสรีภาพ ออกมาเคลื่อนไหว โดยไม่สนใจคนอื่นยึดแต่พวกพ้องตนเอง

พธม. กปปส. คปท.ไม่เคยออกรณรงค์ save ใครให้อายฟ้าอายดิน มีแต่เดินหน้าขึ้นศาลเพื่อพิสูจน์ตนเอง

อันนี่เล่นไปวางเพลิง แล้วออกเคมเปญปกป้องใคร

พวกคุณใช้ อะไรคิดครับ

พวกคุณไม่เคารพอะไรเลยเหรอ เหมือนเอาตนเอง พวกตนเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลดีๆนี่เอง

พวกคุณโทษแต่กฎหมายผิด แต่ไม่โทษตนเองที่ทำผิดกฎหมาย

ไร้คุณภาพครับ

ไร้ราคา

อย่ามัวแต่ถามหาหลักฐานโน่นนี่นั่นเลย เขาสารภาพเกินกว่าที่พวกคุณจะปกป้องแล้ว


เผยโฉมหน้าฮีโร่! ‘ทหารเรือ’ ช่วยเหลือแมว 4 ชีวิต กลางทะเล

3 มี.ค.64 ตามที่ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพและชื่นชมทหารเรือนายหนึ่ง ที่ว่ายน้ำไปช่วยน้องเหมียว 4 ชีวิตให้รอดพ้นความตาย บนเรือประมงซึ่งถูกไฟไหม้ โดยน้องอยู่ทั้ง 4 ตัว เกาะอยู่ตรงบริเวณหัวเรือ ขณะที่เรือกำลังจะจมลงสู่ก้นทะเล โดยทหารนายดังกล่าวทราบชื่อคือ พลทหาร ทัศน์พล สาอิ ตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ป้องกัน หน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 491

ทังนี้ จากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2564 หน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 491 (นป.สอ.รฝ.491) เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ได้รับแจ้งเหตุจากชาวประมงในพื้นที่ว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันดังกล่าว เรือประมงภมรสินธุ์นาวา 10 ได้ประสบเหตุเพลิงไหม้ตัวเรือจนเสียหายทั้งลำ และเรือได้จมลงสู่ก้นทะเลจังหวัดสตูลในที่สุด เหตุเกิด ณ กลางทะเลบริเวณทิศเหนือของเกาะอาดัง ระยะประมาณ 7 ไมล์

โดยเรือประมงภมรสินธุ์นาวา 10 เป็นเรือประมงประเภทเรืออวนลากแผ่นตะเฆ่ มีขนาดระวางขับน้ำ 64 ตันกรอส ได้ออกเรือจากจังหวัดตรังเพื่อทำการประมง ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งขณะเกิดเหตุลูกเรือทั้งหมด 8 คน ประกอบด้วยชาวไทย 3 คน และชาวเมียนมา 5 คน โดยได้วิทยุขอความช่วยเหลือจากเรือประมงมานะชัย 3 ซึ่งทำการประมงอยู่บริเวณใกล้เคียงให้มาช่วยเหลือลูกเรือทั้งหมดได้อย่างปลอดภัย ซึ่งต่อมาเจ้าของเรือได้ส่งเรือประมงอีกลำ มารับลูกเรือกลับเข้าฝั่งต่อไป

ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้นั้นยังไม่สามารถสรุปได้ในขณะนี้ ทั้งนี้ ทัพเรือภาคที่ 3 ได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 491 (นป.สอ.รฝ.491) ดำเนินการตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบการรั่วไหลของน้ำมันเรือ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล

ขณะที่เจ้าหน้าที่ นป.สอ.รฝ.491 กำลังตรวจสอบนั้นปรากฏว่าพบแมวน้อย 4 ตัวกำลังเกาะอยู่บริเวณหัวเรือที่กำลังจม พลทหาร ทัศน์พล สาอิ ได้มองเห็นลูกแมว จำนวน 4 ตัวที่อยู่บนซากเรือลำดังกล่าวด้วย จึงได้รีบกระโดดน้ำลงทะเล ว่ายน้ำไปช่วยลูกแมวทั้ง 4 ตัวให้รอดพ้นจากการจมน้ำ ได้อยากปลอดภัย


'รัสเซีย'เตือน'สหรัฐฯ'อย่าเล่นกับไฟ หลังโดนคว่ำบาตรรอบล่าสุด

3 มีนาคม 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเตือนรัฐบาลสหรัฐฯ ว่า “อย่าเล่นกับไฟ” หลังวอชิงตันประกาศคว่ำบาตรบุคคลและหน่วยงานของรัสเซียเมื่อวันอังคาร (2 มี.ค.) ที่เกี่ยวข้องกับกรณีการกล่าวหาเรื่องลอบวางยาพิษอเล็กเซ นาวาลนี ผู้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลรัสเซีย

ในแถลงการณ์ทางออนไลน์ กระทรวงฯ เรียกการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ว่าเป็น “การโจมตีซึ่งเป็นปรปักษ์ต่อรัสเซีย” ภายใต้ข้ออ้างที่ไร้เหตุผล

“เนื่องจากทำเนียบขาวมีปัญหาภายใน จึงพยายามสร้างภาพลักษณ์ของศัตรูภายนอกขึ้นอีกครั้ง เราได้ติงหลายครั้งแล้วเกี่ยวกับนโยบายนี้ของอเมริกา ซึ่งไร้เหตุผลและความหมาย ซ้ำยังรังแต่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศแย่ลงเรื่อยๆ”

กระทรวงฯ กล่าวว่ารัสเซียจะตอบโต้โดยยึดหลักถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกัน และจะยังคงปกป้องผลประโยชน์ของชาติอย่างเด็ดเดี่ยว

กระทรวงฯ เรียกร้องให้สหรัฐฯ ปฏิบัติตามข้อผูกพัน และทำลายอาวุธเคมีซึ่งรัสเซียเลิกใช้ไปตั้งแต่ปี 2017

สหรัฐฯ หมดสิทธิทางศีลธรรมในการวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น เนื่องจากเป็นผู้ละเมิดสัญญาและข้อตกลงระหว่างประเทศในด้านการควบคุมอาวุธและการป้องกันการแพร่กระจายอาวุธอยู่หลายครั้ง แถลงการณ์ระบุ


วิจัยพบ'โควิด-19'กลายพันธุ์ใน'บราซิล' แพร่เชื้อง่าย2เท่า-ติดเชื้อซ้ำได้

3 มีนาคม 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งถูกเผยแพร่เมื่อวันอังคาร (2 มี.ค.) ระบุว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ชนิดกลายพันธุ์ ที่พบครั้งแรกในรัฐแอมะซอนาสทางตอนเหนือของบราซิล มีอัตราการแพร่เชื้อสูงกว่าเดิม 2 เท่า และผู้เคยป่วยเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แล้วสามารถกลับมาติดเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์นี้ได้อีก

มูลนิธิการวิจัยเซาเปาลู (FAPESP) ระบุว่าคณะวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ทำการศึกษาข้างต้นอยู่ภายใต้การประสานงานของอิสแตร์ ซาบิโน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อแห่งมหาวิทยาลัยเซาเปาลู และนูโน ฟาเรีย นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของสหราชอาณาจักร

เชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ ถูกพบครั้งแรกช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ในนครมาเนาส์ เมืองเอกของรัฐแอมะซอนาส โดยคณะนักวิจัยของศูนย์บราซิล-สหราชอาณาจักรด้านการค้นพบ การวินิจฉัย การศึกษาจีโนมิกส์ และระบาดวิทยาของอาร์โบไวรัส (CADDE) ระบุว่าเชื้อไวรัสฯ ดังกล่าวเริ่มแพร่ระบาดเป็นวงกว้างภายใน 7 สัปดาห์

ซาบิโนอ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยและระบุว่าผู้เคยป่วยโรคโควิด-19 แล้วยังคงต้องเฝ้าระวังตัวต่อไป เนื่องจากอาจกลับมาติดเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์นี้ได้อีก

อนึ่ง บราซิลเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สูงสุดอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ และมีผู้ป่วยสะสมสูงสุดอันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐฯ และอินเดีย โดยปัจจุบันบราซิลมีผู้ป่วยสะสม 10,587,001 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 255,720 ราย

ผู้ว่าฯรัฐเท็กซัสสุดห้าว! ประกาศให้ทุกคนไม่ต้องสวมหน้ากาก

3 มีนาคม 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน นายเกรก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส สังกัดพรรครีพับลิกัน ยกเลิกคำสั่งให้สวมหน้ากากอนามัยและข้อจำกัดต่างๆ เพื่อป้องกันโควิด-19 ระบาดทั้งหมด เตรียมเปิดเศรษฐกิจเต็มรูปแบบสัปดาห์หน้า

โดยเขาระบุว่าถึงเวลาแล้วที่เทกซัสจะเปิดเศรษฐกิจ 100% เต็มรูปแบบ เพราะที่ผ่านมาชาวรัฐเท็กซัสต้องตกงานเพราะธุรกิจปิดกิจการมากเกินไป เรื่องราวร้ายๆ ต้องจบลงเสียที เขาขอสั่งให้ทุกคนไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยอีกต่อไป และภาคธุรกิจทุกอย่างเตรียมกลับมาเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้า เพราะมีการฉีดวัคซีนที่แพร่หลายมากขึ้นและการรักษาอาการผู้ป่วยที่ดีขึ้นแล้ว

รัฐเท็กซัสถือเป็นรัฐใหญ่ที่สุดในสหรัฐ ที่ยุติคำสั่งบังคับประชาชนสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งทำให้นายแอบบอตต์ถูกสมาชิกพรรควิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักตอนที่เขาออกคำสั่งนี้เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว โดยจนถึงขณะนี้ รัฐเท็กซัสมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แล้วกว่า 42,000 คน