ข่าว
สุขที่ใจ!สามีภรรยาอยู่ในท่อน้ำทิ้ง 22 ปี

ชายชาวโคลัมเบียและภรรยา ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแต่มีความสุข ภายในท่อระบายน้ำทิ้งใต้ถนน ที่ถูกดัดแปลงให้เป็นบ้านและอยู่อาศัยมานานกว่า 22 ปีแล้ว

13 ธ.ค. 55 นายมิเกล เรสเตรโป วัย 62 ปี อดีตผู้ติดยาเสพติดที่ไม่มีงานทำ อาศัยอยู่ในท่อน้ำทิ้งที่ไม่ใช้งานแล้ว ที่มีความกว้าง 2 ม. ยาว 3 ม. และสูงเพียง 1.4 ม. โดยมีภรรยา นางมาเรีย การ์เซีย และสุนัขที่ชื่อว่า แบล็กกี้ ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน

ท่อน้ำทิ้งจุดนี้อยู่ใต้ถนนของเมืองเมเดลลิน เมืองใหญ่อันดับสองของโคลัมเบีย และแม้บ้านน้อยหลังนี้มีพื้นที่จำกัด แต่มีเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตครบถ้วนเหมือนบ้านอื่น ทั้งเครื่องทำครัว เตียง พัดลม โทรทัศน์ หรือแม้แต่เครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเทศกาลคริสต์มาส และสิ่งเหล่านี้สร้างความสุขในชีวิตให้เขามากพอ เรสเตรโป เปิดใจว่า ผมจะไม่ยอมแลกบ้านแสนสุขหลังนี้กับบ้านจริงๆ หลังไหน ผมมีชีวิตที่ดีกว่าประธานาธิบดีเสียอีก ไม่มีใครรบกวนผม และผมไม่รบกวนใคร ผมเข้านอนเมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ แต่ประธานาธิบดีต้องจมทุกข์อยู่กับปัญหาสารพัด และทุกคนในแถบนี้ก็รักผมมากๆ

และแม้เขามีความสุข ความพอใจกับชีวิตที่เป็นอยู่ขณะนี้ แต่ก็ยังอยากประดับบ้านให้สวยงามกว่านี้ โดยบอกว่า สิ่งเดียวที่ยังขาด คือ รูปภาพสวยๆ และเขาจะวาดภาพเอง นอกจากนี้เขามีความฝันว่า สักวันหนึ่งจะโชคดีถูกล็อตเตอรี่ จะได้พาภรรยาและสุนัขคู่ใจไปเที่ยวชายหาด

ร่วงยก6!'ปาเกียว'แพ้น็อก'มาร์เกซ'

'แมนนี่ ปาเกียว' ล้างตา 'ฮวน มานูเอล มาร์เกซ' ครั้งที่ 4 'เดอะ แพ็คแมน' เจอหมัดเด็ด อัดขวาเข้าหน้าเต็มๆ ลงไปกองกับพื้น พ่ายน็อกไปในยกที่ 6

9 ธ.ค. 55 สังเวียนผ้าใบ เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ การ์เดน อารีน่า ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ยอดมวยฟิลิปปินส์ 'เดอะ แพ็คแมน' แมนนี่ ปาเกียว ดวลกำปั้นกับ ฮวน มานูเอล มาร์เกซ ยอดมวยเม็กซิกัน เป็นครั้งที่ 4

โดย 3 ครั้งที่ผ่านมา 'ปาเกียว' เคยเอาชนะ 'มาร์เกซ' ได้ 2 ครั้ง ในปี 2008 กับ 2011 และเสมอกัน ในปี 2004 ท่ามกลางการชกที่คู่คี่สูสี และผลการตัดสินที่ค้านสายตา

ระฆังยกแรกดังขึ้น เป็น ปาเกียว ที่เดินเข้าหาเน้นเข้าชกเร็วออกเร็ว ขณะที่ มาร์เกซ รอจังหวะดักชก กระทั่งยก 3 ยอดมวยฟิลิปปินส์ พลาดการ์ดตก เลยโดน ยอดมวยเม็กซิกัน อัดขวาเข้าหน้า ร่วงไปกองให้กรรมการนับ 8 แต่ 'เดอะ แพ็คแมน' ยังลุกขึ้นมาลุยต่อ

ยก 5 มาร์เกซ ยังคงดักรอจังหวะ ในขณะที่ ปาเกียว เดินเข้าบุกเข้าหา และเป็น 'เดอะ แพ็คแมน' ที่เอาคืนสาวหมัดเข้าหน้ายอดมวยเม็กซิกันเต็มๆ จนทรุด กรรมการนับ 8

และมาถึงยก 6 ปาเกียว พยายามเน้นชกย้ำเข้าไปที่จมูกของ มาร์เกซ ที่มีเลือดไหลออกมา แต่มาร์เกซ ยังดักชกสวนคืนได้สวยๆ หลายหมัด ก่อนที่โอกาสทองจะมาถึงตอนปลายยก มาร์เกซ อัดขวาเข้าหน้า ปาเกียว เต็มๆ จนล้มลงไปกองกับพื้น พร้อมๆ กับที่เสียงระฆังดังขึ้น แต่แล้วใครจะเชื่อว่า 'เดอะ แพ็คแมน' กลับลุกไม่ขึ้น จึงแพ้น็อกยกที่ 6 ในที่สุด


หนุ่มมะกันคลั่งยิงนักช็อป ดับ 3 ศพคาห้างรวมตัวเอง

เกิดเหตุสลดมือปืนชายชาวอเมริกัน ชื่อ จาคอบ ไทเลอร์ โรเบิร์ตส์ อายุ 22 ปี บุกเข้าไปในห้างสรรพสินค้าในย่านคลาคามาส ทาวน์ เซ็นเตอร์ ในเมืองแฮปปีแวลลีย์ ติดกับเมืองพอร์ทแลนด์ในรัฐโอเรกอนของสหรัฐฯ เมื่อ 11 ธ.ค. และใช้ปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ AR-15 ที่ขโมยมา ยิงเข้าใส่กลุ่มคนที่มาจับจ่ายซื้อของภายในห้างฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ศพ ก่อนที่คนร้ายจะยิงตัวตายในเวลาไม่นานหลังก่อเหตุ ขณะที่ผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที ผู้อยู่ในเหตุการณ์หลายรายระบุว่า คนร้ายสวมหน้ากากฮอกกี้ปิดบังใบหน้า และใส่ชุดลายพรางเลียนแบบทหาร ขณะที่โฆษกสำนักงานนายอำเภอแฮปปีแวลลีย์ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่มิได้ยิงตอบโต้คนร้ายภายในห้างฯ เพราะเกรงว่าจะมีประชาชนถูกลูกหลง ส่วนนายจอห์น คิซฮาเบอร์ ผู้ว่าการรัฐโอเรกอน แสดงความเสียใจต่อครอบครัวเหยื่อเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บทั้งหมด พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าว


จับหญิงปานามา 'เฉาะนม' ยัดโคเคนในซิลิโคน

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวหญิงชาวปานามา ที่สนามบินเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน หลังเดินทางมาจากโคลอมเบีย ในข้อหาลอบขนโคเคน โดยซุกอยู่ในถุงซิลิโคนเสริมเต้านมหนักกว่า 1 กิโลกรัม การจับกุมมีขึ้นขณะมีการสอบสวนและตรวจค้นผู้โดยสารจากโคลอมเบียตามปกติ ก่อนพบคราบเลือดติดเสื้อผ้าในส่วนใต้ราวนม เมื่อตรวจสอบโดยละเอียดพบรอยเย็บแผลแบบลวกๆ จึงนำส่งโรงพยาบาลผ่าตัดนำถุงซิลิโคนออก กระทั่งพบโคเคนปริมาณดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ด้านใน

โลกประณาม '2 ดีเจ' ล้วงข่าวเจ้าหญิงเคท

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 9 ธ.ค. ว่า หลังนางจาซินธา ซัลดันฮา วัย 46 ปี ถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ที่ประเทศอินเดีย ผู้ปฏิบัติหน้าที่นางพยาบาลประจำโรงพยาบาลคิง เอ็ดเวิร์ด ที่ 7 กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ฆ่าตัวตายในห้องพัก เนื่องจากเผลอปล่อยข่าวพระอาการแพ้พระครรภ์ของเจ้าหญิงแคทเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ที่เข้ารับการรักษาอาการให้ 2 นักจัดรายการวิทยุสุดแสบในออสเตรเลีย ซึ่งล่าสุดเกิดกระแสความโกรธเคือง และการโต้แย้งกันถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของดีเจชาวออสเตรเลีย บ้างตำหนิเกี่ยวกับการละเมิดความเป็นส่วนตัว และสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังชี้ว่า ทั้ง 2 ควรออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องที่ร่วมกันก่อไว้ จนกลายเป็นโศกนาฏกรรม ขณะที่ทั้ง 2 ออกมาขอโทษแบบเจื่อนๆ เพียงเท่านั้น เหตุการณ์สุดสลดเริ่มขึ้นเมื่อ น.ส.เมล เกร็ก กับ นายไมเคิล คริสเตียน 2 พิธีกรรายการวิทยุ ทูเดย์ เอฟเอ็ม ในออสเตรเลีย ได้โทรศัพท์ไปยังโรงพยาบาลคิงเอ็ดเวิร์ด ที่ 7 โดยดัดเสียงและอ้างตัวว่าเป็นสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ แห่งราชวงศ์อังกฤษ เพื่อหลอกสอบถามพระอาการแพ้พระครรภ์ของเจ้าหญิงแคทเธอรีนกับนางพยาบาลคนหนึ่ง ซึ่งนางพยาบาลคนดังกล่าวก็ได้บอกเล่าทุกอย่างหมดเปลือก โดยไม่ทันสังเกตถึงสำเนียงแปร่งๆ ของทั้ง 2 และแจ้งไปว่าเจ้าหญิงเคททรงบรรทมหลับๆ ตื่นๆ และรับพระกระยาหารเหลว แถมยังตอบด้วยว่าถ้าจะเสด็จมาเยี่ยมก็ขอให้เป็นหลังเวลา 09.00 น. อย่างไรก็ดี สถานีวิทยุ ทูเดย์ เอฟเอ็ม ของออสเตรเลีย เผยผ่านแถลงการณ์ว่า ทั้ง 2 ดีเจที่ก่อเรื่อง ถูกพักงานชั่วคราวจนกว่าจะได้รับแจ้งจากบริษัทต้นสังกัด แต่ก็ถือว่าไม่ได้กระทำผิดกฎหมายข้อใด ขณะที่ซีอีโอของสถานีดังกล่าวออกมาเเบ่งรับเเบ่งสู้แทนลูกจ้างว่า ทั้งเกร็ก และคริสเตียน ได้รับคำปรึกษาจากทนายความแล้ว พวกเขาไม่ใช่เครื่องจักรกล แต่เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา และพวกเราทุกคนต่างได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน