ข่าว
นักวิจัยบราซิลพบ‘โคโรนา'6สายพันธุ์ใหม่ ก่อ'โควิด-19'แผลงฤทธิ์ระบาดทั่วประเทศ

17 กรกฎาคม 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงาน ออสวัลโด ครูซ ฟาวเดชัน (Oswaldo Cruz Foundation) ศูนย์วิจัยโรคชั้นนำของบราซิล เผยว่านักวิจัยชาวบราซิลตรวจพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) 6 สายพันธุ์ (lineage) ซึ่งก่อให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แพร่ระบาดทั่วประเทศ

เมื่อวันอังคาร (14 ก.ค.) ศูนย์ฯ ระบุผ่านเว็บไซต์ทางการว่านักวิจัยได้ทำการศึกษาทางพันธุกรรมเป็นวงกว้าง โดยตรวจสอบตัวอย่างสารคัดหลั่งเกือบ 100 ตัวอย่างที่เก็บรวบรวมจากผู้ป่วยในทุกภูมิภาคของบราซิล ระหว่างวันที่ 29 ก.พ.- 28 เม.ย.

เปาลา คริสตินา เรเซนเด ผู้นำการศึกษาครั้งนี้ กล่าวว่าการเรียงลำดับจีโนมของไวรัสอย่างสมบูรณ์ช่วยให้นักวิจัยเข้าใจว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แพร่กระจายทั่วบราซิลได้อย่างไร

เรเซนเดเผยว่า “ลักษณะเฉพาะของไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ ทำให้เรารู้ถึงชนิดของไวรัสที่หมุนเวียนอยู่ในภูมิภาคหนึ่ง อีกทั้งสามารถนำมาเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ของไวรัสที่ระบาดในต่างประเทศหรือแม้แต่ในประเทศเดียวกันได้” พร้อมเสริมว่า “การทำความเข้าใจว่าไวรัสแต่ละสายพันธุ์มีพฤติกรรมและมีลักษณะการกระจายตัวในภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกันได้อย่างไรนั้น นับเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างที่สำคัญ”

สมช. เปิดตัว "แพนเค้ก" ทูตทะเล และทีมงาน อจชล. พร้อมปกป้องทะเลไทย

สมช. เปิดตัวทีมงาน "อจชล." Think Tank คลังสมองทะเล และ ทูตทะเล "แพนเค้ก" ยินดี ช่วยสร้างการรับรู้ ปัญหาทะเล-รักษ์ทะเล เปิดช่องทาง สอบถาม-ขอข้อมูลทะเลที่เพจ "ทะเลไทย by แพนเค้ก" มีทีมผู้เขี่ยวชาญทะเลตอบทุกคำถาม

เมื่อวันที่ 16 ก.ค.63 พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดการปฐมนิเทศ คณะทำงานใน อนุกรรมการที่ปรึกษาและจัดการความรู้เพื่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (อจชล.)ที่มี ศ.เผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์ ประธาน อจชล. ที่จะทำหน้าที่เป็น Think Tank ด้านทะเลของประเทศ ของสมช. และจัดการองค์ความรู้ทางทะเล ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2563-2565) โดยจัดตั้งคณะทำงานรวม 4 คณะ ที่ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านทะเล และกม.ทะเล คือ

1. คณะทำงานด้านความมั่นคง โดยมี พล.ร.อ.สุรินทร์ เริงอารมณ์ เป็นประธาน 2. คณะทำงานด้านความมั่งคั่งและยั่งยืน โดยมี ผช.ศ.ธรรมศักดิ์ ยีมิน เป็นประธาน 3. คณะทำงานด้านกฎหมาย โดยมี พล.ร.ต.ศิริวัฒน์ ธนะเพทย์ เป็นประธาน 4. คณะทำงานด้านการประชาสัมพันธ์ โดยมี พล.ร.อ.จุมพล ลุมพิกานนท์ เป็นประธาน

โดยในวันนี้ มีการ เปิดตัว "แพนเค้ก" เขมนิจ จามิกรณ์ ดาราดัง ในฐานะ "ทูตทะเล" พร้อมเปิดช่องทางการสร้างการรับรู้เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ข้อมูล กิจกรรมต่างๆ ผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ เฟซบุ๊ก โดยใช้ชื่อบัญชี "ทะเลไทย by แพนเค้ก" โดยทีม ผู้เขี่ยวชาญทะเล ตอบทุกคำถาม ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของ อจชล. สร้างการรับรู้ภารกิจและบทบาทสำคัญ เผยแพร่ข้อมูลจากการศึกษาวิจัย โดยจะทำหน้าที่ในการศึกษา วิจัย ในประเด็นที่ อจชล. มอบหมาย รวมทั้ง ให้ข้อเสนอแนะและคำปรึกษาต่อ อจชล. ในประเด็นที่เกี่ยวข้องทางทะเล

พร้อมเผยแพร่เนื้อหาจากหนังสือ "ทะเลและมหาสมุทร และผลประโยชน์ของชาติทางทะเล" ที่จัดทำโดย อจชล.สร้างจิตสำนึก ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน แลประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจถึงความเชื่อมโยงของปัญหาทางทะเล

ด้าน "แพนเค้ก" เขมนิจ จามิกรณ์ กล่าวว่า มีความยินดี อย่างยิ่งที่ทาง อจชล.โดย สมช. มอบหมายให้ทำหน้าที่ ทูตทะเล เพราะที่ผ่านมา ตนเองก็ทำงานที่เกี่ยวกับทะเล ช่วยงานกองทัพเรือ ในฐานะโฆษกพิเศษ ทร. และทำรายการ "ทะเลไทย คนไทยไม่รู้" มาก่อนหน้านี้ รวมทั้งช่วยสร้างการรับรู้การแก้ปัญหาประมงผิดกม. ด้วย

"เป็นคนรักทะเล อยู่แล้ว อยากมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาทะเลให้ สะอาดสวยงาม และบอกกล่าว พี่น้องประชาชนว่า เรามีปัญหาทางทะเลอะไรบ้าง ที่เราต้องช่วยกัน ทั้งเรื่องเบาๆ และเรื่องหนักๆ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแลทะเล ตระหนักในคุณค่าของทะเล"แพนเค้ก กล่าว


โควิด: ทั่วโลกป่วยพุ่ง 14 ล้านคน รัสเซียติดเชื้อทะลุ 2 ล้าน-อินเดียล้านแตก!

วันที่ 17 ก.ค. เวิลด์โอมิเตอร์ส เว็บไซต์รวบรวมสถิติในสหรัฐอเมริกา รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของ ไวรัสโครโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ก่อให้เกิด โรคโควิด-19 ว่า

ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 13,930,152 คน ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 591,860 ราย และรักษาหายแล้ว 591,860 คน

สหรัฐเมริกา ยังมีผู้ป่วยสะสม 3,689,043 คน เป็นผู้ป่วยรายใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา 67,406 คน เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 141,040 คน

บราซิล มีผู้ป่วยใหม่รายวัน 35,468 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,014,738 เสียชีวิตแล้ว 76,822 คน

อินเดีย พบผู้ป่วยสะสม 1,005,637 คน เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 35,468 คน เสียชีวิตแล้ว 25,609 คน

รัสเซีย มีผู้ป่วยใหม่รายวัน 6,428 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 752,797 คน ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11,937 คน

เปรู มีผู้ป่วยสะสม 341,586 คน เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,862 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 12,615 คน

แอฟริกาใต้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13,172 คน ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 324,221 คน เสียชีวิตแล้ว 4,669 คน

ชิลี พบผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 323,698 คน เสียชีวิตแล้ว 7,290 คน

เม็กซิโก มีผู้ป่วยสะสม 317,635 คน เป็นผู้ป่วยใหม่ 6,149 คน เสียชีวิต 36,906 คน

สเปน พบผู้ติดเชื้อสะสม 305,935 คน เสียชีวิต 28,416 คน

สหราชอาณาจักร มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 292,552 เสียชีวิตแล้ว 45,119 คน

อิหร่าน มีผู้ป่วยสะสม 267,061 คน เสียชีวิตแล้ว 13,608 คน

ปากีสถาน มีผู้ติดเชื้อสะสม 257,914 คน เสียชีวิตรวม 5,426 คน

อิตาลี พบผู้ติดเชื้อสะสม 243,736 คน เสียชีวิตแล้ว 35,017 คน

ซาอุดีอาระเบีย พบผู้ติดเชื้อใหม่อีก 2,764 คน ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยรวมอยู่ที่ 243,238 คน เสียชีวิตแล้ว 2,370 คน

ตุรกี มียอดผู้ป่วยเพิ่มเป็นอย่างน้อย 216,873 คน เสียชีวิต 5,440 คน

เยอรมนี มียอดติดเชื้อสะสม 201,836 คน เสียชีวิตแล้ว 9,157 คน

บังกลาเทศ พบติดเชื้อใหม่ 2,733 คน ยอดผู้ป่วยรวม 196,323 คน เสียชีวิตแล้ว 2,496 คน

ฝรั่งเศส ติดเชื้อสะสม 173,838 คน เสียชีวิตแล้ว 30,138 คน

โคลอมเบีย มีผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 173,206 คน เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 8,037 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 6,029 คน

อาร์เจนตินา มีผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 114,783 คน เสียชีวิตแล้ว 2,112 คน

แคนาดา มีผู้ติดเชื้อสะสม 109,264 คน เสียชีวิตแล้ว 8,825 คน

และ กาตาร์ พบผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 105,477 คน เสียชีวิต 152 คน


"บิ๊กป้อม" ตอบแล้ว! ปมลือหึ่ง จ่อผงาด มท.1 คุมทุกการเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวเพียงสั้นๆถึงกรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า ไม่รู้ ต้องไปถามนายกฯ เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่การสลับไปนั่งรมว. มหาดไทย พล.อ.ประวิตรได้กล่าวย้ำ ว่าไม่รู้ ต้องไปถามนายกฯ

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจาก พปชร. แจ้งว่า การที่กลุ่ม 4 กุมาร ตัดสินใจลาออกจากรัฐมนตรีและรองเลขาธิการนายกฯ ส่วนหนึ่งเพื่อให้โควตาว่างลง และเป็นตัวเร่งให้นายกฯ ตัดสินใจปรับเกลี่ยเก้าอี้รัฐมนตรีใหม่เร็วขึ้น และเป็นไปได้ที่กลุ่มนี้อาจได้รับการพิจารณาในโควตากลางของนายกฯ ขณะที่ภายในพปชร. ยังคงกดดันต่อเนื่อง เพื่อทวงสัญญาใจเมื่อครั้งตั้งรัฐบาล

อาจมีการขยับในหลายตำแหน่งทั้งโควตาพรรคและโควตากลาง โดยเฉพาะกระทรวงพลังงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม นอกจากนั้นยังมีกระแสข่าว ของรองนายกฯ “ 2 ป.” มีแนวโน้มที่อาจจะมีการสลับกัน

เพื่อเตรียมคุมทัพเลือกตั้งทุกระดับ โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อาจจะมาเป็น รมว.มหาดไทย สลับกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กว่า 5 ปี อาจมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีแทน


แห่ยินดีนายกฯ หญิงเดนมาร์ก “วิวาห์แล้ว” หลังเลื่อนแต่ง 3 หน ฝ่าวิกฤตโควิด-งานรัดตัว

วันที่ 17 ก.ค. เดลีเมล์ รายงานว่า นายกรัฐมนตรีเมตเต เฟรเดอริกเซน ผู้นำหญิงแห่งเดนมาร์ก วัย 42 ปี เข้าพิธีวิวาห์กับ นายโบ เทงเบิร์ก คู่หมั่นวัย 55 ปี ที่โบสถ์เล็กๆ ของหมู่บ้านบนเกาะเชลลันด์ เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังเลื่อนกำหนดแต่งงาน 3 ครั้งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา

รายงานระบุว่ากำหนดวิวาห์ครั้งแรกตรงกับช่วงเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนมิ.ย.2562 ซึ่งน.ส.เฟรเดอริกเซนในวัย 41 ปี คว้าชัยชนะและได้รับเลือกเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ก่อนขึ้นแท่นเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดของเดนมาร์ก และเป็นผู้นำหญิงคนที่ 2 ของประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย

จากนั้นนายกฯ หญิงต้องทุ่มเททำงาน และเมื่อกำหนดแต่งงานครั้งที่ 2 ได้ฤกษ์ก็กลับเผชิญวิกฤต โรคโควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้ต้องเลื่อนอีกรอบ

กำหนดแต่งครั้งที่ 3 ทั้งคู่ตั้งใจว่าจะจัดในวันที่ 17 ก.ค. แต่ดันตรงกับการประชุมคณะมนตรียุโรปนัดพิเศษ ระหว่างวันที่ 17-18 ก.ค. ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งเป็นการประชุมนัดแรกที่ผู้นำ 27 ประเทศจะร่วมประชุมด้วยตนเอง แทนการประชุมผ่านวิดีโอคอลในช่วงล็อกดาวน์ นายกฯ เฟรเดอริกเซนเลยประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะเลื่อนการแต่งงานออกไปอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ตัดสินใจเลื่อนงานให้เร็วขึ้นแทน และจูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์กันเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 ก.ค. ท่ามกลางแขกเหรื่อราว 90 คน ส่วนใหญ่เป็นครอบครัว ญาติ เพื่อนสนิท และบุคคลสำคัญในแวดวงการเมือง รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรีพอล นูรูพ ราสมูสเซน

ทั้งนี้ เดนมาร์กเป็นประเทศแรกนอกทวีปเอเชียที่ประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เมื่อเดือนพ.ค. หลังจากสถานการณ์โรคโควิด-19 มีทิศทางดีขึ้น และจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงต่อเนื่อง ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้น 32 คน ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 13,124 คน และเสียชีวิตคงที่ที่ 610 ราย

เกาหลีใต้สอบน้อง‘คิม’ระเบิดสนง.ทิ้ง

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ว่า อัยการเกาหลีใต้เปิดการสอบสวนนางคิม โย จอง น้องสาวของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ แล้วกรณีการสั่งระเบิดทิ้งอาคารสำนักงานประสานงานร่วมสองเกาหลี ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแกซอง ในดินแดนของเกาหลีเหนือ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากสำนักงานอัยการเกาหลีใต้ได้รับคำร้องจากทนายความในกรุงโซลที่ขอให้เปิดการสอบสวนทางอาญาต่อน้องสาวของผู้นำคิมที่เชื่อว่าจะยิ่งสร้างความโกรธให้กับฝ่ายเกาหลีเหนือมากขึ้น

ในคำร้องของนายอี คยอง แจ ทนายความ ที่ยื่นขอให้สำนักงานอัยการเกาหลีใต้เปิดการสอบสวนนางคิม โย จอง ระบุว่า สำนักงานประสานงานร่วมสองเกาหลีที่ถูกฝ่ายเกาหลีเหนือระเบิดทิ้งไปนั้นถือเป็นทรัพย์สินของเกาหลีใต้ โดยเงินที่ใช้ในการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารสำนักงานแห่งดังกล่าวเป็นงบประมาณของรัฐบาลเกาหลีใต้ แม้ว่าสำนักงานนั้นจะตั้งอยู่ในเขตแดนเกาหลีเหนือก็ตาม

เอกสารคำร้องของทนายเกาหลีใต้ระบุว่า “คิมได้ใช้ระเบิดทำลายอาคารที่มีสถานะเทียบเท่ากับสำนักงานการทูตที่รับใช้สาธารณประโยชน์” ซึ่งยังมีการยื่นฟ้อง นายพัค จง ชอน ประธานเสนาธิการทหารของกองทัพเกาหลีเหนือด้วย

ทั้งนี้ แม้เกาหลีใต้ยังคงมีบทลงโทษประหารชีวิตอยู่ แต่ไม่ได้มีการใช้บทลงโทษสูงสุดนี้มาตั้งแต่ปี 1997 แล้ว และยังเป็นไปไม่ได้ที่เกาหลีใต้จะดำเนินบทลงโทษต่อนางคิม โย จอง หรือ นายพัค จง ชอน ได้ ทว่า นายอี คยอง แจ บอกกับสำนักข่าวยอนฮัพถึงการยื่นคำร้องให้เปิดการสอบสวนดังกล่าวว่าตนเพียงต้องการให้ประชาชนชาวเกาหลีเหนือได้รับรู้ถึงความเจ้าเล่ห์หลอกลวงของผู้นำตัวเอง

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเกาหลีเหนือได้ระเบิดทิ้งอาคารสำนักงานประสานงานสองเกาหลี ซึ่งมีขึ้นไม่กี่วันหลังจากคิม โย จอง น้องสาวและที่ปรึกษาใกล้ชิดของ นายคิม จอง อึน ออกมาประณามเกาหลีใต้ที่ปล่อยให้กลุ่มผู้แปรพักตร์นำใบปลิวโจมตีผู้ปกครองเกาหลีเหนือโปรยปรายเข้ามาในฝั่งเกาหลีเหนือ