ข่าว
เสียรายได้มหาศาล! 'โฆษณา'กระทบหนักจ่อย้ายแอพฯใหม่ หลัง'ทวิตเตอร์'ลิมิตการอ่านของผู้ใช้งาน

5 กรกฎาคม 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตามประกาศกฎใหม่ของทาง 'ทวิตเตอร์'แพลตฟอร์มสุดฮิตของผู้ใช้งานทั่วโลกได้ประกาศกฎใหม่ที่จะจำกัดผู้ใช้งานในการอ่านโพสต์ต่อวันนั้น กฎการจำกัดการอ่านโพสต์ดังกล่าวมีอยู่ 3 ระดับด้วยกัน คือ 1.บัญชีที่ยืนยันตัวตนแล้ว (มีเครื่องหมายถูกสีฟ้า) จะสามารถอ่านโพสต์ได้ 1 หมื่น โพสต์ต่อวัน 2.บัญชีที่ไม่ได้มีการยืนยันตัวตน จะสามารถอ่านโพสต์ได้ 1 พัน โพสต์ต่อวัน 3.บัญชีที่เพิ่งเปิดใหม่ จะสามารถอ่านโพสต์ได้ 600 โพสต์ต่อวัน

โดยผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า วงการโฆษณาได้รับผลกระทบเต็มๆ กับข้อจำกัดของทางทวิตเตอร์ หลายเจ้าเลือกที่จะหาแพลตฟอร์มใหม่ ซึ่งนั่นก็จะหมายความว่าทวิตเตอร์อาจจะสูยเสียรายได้เป็นจำนวนมหาศาล ก่อนหน้าจะมีการประกาศกฎนี้ ทางทวิตเตอร์ยังมีการปิดกั้นที่ทำให้ผู้ที่ไม่มีบัญชีทวิตเตอร์หรือไม่ได้ล็อกอินไม่สามารถดูโพสต์ได้ ก่อนหน้าจะมีการประกาศกฎนี้ ทางทวิตเตอร์ยังมีการปิดกั้นที่ทำให้ผู้ที่ไม่มีบัญชีทวิตเตอร์หรือไม่ได้ล็อกอินไม่สามารถดูโพสต์ได้ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของทวิตเตอร์ครั้งนี้ จึงถูกมองว่าเป็นการขับไล่ไสส่งกลุ่มผู้ลงโฆษณา และเป็นการบ่อนทำลายอิทธิพลของตนเองที่เคยมีในฐานะผู้นำกระแสของโซเชียลมีเดียด้วย เพราะภายใต้กฎใหม่

ด้านไมค์ พร็อกซ์ ออกมาวิเคราะห์ว่า ผู้ที่จ่ายเงินเพิ่มลงโฆษณาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ล้วนต้องการการเข้าถึงจำนวนมาก แต่สิ่งที่อีลอน มัสก์ ทำ ให้ผลลัพท์ที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ผู้โฆษณาต้องการ เพราะมันไปกระทบโดยตรงต่อจำนวนการรับชมและการมีส่วนร่วมของแต่ละโพสต์

ไมค์ พร็อกซ์ บอกอีกว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ยังกลายเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ของ ลินดา แยคคาริโน ซีอีโอคนใหม่ของทวิตเตอร์ที่เพิ่งรับไม้ต่อจากอีลอน มัสก์ เมื่อเดือนที่แล้ว ท่ามกลางความคาดหวังว่าลินดา แยคคาริโน จะเข้ามาเพื่อกอบกู้ความเสียหาย มาซ่อมแซมความสัมพันธ์ระหว่างแพลตฟอร์มทวิตเตอร์กับกลุ่มผู้ลงโฆษณาที่เป็นช่องทางรายได้หลัก ซึ่งด้วยความน่าเชื่อถือที่มาจากประสบการณ์ของเธอเอง น่าจะได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าได้ไม่ยาก แต่ปัญหาคือตัวผลิตภัณฑ์อย่างทวิตเตอร์เองก็มีส่วนสำคัญ ถ้าตัวแพลตฟอร์มไม่มีความน่าเชื่อถือ ความพยายามของซีอีโอคนใหม่ก็ไร้ความหมาย

จัสมิน เอนเบิร์ก นักวิเคราะห์จาก Insider Intelligence บอกว่า สิ่งที่ตลกคือทวิตเตอร์คิดว่าผู้คนจะได้วางมือถือแล้วออกไปข้างนอกบ้าง แต่ในความเป็นจริงพวกเขาแค่ออกไปเล่นแอพลิเคชันอื่นเท่านั้นเอง

‘พท.’ยังขายฝันดัน‘พิธา’นั่งนายกฯให้ได้ อ้างยังไม่คิดแผนล่วงหน้าถ้าวืดเก้าอี้

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรค พท.กับพรรคก้าวไกล ขณะนี้เป็นอย่างไร หลังจากตกลงประเด็นประธานสภาฯ กันไม่ลงตัว จนต้องให้คนกลางมาทำหน้าที่ ว่า ความสัมพันธ์ยังคงร่วมมือกัน เพื่อเป้าหมายทางการเมืองที่ต้องการให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย และได้รัฐบาลประชาธิปไตยมาแก้ปัญหาให้กับประชาชนที่รอการเปลี่ยนแปลงอยู่

ส่วนที่มองว่าทั้งสองพรรคตกลงกันไม่ได้จนต้องใช้คนกลางนั้น ไม่ได้มีปัญหาเพราะที่สุดแล้วทุกอย่างจบลงด้วยดี ยืนยันพรรค พท.จะสนับสนุนพรรคก้าวไกลในการเป็นแกนกลางจัดตั้งรัฐบาล โดยมี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี เราจะทำให้ประสบความสำเร็จ อะไรที่ช่วยให้ไปถึงเป้าหมายรัฐบาลประชาธิปไตยได้เราก็จะช่วยอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่า หากนายพิธาไม่สามารถฝ่าด่าน ส.ว.ได้ ทั้ง 8 พรรคจะดำเนินการอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรายืนยันจะพยายามทำให้ได้ และพรรคก้าวไกลก็แสดงความเชื่อมั่นว่าจะทำได้สำเร็จ เราจึงไม่คิดอะไรล่วงหน้า แต่ถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นทั้ง 8 พรรคจะหารือกันเพื่อหาทางออกร่วมกันให้ได้

เมื่อถามถึงสูตรแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรี จากเดิมที่ยึด 14+1 ตอนนี้เมื่อประธานสภาฯ เป็นคนกลางอย่าง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา แล้วมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า สูตรแบ่งเก้าอี้ เป็น 14 บวก 1 มาโดยตลอดตั้งแต่ต้น สูตรที่มีการออกมาบอกว่าเป็น 15 กับ 13 นั้นไม่ทราบว่ามาจากไหน ตอนนี้เรื่องประธานสภาฯ เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องเลือกนายกฯ จากนั้นค่อยฟอร์มรัฐบาล ซึ่งตำแหน่งรัฐมนตรีต่างๆ นั้นจะเป็นกระบวนการที่จะทำคู่ขนานกันไป


รบกันหนัก! ชาวกะเหรี่ยงหนีเครื่องบินเมียนมาถล่มเข้าไทยกว่า 1.2 พันคน

วันที่ 5 ก.ค.66 นายประเสริฐ ประดิษฐ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากการสู้รบที่บ้านใหม่ยัวติ๊ดทำให้มีราษฎรชาวกะเหรี่ยงเผ่าปะต่อง (คอยาว) ในหมู่บ้านหนีเข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านห้วยโปงเลา ตรงข้ามช่องทางบ้านน้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง กว่า 100 คนและอีกประมาณ 1,000 คนเป็นชาวคะยาได้พากันหนีไปอาศัยอยู่ที่บ้านใหม่ ดอยยามู ตรงข้ามบ้านแม่ส่วยอู ต.ผาบ่อง สำหรับชาวไทใหญ่ ทหารเมียนมาที่เข้ามาควบคุมหมู่บ้านใหม่ยัวติ๊ด จ.บอลาแคะ รัฐคะยา ได้ทำการคัดแยกราษฎรในหมู่บ้านที่เป็นคนเชื้อสายไทใหญ่กว่า 400 คนให้ไปอาศัยอยู่ที่วัดจำนวน 3 แห่งคือ วัดจองคำ ป๊อกเหนือ, วัดหย่องคำ บ้านหอ และวัดจองหนองแสง ป๊อกตะวันออก ซึ่งจากสถานการณ์สู้รบที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านใหม่ยัวติ๊ดของ จ.บอลาแคะ รัฐคะยา

ทำให้ราษฎรในหมู่บ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านพี่เมืองน้องของชาวแม่ฮ่องสอน และเป็นญาติกันกับคนในฝั่งไทยพื้นที่บ้านห้วยเดื่อ ทางเครือข่ายสภาวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเครือข่ายชาวไต (ไทใหญ่) ในแม่ฮ่องสอน ขอเปิดรับบริจาคข้าวสารอาหารแห้ง และสิ่งของเครื่องใช้สำหรับเด็กและผู้หญิง ที่ประสบกับภาวะสงคราม โดยสามารถบริจาคได้ที่ บ้านของอาจารย์เก หรือนายประเสริฐ ประดิษฐ์ ที่บ้านห้วยเดื่อ หรือโทร 080-130-4141 เพื่อที่จะได้รวบรวมสิ่งของที่รับบริจาคส่งไปให้ราษฎรในรัฐคะยาที่กำลังประสบกับภาวะสงครามและต้องหนีมาอยู่ใกล้เขตไทย ทั้งนี้ยอดผู้ลี้ภัยในไทยล่าสุดอยู่ที่ 4,877 คน

ขณะที่แหล่งข่าวของกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา KA เปิดเผยว่า ขณะนี้ทหารเมียนมาได้ถูกส่งเข้ามาในพื้นที่ อ.แม่แจ๊ะ และ จ.บอลาแคะ จำนวน 2 กองพลทหารราบ ประกอบด้วยกองพลทหารราบเบาที่ 44 (พล.ร.เบา 44) และกองพลทหารราบเบาที่ 77 (พล.ร.เบา 77) และมีการสู้รบกันระหว่างกองกำลัง KA , KNDF และ PDF กับทหารเมียนมาที่เข้ามาใหม่ บริเวณบ้านแม่แจ๊ะ และบ้านใหม่ยัวติ๊ด

อย่างไรก็ตาม ถนนที่เชื่อมระหว่าง จ.บอลาแคะ ไปจนถึง จ.ลอยก่อว์ ขณะนี้กองกำลัง KA , KNDF และ PDF สามารถควบคุมได้แล้วทำให้ทหารเมียนมาไม่สามารถส่งกำลังบำรุงเข้ามาในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำสาละวิน และรวมไปถึงในฝั่งรอยต่อรัฐคะยากับรัฐฉานตรงข้ามบ้านรักไทย ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ทหารเมียนมาในภาคตะวันออกเขตรัฐฉาน ได้พยายามส่งกำลังเข้ามาช่วยเหลือ แต่ยังไม่สามารถเข้ามาในพื้นที่รัฐคะยาได้ การส่งกำลังบำรุงให้กับทหารเมียนมา ทำได้คือใช้เฮลิคอปเตอร์แต่เพียงอย่างเดียว

สำหรับทหารเมียนมาในด้านทิศตะวันออกของรัฐคะยาติดกับรัฐฉาน ประกอบด้วย พัน คร.514 ฐานดอยสามเมือง, พัน.ร.เบา134, พัน.คร.337 และพัน.คร.429 ตั้งฐานปฏิบัติการ ตั้งแต่ตรงข้ามช่องทางบ้านดอยแสง ต.ปางหมู ไปจนถึงตรงข้าม ดอยสามเมือง ตรงข้ามบ้านรักไทย ต.หมอกจำแป่ ซึ่งคาดว่าทางทหารกะเหรี่ยงคะยาจะทำการเข้าโจมตีเพื่อกวาดล้างให้ออกไปนอกพื้นที่รัฐคะยาโดยฝ่ายชนกลุ่มน้อยแต่ละรัฐกำลังพยายามที่จะผลักดันทหารเมียนมาออกจากพื้นที่ของตนเองให้หมดในสิ้นปีนี้

ขณะเดียวกันตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 เป็นต้นมา กองกำลังทหารกะเหรี่ยงคะยาและพันธมิตร สามารถยึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมาได้จำนวน 8 ฐานที่มั่น และสามารถยึด ปืน ค. 120 มม.ของ ทหารเมียนมาสังกัดกองพัน ป.356 ได้จำนวน 6 กระบอก พร้อมด้วยกระสุนค.ขนาด 120 มม. จำนวน 12,000 นัด (ค.120 มม.1 กระบอกมีกระสุนพิกัดโหลดจำนวน 200 นัด) ประกอบด้วยฐานแม่แจ๊ะ ปืน ค.120 มม. 2 กระบอก, ฐานฯ ดอยน้ำพอง ตรงข้ามช่องทางห้วยต้นนุ่น จำนวน 2 กระบอก, ฐานฯแม่ตะนอย ใกล้กับผาตั้ง จำนวน 2 กระบอก

ในส่วนของข่าวที่ว่ามีการยิงเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ของทหารเมียนมาตกบริเวณพื้นที่ บ้านใหม่ยัวติ๊ด โดยกลุ่ม KNPLF (กาลาลาต๊ะ หรือดาวแดง ) เป็นข่าวปล่อยทางโซเชียลเท่านั้น เนื่องจากได้มีการสอบสวนและใช้โดรนบินตรวจสอบจุดที่คาดว่า เฮลิคอปเตอร์ตกไม่พบซากเครื่องบินแต่อย่างใดเมื่อสอบสวนไปยังทีมหน่วย KNPLF แล้วได้อ้างว่าใช้ปืนพกสั้นขนาด .38 มม.ยิงเฮลิคอปเตอร์ทำให้การค้นหาต้องยุติลง

สำหรับสถานการณ์ที่บ้านใหม่ยัวติ๊ด พบว่ากองทัพอากาศเมียนมาได้ทิ้งระเบิดใส่บ้านเรือนประชาชน ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 4 รายทำให้มีผู้อพยพหนีเข้าสู่ไทย บริเวณช่องทางบ้านน้ำเพียงดิน (เนิน 585) กว่า 100 คนแต่ทางการไทยปฏิเสธ ทำให้ผู้อพยพเหล่านั้นได้พักหลบภัยที่บริเวณที่ราบเชิงเขา เขตพื้นที่บ้านห้วยโปงเลา รัฐคะยา ห่างจากฐานที่มั่นทหารไทยลงไปในเขตรัฐคะยาประมาณ 5 กม


'ฉงชิ่ง'ฝนถล่มหนัก! 'จีน'ประกาศเฝ้าระวังแม่น้ำ 7 สายระดับน้ำสูงเกินเส้นเตือนภัย

5 กรกฎาคม 2566 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เทศบาลนครฉงชิ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน รายงานว่าระดับน้ำของแม่น้ำท้องถิ่น 7 สาย ยังคงสูงเกินระดับเตือนภัย เมื่อนับถึง 08.00 น. ของวันอังคารที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองเผชิญฝนตกหนักตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา

สถานีเฝ้าติดตามทางอุทกวิทยาของฉงชิ่งระบุว่าทั้ง 24 อำเภอและเขตของฉงชิ่งเผชิญพายุฝนระหว่าง 08.00 น. ของวันจันทร์ (3 ก.ค.) จนถึง 08.00 น. ของวันอังคาร (4 ก.ค.) โดยหมู่บ้านไป๋เหยียนในเขตว่านโจวมีปริมาณน้ำฝนรายวันสูงสุดที่ 251.5 มิลลิเมตร

ทั้งนี้ ช่วงเช้าวันอังคารที่ผ่านมาสถานีฯ ประกาศเตือนภัยน้ำท่วม ระดับสีเหลือง ณ แม่น้ำสายหนึ่งในเขตว่านโจว และอีกสายหนึ่งในเขตชีเจียง เนื่องจากแม่น้ำทั้งสองสายอาจมีระดับน้ำสูงขึ้น

ขณะเดียวกันฉงชิ่งดำเนินแผนรับมือเหตุฉุกเฉินจากน้ำท่วม ระดับ 4 และหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของจีนได้ประกาศเตือนภัยพายุฝน ระดับสีน้ำเงิน ในหลายพื้นที่ของประเทศ จีนมีระบบเตือนภัยสภาพอากาศแบบแบ่ง 4 ระดับ 4 สี โดยสีแดงหมายถึงความรุนแรงมากที่สุด ตามด้วยสีส้ม สีเหลือง และสีน้ำเงิน

พร้อมเปิดศึก! 'เมตา'เตรียมเปิดตัวแอพฯ'เทรดส์' คู่แข่งรายใหม่ที่จะโค่น'ทวิตเตอร์'

4 กรกฎาคม 2566 'เมตา'บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กเตรียมเปิดตัวแอพลิเคชั่นใหม่ 'เทรดส์' (Threads) เพื่อแข่งขันกับทวิตเตอร์ พร้อมสำหรับการสั่งซื้อล่วงหน้าบนแอปเปิล แอปสโตร์ และจะเชื่อมโยงกับอินสตาแกรม ภาพที่มีการบันทึกจากหน้าจอ แสดงให้เห็นแดชบอร์ดที่มีลักษณะคล้ายกับทวิตเตอร์ โดยจะเปิดตัวในวันที่ 6 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้

โดยอีลอน มัสก์ ได้ทวีตข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ 'เทรดส์' ว่า "ขอบคุณพระเจ้า พวกเขาก็ยังดูมีสติ" ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการล้อเลียนมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเมตา ขณะเดียวกันทวิตเตอร์ เปิดเผยว่า ผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตนก่อนจึงจะสามารถใช้งานทวีตเด็ค (TweetDeck) ได้ โดยจะเริ่มบังคับใช้มาตรการใหม่ใน 30 วัน

'เทรดส์' จะเป็นแอพฯที่ให้บริการฟรี และจะไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนโพสต์ที่ผู้ใช้สามารถดูได้ ซึ่งคำอธิบายเกี่ยวกับ'เทรดส์' ระบุว่า "เทรดส์เป็นที่ที่ชุมชนมารวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับทุกสิ่งตั้งแต่หัวข้อที่คุณสนใจในวันนี้ ไปจนถึงสิ่งที่จะเป็นเทรนด์ในวันพรุ่งนี้" โดย'เทรดส์'จะสามารถซ่อนข้อมูลในโทรศัพท์ของผู้ใช้ รวมถึงข้อมูลตำแหน่ง การซื้อ และประวัติการท่องเว็บอีกด้วย

โดยอีลอน มัสก์ ได้ทวีตข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ 'เทรดส์' ว่า "ขอบคุณพระเจ้า พวกเขาก็ยังดูมีสติ" ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการล้อเลียนมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเมตา ขณะเดียวกันทวิตเตอร์ เปิดเผยว่า ผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตนก่อนจึงจะสามารถใช้งานทวีตเด็ค (TweetDeck) ได้ โดยจะเริ่มบังคับใช้มาตรการใหม่ใน 30 วัน

'เทรดส์' จะเป็นแอพฯที่ให้บริการฟรี และจะไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนโพสต์ที่ผู้ใช้สามารถดูได้ ซึ่งคำอธิบายเกี่ยวกับ'เทรดส์' ระบุว่า "เทรดส์เป็นที่ที่ชุมชนมารวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับทุกสิ่งตั้งแต่หัวข้อที่คุณสนใจในวันนี้ ไปจนถึงสิ่งที่จะเป็นเทรนด์ในวันพรุ่งนี้" โดย'เทรดส์'จะสามารถซ่อนข้อมูลในโทรศัพท์ของผู้ใช้ รวมถึงข้อมูลตำแหน่ง การซื้อ และประวัติการท่องเว็บอีกด้วย

ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า 'เทรดส์' อาจเป็นภัยคุกคามใหญ่ของทวิตเตอร์ที่ต้องเผชิญเลยก็เป็นได้ เพราะไม่ว่า มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก จะพัฒนาฟีเจอร์ใหม่อะไรมาก็จะพบว่าประสบความสำเร็จเสมอ 'เทรดส์' จะเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มอินสตาแกรม ดังนั้นจึงเชื่อมโยงกับบัญชีหลายร้อยล้านบัญชีของผู้ใช้งานทั่วโลก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มองว่า 'เทรดส์' จะสามารถดึงผู้ใช้ที่ไม่สนใจทวิตเตอร์เพื่อสร้างทางเลือกให้ผู้ใช้งานได้