ข่าว
แอมเนสตี้ฯ จี้ไทยให้เลิก เรียก ส.ส. ปรับทัศนคติ

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล แถลง เรียกร้องสหภาพรัฐสภา จี้ รบ.ไทย ยกเลิกกฎหมายจำกัดสิทธิมนุษยชนฯ รวมทั้งอำนาจการควบคุมตัวผู้วิพากษ์วิจารณ์อย่างสงบโดยพลการ ชี้ไทยต้องทำให้เกิดสภาพแวดล้อมเสรีภาพ ...

เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 58 เนื่องในโอกาสที่สหภาพรัฐสภา (Inter Parliamentary Union) จัดการประชุมประจำปีสมัยที่ 133 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้กระตุ้นให้ตัวแทนผู้เข้าร่วมประชุมหาแนวทางแก้ปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย เช่น กรณีที่มีการลงโทษอดีตสมาชิกรัฐสภา และมีการจำกัดบทบาทในการแสดงความเห็นเชิงวิพากษ์วิจารณ์ในการอภิปรายและแลกเปลี่ยนความเห็นทางการเมือง ผู้เข้าร่วมประชุมควรเรียกร้องให้ทางการไทยยุติการจับกุมโดยพลการ การข่มขู่คุกคามและการดำเนินคดีต่ออดีตสมาชิกรัฐสภาและผู้ที่แสดงความเห็นอย่างสงบคนอื่นๆ อีกทั้งให้ยกเลิกอำนาจที่นำไปสู่การจำกัดสิทธิมนุษยชนโดยพลการ ซึ่งเป็นการขัดขวางการมีส่วนร่วมอย่างอิสระตามขั้นตอนของ “โรดแม็ปสู่ประชาธิปไตย” ของประเทศที่กำลังถูกยืดเวลาออกไป

การควบคุมตัวอดีตสมาชิกรัฐสภาและบุคคลอื่นโดยพลการเนื่องจากการแสดงความเห็นอย่างสงบ หรือเนื่องจากการสมาคมทางการเมือง ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากกองทัพได้ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา โดยมีการควบคุมอดีตสมาชิกรัฐสภาหลายคน รวมทั้งอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยไม่ให้ติดต่อกับโลกภายนอกเป็นเวลาหลายวันในช่วงเดือนกันยายน 2558 เนื่องจากพวกเขาได้แสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ทางการ ซึ่งทั้งสองถือเป็นอดีตสมาชิกรัฐสภารายล่าสุดที่ถูกควบคุมตัวโดยพลการ และเป็นกรณีที่มีการรับรู้โดยทั่วไป โดยพวกเขาถูกคุมขังในสถานที่ซึ่งไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ และไม่มีการตั้งข้อหาหรือไต่สวนดำเนินคดี แต่เป็นไปตามที่ทางการไทยเรียกว่า “การปรับทัศนคติ” ซึ่งใช้เวลานานเกือบสัปดาห์ เพื่อ “ให้แน่ใจว่าพวกเขาจะให้ความร่วมมือ”

รวมถึงบางรายที่กำลังถูกดำเนินคดีข้อหายุยงปลุกปั่นและต้องขึ้นศาลทหาร ซึ่งเขาจะไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำตัดสิน เนื่องจากเขาใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างสงบต่อต้านการทำรัฐประหาร และขัดขืนคำสั่งของกองทัพที่เรียกให้เขามารายงานตัว ถือว่ากลุ่มอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นกลุ่มคนจำนวนหนึ่งจากบุคคลหลายร้อยคนที่ถูกกำหนดให้ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขหลังจากได้รับการปล่อยตัวจากการถูกควบคุมตัวโดยพลการ โดยเงื่อนไขการปล่อยตัวเป็นเหตุให้พวกเขาไม่สามารถมีบทบาทใน “กิจกรรมทางการเมือง” ถ้าไม่เช่นนั้นพวกเขาจะถูกดำเนินคดีและถูกคุมขัง สำหรับอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่ไปรายงานตัวกับกองทัพจะถูกสั่งลงโทษโดยพลการ ซึ่งมีทั้งการสั่งอายัดทรัพย์สิน และการยกเลิกหนังสือเดินทาง โดยมีอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรถูกยกเลิกหนังสือเดินทางแล้วอย่างน้อยสามคน

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องให้สหภาพรัฐสภากระตุ้นรัฐบาลไทยให้ยกเลิกข้อกฎหมายที่ส่งผลให้เกิดการจำกัดการใช้สิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง รวมทั้งอำนาจในการควบคุมตัวผู้วิพากษ์วิจารณ์อย่างสงบโดยพลการ แม้ก่อนหน้านี้ทางกองทัพสัญญาว่า มาตรการที่ละเมิดพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศเหล่านี้ รวมถึงมาตรการที่ละเมิดสิทธิในการชุมนุมอย่างสงบ สิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออกและการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม จะเป็นเพียงมาตรการที่นำมาใช้เพียงชั่วคราว แต่ที่ผ่านมากองทัพกลับขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการที่กดขี่เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ รัฐบาลทหารยังไม่ได้กำหนดระยะเวลาอย่างชัดเจนว่าจะมีการยกเลิกอำนาจที่จำกัดสิทธิเหล่านี้เมื่อใด ทั้งนี้ การยกเลิกอำนาจในการควบคุมตัวบุคคลโดยพลการและการละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่นๆ เป็นเงื่อนไขที่จำเป็น เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวที่ประกาศใช้ในขณะนี้ ไม่สามารถคุ้มครองสิทธิมนุษยชนได้อย่างเพียงพอ และ “โรดแม็ปสู่ประชาธิปไตย” ของกองทัพก็ยังคงยืดเวลาออกไป ซึ่งหลังจากสภาที่ทหารแต่งตั้งได้ลงมติคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เมื่อใด และเป็นที่น่าเคลือบแคลงใจว่าเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้นจะสอดคล้องกับพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศของไทยหรือไม่ ทางการไทยต้องทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่มีเสรีภาพเพื่อให้อดีตสมาชิกรัฐสภาและพลเมืองไทยทุกคนรู้สึกได้ว่า ตนสามารถพูดหรือไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญ นโยบายของรัฐบาล หรือประเด็นอื่นๆ ได้อย่างสงบโดยไม่กลัวว่าจะถูกลงโทษ

'บิ๊กตู่' ย้ำปฏิรูปวางรากฐานชาติ ขอคนไทยประหยัดน้ำ รับมือแล้ง

"นายกฯ" ร่วมดีใจทีมช้างศึกไทยมีชัยเหนือเวียดนาม ย้ำปฏิรูประยะที่ 1 วางรากฐานชาติ ชี้ รบ.ขอความร่วมมือคนไทยประหยัดน้ำ รอรับวิกฤตแล้งปี 59 ลั่นไทยพร้อมรับการตรวจสอบแก้ปม IUU ย้ำโรดแม็ประยะ 2 วางกติกาแก้ปมขัดแย้ง มอบนโยบาย "สปท.-กรธ." สานต่อปฏิรูปจับต้องได้

เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 58 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ถึงผลการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย ว่า ขอแสดงความยินดีกับ "ช้างศึกไทย" ทีมฟุตบอลชาติไทย ที่ได้ชัยชนะในรายการดังกล่าว สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ และนำความสุข ความภาคภูมิใจ มาให้กับคนไทยอีกครั้ง ก็ทำให้เส้นทางการผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายสดใสยิ่งขึ้น ขอบคุณนักกีฬา โค้ช ทีมงาน ที่มีส่วนร่วมในการมอบความสุขให้กับคนไทย ซึ่งแสดงถึงความสามัคคี การทำงานเป็นทีม ความมุ่งมั่นตั้งใจ และความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา เป็นตัวแทนที่ดีให้กับประเทศไทย และขอบคุณกองเชียร์ด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการเดินหน้าประเทศไทยตามโรดแม็ปของรัฐบาลว่า ขณะนี้อยู่ในระยะที่ 2 ซึ่งสำคัญมากต่อการวางกฎกติกาทางสังคม โดยจะร่างรัฐธรรมนูญที่จะต้องมีความเป็นสากล และสอดรับกับความเป็นไทย เพื่อที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้ง หรือติดกับดักทางการเมือง กับดักประชาธิปไตยผ่านการปฏิรูป 11 ด้าน ที่ รัฐบาล และ คสช.ประกาศไปแล้ว ในการที่จะนำพาเปลี่ยนผ่านประเทศสู่ ระยะที่ 3 คือ การมีรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่

"สิ่งสำคัญที่สุดของโรดแม็ประยะที่ 2 คือ การสื่อสารที่ถูกต้อง ไม่ถูกบิดเบือนใน 2 นโยบาย ที่มีแม่น้ำ 5 สาย มีสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ต้องสร้างความเข้าใจร่วมกัน ทั้งเรื่องเป้าหมาย บทบาท และการทำงานให้ประสานสอดคล้องกัน ทั้งนี้ สปท. ต้องใช้ 11 ประเด็นปฏิรูปของ คสช. เป็นตัวตั้ง แล้วนำประเด็นปฏิรูป และประเด็นพัฒนาอื่นๆของ สปช.เดิม มาหลอมรวมเอาไว้ ส่วน กรธ. ต้องมีแนวทางในการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่ประธาน กรธ. ระบุเองว่า 1. เป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นสากล และเหมาะสมกับบริบทประเทศไทย 2. สร้างประชาธิปไตย ที่ส่งเสริมบทบาทหน้าที่พลเมือง 3. แก้ไขปัญหาการเมืองในอดีต ป้องกันเผด็จการรัฐสภา และการทุจริตประพฤติมิชอบ มีกลไกการตรวจสอบ ถ่วงดุล และการส่งเสริมธรรมาภิบาล 4. เปิดโอกาสการมีส่วนร่วม และรับฟังความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


"บิ๊กจิ๋ว" ไม่หวนการเมือง ส่งกำลังใจ บิ๊กตู่ สร้างปชต.

วันที่ 16 ตุลาคม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ว่า เป็นสิ่งสำคัญคนไทยจะต้องร่วมกันวิเคราะห์ถึงปัญหาและร่วมกันเสนอความคิดเห็น ไม่ควรมาขัดแย้งกัน ขัดขวาง และวิพากษ์วิจารณ์ เพราะขณะนี้ประเทศกำลังถอยหลัง สู้ประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ และสภาพเศรษฐกิจตอนนี้เข้าสู่สภาวะตกต่ำ เนื่องจากคนรวยกระจุกตัวมีจำนวนน้อยบนยอดสามเหลี่ยม ส่วนคนจนมีจำนวนมากอยู่ฐานสามเหลี่ยม ซึ่งความแตกต่างทางสังคมที่มีมากนี้ทำให้ประเทศเกิดปัญหา

ทั้งนี้กล่าวว่า ตนต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาความยากจน ผ่านการใช้นโยบายของรัฐบาล ไม่ใช่สนใจแต่การร่างรัฐธรรมนูญ เพราะส่วนตัวเห็นว่า รัฐธรรมนูญควรบัญญัติไว้เพียงหลักสำคัญมุ่งเน้นการสร้างระบอบประชาธิปไตยและแก้ไขปัญหาความยากจน ไม่จำเป็นต้องใส่รายละเอียดมากนัก

สำหรับกรณีที่สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือสปช. มีมติไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ประชาชนเห็นว่าการสร้างประชาธิปไตยต้องสร้างด้วยนโยบายไม่ใช่รัฐธรรมนูญ ส่วนการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ในครั้งนี้ ขออย่าเดินซ้ำรอยเดิม

ทั้งนี้ตนขอเป็นกำลังใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ในการทำหน้าที่สร้างประชาธิปไตยให้สำเร็จ ไม่ให้มีการรัฐประหารต่อไป โดยเชื่อมั่นว่านายมีชัย เป็นผู้รู้ที่จะทำให้รัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติของประชาชนได้อย่างแน่นอน และไม่นำไปสู่ความขัดแย้งเหมือนที่ผ่านมา

เมื่อถามถึง กรณีที่นายกรัฐมนตรีให้มีการบรรจุอำนาจพิเศษ อย่าง คณะกรรมการยุทธศาสตร์ปฏิรูปและปรองดองแห่งชาติ (คปป.)นั้น พล.อ.ชวลิต ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น เพราะตนยังไม่ได้อ่านว่า คปป. คืออะไร แต่เห็นด้วยที่ควรจะมีอำนาจพิเศษ ให้ดูแลประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และเมื่อประเทศกลับเข้าสู่สภาวะปกติ กฎเกณฑ์เหล่านี้ควรถูกยกเลิกไป

เมื่อถามถึง การดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว จาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะนำไปสู่ความขัดแย้งหรือไม่ พล.อ.ชวลิต ระบุว่า ส่วนตัวไม่ได้ติดตาม แต่เชื่อว่าผู้บริหารรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร โดยสิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาจะต้องไม่ใช้ความรุนแรง แต่ต้องเอาชนะใจให้ได้

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ชวลิต ได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรี พร้อมฝากบอกว่า "อย่าดุมากนัก ใจเย็นๆ เดี๋ยวความดันขึ้น" พร้อมปฏิเสธว่าตนคงไม่กลับไปเล่นการเมืองอีกแล้ว เพราะอายุมากแล้ว

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ชวลิต ได้กล่าวถึงกรณีที่ไฟไหม้บ้านพักในซอยปิ่นประภาคมเมื่อคืนวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า คาดว่าเหตุจากหนูกัดสายไฟในห้องพระที่อยู่บนชั้น 3 จนทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนความเสียหาย มีพระพุทธรูปเสียหายกว่า 100 องค์ ตนรู้สึกเสียดาย เพราะมีพระสมเด็จวัดระฆัง ที่เคยแขวนออกศึก 5 สนามรบ โดยเบื้องต้นประเมินมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 30 ล้านบาท


ศาลเลื่อนอ่านฎีกาฯ ′ชูวิทย์′สารภาพผิด

ชูวิทย์ขอสารภาพผิดคดีรื้อบาร์เบียร์ รับช่วงนั้นเป็นนักธุรกิจต้องเร่งทำกำไร-กดดันสูง ขอพูดความจริง หวังศาลลงโทษสถานเบา / ศาลออกหมายจับ7คนไม่มาฟัง นัดใหม่28 มกราคม

ศาลอาญากรุงเทพใต้ เลื่อนอ่านคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทย์ยื่นฟ้องจ่าสิบเอกอภิชาติ ริมสาร กับพวกรวม 130 คน ในคดีรื้อบาร์เบียร์ เนื่องจากวันนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จำเลยที่ 129 ได้ยื่นคำร้องถอนคำให้การจากให้การปฏิเสธและให้การใหม่เป็นรับสารภาพตามฟ้อง และขอให้ลงโทษสถานเบา และรอการลงอาญาจำคุกต่อศาลชั้นต้น เพื่อให้ส่งคำร้องให้ศาลฎีกาพิจารณาคำร้องใหม่ ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาอิกไปก่อน และให้ส่งสำนวนพร้อมคำพิพากษา คืนให้ศาลฎีกา ตามคำร้อง และนัดอ่านคำพิพากษาใหม่ ในวันพฤหัสที่ 28 มกราคม 2559 เวลา 09.00 น.

พร้อมออกหมายจับ เสธ.แอ๊บ พันตรีธัญเทพ ธรรมธร นายทหารสังกัดกองพันทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ พร้อมจำเลย รวม 7 คน หลังไม่มาฟังคำพิพากษา

ด้านนายชูวิทย์กล่าวภายหลังว่าตลอดระยะเวลาที่เกิดคดีนี้ขึ้นยาวนานกว่า12ปี ได้ไตร่ตรองและคิดมาเสมอว่าการพูดความจริงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด จึงขอสารภาพและยอมรับความผิดที่ได้กระทำลงไป และขอให้ศาลลงโทษสถานเบา เนื่องจากเวลานั้นด้วยความอึดอัดและความกดดันในฐานะนักธุรกิจคนหนึ่ง ที่ต้องเร่งหาเงิน จึงอยากนำที่ดินมาทำกำไรให้เร็วที่สุด ซึ่งภายหลังจากได้พูดความจริงแล้ว เหมือนยกภูเขาออกจากอก พร้อมกล่าวตอนหนึ่งว่าเราสามารถจะโกหกใครก็ได้ ยกเว้นตัวเอง และขอให้ประชาชนที่ต่อสู้ทางกฎหมายพูดความจริง เพราะจะรู้สึกสบายใจขึ้น

พร้อมหวังว่าประชาชนจะให้โอกาสในความผิดที่ ได้ทำลงไป ส่วนค่าเสียหายกว่า100ล้านบาทได้ชดใช้ให้ทุกคนจนหมดสิ้นแล้ว โดยหวังว่าคดีที่ต่อสู้มายาวนานจะจบลง และในวันที่28มกราคม2559ที่ศาลนัด จะเดินทางมาฟังคำพิพากษาอย่างแน่นอน โดยหวังว่าศาลจะลงโทษสถานเบา

ก่อนเดินทางกลับนายชูวิทย์เปิดท้ายรถให้ดูว่าได้เตรียมของใช้ที่จำเป็น อาทิ เสื้อผ้า สบู่ ยาสีฟัน ยาสระผม ไว้แล้ว


ชาวแคลิฟอร์เนียโชคดี ลดค่าปรับตั๋วขับรถ 50 %

ด่วน... ค่าปรับตั๋วจราจรลด 50-80 % โอกาสดีๆ แบบนี้นานๆ จะมีสักที

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2015 ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย นาย เจอร์รี่ บราวน์ จูเนียร์ ได้เซ็นกฎหมาย SB 85- Senate Bill นิรโทษกรรมให้กับผู้ขับขี่ที่ค้างชำระค่าปรับจากการกระทำผิดกฎจราจรหลากหลายในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2015 ถึง 31 มีนาคม 2017 เท่านั้น แต่มีข้อยกเว้น : กฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนี้ไม่สามารถใช้กับใบสั่งจอดรถ (Parking Tickets), การถูกจับในข้อหาขับรถด้วยความประมาทเลินเล่อ (Reckless Driving) และถูกจับในขณะขับด้วยสารเสพติดต่างๆ (Driving Under Influence, DUI)

ค่าปรับที่ค้างชำระต้องมีกำหนดการชำระก่อนวันที่ 1 มกราคม 2013 และถูกทางดีเอ็มวี ยกเลิกการใช้ใบขับขี่ บางท่านคงจำไม่ได้ว่ามีใบสั่งคั่งค้างไว้ที่ไหนและเมื่อใด อันนี้เราสามารถขอประวัติการขับรถของเราได้จากทางดีเอ็มวีผ่านทางอินเตอร์เน็ต ออนไลน์ ที่ www.dmv.ca.gov

หลักฐานที่จะใช้ยื่นขอใบขับขี่พิเศษนี้ มีองค์ประกอบที่สำคัญคือ Proof of Identity (หลักฐานการยืนยันตัวเอง) And California Residence (ผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย)

หลักฐานแสดงที่ทางดีเอ็มวียอมรับ ที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไข มีใบขับขี่ที่เคยออกโดยรัฐแคลิฟอร์เนียตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2000 เป็นต้นไป (CA Driver License Issued 10/2000 or Later) ,บัตรประจำตัว (ID Card) ที่ออกโดยรัฐแคลิฟอร์เนียตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2000 เป็นต้นไป ,พาสปอร์ตที่ออกโดยรัฐบาลจากประเทศของผู้ยื่น ตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นไป

ผู้ใดยังไม่มีใบขับขี่ หรือยังไม่มีบัตรประจำตัว (ID card) อย่าลืมไปขอใช้สิทธิ์ได้โดยไม่ต้องใช้ใบโซเชียล หรือมีใบเขียวแล้วตามกฎหมาย (AB 60 = Assembly Bill – เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของรัฐ) The Safe and Responsible Driver Act (AB 60) ท่านสามารถโทรนัดเพื่อแสดงหลักฐานได้ที่ดีเอ็มวีทุกแห่ง และสอบใบขับขี่พิเศษตามกฎหมาย AB60 ได้ที่ 1-800-777-0133

6ดาราโผล่ร่วมงานเปิดตัวน้ำดื่มดัง รับถูกจ้างมา แต่ไม่เกี่ยวโพสต์เบียร์

เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ควอเทียร์ แกลเลอรี่ ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ นายเอ็ดมอนด์ เนียว คิม ซูน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นำทีมศิลปินดารา 7 คน ประกอบด้วย ดีเจ.ภูมิ ภูมิใจ ตั้งสง่า, ดีเจ.เพชรจ้า วิเชียร กุศลมโนมัย, วีเจ.จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี, หญิงแย้ นนทพร ธีระวัฒนสุข พริตตี้และนักแสดง, เนย วรัฐฐา และแจม ชรัฐฐา อิมราพร นักร้องดูโอวงเนโกะจัมพ์ ร่วมงานเปิดตัวน้ำดื่มช้างโฉมใหม่

ภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมเปิดตัวน้ำดื่ม หญิงแย้-นนทพรให้สัมภาษณ์ถึงกรณีโพสต์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่าไม่ได้รับค่าจ้าง คนอาจจะมองว่ามางานนี้เหมือนเป็นการตอกย้ำว่าได้รับค่าจ้าง แต่อยากให้แยกส่วน การมางานวันนี้ได้รับการว่าจ้างมานานแล้ว แต่คนอื่นไม่ทราบ ส่วนที่โพสต์รูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเรื่องของแต่ละคน เพราะเหตุผลการโพสต์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และในวันที่ 29 ต.ค. เวลา 13.00 น. จะไปชี้แจงที่กระทรวงสาธารณสุข ส่วนเนยกับแจมจะไปเวลา 11.30 น. ถ้าหากผิดจริงๆ ก็ยอมรับ เสียใจในสิ่งที่ทำไปเหมือนกัน และไม่รู้ข้อกฎหมาย จึงตั้งทนายความมาดูแล

ส่วนดีเจ.ภูมิ กล่าวว่า ความจริงดื่มเบียร์เป็นประจำอยู่แล้ว ครั้งนี้เป็นช่วงที่ช้างเปลี่ยนขวดเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ก็เลยโพสต์ ตอนนี้พูดยาก เพราะทุกอย่างเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายแล้ว สำหรับวันนี้คนอาจมองงานนี้ เพราะได้รับค่าจ้างให้โพสต์รูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ยืนยันว่าพวกเราไม่เคยได้รับค่าจ้างสักบาท และจะเข้าไปพบเจ้าหน้าที่วันที่ 30 ต.ค. ส่วนคนอื่นไม่ทราบ เพราะมีงานต่างกัน

นักร้องสาว แจม เนโกจัมพ์ กล่าวว่า เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ช้างเปลี่ยนแพ็กเกจใหม่ พอเราเห็นก็หยิบมาโพสต์ในช่วงเวลาใกล้กัน คนเลยคิดว่าเป็นการค้า ทั้งที่ความจริงไม่ใช่ แต่ยอมรับว่าทำไปโดยไม่ได้คิด ตนไม่ได้โพสต์ภาพเลย ไม่รู้ว่าถูกโยงมาเกี่ยวเรื่องนี้ได้ยังไง แต่เนยที่โพสต์ลงไป เนยเองก็เสียใจ เพราะเหมือนเป็นแบบอย่างของวัยรุ่นและเยาวชน เราคิดน้อยไป หลังจากนี้จะพยายามระมัดระวังมากขึ้น ถ้าสรุปว่าสิ่งที่เราทำมันผิดแล้วมีบทลงโทษ ก็พร้อมที่จะยอมรับ

ขณะที่ ดีเจ.เพชรจ้ากล่าวว่า บอกตรงๆ ไม่รู้ว่าห้ามโพสต์เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ แต่ยืนยันว่าไม่ได้เงินสักบาท และส่งหนังสือแจ้งกลับไปแล้วจะเข้าพบเจ้าหน้าที่วันที่ 30 ต.ค. เวลา 11.30 น. ไม่ทราบในตัวข้อกฎหมายเลยจริงๆ แต่ด้วยความที่เป็นดารา เราก็น้อมรับและพร้อมแก้ไขทุกอย่างที่ผู้ใหญ่เตือนมา ถามว่าต่อไปนี้จะกล้าโพสต์อะไรอีกไหม ไม่ใช่เฉพาะ 7-8 คนที่ไม่เคลียร์ เชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศก็ยังงงอยู่ ว่าทุกวันนี้ถ้าเราโพสต์รูปแก้วที่มีเบียร์ แต่ไม่มียี่ห้อจะผิดหรือเปล่า ถ้าเราถ่ายรูปบนโต๊ะอาหารแต่มีแก้วเบียร์จะผิดหรือเปล่า อันนี้เราก็ไม่ทราบเหมือนกัน

วีเจ.จ๋ากล่าวสั้นๆ ว่า อยากให้เรื่องนี้จบเร็วๆ เราอยากจะเป็นตัวแทนของทุกคนให้รู้ว่าเรื่องราวเป็นยังไง พวกเราให้ความร่วมมือเต็มที่ ให้เป็นไปตามกฎหมาย