ข่าว
ปรับ 3 วัยรุ่นคึกคะนองท้าเปลือยกาย ใส่หมวกกันน็อกซื้อของในร้านสะดวกซื้อ

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 61 ที่สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ วงศ์มณีเทศ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.สถิตพร บุณยรัตพันธุ์ ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์ พ.ต.อ.วันชัย ชูจิตร ผกก.สภ.บางศรีเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ และสภ.บางศรีเมือง ได้เชิญตัว นายเอ็ดเวิร์ด (นามสมมติ) อายุ 25 ปี, นายอาร์ต (นามสมมติ) อายุ 26 ปี และนายจอห์น (นามสมมติ) อายุ 27 ปี เข้าสอบปากคำและเปรียบเทียบปรับเนื่องจากเป็นชายที่แก้ผ้าบุกเข้าไปในร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อสินค้าที่ปรากฏในภาพจากกล้องจรปิดและเป็นกระแสที่กล่าวถึงในโซเชียลมีเดีย

ภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นภาพชายเปลือยกาย สวมเพียงหมวกกันน็อกสีเขียวรูปดาวสีขาวใบเดียวเข้าไปในร้านสะดวกซื้อทั้ง 3 แห่งในพื้นที่ถนนราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี จากการสอบถามนายจอห์น หนึ่งในผู้ก่อเหตุ ทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการท้าทายกันในกลุ่มเพื่อนหลังจากนั่งคุยกันที่บ้านย่านถนนราชพฤกษ์ เนื่องจากเคยเห็นชาวต่างชาติเวลาจะทำการประท้วงจะมีภาพการเปลือยกายประท้วง ตนก็อยากจะรู้ถึงความรู้สึกดังกล่าว เมื่อถึงเวลาจึงชวนเพื่อนขับรถยนต์ตระเวนไปตามร้านสะดวกซื้อ เมื่อเพื่อนคนแรกได้เปลือยกายลงไปซื้อของแล้ว ที่เหลืออีกสองคนก็ต้องทำตาม ความรู้สึกตอนนั้นตนก็อายมากและไม่คิดว่าจะเกิดภาพและเป็นข่าวใหญ่โต ต้องขอโทษเจ้าหน้ที่ตำรวจและเยาวชนที่ดู อย่าทำตามเลยเพราะเป็นสิ่งไม่ดี สังคมเรายังรับไม่ได้กับเรื่องนี้

เบื้องต้นจากการสอบสวนพบว่าชายทั้งสามคนเริ่มก่อเหตุที่ร้านสะดวกซื้อจุดแรก คือ ปากทางซอยท่าอิฐ ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี คือ นายอาร์ต ส่วนจุดที่ 2 คือปั๊มน้ำมันถนนราชพฤกษ์ ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี คือ นายเอ็ดเวิร์ด พื้นที่ สภ.ชัยพฤกษ์ และจุดที่ 3 ร้านสะดวกซื้อปากซอยสามเสนวิลล่า ถนนราชพฤกษ์ ต.บางรักน้อย อ.เมืองฯ จ.นนทบุรี พื้นที่ สภ.บางศรีเมือง คือ นายจอห์น

ด้าน พล.ต.ต.สุศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้เหตุเกิดในสองท้องที่ สภ.ชัยพฤกษ์ กับ สภ.บางศรีเมือง พื้นที่เขตจังหวัดนนทบุรี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานและออกติดตามสามารถควบคุมตัวไว้ได้ 3 คน ทั้งสามคนเป็นเพื่อนรักกันเป็นชายอายุ 25 ถึง 30 ปี ได้พูดท้าทายกันว่าใครจะแก้ผ้าเปลือยกายเข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ใครชนะก็จะเป็นฮีโร่ของกลุ่ม ทั้งสามคนก็เลยขับรถตระเวนร้านสะดวกซื้อ แล้วคนที่ 1 ก็เปลือยกายสวมหมวกกันน็อกเข้าไปซื้อ พอคนที่ 1 กล้าทำ คนที่ 2 กับคนที่ 3 ก็เลยกล้าทำตามเสร็จแล้วพากันกลับบ้านไป จากการตรวจสอบไม่พบสารเสพติด และไม่เมาสุรา ส่วนโทษนั้นได้ตั้งข้อหากระทำการโดยขายหน้า และอนาจารโดยเปิดเผยร่างกาย โดยปรับ 5,000 บาท อยากเตือนกลุ่มวัยรุ่นว่าการคิดแบบนี้เป็นการคิดนอกกรอบที่ไม่ถูกต้อง ไม่ควรทำ ถึงแม้จะท้าทายความสามารถจะได้เป็นฮีโร่และเป็นคนเก่ง แต่ขัดต่อหลักศีลธรรม และผิดกฎหมาย

'บิ๊กตู่'ฝากบอกดูบอลโลก ไม่มีใครรวยจากการพนัน

15 มิ.ย.61 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ว่า ในช่วงเข้าสู่เทศกาลฟุตบอลโลก อยากให้ใช้โอกาสนี้ส่งเสริมให้เยาวชนได้ติดตาม เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในเรื่องกีฬาแล้วนำมาพัฒนาตนเองและวงการฟุตบอลในบ้านเรา แต่สิ่งที่จะต้องตามมาควบคู่กันเปรียบเสมือนเหรียญสองด้าน คือ การเล่นการพัฒนา ซึ่งรู้สึกเป็นกังวลมาก เราต้องช่วยกันตักเตือน ให้สติ ไม่มีใครรวยจากการพนันได้ เอาแค่สนุกสนาน ดูให้สนุก เชียร์ทีมที่ตัวเองชอบ แล้วก็นำมาสู้การออกกำลังกาย อย่าไปเล่นเลยการพนัน

"ไม่มีใครรวยจากการพนัน ผมขอย้ำอีกที ยิ่งกว่าโจรปล้นอีกนะครับ แล้วก็เป็นหนี้เป็นสินเขา มีการติดตามทวงหนี้ แล้วก็เป็นภาระแก่เจ้าหน้าที่ในการดำเนินคดีลงโทษอีกมากมายนะครับ และหลายคนก็จะเสียโอกาสโดยเฉพาะเด็กนักเรียน เยาวชน ผมขอฝากเตือนสติพวกเราทุกคนนะครับ พี่น้องประชาชน เยาวชน ลูกหลานอย่าไปเกี่ยวข้องเล่นการพนันเลยนะครับ ต้องช่วยกัน ไม่อย่างนั้นทุกคนก็กลับมาโทษรัฐบาล เจ้าหน้าที่ก็ทำงานไม่ไหวหรอกนะครับ เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันให้เหลือคนทำผิดให้น้อยลงหน่อย เราก็ได้กวาดล้าง ได้ดำเนินคดีได้อย่างจริงจัง โบราณเขาสอนไว้นะครับว่า ไฟไหม้บ้าน 10 ครั้ง ยังไม่เท่าเสียพนันเพียงครั้งเดียว ก็อยากหยิบยกมาเป็นอุทาหรณ์สอนใจ ขอให้ทุกคนมีความสุขในการชมฟุตบอลโดยไม่เล่นการพนันนะครับ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


“มาร์ค” แนะผู้เกี่ยวข้อง คุยกันเองก่อนถกพรรคฯ

(14 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะประชุมร่วมกับผู้แทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดจากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 53/2560 ว่าตนรู้สึกผู้ที่เกี่ยวข้องกังวลเรื่องประเด็นทางการเมืองเหมือนกับยังไม่ค่อยแน่ใจว่าหากเชิญพรรคการเมืองมาพูดคุยแล้วจะเป็นอย่างไร แต่ตนทราบว่า กกต., กรธ. หรือคนที่อยู่ในแวดวงที่ทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องยังมองเห็นปัญหาอุปสรรคอยู่หลายอย่าง ตราบเท่าที่ยังมีคำสั่ง คสช.ซึ่งห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมหรือห้ามประชุม หรือแม้กระทั่งคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องของสาขาพรรค เรื่องอะไรต่างๆ ตนจึงเสนอว่าให้ กกต., กรธ. และผู้ที่เกี่ยวข้องพูดคุยกันเองก่อน เพราะหลายหน่วยงานโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กกต.น่าจะทราบอยู่ว่ามีปัญหาอุปสรรคอะไรที่เห็นชัดๆ ในทางกฎหมาย เช่น การแบ่งเขตเลือกตั้ง สาขาพรรคที่ต้องยึดโยงเกี่ยวกับเขตเลือกตั้ง การมีตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดและประจำเขตที่ยึดโยงกับเขตเลือกตั้งเช่นกัน

“ถ้า กกต. หรือ กรธ.ทำความกระจ่างให้ คสช.ทราบถึงสภาพที่ยังไม่ปลดล็อก และมีบทบัญญัติของกฎหมายบางมาตรา ทั้งตามคำสั่ง ทั้งตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่ยังเป็นอุปสรรคในการเดินไปสู่การเลือกตั้งอย่างราบรื่น อย่างน้อย คสช.ก็จะต้องรู้แล้วว่ามันมีบางเรื่องต้องปรับ ต้องแก้ แล้วก็ให้ไปพิจารณาสอดคล้องกับเรื่องที่จะปลดล็อกหรืออนุญาตให้ทำกิจกรรมในเรื่องไหน อย่างไร เมื่อไหร่ แล้วก็พรรคการเมืองคงมีข้อคิดเห็น ข้อเท็จจริง มุมมองเพิ่มเติมด้วย” นายอภิสิทธิ์กล่าว

ส่วนกรณีที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ระบุว่าตามบทเฉพาะกาลของกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง ผ่อนปรนไพรมารีโหวตให้แล้วโดยใครมีสมาชิกในจังหวัดก็ทำได้ทุกเขตนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับนายมีชัยที่บอกว่าก็ทำไป เพราะมันจะทำได้อย่างไร เนื่องจากคนที่จะตัดสินใจไปลงสมัครที่ไหนก็ต้องรู้ว่าเขตเลือกตั้งอยู่ที่ไหน ดังนั้น ถ้าการแบ่งเขตเลือกตั้งเดินไม่ได้เลย ต้องไปรอให้กฎหมายบังคับใช้ไปแล้ว 90 วัน ทุกอย่างจะกระชั้น

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงข้อเสนอที่พรรคอนาคตใหม่ขอให้สามารถถ่ายทอดสดการหารือระหว่างพรรคการเมืองกับ คสช.ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ว่า ตนไม่ติดใจ ไม่ได้มีปัญหาว่าจะถ่ายทอดสดหรือไม่ แต่คิดว่ากลัวว่าจะทำให้คนเบื่อ เพราะที่ผ่านมาเป็นเรื่องค่อนข้างเทคนิคทางกฎหมาย และถ้าเชิญทุกพรรคการเมืองไปร่วมด้วย ดูจะไม่ค่อยเป็นบรรยากาศที่ทำให้คนที่อยู่ในวงนอกจะให้ความสนใจเท่าไหร่


'จุ๊บจิ๊บ-พลิตา' หุ่นสวย รางวัลประกวดชุดว่ายน้ำ

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 15 มิ.ย. ที่ห้องรอยัล มณียา บอลรูม โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ กองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 นำโดย นางสุรางค์ เปรมปรีดิ์ ประธานอำนวยการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ จัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 รอบชุดว่ายน้ำ เพื่อให้สาวงามผู้เข้าประกวดทั้ง 40 คนอวดโฉมในชุดว่ายน้ำเป็นครั้งแรก พร้อมประกาศผลรางวัลพิเศษเบสท์ สวิมสูท บาย สตรีมไลน์ รางวัลแรกของการประกวด

สำหรับบรรยากาศการประกวดเป็นไปอย่างคึกคักด้วยแฟนนางงามและบรรดากองเชียร์ที่เดินทางมาให้กำลังใจสาวงามที่ตัวเองชื่นชอบติดขอบเวที ก่อนที่ 40 ผู้เข้าประกวดเริ่มเปิดเวทีด้วยการเดินอวดรูปร่างสุดเซ็กซี่แสดงแบบชุดว่ายน้ำแบบเป็นกลุ่ม โดยปีนี้ชุดว่ายน้ำที่ใช้ในการประกวดฯออกแบบโดยแบรนด์ชุดว่ายน้ำสตรีมไลน์ ภายใต้ชื่อคอลเลกชั่นเอ็มยูที 2018 เป็นชุดว่ายน้ำแฟชั่นแนวสปอร์ต์แวร์ที่มีกลิ่นอายความเซ็กซี่เล็ก ๆ มีทั้งแบบวันพีซ และทูพีซ จำนวนทั้งสิ้น 6 แบบ

จากนั้นทั้ง 40 สาวงามเดินโชว์สัดส่วนทีละคนอีกครั้งจนครบ 40 คน ตามด้วยฟินาเล่ของเหล่าสาวงามทั้ง 40 คน ปิดท้ายการประกวดรอบชุดว่ายน้ำ โดย น.ส.โศภิดา กาญจนรินทร์ หมายเลข 20 น้ำหนัก 51.8 กก. ส่วนสูง 169 ซม. รวมทั้งผู้ประกวดคนอื่นๆ ซึ่งก็มีภาษีลุ้นรางวัลกันถ้วนหน้า ก่อนจะประกาศผลรางวัลพิเศษ เบสท์ สวิมสูท บาย สตรีมไลน์ โดยสาวงามหุ่นสวยที่ประเดิมคว้ารางวัลแรกของการประกวดคือ หมายเลข 12 น.ส.พลิตา พุทธรัสสุ หรือจุ๊บจิ๊บ อายุ 25 ปี น้ำหนัก 50.7 กก. ส่วนสูง 170 ซม. ได้รับเงินรางวัล 5 หมื่นบาท พร้อมสายสะพาย


ยิ่งคุ้ยยิ่งเจอ แฉอดีตพระพรหมดิลก โอนโฉนดที่ดินวัดเป็นชื่อของตัวเอง

(13 มิ.ย.) ความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนกรณีคดีทุจริตเงินอุดหนุน วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร, วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, วัดสามพระยาวรวิหาร ว่าขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนพบข้อมูลในส่วนของวัดสามพระยาเพิ่มเติม โดยพบว่าโฉนดที่ดินหลายแปลงที่ปรากฏชื่อของอดีตพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยาฯ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงิน เป็นผู้ถือครองโดยหนึ่งในนั้นมีที่ดินใน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติธรรม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ หรือวัดหลวงพี่แซม ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยเนื่องจากตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าที่ดินแปลงนี้ได้มาจากสีกาคนหนึ่งที่บริจาคให้แก่วัดสามพระยาฯ เมื่อปี 2538 ครั้งที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เป็นเจ้าอาวาสวัด ต่อมาอดีตพระพรหมดิลกเข้าเป็นเจ้าอาวาส ก็มีการไปทำเรื่องโอนโฉนดมาเป็นชื่อของตัวเอง โดยทางเจ้าหน้าที่จะลงตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าที่มาของการโอนชื่อที่ดินแปลงดังกล่าวถูกต้องหรือไม่

ส่วนความคืบหน้าของสำนวนคดีทั้ง 3 วัด ทางพนักงานสอบสวนกำลังเร่งรวบข้อมูลหลักฐานต่างๆ คาดว่าจะสรุปสำนวนเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้และจะทยอยส่งฟ้องเป็นรายวัด ทั้งนี้ ในส่วนของวัดสามพระยาฯกับวัดสัมพันธวงศารามฯ จะสรุปสำนวนเสร็จก่อน เหลือเพียงวัดสระเกศฯ ที่มีข้อมูลหลักฐานค่อนข้างมาก คาดว่าจะใช้เวลานานกว่าวัดอื่น อย่างไรก็ตาม หลังจากส่งสำนวนฟ้องเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้วทางพนักงานสอบสวนยังคงต้องคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดต่อไป เนื่องจากเกรงว่าจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

ส่วนการติดตามตัวอดีตพระพรหมเมธีนั้น แหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ทางการประเทศเยอรมนียังไม่มีคำตอบกลับมาว่าจะส่งมอบตัวอดีตพระพรหมเมธีให้ทางตำรวจไทยหรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.นำคณะเดินทางไปประสานงานกับตำรวจสากลที่ประเทศฝรั่งเศส โดยได้ใช้ช่องทางตำรวจสากลในการติดต่อกับตำรวจเยอรมนีเพื่อให้ได้ตัวผู้ต้องหารายนี้กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยโดยเร็วที่สุด

ป.ชงอัยการประสานเยอรมนี ส่งตัว"พระพรมเมธี"กลับไทย

( 15 มิ.ย. ) ความคืบหน้าในการเจรจาส่งตัวอดีตพระพรหมเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ที่หลบหนีไปยื่นของลี้ภัยอยู่ที่ประเทศเยอรมันว่า ก่อนหน้านี้ทางคณะทำงานโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เดินทางไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเจรจากับตำรวจสากล ทั้งนี้ตามกำหนดเดิมทางคณะมีกำหนดเดินทางกลับประเทศไทยในวันนี้โดย เที่ยวบิน TG931 ออกจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เวลา 13.40 น.ตามเวลาท้องถิ่น และเดินทางถึงประเทศไทยเวลา 05.55 น. (16 มิ.ย.)

สำหรับสำนวนคดีของอดีตพระพรมเมธีนั้น ทางพนักงานสอบสวนกองปราบปรามกำลังเร่งทำสำนวนเพื่อส่งต่อให้อัยการเป็นผู้ทำเรื่องประสานขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน โดยอาศัยอำนาจตาม พระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ.2535 และถึงแม้ไทยกับเยอรมันจะไม่มีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต่อกัน แต่ก็สามารถใช้ธรรมเนียมปฏิบัติที่เคยมีต่อกันมา เพื่อขอตัวมาดำเนินคดีอาญาในประเทศไทยได้ อย่างไรก็ตามการจะส่งตัวให้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับทางการเยอรมันจะตัดสินใจ