ข่าว
'เมญ่า'ฉะโฆษณาเหยียดผิว 'ดำก็ชนะ/ไม่ได้หนักหัวใคร'

จากกรณีประเด็นร้อนชั่วข้ามคืน สำหรับโฆษณาอาหารเสริมผิวขาวยี่ห้อหนึ่ง ที่มีนักแสดงหญิงยอดนิยมคนหนึ่งเป็นพรีเซนเตอร์ ที่ถูกชาวเน็ตมองว่าเป็นการเหยียดสีผิว ขณะที่นักวิชาการด้านนิเทศศาสตร์ชี้ว่า สื่อควรจตระหนักถึงความสำคัญเรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้มากขึ้น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ด้าน "เมญ่า-นนธวรรณ ฌรรวนธร" มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2014 และนางเอกละครเรื่องสาวน้อยร้อยล้าน ที่ถูกพูดถึงเรื่องสีผิวมาโดยตลอดตั้งแต่ตอนประกวดนางงาม ก็ได้แชร์คลิปวิดีโอโฆษณาที่เป็นประเด็นดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊ก "Maeya Mae Nonthawan" พร้อมข้อความออกความเห็นว่า ดำก็ชนะได้ ไม่ได้หนักหัวใคร พิสูจน์กันด้วยความสามารถเถอะ "ดำๆๆก็ชนะได้ค่ะ ดำก็ไม่หนักหัวใคร ..ค่านิยมที่ล้าสมัยมากค่ะ พิสูจน์ด้วยความสามารถเถอะ จะขาวจะดำ ถ้าเก่งและเป็นคนดีคนก็พร้อมจะยอมรับและชื่นชม" ทั้งนี้เหล่าแฟนคลับก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงโฆษณาดังกล่าวเป็นจำนวนมาก พร้อมระบุว่าไม่คิดว่าโลกมาถึงขนาดนี้ จะยังมีความคิดเหยียดสีผิวออกมาด้วย

'ลุงตู่'ขนหุ่นไดโนเสาร์จากขอนแก่น โชว์วันเด็กทำเนียบฯ

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเตรียมสถานที่ เพื่อจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2559 ว่า ตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่จากกระทรวง และหน่วยงานต่าง ๆ ได้จัดเตรียมบูธ และเวทีกิจกรรม พร้อมเตรียมของรางวัลให้กับเด็กและเยาวชน ที่เดินทางมาร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ ในวันที่ 9 ม.ค.นี้ โดยหนึ่งในไฮไลท์ คือพิพิธภัณฑ์สิรินธร จ.กาฬสินธุ์ และพิพิธภัณฑ์ภูเวียง จ.ขอนแก่น ได้นำหุ่นไดโนเสาร์จำลอง มาจัดแสดงบริเวณสนามหญ้า ตึกสันติไมตรี ซึ่งได้รับความสนใจจากเด็กและเยาวชนดีเด่น ที่มารับรางวัลกับนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างมาก

สำหรับกิจกรรมวันเด็กที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 9 ม.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. จะเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งเด็กที่มีความกตัญญู เด็กที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ และเด็กด้อยโอกาส จำนวน 22 คน ได้เข้าพบ และให้นักเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะเปิดให้เยาวชนคนอื่นๆ ที่มาร่วมงานได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเหมือนเช่นทุกปี นอกจากนี้สำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะมีการจัดกิจกรรมฝึกอ่านข่าว ให้เยาวชนทำหน้าที่ยุวโฆษก ที่ตึกนารีสโมสร ซึ่งเป็นสถานที่ที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ใช้ในการแถลงข่าว อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำผ่านการละเล่นต่างๆ ในวันดังกล่าวอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว พาด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชาย ไปเที่ยวศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น พร้อมเชิญชวนเยาวชนให้ไปชมไดโนเสาร์สายพันธุ์ต่าง ๆ ที่ขอนแก่นด้วย


หมอไม่ห้ามญาติพูดอาการ 'ครอบครัวปอ'ย้ำยังขอสู้ต่อ

เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในช่วงเช้า ที่หออภิบาลผู้ป่วยวิกฤตโรคหัวใจ ชั้น 9 อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ความคืบหน้าอาการป่วยของนักแสดงหนุ่มชื่อดัง ปอ-ทฤษฎี สหวงษ์ หลังเข้ารักษาตัวด้วยโรคไข้เลือดออกเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน นางพิศมัย สหวงษ์ มารดาของปอ-ทฤษฎีและนายศรมนตรา พิชัยศรแผลง หรือ อาน้ำอ้อย ผู้จัดการส่วนตัว ได้เดินทางมาเยี่ยมพระเอกหนุ่ม รวมถึง โบว์-แวนดา สหวงษ์ ภรรยาของปอก็ได้เดินมาด้วยเช่นกัน

ต่อมา ผศ.ดร.พูลสุข เจนพานิชย์ วิสุทธิพันธ์ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล ได้เป็นตัวแทนนำอัลบัมภาพจากแฟนเพจรามาแชลแนล ที่รวบรวมกำลังใจส่งให้ครอบครัวสหวงษ์ และนำหมอนรูปหัวใจมามอบให้กับ น้องมะลิ-พาขวัญ สหวงษ์ ลูกสาวของปอ-ทฤษฎี เนื่องในวันเด็ก โดยมีมารดาและภรรยาของปอเป็นคนรับมอบ ซึ่งก่อนเดินทางกลับ ผศ.ดร.พูลสุข ได้เผยกับสื่อมวลชนสั้นๆว่า "มาครั้งนี้ตั้งใจมาเพื่อเป็นกำลังใจให้ครอบครัวสหวงษ์ และฝากขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านด้วยที่เสนอข่าวอย่างรวดเร็ว แต่ขอให้ฟังความคืบหน้าของอาการจากแพทย์ เพื่อความชัดเจนและถูกต้องที่สุด"

ด้าน ผศ.สงวน สหวงษ์ บิดาของปอ-ทฤษฎี ได้พาน้องมะลิที่วันนี้ใส่ชุดกระโปรงเดรสสีแดง-ขาว พร้อมปล่อยผม ขึ้นมายังชั้น 9 ของ รพ.เพื่อแต่งตัวจะไปร่วมงานอีเวนท์ในวันนี้ ซึ่งงานดังกล่าวเป็นงานครั้งแรกของมะลิในนามตัวเอง โดยทันทีที่มาถึงมะลิได้ยิ้มทักทายสื่อมวลชนพร้อมเต้นโชว์ด้วยท่าทางน่ารักเช่นเคย

นอกจากนี้ ผศ.สงวน ยังได้เผยกับสื่อมวลชนว่า "อาการปอตอนนี้ที่ทราบคือยังทรงๆอยู่ ส่วนรายละเอียดต้องถามอาน้ำอ้อยอีกทีเพราะตนไม่ค่อยได้เข้าไปดูปอในห้องซีซียู ซึ่งต้องบอกว่าตอนนี้ทางครอบครัวก็ยังมีกำลังใจเหมือนเดิมและตราบใดที่ปอเขายังอยู่แบบนี้เราก็จะสู้ต่อไป ด้านแพทย์เองก็ไม่ได้มีคำสั่งห้ามญาติพูดถึงอาการปอ แต่พ่ออยากให้ฟังความคืบหน้าอาการจากทีมแพทย์มากกว่าจะได้ถูกต้องที่สุด ส่วนงานอีเวนท์ที่มะลิจะไปร่วมงานวันนี้เป็นงานวันเด็กที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งทางผู้จัดงานได้บอกไว้นานแล้วจึงให้น้องไปก็ถือว่าไปช่วยงานกัน แต่ตอนนี้ครอบครัวก็ไม่ถึงขั้นว่าจะให้มะลิเริ่มรับงานแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับอาน้ำอ้อยและโบว์ เรียกว่าเลือกเป็นงานๆไปดีกว่า แต่ทางครอบครัวก็ไม่อยากให้มีอะไรมากมายเพราะยังห่วงอาการปออยู่"


เวิลด์แบงก์หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ว่าธนาคารโลก ( เวิลด์แบงก์ ) ออกรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลกฉบับแรกประจำปีนี้ ด้วยการปรับลดแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกลงอีกร้อยละ 0.4 จากรายงานฉบับเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ลงเหลือร้อยละ 2.9 แต่ยังถือว่าดีกว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลกตลอดทั้งปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่เพียงร้อยละ 2.4 ทั้งนี้ เวิลด์แบงก์แสดงความกังวลว่า การที่ตลาดเกิดใหม่ประสบกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน คืออุปสรรคสำคัญในการแก้ไขปัญหาความยากจน และการกระจายรายได้ เนื่องจากกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่คือกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ตลอดระยะเวลา 1 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยเวิลด์แบงก์คาดการณ์การเติบโต้ของเศรษฐกิจจีนในปีนี้เอาไว้ที่ร้อยละ 6.7 ลดลงร้อยละ 0.3 จากการคาดการณ์ในปีที่แล้ว เศรษฐกิจของจีนซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกและอันดับ 1 ของเอเชียตกอยู่ในภาวะปั่นป่วนตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( จีดีพี ) ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2533 ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ของจีนผันผวนอย่างหนักตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ โดยถึงขั้นต้องมีการปิดการซื้อขายในตลาดเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น หรือมาตรการ "เซอร์กิต เบรคเกอร์" ตลอดทั้งวันที่ 7 ม.ค. ถือเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ เนื่องจากหุ้นตกมากกว่าร้อยละ 7 ตั้งแต่ช่วงเปิดตลาด


ยูเอ็นเอสซีกร้าวเตรียมเล่นงานโสมแดงเพิ่ม หลังอ้างทดลองระเบิดไฮโดรเจน

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหารือด่วนเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เพื่อกำหนดมาตรการใหม่ในการเล่นงานเกาหลีเหนือ หลังอ้างว่าประสบความสำเร็จในการทดลองระเบิดไฮโดรเจน ซึ่งเป็นระเบิดนิวเคลียร์ที่มีความซับซ้อนและทรงพลังกว่ารูปแบบเดิม พร้อมกับประณามเกาหลีเหนือว่ายังคงเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงของโลก

การทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือดังกล่าวถือเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่ปี 2549 แต่ที่เป็นครั้งแรกที่เกาหลีเหนืออ้างว่าเป็นการทดสอบระเบิดไฮโดรเจน อย่างไรก็ดีสหรัฐและผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ยังคงตั้งข้อสงสัยว่าแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นรุนแรงพอที่จะเป็นการทดสอบระเบิดไฮโดรเจนตามที่เกาหลีเหนือกล่าวอ้างจริงหรือไม่

โฆษกทำเนียบขาวระบุว่าผลการวิเคราะห์เบื้องต้นไม่สอดคล้องกับสิ่งที่เกาหลีเหนือกล่าวอ้างและสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมายังไม่ทำให้สหรัฐเปลี่ยนแปลงการประเมินเกี่ยวกับความสามารถทางด้านเทคนิคและการทหารของเกาหลีเหนือแต่อย่างใด


วิกฤตจีนทำหุ้นดิ่งทั่วโลก ล่าสุดทางการประกาศระงับใช้มาตรการ′เซอร์กิตเบรคเกอร์′เเล้ว

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 ในตลาดหุ้นวอลสตรีทของสหรัฐร่วงลงมากกว่า 2% ตามตลาดหุ้นโลก ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 3 เปอร์เซ็นต์ หลังดัชนีซีเอสไอ300 ในตลาดหุ้นจีนร่วงลงมากกว่า 7% อีกครั้งเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ส่งผลให้กลไกเซอร์กิตเบรคเกอร์ระงับการซื้อขายหุ้นตลอดวันทำงานโดยอัตโนมัติเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ หลังเปิดการซื้อขายได้เพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดตลาดระยะสั้นที่สุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั้งในเอเชียและยุโรปปรับตัวลดลงตามไปด้วย

หุ้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือหุ้นธนาคารอาทิซิตี้แบงค์กรุ๊ปและมอร์แกนสแตนลีย์ที่ตกลงถึง5% เช่นเดียวกับหุ้นของธุรกิจเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ แอปเปิลตกลง 4.2% อเมซอน 3.9% และเฟซบุ๊ก 4.9% โดยตลาดหุ้นในลอนดอนปรับลดลง 2% มาอยู่ที่ 5,954.08 จุด ตลาดหุ้นของเยอรมนีลดลง 2.3% ปิดที่ 9,979.85 จุด

ขณะที่ตลาดหุ้นของฝรั่งเศสลดลง 1.7% มาอยู่ที่ 4,403.58 จุด อย่างไรก็ดีทางการจีนประกาศในเวลาต่อมาว่าจะระงับการใช้มาตรการเซอร์กิตเบรคเกอร์ หรือการห้ามการซื้อขายหุ้นเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมเป็นต้นไป


เวียดนามออกแถลงการณ์เรียกร้องจีนยุติส่งเครื่องบินเข้าพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้

เมื่อวันที่ 8 มกราคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เวียดนามออกแถลงการณ์เป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ประณามรัฐบาลจีนว่า "เป็นภัยคุกคามความมั่นคง" หลังจีนส่งเครื่องบินพาณิชย์ 2 ลำ ลงจอดอีกครั้งในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้

ก่อนหน้านี้ สื่อทางการจีนรายงานเมื่อวันที่ 7 มกราคม ว่า เครื่องบินพลเรือน 2 ลำได้แล่นลงจอดในพื้นที่เกาะพิพาทบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ในทะเลจีนใต้ที่เวียดนาม และบางประเทศในอาเซียนอ้างเป็นกรรมสิทธิ์อธิปไตยเหนือพื้นที่ดังกล่าว

นายเลอ ไห่ บินห์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศเวียดนาม กล่าวในแถลงการณ์เมื่อช่วงดึกวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ว่า การลงจอดของเครื่องบินจีน 2 ลำในเกาะพิพาทนั้นเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของเวียดนามอย่างรุนแรง และคุกคามสันติภาพ และความมีเสถียรภาพภายในภูมิภาค

"เวียดนามขอเรียกร้องให้จีนยุติการกระทำในลักษณะนี้ที่มันอาจจะขยาย และสร้างความซับซ้อนให้ข้อพิพาทมากยิ่งขึ้น" นายเลอ ไห่ บินห์ กล่าว

ทั้งนี้ จีนอ้างพื้นที่กรรมสิทธิ์ทั้งหมดในทะเลจีนใต้ ขณะที่ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย บรูไน และไต้หวัน ก็อ้างกรรมสิทธิ์ในพื้นที่พิพาทดังกล่าวเช่นกัน

อุบัติการณ์แห่งพลัง! ′สตาร์วอร์ส 7′กวาดรายได้แซง′อวตาร′ เป็นหนังทำเงินสูงสุดในอเมริกาเหนือ

ดิสนีย์ สตูดิโอ บริษัทผู้สร้างภาพยนตร์ เปิดเผยว่า สตาร์วอร์ส อุบัติการณ์แห่งพลัง (Star Wars: The Force Awakens) ทำรายได้แซงภาพยนตร์เรื่องอวตาร (Avatar) กลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในทวีปอเมริกาเหนือแล้วเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา

ดิสนีย์ระบุว่า ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวซึ่งเป็นภาคที่ 7 ของซีรีส์มหากาพย์เทพนิยายอวกาศ ทำรายได้ไป 758.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับจนถึงเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งในวันดังกล่าว สตาร์วอร์สทำรายได้เพิ่มไป 8 ล้านดอลลาร์ ทำรายได้รวมแซงหน้าอวตาร ภาพยนตร์มหากาพย์ไซไฟแห่งอนาคตของผู้กำกับเจมส์ คาเมรอน ได้สำเร็จในที่สุดเมื่อวันที่ 6 มกราคม

แถลงการณ์ของดิสนีย์ระบุว่า "ในช่วงบ่ายวันนี้ เมื่อมีการรายงานตัวเลขรายรับเบื้องต้นเข้ามา จะทำให้สตาร์วอร์ส อุบัติการณ์แห่งพลัง กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลาดกาลในตลาดอเมริกาเหนือ"

ขณะที่รายรับรวมทั่วโลกของ สตาร์วอร์ส อุบัติการณ์แห่งพลัง ปัจจุบันอยู่ที่ 1,560 ล้านดอลลาร์ ยังห่างจากอวตารที่มีรายรับรวมทั่วโลกที่ 2,790 ล้านดอลลาร์สหรัฐและไททานิกภาพยนตร์ทำเงินอีกเรื่องของคาเมรอนที่ทำรายได้ไป 2,190 ล้านดอลลาร์อยู่พอสมควร โดยล่าสุดสตาร์วอร์ส 7 ทำรายได้ทั่วโลกอยู่ในอันดับที่ 4 ยังตามหลังจูราสสิคเวิลด์ซึ่งทำรายได้ไป 1,670 ล้านดอลลาร์ด้วย แต่นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์จำนวนมากมองว่า สตาร์วอร์สภาคนี้มีโอกาสสูงที่จะสามารถทุบสถิติรายได้สูงสุดตลอดกาลได้สำเร็จในที่สุด