ข่าว
เรดาร์ทหารชี้ "มาเลเซียแอร์ไลนส์" จงใจบินนอกเส้นทางหลายร้อยไมล์

ข้อมูลเรดาร์ทหารระบุ เครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส ซึ่งสูญหายเกือบ 1 สัปดาห์ จงใจบินออกนอกเส้นทางการบินหลายร้อยไมล์ จนทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนกำลังปิดบังข้อมูล

แหล่งข่าวใกล้ชิดทีมสอบสวนเหตุเครื่องบนมาเลย์สูญหายได้ออกมาอ้างการวิเคราะข้อมูลของมาเลเซียระบุว่ามาเลเซียแอร์ไลส์เที่ยวบิน MH370 ซึ่งมีคนบนเครื่อง239คน ได้มีการเปลี่ยนเส้นการบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์-กรุงปักกิ่ง ไปบินในเส้นทางทิศตะวันตกแทน โดยใช้เส้นทางการบินเชื่อมตะวันออกกลาง และทวีปยุโรป

แหล่งข่าวเปิดเผยต่อไปว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนพบครื่องบินที่ยังไม่มีการยืนยัน แต่เชื่อว่าเป็น MH370 ได้บินในระหว่างเส้นทางตรวจสอบ หลังเรดาร์ทหารสามารถจับสัญญาณได้ครั้งสุดท้ายห่างจากชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซีย ซึ่งชี้ให้เห็นว่า เครื่องอาจจขับโดยนักบินหรือไม่ก็บางคนที่มีความรู้เรื่องพิกัดการบิน

หากวิเคราะห์ข้อมูลเรดาร์ทหารครั้งล่าสุดพบว่าเครื่องMH370ได้บินผ่านเกาะอันดามันของอินเดียและหมู่เกาะเล็กๆระหว่างทะเลอันดามัน กับอ่าวเบงกอล ทั้งนี้ ทำให้ตั้งทฤษฎีที่ว่า มีบางคนรู้วิธีขับเครื่องบิน และจงใจเปลี่ยนเส้นทาง

เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงมาเลเซีย กล่าวในเรื่องนี้ว่า สิ่งที่กำลังพิจารณาขณะนี้คือ การก่อวินาศกรรมด้วยการจี้เครื่องบิน

ทั้งนี้ แหล่งข่าวดังกล่าวปฎิเสธที่จะเปิดเผยชื่อ เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้สัมภาษณ์กับสื่อ และอาจกระทบต่อการสอบสวน

อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวการค้นหาเครื่องบินวันนี้ รักษาการรัฐมนตรีคมนาคมมาเลเซียได้ปฎิเสธข่าวที่ว่า เครื่อง MH370 ได้บินต่ออีก 4 ชั่วโมงว่า ไม่เป็นความจริง และระบุ ทีมค้นหาได้ขยายพื้นที่ปฎิบัติการไปยังมหาสมุทรอินเดียแล้ว

ทลายสำนัก "อาจารย์การเวก" บังคับคนให้ร่วมประเวณีให้ดู

วันที่ 14 มี.ค. เวลา 13.30 น. สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2556 ได้มีผู้เสียหาย จำนวน 7 ราย เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีว่าถูก นายธนวรรณ อัศวพลสุวรรณ อายุ 43 ปี หรือ "อาจารย์การเวก เทพหน้าทอง มอญแปลงรูป" ซึ่งอ้างว่าเป็นศาสตร์หนึ่งที่มีการเลี้ยงผีผูกมนต์เทวดา พลังมนต์ดำเหล่านี้จะคุ้มครองลูกหลานจนลูกหลานมั่งมี สามารถทำเสน่ห์ให้คนรักคนหลง ต้องใช้เครื่องเซ่นไหว้เป็นทรัพย์สินเงิน และทองคำด้วย

โดยอาจารย์การเวกจะสั่งให้ทำอะไรบ้าง ผู้ชายบางคนที่เข้าไปหาเพื่อหวังทำเสน่ห์ กลับถูกบังคับให้ร่วมประเวณีผู้หญิงที่ไปทำพิธีเหมือนกันและอาจารย์การเวกก็จะนั่งดู ในการทำพิธีแต่ละครั้งก็จะต้องเสียเงินหลักหมื่นถึงหลักแสน และทองคำ นอกจากนี้มีหญิงสาวอีกหลายรายถูกบังคับให้กินยาบ้าและข่มขืน และอาจารย์การเวกจะข่มขู่ว่าห้ามไปบอกหรือเล่าให้ใครฟัง มิฉะนั้นจะถูกคุณไสย์จนถึงแก่ชีวิตซึ่งทำให้ทุกคนไม่กล้าพูด

น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 22 ปี กล่าวว่า ตนมีปัญหาด้านสุขภาพและรู้สึกว่าระยะหลังสามีทำตัวห่างเหิน ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อเข้าไปในอินเตอร์เน็ตก็พบเว็บไซต์ ของสำนักอาจารย์การเวก เทพหน้าทอง มอญแปลงรูป ตั้งสำนักอยู่ที่ หมู่บ้านพรธิสาร 6 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โฆษณาว่าแก้อาการเจ็บป่วยจากคุณไสย์และทำเสน่ห์ให้คนรักและหลงได้ จึงหลงเชื่อเดินทางไป

เมื่อไปถึงจะเห็นคนจำนวนมากมาที่สำนักเพื่อทำพิธี พอถึงคิวของตนก็เข้าไปในห้องพิธีที่สลัว ก็พบอาจารย์การเวกนั่งคอยอยู่ บรรยากาศภายในห้องมีรูปกุมารทอง ตุ๊กตาดินปั้น กลิ่นธูปคลุ้งไปทั้งห้อง และอาจารย์การเวกก็จะพูดและถามต่างๆ นานา บางเรื่องเมื่อรู้มาก่อนยิ่งทำให้ตนหลงเชื่อมากขึ้น และสั่งให้ตนไปซื้อทองเพื่อใส่ไปในหุ่นที่จะทำพิธี หลอกให้ทำหุ่น และต้องซื้อทองคำใส่หุ่น ซึ่งอ้างว่าหุ่นจะทำให้มีพลัง หลังจากนั้นเมื่อกลับมาอีกครั้งเมื่อทำพิธีเสร็จ ก็บอกให้ตนถวายเงินด้วย พร้อมบังคับให้ร่วมประเวณีโดยอ้างว่าจะทำให้ของขลังมากขึ้น ต่อมาก็ส่งรูปโป๊ เปลือย ขณะร่วมประเวณีมาให้ดูและข่มขู่ว่าจะเผยแพร่หากไม่นำเงินมาให้ จึงต้องยอมจ่ายเงินให้หลายครั้ง หลังจากทำพิธีกลับมาแล้วเวลาผ่านไปเป็นเดือนอาการป่วยของตนก็ยังไม่มีท่าทีดีขึ้นทั้งที่ทำการรักษาโดยตลอด และยังต้องเลิกรากับสามีอีกด้วย

“ตนกับผู้เสียหายอีก 6 คน ซึ่งถูกหลอกและกระทำในลักษณะเดียวกัน เสียเงินทองจำนวนมาก ถูกข่มขืน ไม่รู้ว่าจะพึ่งใครจึงเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา ขอให้ช่วยเหลือประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแก็งคนร้ายที่ตั้งสำนักหลอกหลวงประชาชนเพราะไม่อยากเห็นใครที่หลงเชื่อ งมงาย ตกเป็นเหยื่ออีก นอกจากนี้ทราบว่ามีผู้ที่ถูกหลอกแบบตนอีกจำนวนมากแต่ไม่กล้าที่จะทำอะไรเพราะกลัวว่าจะได้รับอันตรายและอับอาย” นางสาวบี กล่าวทั้งน้ำตา

ภายหลังรับแจ้ง นางปวีณา ได้ประสานไปยังผู้บังคับการกองปราบปราม และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯเดินทางพาผู้เสียหายทั้ง 7 ราย เข้าพบพ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.กองปราบปราม และแจ้งความต่อพ.ต.ท.วิพากษ์ มีจันทร์ พงส.ผนพ.กก.2บก.ป. หลังจากสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมดพร้อมส่งตรวจร่างกายแล้ว จากนั้นได้ใช้เวลาให้ฝ่ายสืบสวนออกหาข่าว และรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับ นายธนวรรณ อัศวพลสุวรรณ อายุ 43 ปี หรือ อาจารย์การเวก กับพวก รวม 5 คน ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน

โดยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการกองปราบปรามนำโดย พล.ต.นรบุญ แน่นหนา รักษาการผู้บังคับการกองปราบปราม พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.กองปราบปราม ได้เข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้วอยู่ระหว่างสอบสวน

ปวิน- ชาญวิทย์ จองแอล.เอ. ชำแหละสถานการณ์ในไทย

นับเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ของ RED USA ที่จะมีโอกาสสัมผัสเรียนรู้จาก 2 นักวิชาการไทยนามอุโฆต "ชาญวิทย์ เกษตรศิริ และปวิน ชัชวาล พงศ์พันธ์" ที่จะเดินทางมาเยี่ยมเยือน มาทักทายเพื่อนเก่า มาบรรยายเรื่องราว เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันในประเทศไทย

การพบปะปราศรัยของทั้งสองท่านได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ในวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม 2014 นี้ ตั้งแต่ เวลาเที่ยง 12.00 น.เป็นต้นไป ณ บ้านเลขที่: 9735 Arkansas Street, Bellflower, CA 90706 Tel: 909/455-2961, 562/ 739-5652 714/ 470-1334

ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าของผลงานเขียนที่ได้การตีพิมพ์กว่า 200 บทความ ผู้ประพันธ์หนังสือ "Siam is not Thailand" เจ้าของรางวัล Fukuoka Academic Prize ประจำปี 2012 เจ้าของรางวัล DCAS ประจำปี 2014 จาก สมาคมเอเชียศึกษา แห่งสหรัฐอเมริกา

ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นักวิชาการระดับต้นๆ แห่งภูมิภาคเอเชีย และเป็นที่ยอมรับระดับโลก จะพูดในหัวข้อ "วิกฤติทางการเมืองในประเทศไทยและผลกระทบต่ออาเซียน"

ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประชาธิปไตยชื่อก้อง เจ้าของ "ฝ่ามืออากง" สะท้านโลก อาจารย์ประจำ Centre for Southeast Asian Studies, Kyoto University ผู้ประพันธ์หนังสือ "Good Coup Gone Bad: Thailand่่'s Political Developments Since Thaksin's Downfall ซึ่งจะวางตลาดเร็วๆ นี้ หลังจากประพันธ์หนังสือ และตีพิมพ์มาแล้วก่อนหน้านี้ 2 เล่ม

ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ จบปริญญาเอกด้าน Political Studies จาก University of London จะมาพูดให้คนเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตยในแอลเอและเมืองใกล้เคียงฟัง ในหัวข้อ "สถาบันกษัตริย์และอนาคต ของประชาธิปไตยในประเทศไทย"

แม้คนไทยจำนวนหนึ่งยังมืดบอดอยู่กับค่านิยมล้าหลัง แต่ RED USA จะไม่ยอมให้ตัวเองและเพื่อนๆ เป็นสิ่งตกค้างทางประวัติศาสตร์โดยไม่ปรับตัวและเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองไปพร้อมๆ กับการเปลี่ยนแปลงของโลก

จึงขอส่งเสียงเรียนเชิญผ่านข้อเขียนนี้มายังคนเสื้อแดงทุกท่าน ได้เข้าร่วมฟังการบรรยายของ "อาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ และ อาจารย์ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์" ตามวันและเวลาที่กำหนดนัดหมายกันไว้แล้วข้างต้น