ข่าว
พ่อยิงดุเดือดดับสยอง ลูก พร้อมพี่เลี้ยง 6 ศพ

วันที่ 10 ก.ค. เอเอฟพีรายงานว่า เกิดคดีความรุนแรงจากอาวุธปืนช็อกสังคมอเมริกันอีกครั้งที่บ้านหลังหนึ่งในเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส เมื่อพ่อใช้อาวุธปืนกราดยิงลูกตัวเอง และลูกเลี้ยง ภายในบ้าน ทำให้เด็กเสียชีวิต 4 ศพ และพี่เลี้ยงเสียชีวิตอีก 2 ศพ ส่วนเด็กคนที่ 5 ซึ่งเป็นลูกสาววัย 15 ปี อาการสาหัส แต่ยังให้การกับตำรวจได้ จนนำไปสู่การจับกุมตัวมือปืนในที่สุด

ตำรวจได้รับแจ้งเมื่อเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และขับรถไล่ล่ารถคนร้ายอยู่นาน 20 นาที กระทั่งคนร้ายจนมุม และล้อมไว้ พร้อมทั้งส่งทีมเกลี้ยกล่อมนานร่วม 2 ชั่วโมงจนสุดท้ายคนร้ายยอมมอบตัว

จากการสอบสวนพบว่า เหตุเกิดขึ้นหลังจากมีการโต้เถียงกันภายในบ้าน เด็กหญิงวัย 15 ปีให้การว่า พ่อตั้งใจจะไปฆ่าปู่ย่าที่อาศัยอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งทำให้พวกตนเข้าขัดขวางและถูกยิง ส่วนสถานะครอบครัว คนร้ายแยกกันอยู่กับภรรยา โดยภรรยาอาศัยอยู่รัฐอื่น

เด็กที่เสียชีวิตเป็นเด็กหญิงอายุ 7 และ 9 ขวบ และเด็กชายอายุ 4 ขวบ และ 13 ปี ในจำนวนนี้มี 2 รายที่เป็นลูกเลี้ยงโดยเด็กหนึ่งรายเสียชีวิตขณะมาถึงโรงพยาบาล

นับเป็นกรณีรุนแรงจากอาวุธปืนครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในสหรัฐ ขณะที่สังคมยังคงโต้เถียงกันถึงความเหมาะสมของกฎหมายครอบครองอาวุธปืน โดยรัฐบาลของประธานาธิบดีบารัก โอาบมา พยายามผลักดันให้เพิ่มความเข้มงวดในการมีอาวุธปืน แต่ยังถูกฝ่ายอนุรักษนิยมคัดค้าน

ก่อนหน้านี้เพิ่งเกิดเหตุรุนแรงจากอาวุธปืนเมื่อเดือนมิ.ย. โดยมือปืนชายหญิงที่มีภูมิหลังต่อต้านรัฐบาล ยิงตำรวจเสียชีวิต 2 นาย และพลเรือน 1 ราย ที่ลาสเวกัส ขณะที่มือปืนวัยรุ่นยิงเพื่อนนักเรียนวัย 14 ปีเสียชีวิตที่โรงเรียนในรัฐโอเรกอน

"ประยุทธ์”เปิดเผย ตั้งรัฐบาลเดือนก.ย.

หัวหน้า คสช. เผยตั้งรัฐบาลเดือน ก.ย. แย้ม รัฐธรรมนูญชั่วคราวมีเครื่องมือพิเศษให้ คสช.ทำงานได้ เปิดโมเดลสภาปฏิรูป ใช้ตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆและทุกจังหวัด รวม 250 คน

เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 11 ก.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้กล่าวผ่านรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ตอนหนึ่งว่า เรื่องที่สังคมอยากทราบขณะนี้ คือ เรื่องรัฐธรรมนูญชั่วคราว ซึ่ง คสช.จะทำไว้โดยมีไม่เกิน 50 มาตรา ระบุให้รัฐบาลที่จะได้มีการจัดตั้งขึ้นมาภายในเดือน ก.ย.2557 ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสะดวกรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาบ้านเมืองให้ได้ตามความคาดหวังของประชาชน ซึ่งอาจจะต้องมีข้อจำกัดบางประการอยู่บ้างในรัฐธรรมนูญดังกล่าว ทั้งนี้หากใช้วิธีการบริหารราชการปกติทุกเรื่องอย่างที่ทุกคน หลายๆฝ่ายต้องการ ก็จะแก้ปัญหาต่างๆไม่ได้แน่นอน ฉะนั้นจะไม่เกิดประโยชน์ ต้องให้เวลา คสช. ให้โอกาส และเครื่องมือในการทำงานนี้ด้วย เรื่องอำนาจ คสช.กับรัฐบาลมีการตรวจสอบถ่วงดุลกันการบริหารจะเน้นหนักให้รัฐบาลเป็นผู้บริหารราชการ ด้านความมั่นคงจะเน้นหนักให้ คสช. ดูแลรับผิดชอบ มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน และเรื่องอื่นๆ ในลักษณะ คสช.ให้คำแนะนำต่อรัฐบาล

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อถึงเรื่องการปฏิรูป ว่า ขณะนี้ทางสำนักงานปฏิรูปฯ ของ คสช. ได้รวบรวมคนและข้อมูลจากหลายภาคส่วนไว้แล้ว ต้องการให้ทุกภาคส่วนมีการเตรียมการจัดผู้แทน เพื่อไปสมัครเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปในระยะที่ 2 โดยจะมีกระบวนการคัดสรรที่กำหนดไว้แต่เดิมประมาณ 11 กลุ่ม น่าจะประมาณ 550 คน และจังหวัดต่างๆคัดตัวแทนมาจังหวัดละ 5 คน เลือกให้เหลือจังหวัดละ 1 คน ก็จะเหลือ 76 คน รวมกับกลุ่มปฏิรูป 550 คน จากนั้นก็จะคัดสรรให้เหลือไม่เกิน 250 คน และแบ่งลงกลุ่มต่างๆให้ได้ทั้ง 11 กลุ่ม กลุ่มต่างๆจะต้องมีคนทุกภาคส่วนเข้าร่วม ทำผลของการปฏิรูปขึ้นมา และนำเสนอสู่ที่ประชุมของสภาปฏิรูป เป็นมติออกมา ก็เสนอมาให้สภานิติบัญญัติส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็เสนอไปยังคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับถาวร

“ในช่วงของการปฏิรูปมีความสำคัญ ทุกคนต้องลดอัตตาตนเองลงบ้าง ทุกคนต้องคิดว่าทำอย่างไรจึงจะอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติในอนาคต ทำอย่างไรที่จะอยู่ร่วมกัน แม้จะมีความเห็นต่าง โดยต้องมองที่ประเทศชาติเป็นหลักว่าจะเดินไปอย่างไร เรามีปัญหาอยู่มากมาย จริงๆแล้ว 1 ปีค่อนข้างจะน้อยด้วยซ้ำไป แต่ คสช.ไม่ต้องการที่จะรบกวนเวลาท่านมากนัก หากท่านไม่ช่วยผมปัญหาก็จะกลับมาเหมือนเดิม หากท่านบอกว่าในห้วงที่ 2 จะเป็นปกติมากกว่านี้ จะต้องเป็นประชาธิปไตยมากกว่านี้ ผมถามว่าจะแก้ไขอะไรได้ไหม ถ้าแก้ได้ง่ายขนาดนั้น ผมก็ไม่จำเป็นต้องออกมา ไม่ต้องออกมาควบคุมอำนาจอยู่แล้ว ท่านกลับไปถามตัวเองว่าจะทำได้ไหม ถ้าทำได้มาบอกผม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.


'ทักษิณ'งดจัดวันเกิดในไทย หวั่นถูกโยงประเด็นการเมือง

'ทักษิณ'งดจัดวันเกิดในไทยหวั่นโยงการเมือง อ้างหวั่นถูกโยงเป็นประเด็นการเมือง แต่จัดที่ฝรั่งเศส คสช.ปล่อยเพลง'ก้าวข้ามเพื่อตามฝัน'

11ก.ค.2557นายสิงห์ทอง บัวชุม อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจัดงานวันคล้ายวันเกิดพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 26 ก.ค.ว่า เมื่อ 4 ปีที่แล้วตนเป็นแม่งานจัดงานที่วัดแก้วฟ้า ย่านบางกรวย แต่ปีนี้สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ประเทศอยู่ภายใต้การปกครองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) อีกทั้งมีทหารเข้าไปตรวจค้นและขอร้องเจ้าอาวาสไม่ให้มีการจัดงาน จึงจำเป็นต้องงด

ทั้งนี้ตนได้ประสานกับพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว ซึ่งท่านเองก็มีความประสงค์ว่าไม่อยากให้จัดงานในปีนี้ เพราะต้องการให้คสช.เดินหน้าทำงาน คืนประชาธิปไตย และเลือกตั้งให้เร็วที่สุด ส่วนกรณีที่จะมีการจัดงานที่ประเทศฝรั่งเศสนั้นต้องชี้แจงว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่มีแผนที่จะจัดงานดังกล่าวด้วยตนเอง อาจจะเป็นเรื่องของคนที่รักและเคารพท่านต้องการที่จะจัดงานให้ ท่านยังย้ำด้วยว่า ต้องการให้สงบที่สุด จึงจะไม่มีการจัดงานแถบทวีปเอเชีย เพราะคนจะไปกันมาก อาจจะตกเป็นประเด็นทางการเมืองได้

ย้ายจัดงานวันเกิดที่ฝรั่งเศส

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานการจัดงานวันคล้ายวันเกิดของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครบ 65 ปี ในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ จะจัดงานที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยเบื้องต้นจะมีเพียงครอบครัว ญาติ และคนใกล้ชิดที่จะไปร่วมงาน ส่วนอดีตรัฐมนตรี นักการเมือง โดยเฉพาะในพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดง จะไปร่วมงานเพียงเล็กน้อย เนื่องจากสถานที่จัดงานอยู่ไกล อีกทั้งยังมีคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กำชับไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ หรือต้องขออนุญาตก่อนอีกด้วย และเป็นความต้องการของพ.ต.ท.ทักษิณ เองที่อยากจะหลีกเลี่ยงประเด็นทางการเมือง จึงไม่จัดใกล้ๆ ประเทศไทยเหมือนกับที่ผ่านมา

เด็กเพื่อไทยหนุน'ประยุทธ์'นั่งนายกฯ

ด้านนายอำนวย คลังผา อดีตประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของกกต.ที่จำกัดสิทธิไม่ให้เป็นส.ส.เกิน 2 สมัย เพราะเวลาสั้นไป และหากมีการปฏิวัติหรือยุบสภาฯ จะนับเป็นหนึ่งสมัยหรือไม่ ถ้าเปลี่ยนกันใหม่บ่อย ๆ ก็จะต้องเสียเวลามาศึกษางาน ดังนั้นแนวทางนี้ไม่เหมาะกับการเมืองระดับชาติ ถ้าเป็นระดับท้องถิ่นก็ว่าไปอย่าง ควรใช้แบบเดิมซึ่งดีอยู่แล้ว และขอให้ผู้แทนเป็นระบบเขตเล็ก เพราะชาวบ้านจะได้ประโยชน์สูงสุด หากเป็นเขตใหญ่ผู้แทนจะดูแลไม่ทั่วถึง

นอกจากนี้ อยากเสนอให้ยุบ กกต. แล้วให้กระทรวงมหาดไทยจัดการเลือกตั้งแทน เพราะไม่เปลืองงบประมาณ ข้าราชการก็เป็นกลางอยู่แล้ว เช่นเดียวกับศาลรัฐธรรมนูญ ตนเสนอให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน แล้วให้ตัวแทนจากกระทรวงต่าง ๆ เป็นกรรมการ ส่วนป.ป.ช.ให้แยกส่วน ไม่ต้องรวมศูนย์ ไม่ต้องมีป.ป.ช.กลาง อาจให้หัวหน้าศาลเป็นประธาน และผู้ว่าฯ นายอำเภอเป็นกรรมการก็ได้ เพราะปัญหาแต่ละจังหวัดนั้นไม่เหมือนกัน ทำแบบนี้จะแก้ปัญหาได้รวดเร็ว และข้าราชการตั้งแต่ซี 3 ขึ้นไปต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินทุกคนเพื่อความโปร่งใส

นายอำนวย กล่าวอีกว่า ขอสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคสช. เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อปัดกวาดบ้านเมืองให้สะอาดเรียบร้อย เมื่อมีโอกาสแล้วก็ทำให้ดีไปเลย ตนเอาใจช่วยและให้กำลังใจทุกฝ่ายที่มีเจตนาดีต่อบ้านเมือง เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์มีความสามารถ มีจุดเด่นเรื่องความเด็ดขาด กล้าตัดสินใจ ตนสนับสนุนให้แก้ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ เหมือนที่กำลังทำได้ดี ส่วนโครงการต่าง ๆ ที่รัฐบาลชุดที่แล้วทำไว้หากเป็นเรื่องที่ดีก็ควรทำต่อไป วันนี้ไม่มีฝ่ายค้าน เป็นจังหวะดีที่จะทำอะไรได้ก็ขอให้ทำบ้านเมืองให้เป็นประชาธิปไตย และจัดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด

คสช.ปล่อยเพลง'ก้าวข้ามเพื่อตามฝัน'

พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา ได้มีดำริให้กองทัพเรือ โดยคณะทำงานเฉพาะกิจจัดทำสารคดีพิเศษชุดก้าวข้ามเพื่อตามฝันร่วมกับ 7 กระทรวงในฝ่ายสังคมจิตวิทยา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ของคนในชาติ ตลอดจนเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักถึงการขับเคลื่อนของกระทรวงต่างๆ ในฝ่ายสังคมจิตวิทยา โดยคณะทำงานได้จัดทำภาพยนตร์สารคดี รวม 7 ตอน ตอนละ 15 นาที พร้อมกับบทเพลงประกอบภาพยนตร์สารคดี ชื่อเพลงก้าวข้ามเพื่อตามฝัน ซึ่งประพันธ์ขึ้นมาใหม่ เนื้อร้องโดย น.อ.ทองย้อย แสงสินชัย และเรียบเรียงดนตรีโดยวงดุริยางค์ราชนาวี ขับร้องโดย ร.ต.สันติ ลุนเผ่ คุณธนชัย อุชชิน คุณโป่ง หินเหล็กไฟ น้องพินต้า และคณะนักร้องประสานเสียงจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และจะจัดการแถลงข่าวการจัดทำสารคดี ณ ห้างเซ็นทรัลพลาซ่า สาขาปิ่นเกล้า ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2557 เวลา 12.00 น.


'ธีรเดช' หนุน 'ประยุทธ์' นั่งนายกฯแก้ปัญหาได้

"พล.อ.ธีรเดช" ออกโรงหนุนแนวคิด กกต. ยัน "ประยุทธ์" เหมาะนั่ง "นายกฯ" ที่สุด มั่นใจการเดิน "โรดแม็ป" คสช. พร้อมแจงยิบปมขึ้นเบี้ยประชุมเหตุศาลรธน. ผู้ตรวจฯ พ้นผิด แต่กกต. กับ ป.ป.ช.ต้องลุยถึงชั้นฎีกา...

เมื่อวันที่ 11 ก.ค.57 พล.อ.ธีรเดช มีเพียร อดีตประธานสมาชิกวุฒิสภา เผยว่า ตนสนับสนุนแนวความคิดของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่จะนำเสนอต่อสภาปฏิรูปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะถือเป็นความคิดที่ดี โดยเชื่อว่าคนไทยร้อยละร้อยรับไม่ได้ ในเรื่องที่เกี่ยวกับการหมิ่นสถาบันเบื้องสูง คดียาเสพติด คดีทุจริตทางการเมือง ซึ่งมองว่าเมื่อใครก็ตามที่มีความผิดในคดีร้ายแรงที่มีภัยต่อประเทศชาติแบบนี้ ก็คิดว่าไม่มีความเหมาะสมโดยสิ้นเชิง เพราะเมื่อคนเหล่านี้พ้นโทษออกมาก็ไม่สามารถมั่นใจได้ว่า จะเป็นนักการเมืองที่ดีได้ โดยจะต้องมองว่าทำอย่างไรถึงจะได้นักการเมืองที่ดี เพราะนักการเมืองถือเป็นบุคคลที่มีบทบาทต่อประเทศชาติมาก

"ห้ามไม่ให้คู่สมรสหรืออดีตคู่สมรส และบุตรตามกฎหมาย ลงรับสมัครเลือกตั้งในสมัยเดียวกันนั้น ก็เห็นด้วย เพราะควรจะกระจายขอบข่ายการบริหารประเทศออกไปในวงกว้างไม่ใช่ว่าครอบครัวนี้อาชีพเดียวกันทั้งบ้าน ประเทศไทยมีประชากรเกือบตั้ง 70 ล้านคน เราก็ต้องเฉลี่ยกันให้มีความหลากหลาย ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับจะได้สภาครอบครัว หรือสภาผัวเมียที่เป็นกลุ่มเครือญาติใกล้ชิดกันอยู่ เมื่อมองไปแล้วก็ไม่น่าจะทำงานได้ประสิทธิผลอย่างเต็มที่ โดยหากเฉลี่ยกันเข้าไปในสภา แม้จะมีที่นั่งเท่าเดิมแต่ก็เพิ่มความหลากหลายทางความคิด" พล.อ.ธีรเดชกล่าว

พล.อ.ธีรเดช กล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องการสรรหา ส.ว.จากนิยามคำว่า "ปราชญ์ชาวบ้าน" นั้น ในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่งประธานส.ว. ตนมองว่า เรื่องคุณวุฒิไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด เพราะในประเทศยังมีผู้ที่มีประสบการณ์จริงๆ ที่มีความรู้ความสามารถมากมายในกิจการนั้นๆ แต่ไม่มีโอกาสเข้ารับการศึกษาอยู่อีกมาก โดยไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษาสูงๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าภูมิปัญญาชาวบ้านในศาสตร์หลายๆ แขนงที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษนั้น ก็ไม่ได้มีปริญญาบัตร ทั้งยังเป็นสิ่งที่ค้นคว้าปฏิบัติได้ผลมาแล้วด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นก็ไม่ควรให้ความจำเป็นในเรื่องวุฒิบัตรมากจนเกินไป โดยส่วนนี้เชื่อว่าหากได้รับเลือกเข้ามาแล้วก็คิดว่า บุคคลเหล่านั้นก็จะต้องมีอะไรพิเศษจึงผ่านการกลั่นกรองเข้ามาได้ ทั้งนี้ถึงแม้ตนจะไม่มีความสนิทสนมคุ้นเคยกับ กกต. ชุดนี้เป็นการส่วนตัวแต่ก็ มั่นใจในการทำงานว่าน่าจะเป็นคณะที่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ ดังนั้นในสมัยที่เป็นเป็น ส.ว.จึงเลือก กกต.ชุดนี้มาทำงานซึ่งก็น่าจะร่วมงาน กันได้ดีกับ คสช. ที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันเป็นแนวทางเดียวกัน

"เท่าที่ได้ฟังเสียงสะท้อนกลับมาจากภายนอกก็เห็นว่า ณ เวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์ เหมาะสมที่สุด สำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งสามารถดูได้จากโพลที่ให้คะแนน พล.อ.ประยุทธ์ ทิ้งห่างจากอันดับสองอย่างเห็นได้ชัด จึงชี้ให้เห็นว่า คนไทยส่วนใหญ่มีความมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นคนที่สามารถแก้ปัญหาให้คนไทยได้ดีที่สุด โดยคิดว่า คสช.ควรจะดูแลบ้านเมืองให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งให้สำเร็จเรียบร้อยจริงๆ ส่วนเรื่องระยะเวลา เท่าที่ฟังเสียงสะท้อนกลับมาก็บอกว่า ไม่จำเป็นต้องกำหนดว่ากี่เดือนหรือกี่ปี แต่ทุกคนอยากเห็นบ้านเมืองที่นิ่งจริงๆ ซึ่งก็ต้องบริหารจัดการไปตามขั้นตอนในโรดแม็ปที่วางไว้" อดีตประธาน ส.ว.กล่าว

เมื่อข่าวถามถึงกรณีขึ้นเบี้ยประชุมเหมาจ่ายในสมัยที่เป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน พล.อ.ธีรเดช กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวนั้น สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ลอกระเบียบการขึ้นเบี้ยประชุมเหมาจ่ายมาแบบคำต่อคำจากศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งองค์กรอิสระอื่นๆ ก็ไปออกระเบียบของตัวเองเช่น ป.ป.ช. กกต. แล้วต่อมาถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินให้มี โทษจำคุก 2 ปี เช่นเดียวกันทั้งหมด แต่เนื่องจากในส่วนของผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่าไม่ผิด จึงได้ส่งอุทธรณ์ ซึ่งปรากฏว่า ศาลอุทธรณ์ตัดสินยกฟ้องโดยไม่มีผู้ใดเสนอขอฎีกา ดังนั้นคดีดังกล่าว จึงถือว่าสิ้นสุด โดยไม่มีความผิดใดๆ และต่อมาศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นต้นแบบของระเบียบดังกล่าว ก็ได้รับการตัดสินจากศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องเช่นเดียวกัน โดยสรุปคือ ชี้ให้เห็นว่าระเบียบเรื่องเบี้ยประชุมเหมาจ่ายของ 2 องค์กรศาล เห็นว่าทำได้ตามกฎหมาย แต่ในส่วนของ กกต.กับ ป.ป.ช.นั้น อาจจะมีรายละเอียดของกระบวนการ การออกระเบียบที่ต่างจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินกับศาลรัฐธรรมนูญ โดยทราบว่าขณะนี้ กกต.กำลังขอฎีกาอยู่เพราะศาลชั้นต้นกับศาลอุทธรณ์ตัดสินเหมือนกัน

เมื่อถามต่อว่าจะดำเนินการฟ้องร้องกลับหรือไม่ อดีตประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาเรื่องดังกล่าวสร้างความเสียหายกับชื่อเสียงเกียรติยศของวงศ์ตระกูลเป็นอย่างมาก แต่จะดำเนินการต่อไปอย่างไรนั้น ก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อน.

ตร.รวบเพื่อน'วันชัย'ดูต้นทาง ข่มขืนฆ่า ดญ.13 ปี บนรถไฟ

ตร.รวบพนง.รถไฟ เพื่อนนายวันชัย เพิ่มอีก 1 ฐานมีส่วนรู้เห็น"ช่วยดูต้นทางให้ไอ้หื่น"ข่มขืนทำร้าย“ดญ.วัย 13 ปีจนเสียชีวิต ด้านตร. แจ้งข้อหา พร้อมกับส่งตัวไปฝากขังศาลจังหวัดหัวหิน ล่าสุด ถูกส่งตัวไปเข้าเรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์

วันที่ 11 ก.ค.ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ควบคุมตัวพนักงานรถไฟ ซึ่งเป็นเพื่อนของ นายวันชัย แสงขาว อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศ และทำร้าย ด.ญ.เอ (นามสมมุต) วัย 13 ปี เสียชีวิตบนรถไฟตู้นอนเที่ยว 174 นครศรีธรรมราช - กรุงเทพฯ มาสอบสวนเพิ่มเติม หลังพบว่า ชายคนดังกล่าว มีส่วนรู้เห็นกับการเสียชีวิตของเหยื่อเคาระห์ร้าย

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเป็นพนักงานส่งของบนรถไฟอายุ 19 ปี โดยร่วมกันดื่มเบียร์กับเพื่อน ซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนของ นายวันชัย ในวันเกิดเหตุ และสารภาพว่า เป็นคนดูต้นทางให้นายวันชัย ไปทำร้ายข่มขืนและโยนร่าง ดญ.วัย 13 ปี ลงจากหน้าต่างขบวนรถไฟ จนเสียชีวิต

เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้มีการแจ้งกล่าวหา ผู้ต้องหาคนดังกล่าว กรณี ให้เป็นผู้สนับสนุนผู้อื่นให้กระทำการล่วงละเมิดทางเพศ พร้อมกับส่งตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดหัวหิน ไปฝากขัง และขณะนี้ถูกส่งตัวไปเข้าเรือนจำที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์


แม่อัญเชิญวิญญาณน้องแก้ม หลังลูกเข้าฝันยังติดอยู่ข้างใน

พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนเพื่อคลี่คลายคดีของนายวันชัย แสงขาว ที่ก่อเหตุฆ่าข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปี บนรถไฟว่า ตำรวจได้คุมตัว เพื่อนของนายวันชัย ซึ่งเป็นพนักงานรถไฟ ที่นั่งดื่มเหล้าด้วยกันในวันเกิดเหตุ มาเค้นสอบได้ข้อมูลว่ามีส่วนรับรู้ถึงการกระทำของนายวันชัย แต่ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง หรือร่วมลงมือ เพราะหลังจากก่อเหตุแล้ว ผู้ต้องหาได้นำโทรศัพท์มือถือมาจากผู้ตายให้พยานดู เบื้องต้นตำรวจจะกันไว้เป็นพยานคนสำคัญ ที่อยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์มากที่สุด เพื่อในวันหน้า หากนายวันชัย ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ จะได้มีพยานยืนยันได้

ส่วนผลการสอบสวนพยานแวดล้อม และการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พบว่า ผู้ก่อเหตุยังมีเพียงคนเดียว คือ นายวันชัย ยังไม่พบหลักฐาน เชื่อมโยงกับบุคคลอื่น แต่ทั้งนี้ จะต้องรอผลตรวจ DNA ที่จะทราบผลในสัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ตาม เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา แม่ของน้องแก้มและกลุ่มญาติได้ทำพิธีอัญเชิญวิญญาณของน้องแก้ม ภายในโบกี้รถไฟ ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง หลังจากน้องแก้มมาเข้าฝันแม่ว่าวิญญาณยังติดอยู่ในโบกี้ ที่เกิดเหตุ

โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค.รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 นำเสนอข่าวว่า แม่น้องแก้ม เปิดเผยว่า น้องแก้มได้มาเข้าฝัน บอกว่าน้องเพิ่งจะรู้ตัวว่าเสียชีวิต และก็บอกว่าหนูหนาว ตนจึงได้นำเสื้อผ้าของใช้ต่างๆ ทำบุญส่งไปให้ในตอนเช้า น้องยังบอกอีกว่าจะไม่ยอมไปไหน เพราะมีคนที่ร่วมกันฆ่าน้องอีกหลายคน ตนสังเกตใบหน้าน้องแก้มเหมือนยังอาฆาตอยู่

น้องแก้มยังบอกด้วยว่าตอนนี้ยังอยู่บนรถไฟตู้นอนที่เกิดเหตุ ตนพร้อมด้วยญาติ จึงประสานไปยังการรถไฟ เพื่อไปจะเชิญดวงวิญญาณน้องแก้มออกมาจากรถไฟตู้นอนตรงที่เกิดเหตุตามความเชื่อ เพื่อส่งวิญญาณน้องไปสู่สุคติ

ที่สำคัญตนอยากจะให้ผู้ต้องหามาขอขมาศพน้องแก้มด้วย เพื่อที่น้องแก้มจะได้ไม่อาฆาตเคียดแค้น ทุกวันนี้ยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปกติน้องจะมานอนกับตนทุกคืน เวลาไปส่งลูกไปโรงเรียนตอนเช้า เคยมีลูกนั่งกัน 2 คน ตอนนี้ก็เหลือพี่สาวเขาคนเดียวแล้ว วันนี้น้องไม่อยู่แล้ว