ข่าว
อินเดียเศร้า พายุเข้ารัฐพิหาร ฟ้าผ่ากระหน่ำทั่วรัฐ คนตายอื้อ 83 ศพ

26 มิ.ย. 2563 อินเดียเผชิญพายุฝนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ และเกิดฟ้าผ่าหลายสิบครั้งทั่วรัฐพิหาร ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 83 ศพ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักงานจัดการภัยพิบัติของรัฐพิหาร ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย เปิดเผยในวันพฤหัสบดีที่ 25 มิ.ย. 2563 ว่า เหตุฟ้าผ่าทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 13 ศพ ในเขตโกปัลกานจ์เพียงแห่งเดียว ส่วนผู้เสียชีวิตที่เหลืออยู่ในเหตุฟ้าผ่าอีก 22 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ ทั่วรัฐ

นายสันทีป กุมาร เจ้าหน้าที่ของสำนักงานจัดการภัยพิบัติรัฐพิหาร กล่าวว่า ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยจำนวน 5,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 163,800 บาท)

ด้านนายกรัฐมนตรี เนเรนทรา โมดี ทวีตข้อความว่า มีข่าวร้ายมากมายเรื่องการเสียชีวิตในบางเขตของรัฐพิหารและรัฐอุตตรประเทศ ทางเหนือของอินเดีย ระหว่างฝนตกหนักและฟ้าผ่า ซึ่งรัฐบาลจะเร่งดำเนินการบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนโดยเร็ว และแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนของทุกปี อินเดียกับภูมิภาคเอเชียใต้เป็นพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่าเป็นจำนวนมาก โดยตามสถิติของสำนักงานประวัติอาชญากรรมแห่งชาติของอินเดีย ชี้ว่า ในปี 2560 มีผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่าในอินเดียถึง 2,885 ราย และ 2,357 ราย ในปี 2561 โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาวไร่.

วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายคว่ำบาตรจีน ตอบโต้ออกก.ม.คุมฮ่องกง

26 มิ.ย. 2563 สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ร่างกฎหมายฉบับแรกมีชื่อว่า ‘กฎหมายปกครองตกเองฮ่องกง’ จะคว่ำบาตรธุรกิจและบุคคลที่ช่วยให้จีนจำกัดอำนาจปกครองตนเองของฮ่องกง ส่วนอีกฉบับเป็นการประณามจีนอย่างเป็นทางการ ที่ละเมิดปฏิญญาร่วมจีน-อังกฤษ ปี 2527 ที่ทั้งสองฝ่ายรับรองอำนาจปกครองตนเองของฮ่องกง

กฎหมายทั้ง 2 ฉบับถูกรวมเป็นฉบับเดียวแล้วผ่านความเห็นชอบจากเหล่าวุฒิสมาชิกในวันพฤหัสบดีที่ 25 มิ.ย. โดยหลังจากนี้ร่างกฎหมายจะถูกส่งต่อไปให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนจะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้กฎหมาย

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐฯ เป็นการตอบโต้จีนที่ผลักดันการออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ มาบังคับใช้ในฮ่องกง ซึ่งสหรัฐฯ และชาติตะวันตกกังวลว่าจะเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพที่ชาวฮ่องกงมีมานานหลายสิบปี และเป็นการสิ้นสุดของนโยบาย 1 ประเทศ 2 ระบบที่จีนใช้มาตั้งแต่ปี 2540


จีนรุกคืบ ภาพถ่ายดาวเทียมเผย สิ่งปลูกสร้างผุดประชิดชายแดนอินเดีย

26 มิ.ย. 2563 เว็บไซต์บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานวันที่ 25 มิ.ย. อ้างภาพถ่ายดาวเทียมจากบริษัท Maxar ที่ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นสิ่งปลูกสร้างที่เชื่อว่าเป็นเต็นท์ และพื้นที่เก็บยุทโธปกรณ์ของกองทัพประชาชนจีน ในบริเวณหุบเขากัลวาน (Galwan Valley) บนเทือกเขาหิมาลัย

Ajai Shukla นักวิเคราะห์ด้านการทหารของอินเดียยังประเมินว่า พื้นที่ที่พบสิ่งปลูกสร้างของจีน น่าจะตั้งอยู่ห่างจากเส้น LAC ที่เปรียบเสมือนเส้นแบ่งระหว่างสองประเทศราว 1.5 กิโลเมตร ซึ่งอาจเพิ่มความสุ่มเสี่ยงเพราะที่ผ่านมาทั้งสองประเทศไม่เคยนำอาวุธล้ำเข้าไปในระยะ 2 กิโลเมตรจากเส้นแบ่ง LAC เพื่อป้องกันการละเมิดข้อตกลงที่ทั้งสองประเทศเคยลงนามเอาไว้เมื่อปี 2539 ว่า ห้ามทั้งสองฝ่ายยิงปืนหรือระเบิดภายในระยะ 2 กิโลเมตรจากเส้นดังกล่าว

ขณะที่สื่อท้องถิ่นของอินเดียรายงานว่า สิ่งปลูกสร้างที่เชื่อว่ากองทัพจีนเป็นฝ่ายติดตั้งประชิดชายแดนอินเดีย น่าจะเพิ่งติดตั้งในช่วงวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา สอดคล้องกับภาพถ่ายดาวเทียมในเดือนพฤษภาคมที่ยังไม่ปรากฎสิ่งปลูกสร้างเหล่านี้อยู่ในบริเวณดังกล่าว โดยสื่อท้องถิ่นของอินเดียยังเชื่อด้วยว่า สิ่งปลูกสร้างเหล่านี้อาจเป็นชนวนที่ทำให้ทหารอินเดียกับทหารจีนปะทะกันล่าสุด จนทำให้มีทหารอินเดียเสียชีวิต 20 นายและบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 76 นาย ซึ่งถืิอเป็นการปะทะกันครั้งแรกในรอบ 45 ปี ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต

หลังเกิดการปะทะเมื่อกลางเดือน รัฐบาลจีนและอินเดียพยายามลดความตึงเครียดลงด้วยการเปิดการเจรจา ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจในหมู่ชาวอินเดีย ที่ออกมาประท้วง เผาธงชาติจีนและรูปถ่ายของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ขณะที่บางส่วนรณรงค์ให้คว่ำบาตรสินค้าจากจีน โดยเชื่อว่าถ้าชาวอินเดียคว่ำบาตรสินค้าจีนเต็มรูปแบบ จีนจะสูญเสียรายได้ถึง 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 400,000 ล้านบาท


ทำบุญครบรอบ 1 ปี

เมื่อวันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2563 ครอบครัว “โรจนปัญญา” “คุณป้าแอ๊ว” นวลละออ โรจนปัญญา (ภรรยา) พร้อมด้วย ธนรัชต์ โรจนปัญญา “บุตรชาย” และญาติสนิทมิตรสหายได้จัดพิธีทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลครบรอบ 1 ปี ของการเสียชีวิต ผอ.วิรัช โรจนปัญญา ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ ยูเอสเอ เมือง ชิโนฮิลส์ รัฐเเคลิฟอร์เนีย

มติสมช.ชงศบค.ไฟเขียว ต่อพรก.ฉุกเฉิน ลากยาว1เดือนถึงสิ้นกค.

26 มิถุนายน พ.ศ. 2563, “สมช.” เสนอต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 1 เดือน ถึง 30 กรกฎาคม แจงเหตุผลสำคัญเพื่อรับมือผ่อนคลายกิจกรรมกิจการเฟส 5 ที่ล่อแหลมเสี่ยงโควิดระบาดมากที่สุด ย้ำ1 เดือนนี้ เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ แม้ในประเทศจะดี แต่ทั่วโลกน่าห่วง และพ.ร.ก.ฉุกเฉินมีประสิทธิภาพคุมไวรัสแพร่ได้ดีเล็งเปิดทางนักธุรกิจเข้าไทยไม่ต้องกักตัวดีเดย์ต้นกรกฎาคมโดยประเมินผลกระตุ้นเศรษฐกิจต้องคุ้มค่า แต่คุมเข้มตรวจหาเชื้อ3รอบ เสนอให้ศบค.ชุดใหม่เคาะ29มิย.นายกฯกำชับหาทางรับมือคลายล็อคระยะ5ตั้งแต่ต้น ย้ำรัฐต้องตรวจเข้ม การ์ดต้องไม่ตก ด้านรองโฆษก ศบค.แถลงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่1ราย เป็นนักศึกษากลับจากอียิปต์ ซึ่งไม่แสดงอาการ

เมื่อวันที่ 25มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 ประชุมประเมินความเหมาะสมในการขยายเวลาประกาศพรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ต่อพรก.ฉุกเฉิน1เดือนรับเฟส5

หลังการหารือ พล.อ.สมศักดิ์แถลงว่า เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน มีการพิจารณาเรื่องสำคัญคือการผ่อนคลายกิจกรรม กิจการระยะ 5 จะเริ่มวันที่ 1 กรกฎาคม เรียกว่าเป็นการผ่อนคลายทั้งหมด เช่น เปิดเรียน ไม่จำกัดเวลาเปิดห้างสรรพสินค้า สถานบริการผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบ อบ นวด ร้านเกมร้านอินเตอร์เน็ต ซึ่งรายละเอียดการประชุมทั้งหมด ต้องเสนอให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.ชุดใหญ่พิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้งวันที่ 29 มิถุนายน ส่วนการแข่งขันกีฬา จะให้มีผู้เข้าชมได้เมื่อไหร่นั้น ต้องรอดูการผ่อนคลายระยะที่ 5 ก่อน ถ้าสถานการณ์ดีขึ้น รวมถึงสถานการณ์โลกดีขึ้นค่อยพิจารณา เพราะวันนี้ศบค.ชุดเล็ก เขาประเมินเป็นรายวัน

“มติวันนี้คณะกรรมการฯพิจารณาเกี่ยวกับการขยายเวลาประกาศใช้พรก.ฉุกเฉิน ซึ่งเราดูทุกมิติ ทั้งความมั่นคง ข่าวกรอง กฎหมายและสาธารณสุข เห็นควรให้ขยายเวลาออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1-31 กรกฎาคม เพราะกิจกรรมที่ได้รับการผ่อนคลายระยะที่ 5 มีความล่อแหลมต่อการระบาดของโควิดมากที่สุด เช่น การเปิดเรียน เราจึงต้องให้ความสำคัญในการป้องกันอย่างมาก จึงจำเป็นต้องใช้พรก.ฉุกเฉินต่อไป

ที่สำคัญช่วง 1 เดือนนี้เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ เพราะสถานการณ์โลกยังน่าเป็นห่วง แม้ประเทศเราดีแต่ก็กังวลเรื่องระบาดรอบ 2 หากเป็นเช่นนั้น สิ่งที่เราทุ่มเทมาจะสูญเปล่า เราจึงต้องมีมาตรการสร้างความมั่นใจป้องกันการแพร่ระบาด นั่นคือ การใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” พล.อ.สมศักดิ์กล่าว

เพื่อประสิทธิภาพคุมโควิด

และให้เหตุผลในการต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า ถ้าไม่มีพรก.ฉุกเฉิน ต้องใช้กฎหมายถึง 5 ฉบับมาแทน แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะมีประสิทธิภาพเท่ากับพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เช่น พ.ร.บ.ควบคุมโรค จะเน้นการแก้ปัญหาเฉพาะจุด ไม่ใช่การทำงานเชิงรุก กลยุทธ์ป้องกันโควิดของเราตั้งแต่แรกคือ ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ควบคุมไม่ให้นำโรคจากต่างประเทศเข้ามาสู่ประเทศไทย ซึ่งมีประสิทธิภาพ เป็นกลไกสำคัญ เมื่อเราจะผ่อนคลายกิจกรรมล่อแหลมจึงต้องคงเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพนี้ต่อไป และเรื่องนี้ยังเป็นเพียงการพิจารณาของชุดเฉพาะกิจ ยังต้องเข้าที่ประชุมศบค.และครม.ต่อไป

‘สธ.’ปัดแฝงนัยยะการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายการเมืองออกมาโจมตีการคงพ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีนัยยะแฝงทางการเมือง นอกจากเพื่อป้องกันโควิด เลขาฯสมช.ปฎิเสธว่า การประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่มีนัยยะทางการเมืองตั้งแต่ต้นถึงปัจจุบันและอนาคต เห็นได้จากเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่มีการทำกิจกรรมทางการเมืองก็ไม่มีการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปดำเนินการ เพราะมีพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะอยู่ เราใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินด้วยเหตุผลทางสาธารณสุขเป็นหลัก และเมื่อประกาศผ่อนคลายเฟส 5 แล้ว ก็ไม่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน

นักธุรกิจเข้าไทยไม่ต้องกักตัว

พล.อ.สมศักดิ์ยังกล่าวถึงการพิจารณาจับคู่ประเทศท่องเที่ยว (Travel bubble)ว่า เรื่องนี้มีการพูดคุยแต่ยังไม่มีข้อยุติในเร็ววันนี้ ต้องใช้วลาประมาณ 1-2 เดือน ปัจจุบันก็ยังไม่มีประเทศใดประสานเข้ามา แต่ที่มีข้อยุติในเร็ววันคือ การเดินทางของนักธุรกิจที่ปัจจุบันมีบางส่วนเดินทางเข้ามาแล้วต้องถูกกักตัว 14 วัน แต่เราจะพิจารณาในส่วนนักธุรกิจที่เข้ามาเพียงไม่กี่วัน จะให้เขาเดินทางไปทำธุรกิจต่อได้เลย ไม่ต้องกักตัว แต่ต้องมีมาตรการเข้มข้นคือ ต้องตรวจหาเชื้อโควิดอย่างน้อย 3 ครั้งคือ ก่อนเดินทาง เมื่อมาถึงไทย และก่อนออกจากประเทศไทย รวมถึงระหว่างอยู่ประเทศไทยต้องติดตามตัวได้ตลอด คาดว่าจะให้เขายื่นเรื่องเข้ามาให้เราพิจารณาได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป

เน้น4ปท.ปกครองพิเศษกระตุ้นศก.

ทั้งนี้ ประเทศที่เราจะพิจารณาเบื้องต้นคือ ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ ฮ่องกงและจีน บางเมือง โดยพิจารณาประเทศต้นทางว่ามีขีดความสามารถทางสาธารณสุขใกล้เคียงกับเรา และที่สำคัญการจะให้เข้ามานั้นต้องประเมินแล้วว่ามีประสิทธิภาพกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนที่มีข้อกังวลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเพื่อรักษาการเจ็บป่วย (Medicai and wellness tourism ) การท่องเที่ยวเชิงอุตสาหกรรมทางการแพทย์นั้น เลขาฯสมช.ยืนยันว่าผู้ที่เข้ามา จะไม่ใช่เข้ามาเพื่อรักษาโควิด เพราะหากเป็นโควิดก็ไม่สามารถขึ้นเครื่องได้ตั้งแต่ต้น เวลาเข้ามาต้องอยู่รักษาตัวในโรงพยาบาล 14 วัน และหากรักษาเสร็จจะอยู่ต่อหรือไม่ก็ได้ ถือเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งมีหลายชาติสนใจส่วนนี้

นายกฯเรียกคุยภายในศบค.ชุดเล็ก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าการประชุม สมช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเรียกหารือ ศบค.ชุดเล็ก เป็นการภายใน โดยมีปลัดกระทรวงสาธารณสุข พล.อ. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะทำงานกลั่นกรองกิจการและกิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 และในฐานะกรรมการ ศบค. พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการ สมช. ร่วมหารือคาดเป็นการพิจารณาการตัดสินใจต่ออายุการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่

กำชับรับมือเปิดเฟส5ตั้งแต่ต้น

นายกฯแถลงหลังประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ถึงการรับมือการผ่อนปรนกิจกรรมและกิจการบางประเภทระยะ 5 วันที่ 1 กรกฎาคมว่า การผ่อนปรนระยะที่ 5 ต้องรับมือตั้งแต่ต้น ต้องคิดไว้ก่อนว่าจะเกิดปัญหาอะไร โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจและการทำมาหากินของประชาชน และมาตรการรัฐต้องมีอย่างไรในระดับเข้มข้นการติดตามตรวจสอบ หากเปิดแล้วปิดได้หากไม่ปฏิบัติตามมาตรการรัฐ ซึ่งรัฐบาลต้องคิดให้รอบด้าน ต้องดูว่ามีปัญหาเกี่ยวข้องอะไรบ้าง จะปลดล็อตตรงไหนอย่างไร มีมาตรการไหนรองรับและลดความเสี่ยงได้บ้าง

เตือนคนไทยต้องตั้งการ์ดต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวขอบคุณประชาชนที่ร่วมมือมาตลอด จนทำได้ถึงวันนี้มีความก้าวหน้าตามลำดับ รวมทั้งก้าวหน้าเรื่องวิจัยและพัฒนายารักษา ถือเป็นประเทศสำเร็จชั้นต้น ถ้าเทียบกับหลายประเทศที่มีศักยภาพขณะนี้ ซึ่งเป็นการร่วมมือของคนไทยทุกคนสร้างสรรค์สิ่งดีๆ นี่คือคำว่า รวมไทยสร้างชาติ จะเห็นว่าทุกคนใส่หน้ากาก เว้นระยะห่างและปฏิบัติตามมาตรการรัฐและต่อต้านน้อยมาก แต่มีหลายแห่งที่เห็นตามสื่อโดยเฉพาะสถานบริการเริ่มไม่ระวัง ดังนั้น ต้องสร้างความเข้าใจให้รับผิดชอบสังคม ไม่เช่นนั้นหากมีการแพร่ระบาดรอบใหม่ทุกอย่างจะเสียหายหมด จึงฝากสื่อช่วยเตือนด้วย เรื่องมาตรการสาธารณสุขได้เน้นทุกคนเคร่งครัดเข้มงวดกับตัวเอง ขณะที่สังคม ชุมชน และพื้นที่ต้องดูแล ทั้งจากส่วนกลางและท้องถิ่นที่ต้องเป็นกำลังหลักดูแลประชาชน ครอบครัว ตัวเองและคนอื่น เรียกว่ารวมไทยสร้างชาติ ซึ่งคนไทยทุกคนก็หวังให้ประเทศชาติปลอดภัย มีความสุข ก้าวหน้าพัฒนาก็ต้องร่วมมือกัน ตนยินดีรับข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ อะไรที่ดูแลได้ก็จะช่วยดูแล

ไทยไร้ติดเชื้อในปท.31วันต่อเนื่อง

ด้านนพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารสุข กล่าวว่า การผ่อนการมาตรการระยะนี้ พยายามผ่อนปรนให้ได้ดีที่สุด แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนด้วย ปัจจุบันกิจกรรมต่างๆในประเทศไทยเปิดให้บริการจำนวนมากแล้ว ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ในประเทศไทยดีขึ้น เพราะไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศติดเชื้อรวม 31 วันแล้ว เพราะความร่วมมืออย่างดีของประชาชน ตั้งแต่การผ่อนปรนในระยะที่ 1-4 ที่ผ่านมาโดยไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับประเทศอื่นที่ระบาดระลอก 2 จึงเป็นสาเหตุให้รัฐบาลมั่นใจในการผ่อนคลายมาตรการต่างๆด้วย เพื่อให้ใช้ชีวิตปกติ เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างเข้มงวด และหากได้รับความร่วมมือทุกอย่างจะดีขึ้น

พบป่วย1ราย-นศ.กลับจากอียิปต์

วันเดียวกัน พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษก ศบค.แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันว่า ไทยพบผู้ป่วยใหม่ 1 คนในสถานที่กักตัวของรัฐ ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสมรวม 3,158 คน หายป่วยเพิ่ม 12 คน รวม 3,038 คน รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 62 คน และเสียชีวิตคงที่ 58 คน สำหรับผู้ป่วยใหม่เป็นนักศึกษาชาย อายุ 24 ปี เดินทางมาจากอียิปต์ เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐที่จ.ชลบุรี ซึ่งในเที่ยวบินเดียวกันมีผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้แล้ว 2 คน โดยผู้ป่วยรายใหม่ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา ไม่มีอาการป่วย

ไทยมีวัคซีนใช้ไตรมาสแรกปี64

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังหารือและรับฟังความคืบหน้าการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัดว่า บริษัทไบโอเนท-เอเชีย จำกัด ได้รับรายงานผลทดลองวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด DNA ในหนูทดลองให้ผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อโรคดี ขณะนี้เตรียมให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบคุณภาพ และส่งเรื่องขอคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) วิจัยในมนุษย์ต่อไป หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนประเทศไทย และคนไทยจะมีวัคซีนใช้ไม่เกิน 9 เดือน สำหรับการทดลองในคนระยะที่ 3 ต้องใช้กลุ่มตัวอย่างในพื้นที่ระบาดของโรคนั้น มีหลายประเทศในเอเชียที่ประสานขอเข้าร่วมการทดลองในมนุษย์ด้วย อยู่ที่การเจรจาเงื่อนไขกัน

“บริษัท ไบโอเนทฯ ยืนยันต้องการให้นวัตกรรมนี้เป็นสมบัติของคนไทย คนไทยต้องได้รับวัคซีนก่อน จึงเป็นเรื่องต้องชื่นชม ขอบคุณ ทราบว่าบริษัทเตรียมความพร้อมผลิตระดับอุตสาหกรรมไว้หมดแล้ว เรื่องนี้รัฐบาลอำนวยความสะดวกเต็มที่บนพื้นฐานความปลอดภัยของประชาชน” นายอนุทิน กล่าว

คาดวิจัยในคนพร้อมลิงปลายกค.

นายวิฑูรย์ วงศ์หาญกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัด กล่าวว่า การพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด DNA ผลการทดลองในหนูให้ผลดี จากนี้จะนำรายละเอียดไปคุยกับ อย.เพื่อให้มั่นใจเรื่องความปลอดภัยต่อไป มีหลายประเทศทั้งในยุโรป และอเมริกา ประมาณ 3-4 เจ้า ผลิตวัคซีนป้องโควิด-19 โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกันนี้ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศเหล่านั้นให้การรับรองแล้ว องค์การอนามัยโลกก็ให้ความมั่นใจ ดังนั้นกรณีเร่งด่วนเช่นนี้เราลัดขั้นตอนไปทดลองมนุษย์ระยะที่ 1 เลย โดยไม่ต้องผ่านการวิจัยในลิง โดยจะเริ่มปลายเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ส่วนรายละเอียดกลุ่มตัวอย่างที่จะใช้นั้นอยู่ระหว่างการวางแผน แต่จะใช้จำนวนไม่มาก ทั้งนี้ เราจะทดลองในคนระยะ 1 คู่กับการทดลองในลิงด้วย

บุคลากรการแพทย์ได้กลุ่มแรก

นายวิฑูรย์ กล่าวต่อว่า เราจะนำข้อมูลผลการทดลองในหนูทดลอง รวมถึงข้อมูลความปลอดภัยของการทดลองวัคซีนในต่างประเทศที่ใช้เทคนิคเดียวกันนี้และปลอดเหล่านี้ไปยื่นต่อ อย.พิจารณา เรื่องวิจัยในมนุษย์ ซึ่งจากประสบการณ์ และองค์ความรู้มั่นใจว่าการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ชนิด DNA นั้น ถ้าเป็นไปตามแผนจะสำเร็จไม่เกิน 9 เดือนนับจากนี้ หรือประมาณไตรมาสแรกปี 2564 จะผลิตวัคซีนได้ อย่างน้อยก็ให้กลุ่มเสี่ยงอย่างบุคลากรการแพทย์ได้

เล็งถกสัปดาห์หน้า-ยึดปลอดภัย

ด้าน นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย.กล่าวว่า ในการพิจารณาอนุญาตให้มีการวิจัยในมนุษย์นั้น อย.ต้องดูเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก และดูอย่างเข้มข้น เพราะจะพัฒนาข้ามขั้นตอนจากลิงมาคนเลย ดังนั้น บริษัทไบโอเนทฯ ต้องนำข้อมูลความปลอดภัยมาแสดงอย่างรอบด้านว่าปลอดภัยจริง อย่างกรณีวัคซีนที่ประเทศอื่นใช้เทคนิคเดียวกันนี้ได้รับการรับรองความปลอดภัยแล้วจริงๆ มีขั้นตอนอย่างไร ถ้าแสดงให้อย.เห็นไม่ได้ก็ไม่อนุญาต แต่ถ้ายืนยันความปลอดภัยได้จะอนุญาต การพิจารณาไม่เกินสัปดาห์หน้า