ข่าว
ปธ.ศาลฏีกา-ปธ.ศาลปกครองสูงสุด ตั้ง'4 กสม.'ปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวแล้ว

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา และนายปิยะ ปะตังทา ประธานศาลปกครองสูงสุด ได้นัดหารือเพื่อร่วมกันแต่งตั้งบุคคลทำหน้าที่แทนผู้ปฏิบัติหน้าที่กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) เป็นการชั่วคราว ซึ่งประธานศาลฎีกา และประธานศาลปกครองสูงสุด ได้ร่วมกันพิจารณาในข้อกฎหมาย ประวัติและผลงานของผู้อยู่ปฏิบัติหน้าที่กสม.ที่เหลืออยู่แล้ว เห็นว่า นายวัส ติงสมิตร ผู้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกสม.เป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นผู้มีประสบการณ์ในการสอนวิชากฎหมายซึ่งเกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนในมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนหลายแห่งเป็นเวลายาวนาน จัดเป็นผู้มีคุณสมบัติตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ.2560 มาตรา 8(2)

ส่วนนางฉัตรสุดา จันทร์ดียิ่ง และนางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ กสม. เมื่อพิจารณาจากประวัติและผลงานก่อนเข้ารับหน้าที่กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตลอดจนประวัติและผลงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ กสม. เห็นว่า มีผลงานโดดเด่นเป็นประจักษ์ในด้านวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตของไทยที่ยังประโยชน์ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน จัดเป็นผู้มีคุณสมบัติตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ.2560 มาตรา 8(5)

ทั้งนี้ ประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุด ได้ร่วมกันพิจารณารายชื่อของบุคคล ที่เลขาธิการวุฒิสภาในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชน ส่งบัญชีรายชื่อมาว่าเป็นบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเช่นเดียวกับ กสม. และรายชื่อของบุคคลที่แจ้งความประสงค์ด้วยตนเองเพื่อรับการแต่งตั้ง โดยเมื่อพิจารณาจากประวัติ การศึกษา ความรู้ และผลงานที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนที่ผ่านมา เห็นว่า นายสมณ์ พรหมรส , น.ส.อารีวรรณ จตุทอง , นางภิรมย์ ศรีประเสริฐ และนายสุวัฒน์ เทพอารักษ์ เป็นผู้ซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ กสม. เป็นการชั่วคราว จึงร่วมกันมีคำสั่งแต่งตั้งบุคคลทั้ง 4 และมอบหมายให้สำนักประธานศาลฎีกา แจ้งคำสั่งแต่งตั้งบุคคลทั้งสี่ไปยังผู้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

การไต่สวนเพื่อยื่นถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกจากตำแหน่ง มีความเป็นมาอย่างไร

คุณอาจเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน เรื่องที่ว่ากันว่า อำนาจจากต่างชาติ อาจจะเป็นภัยต่อการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยล่าสุดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ได้ลงมติสนับสนุนให้เริ่มกระบวนการถอดถอนนายทรัมป์อย่างเป็นทางการแล้ว

นายทรัมป์กำลังเผชิญกับกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากข้อกล่าวหาที่ว่า เขาพยายามขอความช่วยเหลือจากยูเครนอย่างไม่เหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสให้ตัวเองได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง

นายทรัมป์ถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎหมายด้วยการกดดันให้ผู้นำยูเครนขุดคุ้ยข้อมูลที่สร้างความเสียหายต่อคู่แข่งทางการเมืองของเขา

เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา เขาได้ขอให้ประธานาธิบดียูเครน สอบสวนนายโจ ไบเดน หนึ่งในตัวเต็งที่จะชิงตำแหน่งประธานาธิบดีไปจากเขาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า เรื่องนี้มีความสำคัญ เพราะว่าการขอให้ต่างชาติช่วยให้ชนะเลือกตั้งสหรัฐฯ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

กระบวนกสนถอดถอนที่ในท้ายที่สุด อาจทำให้นายทรัมป์ต้องถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังดำเนินต่อไป

แต่มีการถกเถียงกันอย่างดุเดือดว่า นายทรัมป์ได้ละเมิดกฎหมาย หรือกระทำความผิดที่อาจถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งหรือไม่ ส่วนตัวเขากล่าวว่า เขาไม่ได้ทำอะไรผิด

เรื่องนี้เริ่มมาจากคำร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่ข่าวกรองที่ไม่ระบุนาม เมื่อเดือน ส.ค. เขาได้เขียนจดหมายแสดงความกังวลเกี่ยวกับการสนทนาทางโทรศัพท์ของนายทรัมป์กับประธานาธิบดียูเครนในวันที่ 25 ก.ค.

เขาระบุว่ามี “ความกังวลอย่างยิ่ง” ว่านายทรัมป์ได้ใช้ตำแหน่งประธานาธิบดีในการ “เชื้อเชิญให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซง” การเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2020

ในเวลาต่อมา ได้มีการเปิดเผยบทสนทนาทางโทรศัพท์คร่าว ๆ โดยระบุว่า นายทรัมป์ได้ร้องขอให้ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน สอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเต็งที่จะชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเลือกตั้งปีหน้า รวมถึงสอบสวนลูกชายของนายไบเดนด้วย

การสนทนาทางโทรศัพท์ครั้งนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่นายทรัมป์ได้สั่งยุติการส่งเงินช่วยเหลือด้านการทหารแก่ยูเครนหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อมาเจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่ง ได้ให้ปากคำว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ระบุชัดเจนว่า ยูเครนต้องสอบสวนนายไบเดน สหรัฐฯ จึงจะส่งเงินช่วยเหลือก้อนนี้ให้ แต่ทำเนียบขาวปฏิเสธเรื่องนี้

ฮันเทอร์ ไบเดน โจ ไบเดน และโดนัลด์ ทรัมป์

นายทรัมป์และผู้สนับสนุนได้กล่าวหานายไบเดนว่า ได้ใช้อำนาจโดยมิชอบในการกดดันให้ยูเครนยุติการสอบสวนทางอาญาที่อาจจะส่งผลกระทบต่อนายฮันเทอร์ ไบเดน ลูกชายของนายโจ ไบเดน ซึ่งทำงานในบริษัทพลังงานของยูเครน

แต่ข้อกล่าวหาเหล่านี้ถูกมองว่าไม่มีความน่าเชื่อถือ ไม่มีหลักฐานว่านายโจ ไบเดนได้ดำเนินการใด ๆ ในการจงใจเอื้อประโยชน์ให้ลูกชายของเขา และยังไม่มีหลักฐานว่านายฮันเทอร์ ไบเดน ได้กระทำความผิดด้วย

สมาชิกรัฐสภาจากพรรคเดโมแครตระบุว่า การสนทนาทางโทรศัพท์เป็นข้อพิสูจน์ว่านายทรัมป์ละเมิดกฎหมาย ด้วยการขอให้ต่างชาติพยายามสร้างมลทินต่อตัวนายไบเดนก่อนการเลือกตั้ง

แต่ก็มีการถกเถียงกันว่า การเชื้อเชิญให้รัฐบาลต่างชาติสอบสวนคู่แข่งทางการเมืองนั้น เป็นการกระทำความผิดที่ทำให้ต้องถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งหรือไม่ ประธานาธิบดีทรัมป์ เพิกเฉยต่อการวิพากษ์วิจารณ์ที่ขยายวงกว้างขึ้น โดยระบุว่าเป็น “การล่าแม่มด”

อย่างไรก็ตาม การสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อเดือน ก.ค. ก็คือเหตุผลสำคัญที่ทางฝ่ายเดโมแครตพยายามใช้ในการขับนายทรัมป์ออกจากตำแหน่ง แต่การจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ สมาชิกพรรครีพับลิกันของนายทรัมป์ส่วนหนึ่งจะต้องลงมติร่วมกับฝ่ายเดโมแครตด้วย

นายทรัมป์บอกว่า เขาได้โทรศัพท์หาประธานาธิบดีเซเลนสกี ของยูเครน เมื่อวันที่ 25 ก.ค. เพื่อแสดงความยินดีที่คว้าชัยในการเลือกตั้งเมื่อไม่นานนี้ โดยนายเซเลนสกี อดีตดาราโทรทัศน์และไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมือง ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนอย่างถล่มทลายในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา


ชิลีล้มประชุมเอเปก-ค็อป 25, เลบานอน-อิรักก็ป่วน

เมื่อ 30 ต.ค. 62 ประธานาธิบดีเซบาสเตียน พิเนรา แห่งชิลี ประกาศล้มเลิกการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่ระดับโลก 2 งาน ทั้งการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ใน 16-17 พ.ย.62 และการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง (ค็อป 25) ใน 2-13 ธ.ค.62 โดยระบุว่าเพื่อเร่งแก้ปัญหาความไม่สงบในประเทศก่อน หลังประชาชนลุกฮือประท้วงรุนแรง 12 วัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 20 คน บาดเจ็บหลายร้อยคน ถูกจับกว่า 7,000 คน ชนวนเหตุมาจากความโกรธแค้น ที่รัฐบาลจะขึ้นค่ารถไฟใต้ดิน ก่อนลุกลามไปปัญหาอื่นๆ รวมทั้งความไม่เท่าเทียมในสังคม รายได้ต่ำ ค่าครองชีพและค่ารักษาพยาบาลสูง

การประชุมเอเปกจะมีผู้นำโลกเข้าร่วมกว่า 20 คน รวมทั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน ซึ่งทั้งคู่อาจลงนามข้อตกลงยุติสงครามการค้าขั้นที่ 1 ด้วย ขณะที่ค็อป 25 จะมีผู้แทนจากกว่า 190 ประเทศเข้าร่วมเพื่อหาทางลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนตามข้อตกลงปารีส โดยยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการย้ายการประชุมไปจัดที่ประเทศอื่นหรือไม่เมื่อใด แต่การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อเมริกาใต้ “โคปา ลิเบอร์– ตาโดเรส” รอบชิงชนะเลิศระหว่างทีมลิเวอร์เพลตของอาร์เจนตินา และทีมฟลามิงโกของบราซิลจะมีขึ้นตามกำหนดใน 23 พ.ย. ทั้งนี้ การยกเลิกการประชุมยังจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของชิลีซึ่งได้ชื่อว่ามีเสถียรภาพและเศรษฐกิจดีที่สุดในละตินอเมริกา

ส่วนการประท้วงขับไล่รัฐบาลนายกรัฐมนตรีซาอัด ฮาริรี ในเลบานอน ซึ่งปะทุขึ้นตั้งแต่ 17 ต.ค. เพราะประชาชนโกรธแค้นเรื่องคอร์รัปชัน ปัญหาเศรษฐกิจและอื่นๆยังไม่ยุติ โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้ปฏิรูปประเทศแบบถอนรากถอนโคน แม้ฮาริรีนำคณะรัฐบาลลาออกแล้วและประกาศปรับ ครม.ครั้งใหญ่ ขณะที่ประธานาธิบดีมิเชล อวน ยอมรับการลาออก แต่ขอให้ฮาริรีนำรัฐบาลรักษาการต่อไปจนกว่าจะมีการตั้งรัฐบาลใหม่

ขณะที่การประท้วงในอิรักทั่วประเทศที่ยืดเยื้อมา 4 สัปดาห์ เพราะประชาชนโกรธแค้นเรื่องคอร์รัปชัน ในหมู่ผู้นำและวิกฤติเศรษฐกิจ ยิ่งขยายวงกว้าง ทำให้อนาคตของนายกรัฐมนตรีอาเดล อับดุล มาห์ดี ไม่แน่นอน โดยล่าสุดเมื่อ 30 ต.ค. กองกำลังความมั่นคงกราดยิงผู้ประท้วงที่พยายามบุกเข้าเขตปลอดภัย หรือ “กรีนโซน” ในกรุงแบกแดด มีผู้เสียชีวิตอีก 2 คน บาดเจ็บกว่า 175 คน หลังการประท้วงที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 250 คน.


เกาหลีเหนือ โวสำเร็จอีกแล้ว ทดสอบระบบยิงจรวดขนาดใหญ่บึ้ม

เกาหลีเหนือ คุยโว ประสบความสำเร็จทดสอบระบบยิงจรวดหลายลำกล้องขนาดใหญ่มาก หลังกองทัพเกาหลีใต้-ญี่ปุ่นเผยเกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธ 2 ลูกตกทะเลอีกแล้ว

เมื่อ 1 พ.ย.62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สื่อกระบอกเสียงทางการเกาหลีเหนือ ภายใต้การนำของคิม จอง อึน ประกาศประสบความสำเร็จในการทดสอบระบบยิงจรวดหลายลำกล้องขนาดใหญ่มาก นับเป็นการทดสอบระบบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ

ก่อนหน้านี้ กองทัพเกาหลีใต้และกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น เผยเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า เกาหลีเหนือได้มีการทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 2 ลูก จากจังหวัดพยอนกันมาตกในทะเลระหว่างญี่ปุ่นกับคาบสมุทรเกาหลี โดยขีปนาวุธได้บินไกลเป็นระยะทางประมาณ 370 กิโลเมตร จนนับเป็นการทดสอบยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ แต่ถือเป็นครั้งแรกในรอบเดือนตุลาคม นับตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเกาหลีเหนือได้อ้างว่าทดสอบยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำกลางทะเล.


ศาลปกครองกลางไม่รับฟ้องคดีแบน 3 สารเคมี

ศาลปกครองกลาง สั่งไม่รับฟ้อง เครือข่ายเกษตรกร 6 จังหวัด ฟ้องเพิกถอนแบน พาราควอต ชี้ ขั้นตอนแค่เตรียมรอประกาศ ยังไม่มีผลเป็นกฎ คดีรอลุ้นยังมีต่ออุทธรณ์ได้อีก

1 พ.ย. 62 ที่ ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ ศาลมีคำสั่งไม่รับฟ้อง คดีหมายเลขดำ ส.26/2562 น.ส.อัญชุลี ลักษณ์อำนวยพร ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง พร้อมด้วยเครือข่ายเกษตรกร 6 จังหวัด 1,091 คน ยื่นฟ้องคณะกรรมการวัตถุอันตราย , คณะกรรมการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

จากกรณีคณะกรรมการวัตถุอันตราย ได้ออกคำสั่งเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 62 ให้ยกเลิกการใช้สารเคมีป้องกัน กำจัดศัตรูพืชทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเสต และ คลอร์ไพริฟอส พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อทุเลาการบังคับตามมติดังกล่าว ที่กำหนดจะให้เริ่มแบนสามเคมีทั้ง 3 ชนิด ในวันที่ 1 ธ.ค. 62 ไว้เป็นการชั่วคราว ซึ่งผู้ฟ้องทั้ง 1,091 บรรยายฟ้องว่า ผู้ถูกฟ้องที่ 1 มีมติในการประชุมครั้งที่ 41-9/2562 เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 62 เห็นชอบตามที่กรมวิชาการเกษตร เสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงชนิดของวัตถุอันตราย ไกลโฟเสต คลอร์ไพริฟอส และ พาราควอต จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 คือ วัตถุอันตรายที่ห้ามมิให้มีการผลิต การนำเข้า การส่งออก หรือการมีไว้ในครอบครอง และผู้ถูกฟ้องที่ 2 มีมติในการประชุมครั้งที่ 4/2560 ให้ยกเลิกการใช้วัตถุอันตรายดังกล่าว เป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผู้ถูกฟ้องที่ 3 ไม่มีมาตรการในการเยียวยาเกษตรกรผู้ได้รับความเสียหายจากมติของผู้ถูกฟ้องที่ 1 - 2 ดังกล่าว ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย

โดย "ศาลปกครองกลาง" พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงชนิดของวัตถุอันตรายไกลโฟเสต , คลอร์ไพริฟอส และ พาราควอต จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 นั้น

พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 มาตรา 18 วรรคสอง กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ร่วมกันระหว่างผู้ถูกฟ้องที่ 1 กับ รมว.อุตสาหกรรม โดยการออกเป็นประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เมื่อมติของผู้ถูกฟ้องที่ 1 ในการประชุมครั้งที่ 41-9/2562 เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 62 เป็นเพียงมติเห็นชอบตามข้อเสนอ ของกรมวิชาการเกษตรที่ขอให้มีการเปลี่ยนแปลงชนิดของวัตถุอันตราย ไกลโฟเสต คลอร์ไพริฟอส และพาราควอต จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยกรมวิชาการเกษตรจะต้องไปจัดทำร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนแล้วนำร่างประกาศดังกล่าวมาเสนอผู้ถูกฟ้องที่ 1 ในการประชุมครั้งต่อไป มติของผู้ถูกฟ้องที่ 1 ดังกล่าวจึงเป็นเพียงขั้นตอนการเตรียมการที่จะจัดให้มีประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ยังไม่มีผลทางกฎหมายเป็นกฎ คำสั่ง หรือการกระทำอื่นใดที่จะนำมาฟ้องขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนได้ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบกับมาตรา 72 วรรคหนึ่ง (1) พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 เช่นเดียวกับมติของผู้ถูกฟ้องที่ 2 ในการประชุมครั้งที่ 4/2560 ที่มีมติให้ยกเลิกการใช้วัตถุอันตราย ไกลโฟเสต คลอร์ไพริฟอส และ พาราควอต ก็เป็นเพียงการเสนอความเห็นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูงตามคำสั่งกระทรวงสาธารณสุข ที่ 2383/2559

เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง ลงวันที่ 26 ธ.ค. 59 เท่านั้น ไม่มีผลทางกฎหมายเป็นกฎ คำสั่ง หรือการกระทำอื่นใดของฝ่ายปกครองที่จะนำมาฟ้องขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนได้เช่นกัน "ศาลปกครองกลาง" จึงไม่อาจรับคำฟ้องของผู้ฟ้องทั้ง 1,091 คน ไว้พิจารณาได้ และไม่จำต้องวินิจฉัยตามคำขอเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องดังกล่าว ดังนั้น "ศาลปกครองกลาง" จึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ดี คำวินิจฉัยนี้เป็นการพิจารณาของศาลปกครองชั้นต้น ซึ่งคู่กรณีสามารถที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดในคำสั่งที่ศาลชั้นต้นไม่รับฟ้องได้ภายใน 1 เดือนนับจากที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว

ไอซิส ยันแล้ว บักห์ดาดี ตายจริง ตั้งหัวหน้ากลุ่มคนใหม่แทนทันที

1 พ.ย. 2562 13:35 น. ไอซิส ออกมายืนยัน อาบู บาการ์ อัล บักห์ดาดี เสียชีวิตแล้วจริง เตือนอเมริกาอย่ามาฉลองการสิ้นชีพของบักห์ดาดี พร้อมประกาศแต่งตั้งหัวหน้าไอซิสคนใหม่สืบต่อทันที เรียกร้องมุสลิมสาบานจะจงรักภักดี

เมื่อ 1 พ.ย.62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ‘Amaq’ สื่อกระบอกเสียงของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอซิส ยืนยันครั้งแรก นายอาบู บาการ์ อัล บักห์ดาดี หัวหน้าไอซิส เสียชีวิตแล้วจริง พร้อมกับประกาศชื่อผู้นำไอซิสคนใหม่ คือ นายอาบู อิบราฮิม อัล ฮาชีมี อัล กูราชี (Abu Ibrahim al-Hashimi al-Qurashi) เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯแจ้งข่าวนี้ต่อชาวโลก เป็นคนแรกว่า นายบักห์ดาดี หัวหน้าไอซิส สิ้นชีพฆ่าตัวตายแล้ว หลังจากกำลังทหารปฏิบัติการพิเศษสหรัฐฯ บุกจู่โจมบ้านที่หลบซ่อนของเขา และสมาชิกครอบครัว รวมถึงสมาชิกไอซิส ที่จังหวัดอิดลิบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา

ด้านนายอาบู ฮัมซา อัล กูราชี โฆษกคนใหม่ของไอซิส ยังเตือนสหรัฐอเมริกาด้วยว่า อย่ามาเฉลิมฉลองที่บักห์ดาดีเสียชีวิต พร้อมกันนั้น ยังยืนยันด้วยว่า โฆษกไอซิสคนก่อนของไอซิส นายอาบู อัล ฮัสซัน อัลมูฮาจีร์ ก็ถูกสังหารจากปฏิบัติการร่วมมือของกำลังทหารสหรัฐฯกับกองกำลังชาวเคิร์ดในซีเรีย ไม่กี่ชั่วโมง หลังจากได้จู่โจมเป้าหมายสำคัญ คือนายบักห์าดี โดยนายอัล-กูราชี โฆษกคนใหม่ของไอซิส ยังเรียกร้องให้ชาวมุสลิมสาบานตนจะจงรักภักดีต่อนายอาบู อิบราฮิม อัล-ฮาชีมี หัวหน้าคนใหม่ไอซิส