ข่าว
"นะคะมุย" พร้อมเจรจา "เฉลิม" เพื่อความสงบชายแดนสองฝั่ง

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 พล.ต.นะคะมุย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด องค์กรกระเหรี่ยงโกล์ทูบอ หรือ เคเคโอ(Klo Htoo Bor Karen Organization:KKO) ซึ่งเป็นองค์กรใหม่ของกองกำลังกระเหรี่ยงพุทธดีเคบีเอ ( Democratic Karen Benevolent Army:DKBA) เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนพม่า ต่างประเทศและสื่อมวลชนไทยต่อกรณี สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ประกาศจับพล.ต.นำคำมวย เป็น 1 ในผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ พร้อมตั้งรางวัลนำจับ 1 ล้านบาท

พล.ต.นะคะมุย เริ่มต้นแถลงข่าวด้วยการขอบคุณสื่อมวลชนพม่า 42 คนที่เดินทางจากกรุงย่างกุ้งและกรุงเนปิดอว์จำนวน 42 คน สื่อต่างประเทศ 4 คน และสื่อมวลชนไทย 10 คน โดยพ.อ.พิเศษ ไทเกอร์ ผู้บังคับการหน่วยรบพิเศษ สภาสันติภาพรัฐกระเหรี่ยง (KNU/KNPL Peace Council) ทำหน้าที่เป็นล่ามภาษาไทย กล่าวว่า พล.ต.นะคะมุย ต้องแถลงข่าวเป็นครั้งที่ 2 หลังแถลงครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา เพราะยังมีสื่อพม่าจำนวนมากต้องการทราบข่าวกรณีที่ทางการไทยประกาศให้พล.ต.นะคะมุย เป็น 1 ใน 25 ผู้ค้ายาเสพติด

ทั้งนี้ น.ส.ฐปนีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าว 3 มิติ ได้สัมภาษณ์พิเศษ พล.ต.นะคำมวย มีประเด็นที่น่าสนใจ จึงขอถอดเทปนำมาเสนอดังนี้

"ผมต้องการแสดงความบริสุทธิ์จึงต้องแถลงข่าวอีกครั้ง หากปล่อยให้เรื่องนี้เนิ่นนานไปเป็นเรื่องที่ไม่ดี ผมต้องพัฒนาบ้านเมืองของผม และผมได้แสดงความบริสุทธ์ไปแล้ว ผมเป็นประชาชนของประเทศพม่า จะให้ผมไปสู้คดีในประเทศไทยได้อย่างไรในเมื่อผมไม่ได้ทำผิด ในเมื่อไทยก็มี DEA พม่าก็มี DEA (หน่วยงานด้านยาเสพติด) ก็เชิญมาตรวจสอบผมได้เลยว่าค้ายาเสพติดจริงหรือไม่"พล.ต.นะคะมุย กล่าว


เมื่อพล.ต.นะคะมุย ยืนยันไม่มอบตัว แต่รัฐบาลไทยได้ทำหนังสือถึงรัฐบาลพม่าจะทำอย่างไร?

การที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยถูกศาลตัดสินให้มีความผิดเต็มๆ ทำไมรองนายกฯเฉลิม ไม่ไปจับตัวมาลงโทษในประเทศไทย หรือกฏหมายไทยไม่มีความหมาย ผมพล.ต.นะคำมวย ผมไม่ได้ทำผิด ไม่ได้ให้ประชาชนของผมค้ายาเสพติด แล้วทำไมต้องให้ผมไปมอบตัว ก่อนจับผม ให้จับอดีตนายกฯทักษิณก่อนดีไหม เพราะเขาได้ทำผิดต่อประเทศไทย ผมพยายามต่อสู้เพื่อสันติภาพของชาวกระเหรี่ยง จนขณะนี้เรามีความปรองดองและกำลังสร้างสันติภาพกับพม่า


ข้อสงสัยว่ากองกำลังกระเหรี่ยงดีเคบีเอ นำงบประมาณจากไหนมาใช้หากไม่ได้ค้ายาเสพติด?
งบประมาณที่ใช้ทางทหารและการพัฒนามาจากเงินรายได้ทำไร่ข้าวโพดและเหมืองแร่ซึ่งมีนักธุรกิจไทยเข้ามาทำสัมปทานเฉพาะข้าวโพดจะต้องจ่ายให้กองกำลังถังละ 6 บาท นอกจากนี้ยังมีภาษีเงินได้จากการสัมปทานเหมืองแร่ เหมืองถ่านหินอีกจำนวนมาก โดยเงินรายได้เหล่านั้นมีการนำมาสร้างวัด สร้างโรงเรียนและโรงพยาบาลให้กับชาวกระเหรี่ยง


เรื่องจะต่อสู้ตามกระบวนการพม่าจะทำอย่างไร?

ล่าสุดยังไม่มีหนังสือจากทางการไทยมาถึงพม่าผมจะรอดูว่ามีเอกสารอะไร มีหลักฐานอะไร พม่าจับตัวผมไม่ได้หรอก เพราะไม่มีหลักฐาน ถ้ามีจดหมายมาแล้ว ก็ต้องผ่านการตรวจสอบของพม่า เมื่อถึงเวลานั้นผมจะฟ้องร้องรัฐบาลไทยเพื่อความเป็นธรรม เพราะผมไม่ผิด


การที่พล.ต.นะคะมุย ยืนกรานไม่มอบตัวแบบนี้จะส่งผลกระทบกับชายแดนอย่างไร?

ผมเป็นทหารไม่อยากจับปืนทำสงคราม เพราะผลกระทบจะเกิดกับประชาชนตามแนวชายแดน เมื่อวันนี้ผมแถลงข่าวแล้ว ก็ขอให้คนกล่าวถึงผมมาทำความเข้าใจและให้ความร่วมมือ ผมเป็นทหารสู้รบมานาน อยากให้ชายแดนชื่นมื่น มีความปรองดอง เมื่อเกิดการสู้รบก็กระทบกับประชาชนไม่ใช่ตัวผม สงครามนั้นก็เกิดง่าย แต่ทำให้สงบยาก


แสดงว่าจะไม่ตอบโต้ด้วยอาวุธ?

ใช่ แต่ยังมีการปิดด่านในพื้นที่ของดีเคบีเอ แต่จะเปิดให้ผู้ประกอบการไทยในบางจุด


จะฝากอะไรถึงคุณเฉลิม?

อยากนำเรียนถึงคุณเฉลิม การที่ท่านให้สัมภาษณ์เช่นนั้น ท่านคำนึงถึงพี่น้องตามแนวชายแดนหรือไม่ เขาอยู่อย่างสงบสุข การที่ท่านให้สัมภาษณ์เช่นนี้ท่านไม่อยากให้เกิดความปรองดองของคนชายแดนหรือ การพาดพิงผู้นำทำให้กระทบภาพลักษณ์ของผู้นำของเขาก็ต้องกระทบกับภาพลักษณ์ของชาวกระเหรี่ยง


แล้วจะขอเจรจากับคุณเฉลิมหรือไม่?

หวังว่าจะมีการตั้งโต๊ะเจรจากัน ถ้าคุณเฉลิมต้องการความสงบสุขก็น่าจะเจรจากับผม คุยกันให้ชายแดนสงบสุข


คิดอย่างไรกับหมายจับ เครียดไหม?

ผมสงสัยว่าทำไมเอาเรื่องเมื่อ 10 ปีที่แล้วมาประกาศกันตอนนี้ ซึ่งความร่วมมือของดีเคบีเอกับพม่ากำลังไปได้ดีการมาสัมภาษณ์แบบนี้ทำให้ความสัมพันธ์ของชาวกระเหรี่ยงลดลงทำให้คนกระเหรี่ยงแตกแยก ท่านกำลังสร้างความแตกแยกให้คนกระเหรี่ยงหรือไม่


ถ้าเช่นนั้นปัญหานี้จะส่งผลให้มีการเปลี่ยนผู้นำดีเคบีเอหรือไม่?

ไม่มีผลหรอก ทุกคนเข้าใจผมไม่เกี่ยวกับยาเสพติด พม่าก็รู้ และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำเด็ดขาด ทุกคนยังสนับสนุนผม


แล้วปัญหานี้จะกระทบกับการเจรจาหยุดยิงของเคเคโอหรือไม่?

อาจมีผลต่อการสร้างความปรองดองบ้างแต่พม่าไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้มาเป็นเงื่อนไข

พระราชทานรางวัล "รัฐบาลยิ่งลักษณ์"

ที่ศูนย์สารสนเทศ สำนักราชเลขาธิการ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 11 พฤษภาคม พลอากาศเอก กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในการมอบรางวัลพระราชทาน "เทพทอง" ครั้งที่ 13 ประจำปี 2555 ซึ่งสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์จัดขึ้น โดยมี นายวีระ ลิมปะพันธุ์ นายกสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานกรรมการอำนวยการ การพระราชทานรางวัล "เทพทอง" ครั้งที่ 13 กล่าวรายงาน และมอบหนังสือแด่ผู้แทนพระองค์

จากนั้นผู้แทนพระองค์มอบรางวัลพระราชทาน "เทพทอง" แก่องค์กรดีเด่นจำนวน 21 องค์กร นักวิทยุโทรทัศน์ดีเด่น 21 ราย นักวิทยุกระจายเสียงดีเด่น 21 ราย และผู้ให้การสนับสนุนการจัดงาน 21 ราย

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นหนึ่งในองค์กรดีเด่นที่ได้รับรางวัลพระราชทาน "เทพทอง" ในปีนี้ โดยนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้นางนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้เข้ารับรางวัลพระราชทาน "เทพทอง" ในโอกาสดังกล่าวแทน

สำหรับ เหตุผลที่รัฐบาลได้รับรางวัลพระราชทาน "เทพทอง" นั้น หนังสือที่ระลึกพิธีพระราชทานรางวัล "เทพทอง" ครั้งที่ 13 ระบุว่า

"เป็นรัฐบาลที่เทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ด้วยความจริงใจ พาประเทศชาติผ่านพ้นวิกฤตภัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาได้เสมือนปาฏิหาริย์ ประชาชนทุกสาขาอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัย ให้ความรักใคร่ โดยไม่มีข้อแม้ โดยเฉพาะ นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ที่มีความสามารถล้นเหลือในทุกด้าน จนทำให้นานาชาติทั่วโลกให้ความเชื่อถือ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ในทางบวกให้กับประเทศไทย เพราะได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชนโดยแท้จริงระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งยังเป็น 1 ใน 150 สุดยอดผู้หญิงนักสู้ของโลกที่ได้รับการยกย่องจากนิตยสารนิวสวีก สหรัฐอเมริกา เป็นผู้นำที่ได้ดำเนินการตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนอย่างจริงใจเร่งด่วน เช่น โครงการบ้านเพื่อที่อยู่อาศัยหลังแรก โครงการถยนต์คันแรก โครงการนำร่องบัตรเครดิตพลังงาน ปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการปริญญาตรีเพิ่มเป็น 15,000 บาท ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท จัดให้มีเบี้ยยังชีพรายเดือนแบบขั้นบันไดสำหรับผู้สูงอายุ กำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ยกระดับและเสริมศักยภาพสตรีในทุกมิติ ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนทั้งผู้ประกอบการ เกษตรกร และประชาชนทั่วไป ฯลฯ และที่สำคัญยึดมั่นแนวทางการปรองดองเพื่อนำความสงบสันติกลับคืนสู่สังคมไทย ฯลฯ"

ภายหลังการรับรางวัล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ในนามของรัฐบาลรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้พระราชทานรางวัลเทพทอง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานและเป็นเครื่องเตือนสติว่า เราจะต้องรักษาความดีงามและตั้งใจทำงานเพื่อสร้างประโยชน์แก่ส่วนรวมให้สมกับรางวัลที่ได้รับในครั้งนี้"

สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงานพระราชทานรางวัล "เทพทอง" นั้น เพื่อเป็นการส่งเสริม สร้างสรรค์ เกียรติยศ ชื่อเสียง และความภาคภูมิใจของนักจัดรายการวิทยุโทรทัศน์ ส่งเสริมการผลิตและจัดรายการให้มีมาตรฐานทัดเทียมกับนานาประเทศ ส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและการใช้ภาษาอันดีงามของไทย และตระหนักถึงความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตลอดจนแสดงความขอบคุณต่อผู้อุปถัมภ์รายการวิทยุและโทรทัศน์ และเสริมสร้างความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยในปีนี้ มีองค์กรดีเด่นที่ได้รับรางวัล อาทิ รัฐบาลไทย กรมประชาสัมพันธ์ กรมสรรพากร จังหวัดลพบุรี เทศบาลเมืองลพบุรี สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นต้น

ด้านนักวิทยุโทรทัศน์ดีเด่น อาทิ ดร.พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ,นายสรยุทธ สุทัศนจินดา ,นางสาวนิชาวัณย์ พานิชย์รุ่งเรือง, นายเอกราช เก่งทุกทาง, นายยิ่งยง ยอดบัวงาม เป็นต้น ส่วนนักวิทยุกระจายเสียงดีเด่น อาทิ นายเสวก ศรลัมพ์ ,นายเสน่ห์ พึ่งทอง เป็นต้น และผู้ให้การสนับสนุนการจัดงาน อาทิ นายโรจน์ ดุลยากร, นางวิสุทธิ์ ศรีสุระผล ,นายสมบูรณ์ สีดาดำ เป็นต้น

รางวัล "เทพทอง" เป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุด เนื่องจากรางวัล "เทพทอง" องค์ที่ 1 ได้สร้างด้วยทองคำทั้งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับรางวัลในฐานะเป็น "นักวิทยุกระจายเสียงดีเด่น" ซึ่งทางสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระองค์ท่าน โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายขวัญแก้ว วัชโรทัย เป็นผู้แทนพระองค์รับรางวัลดังกล่าว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม 2540 ซึ่งเป็นการจัดงานพระราชทานรางวัล "เทพทอง" ครั้งที่ 1 ณ หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์

"ทราโวลต้า"ยันไม่ได้อยู่แอลเอ วันถูกหมอนวดกล่าวหาจับเป้า

"จอห์น ทราโวลต้า" พระเอกหนุ่มใหญ่ของฮอลลิวูด มึบตึ้บอีกรอบ หลังถูก "ฟาเบียน ซานซี" ลูกเรือสำราญรอยัลแคริบเบียน ออกมากล่าวหาเพิ่มอีกรายว่าเขาเองก็เคยถูกทราโวลต้าทาบทามให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย ตามรายงานข่าวจาก เดลี่ เมล์ ของอังกฤษ

เรียกว่าความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรกก็คงไม่ผิดนักสำหรับ "จอห์น ทราโวลต้า" ดาราหนุ่มเจ้าบทบาทของฮอลลิวูด ที่เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่งถูกหมอนวดหนุ่มยื่นฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 2 ล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 62 ล้านบาท ในข้อหาที่พระเอกหนุ่มพยายามจะล่วงละเมิดทางเพศเขา

ล่าสุดทราโวลต้าต้องรับศึกหนักอีกด้าน เมื่อ "ฟาเบียน ซานซี" ลูกเรือสำราญรอยัลแคริบเบียนออกมาอ้างอีกว่า เมื่อปี 2009 ทราโวลต้าก็เคยเสนอเงินก้อนโตให้กับเขาเพื่อแลกกับการมีเพศสัมพันธ์เช่นกัน แต่เขาได้ตอบปฏิเสธไป โดยซานซีเล่าว่า ทราโวลต้าถอดโค้ตสีขาวออกทำให้อยู่ในสภาพเปลือยกาย ก่อนจะเข้ามากอดและขอให้เขานวดตัวให้ รวมถึงขอมีเพศสัมพันธ์ด้วยเพื่อแลกกับเงิน 120,000 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 374,000 บาท

เดือดร้อน มาร์ตี้ ซิงเกอร์ ทนายความของทราโวลต้าต้องออกมาปฏิเสธในทันทีว่าเรื่องนี้ก็ไม่เป็นความจริงเช่นเดียวกับเรื่องของหมอนวดหนุ่ม ที่ล่าสุด ได้มีการนำเอาหลักฐานมายืนยันแล้วว่า ทราโวลต้าไม่ได้อยู่ที่ลอสแองเจลิส ในวันที่ 16 มกราคม 2555 ซึ่งเป็นวันที่หมอนวดหนุ่มอ้างว่าเขาถูกทราโวลต้าจับของสงวนขณะกำลังนวดคลายเส้นให้ทราโวลต้า

โดยหลักฐานที่ทนายความของทราโวลต้านำมายืนยันนั้น ก็คือหลักฐานการบินของทราโวลต้าที่ได้เดินทางออกจากลอสแองเจลิส ในเวลา 2 ทุ่ม 21 นาที ของวันที่ 15 มกราคม และเดินทางถึง เวสต์เชสเตอร์ เคาน์ตี้ ในนิวยอร์ก ในเวลาตี 3.59 นาที ของวันที่ 16 มกราคม พร้อมด้วยใบเสร็จจากร้านอาหาร มิสเตอร์ ชอว์ ของนิวยอร์ก ที่ระบุเอาไว้ว่า มีค่าอาหาร 382.69 ดอลล่าร์ และค่าทิปอีก 100 ดอลล่าร์

อย่างไรก็ตาม หมอนวดหนุ่มก็ได้ออกมาตอบโต้ทันควันว่า เขาอาจจะจำวันที่เกิดเหตุคลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงอย่างแน่นอน


“ก่อแก้ว”สวน“วัชระ”ส.ส. ปชป. ตัวใหญ่ ปากกล้า ขาสั่น ใจเสาะ

เมื่อ 11 พ.ค. ที่รัฐสภา นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แถลงว่า การที่นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แจ้งความดำเนินคดีต่อนายสมศักด์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ที่ได้สั่งให้ตำรวจรัฐสภานำตัวออกจากห้องประชุม ในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา

ซึ่งจากการติดตามข่าวที่นายวัชระที่ได้โชว์บาดแผลว่าเกิดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าไม่ได้มีการใช้ความรุนแรง เพราะตำรวจรัฐสภาได้ยกมือไหว้ก่อนเชิญออกจากห้อง และนายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ คอยปัดป้องไม่ให้นำตัวนายวัชระออก อีกทั้งประธานรัฐสภาได้ใช้ข้อบังคับสภาฯ ข้อที่ 114 ในการออกคำสั่งให้นำตัวออก เนื่องจากผิดข้อบังคับการประชุม แต่นายวัชระก็มีพฤติกรรมซ้ำซาก ไม่ยอมออกจากห้องประชุม ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่นายวัชระดื้อดึงขัดคำสั่งประธานรัฐสภา

“หากไม่มีการแก้ปัญหาเรื่องนี้ จะเป็นการแสดงให้เห็นว่า นายสมศักดิ์ไม่สามารถควบคุมการประชุมได้ เพราะสมัยนายชัย ชิดชอบ อดีตประธานสภาฯ สามารถสั่งให้อุ้มส.ส.ที่ฝ่าฝืนข้อบังคับออกจากห้องประชุมได้ ผมและส.ส. สว. รู้สึกเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของนายวัชระ ผมคิดว่านายวัชระ ตัวใหญ่ ปากกล้า ขาสั่น ใจเสาะ เพราะได้นำส.ส.หญิงมาเป็นโล่กำบังให้กับตัวเองขณะที่ตำรวจรัฐสภานำตัวออกไป” นายก่อแก้ว กล่าว

นายก่อแก้ว กล่าวอีกว่า อยากฝากไปถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และผู้ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ เรียกนายวัชระมาสั่งสอน เพราะทำให้สภาฯและพรรคประชาธิปัตย์เสื่อมเสีย นอกจากนี้ ตนจะไปเรียนให้นายสมศักดิ์ แจ้งความกลับนายวัชระ ข้อหาแจ้งความเท็จ และจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการแถลงข่าว นายก่อแก้วได้นำคลิปที่อ้างว่าถ่ายไว้ในเหตุการณ์ดังกล่าว มาเปิดให้สื่อมวลชนได้บันทึกภาพ นอกจากนี้ นายก่อแก้วระบุด้วยว่านั่งอยู่ใกล้กับนายวัชระ และขอยืนยันว่าเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ไม่มีใครทำร้ายนายวัชระ แต่ไม่เข้าใจว่ารอยที่นายวัชระนำมาโชว์นั้นเกิดจากอะไร