ข่าว
“แนท” งามมีเสน่ห์มีลุ้นสูง มิสยูนิเวิร์สคนที่ 3 ของไทย

ผ่านพ้นไปแล้วอย่างงดงาม ยังประทับใจแฟนนางงามอยู่ กับการประกวดมิสยูนิเวิร์ส รอบพรีลิมมินารี่ (Preliminary Competition) ที่ Axis at Planet Hollywood สหรัฐฯ แน่นอนว่า แนท อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ สาวงามจากไทยแลนด์ ทำได้ดีโดดเด่นอย่างแรง กูรูนางงามหลายคนพูดดังๆ เลยว่า แนทนี่แหละตัวเก็งจริงๆ สวยเป๊ะ! มีสิทธิ์ลุ้นมงกุฎมิสยูนิเวิร์สมากๆ ในปีนี้

รอบพรีลิมเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ว่ารอบรองตัดสิน คณะกรรมการบางส่วนก็จะเล็งๆ เลือกๆ นางงามที่สวยเด็ดเอาไว้ในใจแล้ว รอบพรีลิมจะเรียกว่ารอบสื่อมวลชน หรือรอบซ้อมใหญ่ เพื่ออุ่นเครื่องเพื่อเตรียมงานในทุกๆ ด้านให้ลงตัว เพื่อที่วันออนแอร์จริง จะได้เป๊ะๆ ตามคิวที่วางไว้

ปีนี้นางงามจากเอเชีย สวยจริงหลายคน อาทิ เวียดนาม, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, พม่า และต้องมีไทยด้วยนะ บอกเลยก๊วนนี้มีลุ้นๆ (คลิปแนทโดดเด่นจริงๆ) เชียร์สุดๆ ให้กำลังใจ แนท อนิพรณ์ ได้เลยคลิกไปที่ www.missuniverse.com/vote อีกหนึ่งสีสันสุดจี๊ดของการประกวดมิสยูนิเวิร์ส ก็คือชุดประจำชาติของสาวงามแต่ละประเทศ รอบพรีลิมปีนี้ก็ขนกันมาอย่างเต็มที่ น่าตื่นตาตื่นใจ

'แม้ว' ทำปฏิทินคู่ 'ปู' คืนความสุขให้คนไทย

"แม้ว-ปู" ควงคู่ คืนความสุขให้คนไทย เนื่องในโอกาส วันขึ้นปีใหม่ 2559 จัดทำ "ปฏิทิน 2 นายกฯ" ตระกูลชินฯ 3 แสนฉบับ เพื่อมอบเป็นที่ระลึกแทนคำขอบคุณ แก่ประชาชนที่ให้ความรัก-ปรารถนาดี ต่อครอบครัว "ชินวัตร" ตลอดมา ขณะที่ด้านแฟนคลับแห่ตอบรับล้นหลาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.58 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้จัดทำ "ปฏิทิน 2 นายกฯ" ซึ่งเป็นปฏิทินที่เป็นภาพถ่ายคู่ 2 เวอร์ชั่น ระหว่าง นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อเป็นการส่งความสุข เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ 2559 เพื่อเป็นการขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความรัก และมีความปรารถนาดีต่อครอบครัวชินวัตรมาโดยตลอด

โดยปฏิทินดังกล่าว ถูกผลิตขึ้นจำนวน 300,000 ฉบับ ซึ่งหลังจากมีการเผยแพร่ภาพถ่ายปฏิทินออกไป ก็มีประชาชนจำนวนมาก แสดงความประสงค์ขอปฏิทินดังกล่าวจาก อดีต ส.ส ของพรรคเพื่อไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นของขวัญวันขึ้นปีใหม่ตามประเพณีไทย.


ออกหมายเรียก 11 นักศึกษา นั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์

เมื่อเวลา 19.30น.วันที่ 18 ธันวาคม เฟซบุ๊กส่วนตัวของ น.ส.ชนกนันท์ รวมทรัพย์ หรือ ตูน นิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์รูปภาพหมายเรียกผู้ต้องหา ของสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ซึ่งออกที่สถานีตำรวจรถไฟธนบุรี เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ในหมายเรียกยังระบุผู้ต้องหาคือ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ กับพวกรวม 11 คน โดยให้เหตุต้องหาว่า มั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งเเต่ 5 คนขึ้นไป เเละให้น.ส.ชนกนันท์ ไปที่สถานีตำรวจรถไฟธนบุรี ในวันที่ 22 ธันวาคม เวลา 9.00น.

น.ส.ชนกนันท์ ยังได้โพสต์ข้อความระบุว่า "เมื่อกี้แม่กับน้องสาวบอกว่า ตูน... หนูมีหมายมาแล้วนะ เป็นคดีวันที่นั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ค่ะ จริงๆ เราไม่น่าตกใจหรือแปลกใจ เพราะคสช.มักจะชอบเล่นอะไรลับหลังเสมอ ตอนจับเราที่สถานีรถไฟก็จับไปเฉยๆ ไม่ตั้งข้อหา ปล่อยออกมาให้เรื่องเงียบ หลังจากนั้นพอคิดว่าจะยัดข้อหาอะไรให้ได้ก็ส่งหมายมาตามบ้าน ขอบอกไว้ตรงนี้เลย พวกคุณมันหมามากที่คิดจะตั้งข้อหาพวกเราลับหลังแบบนี้ การที่พวกเราออกมาตรวจสอบการคอรัปชั่นของทหารไม่ได้ทำให้พวกเราเป็นอาชญากร พวกคุณก็แค่กลบเกลื่อนความผิดของตัวเองโดยการตั้งข้อหาพวกเราเท่านั้น (ตอนหยิบมาดูมือสั่นๆ ถ่ายรูปไม่ค่อยชัด ฮือออ เห้ออออ) ใครจะเลี้ยงเบียร์ เลี้ยงไอติมปลอบใจก็รีบๆเลี้ยงนะคะ"


'ภุชงค์' ขอพบนายกฯ ลั่นพร้อมสู้ หากถูกฟ้อง

"อดีตเลขาฯ กกต." บุกทำเนียบ ถือหนังสือร้องนายกฯ ขอความเป็นธรรม ปมถูก กกต.เลิกจ้าง ลั่นไม่ขอกลับคืนตำแหน่ง ระบุพร้อมให้การในศาลปม "สมชัย" จ่อฟ้องพูดความเท็จ

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.58 ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล นายภุชงค์ นุตราวงศ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม จากกรณีคณะกรรมการ กกต.ใช้ดุลพินิจประกาศให้ เลขาฯ กกต.พ้นจากตำแหน่งโดยมิชอบ ภายหลังจากที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เดินทางไปยื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งเลิกจ้างต่อประธานและคณะ กกต.แล้ว

นายภุชงค์ กล่าวว่า ตนมายื่นหนังสือเพื่อรักษาสิทธิหลังจากได้รับหนังสือประกาศจาก กกต.ที่ประกาศให้ตนพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากไม่ผ่านการประเมิน โดยส่วนตัวมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิ แต่จะยังไม่ขอชี้แจงในเรื่องใดๆ ปล่อยให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของศาลปกครอง ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมการไว้แล้วหลังจากยื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งต่อ ประธาน กกต.ตามขั้นตอน ภายใน 15 วัน จากนั้นจะต้องยื่นต่อศาลปกครองภายใน 90 วัน

ทั้งนี้ ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ยืนยันว่าตนจะไม่กลับไปเป็นเลขาฯ กกต.อีกและขอให้ตนเป็นเลขาฯ กกต.คนสุดท้ายที่อยู่ในระบบที่มีปัญหา พร้อมยืนยันว่าตลอดการเรียกร้องที่ผ่านมาเป็นการทำหน้าที่รักษาหน่วยงาน ไม่ใช่การเผาหน่วยงานอย่างที่หลายฝ่ายกล่าวหา เป็นการทำความสะอาดหน่วยงานทำความจริงให้ปรากฏ และที่ผ่านมาก็ได้ทำงานในสำนักงานเลขาฯ กกต.มา 18 ปี อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม เสนอให้เขียนกฎหมายให้มีเส้นแบ่งระหว่างคณะกรรมการ กกต.และสำนักงานเลขาฯ กกต.ให้ชัดเจน

ส่วนกรณีที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการ กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ระบุว่า จะฟ้องร้องกรณีที่ นายภุชงค์ ออกมากล่าวหาว่า กกต.ล็อกสเป็กโรงพิมพ์ และปรับเปลี่ยนโครงสร้าง กกต.จังหวัด นายภุชงค์ กล่าวว่า ไม่เคยกล่าวหาว่ามีการล็อกสเป็ก แต่ไม่ต้องการให้เกิดเหตุดังกล่าว ไม่ได้กล่าวหาใคร แต่หากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นจริง ตนก็พร้อมชี้แจงในชั้นศาล


"วีระ สมความคิด" โวย ถูกทหารปิดล้อมบ้าน

นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้โพสต์รูปภาพลงยังเฟซบุ๊ก “Veera Somkwamkid” เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารกว่าสิบคนมาปิดล้อมบ้านที่นวธานี ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนจนถึงเช้า โดยจากการสอบถามระบุว่า ได้รับคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงให้มาควบคุมเพื่อไม่ต้องการให้ไปประท้วง นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาในโอกาสเยือนไทย โดยนายวีระ โพสต์ข้อความแสดงความเห็นไม่เห็นด้วยกับการเดินทางมาของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน พร้อมตั้งคำถามเรื่องการเข้ามาเจรจาผลประโยชน์ที่อาจจะเกิดขึ้นและไม่ตอบสนองประชาชนคนส่วนใหญ่อีกด้วย

ทั้งนี้ นายวีระ สมความคิด เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ถูกจับกุมตัวโดยทางการกัมพูชาเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2553 พร้อมกับพวกจำนวน 7 คน ซึ่งเป็นสมาชิกของเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ พร้อมกับพนิช วิกิตเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ขณะลงพื้นที่ตรวจสอบที่ได้รับเรื่องร้องเรียนว่าทหารกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในเขตไทย บริเวณอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว โดยศาลเขตพนมเปญได้ตั้งข้อหาวีระและพวกในข้อหาเดินทางข้ามพรมแดนโดยผิดกฎหมาย และรุกล้ำเขตทหาร ส่วนวีระและราตรีได้ถูกเพิ่มข้อหาจารกรรมข้อมูลเนื่องจากครอบครองอุปกรณ์กล้องบันทึกภาพและใช้อุปกรณ์ระหว่างการถูกจับกุม

หลังถูกคุมขังเป็นเวลาเกือบ 4ปี เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2557 วีระได้รับการพระราชทานอภัยโทษหลังจากสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางเยือนกัมพูชา และได้ยื่นข้อเสนอของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ต่อรัฐบาลกัมพูชา

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีฮุน เซนอยู่ระหว่างเดินทางเยือนประเทศไทยโดยจะเดินทางกลับในวันที่ 19 ธันวาคมนี้

ธเนตร ออกจากเรือนจำแล้ว ขอบคุณ รบ.ทำให้มีชื่อเสียง

"ธเนตร" ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำชั่วคราว มทบ.11 แล้ว โผกอดเพื่อนที่มารอรับจนน้ำตาคลอ ยันไม่เคยคิดหลบหนี เตรียมมอบตัวหลังออกจากโรงพยาบาลแต่ถูกจับเสียก่อน ลั่นไม่เห็นด้วยโพสต์เฟซบุ๊กเป็นความผิด เพราะไม่มีผลต่อรัฐบาลหรือกองทัพแต่อย่างใด พร้อมเหน็บขอขอบคุณรัฐบาลที่ผลักดันให้เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม ทั้งที่ไม่ได้เป็นแกนนำหรือแอดมินอย่างที่ถูกกล่าวหา

วันนี้ (18 ธ.ค.)เมื่อเวลา 21.00 น. ที่เรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี มณฑลทหารบกที่ 11 กรุงเทพ (มทบ.11) เจ้าหน้าที่ทหารได้เดินพาตัวนายธเนตร อนันตวงษ์ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหาร กรณีแชร์ภาพผังอุทยานราชภักดิ์ผ่านเฟซบุ๊ก ออกมาปล่อยบริเวณหน้าทางออกฝั่งถนนอำนวยสงคราม หลังจากศาลทหารพิจารณาอนุญาตให้ปล่อยตัว โดยมีกลุ่มเพื่อนสนิทประมาณ 5 คน เดินทางมารอรับตัว ซึ่งเมื่อเจ้าตัวพบหน้าเพื่อนก็โผเข้ากอดกันจนน้ำตาคลอเบ้า

นายธเนตร กล่าวว่า วันที่ถูกจับกุมตัวนั้น ตนเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลสิรินธร เนื่องจากป่วยเป็นโรคลำไส้อักเสบ ซึ่งขณะที่จ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว กำลังรอรับยาอยู่นั้น ก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมโดยที่ไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นตำรวจหรือทหาร และไม่ได้แสดงหมายจับให้ดูแต่อย่างใด ตนรู้ว่าถูกออกหมายจับก็ตกใจและตั้งใจจะมอบตัวหลังจากเสร็จจากมาพบแพทย์ ไม่ได้จะหลบหนี เพราะว่าตนบริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นคนผิด แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่มาจับกุมเสียก่อน ส่วนข้อหาที่ตนถูกแจ้งนั้น ตนไม่เห็นด้วย เพราะมีการโพสต์ทางเฟซบุ๊ก และไม่มีผลต่อรัฐบาลหรือกองทัพแต่อย่างใด ตนต้องขอบคุณรัฐบาลที่ให้เกียรติตนอย่างสูง ผลักดันให้ตนเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม ทั้งที่ตนเป็นแค่สามัญชนคนธรรมดา ไม่ได้เป็นระดับแกนนำหรือแอดมินอย่างที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จ กลุ่มเพื่อนได้พานายธเนตร ไปเรียกรถแท็กซี่เพื่อเดินทางกลับไปทันที โดยก่อนหน้านี้ทนายได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 4 แสนบาท เพื่อขอประกันตัว ต่อมาศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยตีราคาประกันเป็นเงินสด 1 แสนบาท และสั่งห้ามให้เคลื่อนไหวทางการเมือง รวมทั้งให้มารายงานตัวทุก 12 วัน