ข่าว
'ควีน'กริ้วหนัก! หลัง'เจ้าชายแฮร์รี่-ดัชเชส'ประกาศลดบทบาท ไม่ปรึกษาพระองค์

วันที่ 9 มกราคม 2563 สื่อหลายสำนักในอังกฤษ รายงานว่า พระบาทสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงไม่พอพระหฤทัยเกี่ยวกับเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซ็กส์ประกาศจะขอถอยจากการเป็นสมาชิกราชวงศ์ระดับสูง และจะทรงงานเพื่อมีรายได้ด้วยพระองค์เอง

จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวอาวุโส ระบุเรื่องนี้ บรรดาพระบรมวงศานุวงศ์อังกฤษต่างทรงรู้สึกผิดหวัง โดยสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ทรงรู้สึกกริ้ว ไม่พอพระทัยและทรงผิดหวังอย่างยิ่ง หลังเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน ไม่ได้ทูลให้สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 พระอัยยิกา ทรงทราบถึงการตัดสินใจครั้งนี้มาก่อน

นอกจากนี้ สำนักข่าวเดอะซัน ยังระบุว่า นอกจากพระบาทสมเด็จพระบรมราชินีนาถแล้ว เจ้าฟ้าชายชาร์ลส มกุฎราชกุมาร ซึ่งเป็นพระบิดาของเจ้าชายแฮร์รี่ และเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐาของเจ้าชายแฮร์รี่ ก็ทรงไม่พอพระทัยอย่างรุนแรงเช่นกัน

'พิชิต'คาดปี'63 การเมืองไทยส่อเดือดถึงลงถนน เหตุผู้มีอำนาจเขี่ยฝ่ายค้านพ้นสภา

9 ม.ค. 2563 รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทยในปี 2563 ที่คาดว่าจะมีความขัดแย้งรุนแรงถึงขั้นชุมนุมบนท้องถนนเหตุเพราะฝ่ายผู้มีอำนาจต้องการทำให้ฝ่ายค้านไม่มีพลังในรัฐสภา แต่ก็ไม่เชื่อว่าฝ่ายผู้มีอำนาจะใช้ความรุนแรงได้ง่ายๆ อีก ดังนี้

"ปี 2563 แนวโน้มไปสู่ความขัดแย้งอย่างเปิดเผย กระทั่งปะทะกันคงยากที่จะหลีกเลี่ยง และฝ่ายที่กำลังนำไปสู่เหตุการณ์นั้นก็คือฝ่ายอำนาจรัฐเอง แม้รธน.60 ให้ความได้เปรียบทุกประตูแก่ฝ่ายรัฐ ผูกเงื่อนให้นายกฯอยู่ได้โดยแทบไม่ต้องพึ่งสภาผู้แทน กฎเกณฑ์และองค์กรสารพัดมัดมือเท้าผูกคอพรรคฝ่ายค้านไว้แน่น กระนั้นไม่พอ ยังให้พรรคฝายค้านหมดเสียงไร้บทบาทสิ้นเชิง ให้สภาผู่้แทนฯเป็นแค่สภาตรายาง"

ข้างหน้าคือ การทำลายพรรคฝ่ายค้านที่เป็นหัวหอกด้วยการยุบพรรคและคดีการเมืองทำลายแกนนำพรรค คือบทเรียนที่เกิดกับทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-ไทยรักไทย-พลังปชช.-เพื่อไทย ที่ใช้ได้ผลสำเร็จมาแล้ว แต่การปิดตายหนทางรัฐสภามีแต่ทำให้ความขัดแย้งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปแสดงออกนอกสภา กระทั่งลงสู่ท้องถนน ที่ซึ่งกฎหมายปกติจัดการได้ประสิทธิผลน้อยกว่า เปลี่ยนความขัดแย้งที่จำกัคควบคุมได้และคาดเดาได้ล่วงหน้าในสภา ไปสู่ความขัดแย้งข้างนอกที่สุ่มเสี่ยงคาดเดาไม่ได้และควบคุมได้ยากกว่า"

ดูเหมือนฝ่ายรัฐเชื่อว่า ควบคุมและคาดเดาได้ เพราะถึงยังไง เครื่องมือสุดท้ายที่มีอยู่และมั่นใจได้เสมอก็คือการใช้ความรุนแรง ดังเช่นเหตุการณ์ปี 2552-53 แต่ในเมื่อยุคสมัยเปลี่ยน สภาพแวดล้อมเปลี่ยน พลังอุดมการณ์และความยึดมั่นเปลี่ยน ทั้งผู้คนก็เปลี่ยน ผลสุดท้ายคราวนี้จึงเป็นไปได้มากที่จะเปลี่ยนไปเช่นกัน


ผบช.ภ.1จัดชุดไล่ล่า‘ไอ้โม่งดำ’ชิงทองลพบุรี ฮึ่ม!จิตใจทำด้วยอะไร

10 มกราคม 2563 จากกรณีที่คนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเข้าไปในร้านทองออโรร่า ภายในศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ ลพบุรี ถนนพหลโยธิน ต.กกโก อ.เมือง จ.ลพบุรี ก่อนจะกราดยิงลูกค้าและพนักงานระหว่างให้บริการ และกวาดทองรูปพรรณใส่กระเป๋าสะพายสีแดงคาดขาว ก่อนเดินออกจากห้างฯ ใช้รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาวแดง หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.44 น. วันที่ 9 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 4 คน หนึ่งในนั้นเป็นเด็กชายวัย 2 ขวบ ถูกคนร้ายยิงศีรษะล้มลง ก่อนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 00.30 น. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต และขอฝากถึงประชาชนว่าถ้าใครพบเห็นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาวแดง สวมเสื้อสีดำ กางเกงลายพรางให้แจ้งเบาะแส ขณะนี้ยังยังไม่ทราบว่าเป็นใคร เพราะไม่เห็นหน้า ปิดไอ้โม่ง ใส่ถุงมือ อาวุธปืนที่ใช้พิสูจน์หลักฐานระบุว่าเป็นปืนขนาด 9 มม. ไม่ทราบชนิดและยี่ห้อ แต่เหมือนมีที่เก็บเสียง ทำให้ไม่มีเสียงดังมากนัก เดินเข้ามารถจอดอยู่หน้าห้างฯคนเดียว ภาพจากกล้องวีดีโอพบว่าหลังจากยิงแล้ว กระโดดขึ้นไปบนเคาน์เตอร์ กวาดทองที่แขวนอยู่ กระโดดลงมาเดินลักษณะวิ่ง เจอ รปภ.ข้างหน้าก็ยิง แล้วขึ้นรถออกไป เบื้องต้นทราบว่ามาคนเดียว มีผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนก็เป็นประโยชน์กับทางตำรวจ

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาทางร้านทองมีการซ้อมแผนเผชิญเหตุหรือไม่ พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่า มีการซ้อม โดยมีตำรวจเดินอยู่ข้างหลัง แต่ไม่ได้ยินเสียง เชื่อว่าตำรวจอยู่ตรงนี้ก็โดนอีก ที่ผ่านมามีการซ้อมแผนเผชิญเหตุในแต่ละเดือน ทั้งร้านทอง ธนาคาร ร้านสะดวกซื้อเป็นหลัก ที่ส่งให้ตนดูแลทุกโรงพัก ก็พยายามหาจุดที่จะแก้ไขให้หลายท้องที่ อย่างที่โรบินสันลพบุรีก็แน่นหนาพอสมควร แต่ถ้ามาเจอลักษณะคนร้ายแบบนี้มันน่ากลัวมาก มาถึงก็ยิงเลย ใช้ปืนลักษณะเก็บเสียง และการก่อเหตุลักษณะนี้เรียกว่าชิงทรัพย์เพราะมาคนเดียว

เมื่อถามว่า คนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นทองมากแค่ไหน พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่า คนร้ายได้ไปประมาณ 3 ถาด เจ้าของยังบอกไม่ได้ว่าเท่าไร ตนให้รีบดำเนินการอยู่ ทั้งตำหนิรูปพรรณด้วย จะเป็นสร้อยคอมากกว่า เพราะแขวนอยู่

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าจับคนร้ายได้และตรวจพบรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่า ยังไม่จริง ขณะนี้ได้ข้อมูลจากพยานที่ช่วยกันดู และตามไปบ้างแต่ว่าไม่ทัน ทราบเส้นทางหลบหนีเบื้องต้นแค่นั้น ไม่ไกลก็หลุด ลักษณะเป็นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาวแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

เมื่อถามว่าถ้าเจอคนร้ายแล้วคนร้ายต่อสู้จะทำอย่างไร พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่า เราต้องทำตามกฎหมายรองรับ เราทำนอกเหนือกฎหมายไม่ได้ ส่วน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ ก็รายงานตามลำดับชั้นให้ทราบ ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตยืนยันที่ 3 ราย บาดเจ็บ 4 ราย โดยมีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 รายแพทย์กำลังผ่าตัด


'ทนายตั้ม'พ้อชีวิตต่อจากนี้อยู่ยาก! หลัง'บิ๊กแป๊ะ'เตรียมฟ้องปมไบโอเมทริกซ์

วันที่ 9 มกราคม 2563 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด "ทนายตั้ม"เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความเห็น ภายหลังจากที่มีกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.จะฟ้องร้องตนเองเรื่องโครงการ "ไบโอแมทริกซ์"

โดยระบุว่า "ได้ยินข่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะฟ้องผมปมไบโอแมทริกซ์ ชีวิตต่อจากนี้คงจะอยู่ยากขึ้น แต่ผมเตรียมใจไว้ก่อนจะร้องเรียนเรื่องไบโอแมทริกซ์ไปที่ป.ป.ช.แล้ว ผมจะเดินหน้าต่อ ทำความจริงเรื่องนี้ให้ปรากฎ ไม่ว่าอนาคตจะต้องเจอกับอะไรก็ตาม!"


จับ 2 หนุ่มลอบขนยาบ้าใกล้แนวชายแดน สารภาพซื้อ 1 บาทส่งเม็ดละ 10

วันที่ 9 มกราคม 2563 ทหารกองร้อย ม.1 ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง ภายใต้การอำนวยการของพ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 ได้รับรายงานว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนเข้ามาในประเทศ จึงได้รายงานให้ พ.ท.ไพรัช ศรีไชยวาล ผบ.ควบคุม ฉก ม.2 ก่อนจะจัดกำลังทำการลาดตระเวนเส้นทางดอยสูงใกล้แนวชายแดน พื้นที่บ้านม้งเก้าหลัง หมู่ที่ 9 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ตรงข้ามบ้านแม่โจ๊ก ชุมชนมูเซอแดง จ.เมืองสาด ประเทศเมียนมา

จนกระทั่งพบชายต้องสงสัย 2 คน ท่าทางมีพิรุธ เดินข้ามช่องทางธรรมชาติ จากฝั่งเมียนมา เข้ามาชายแดนไทย และเดินเข้าไปที่พุ่มไม้ ที่มีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 หมายเลขทะเบียน 1กย3273 เชียงราย และ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 100 หมายเลขทะเบียน ขพจ135 เชียงราย จอดซุกซ่อนอยู่ จึงขอตรวจค้นทราบชื่อคือนาย ชัยประสิทธิ์ แซ่หมี่ อายุ 32 ปี และนายปรีชา แซ่จื่อ อายุ 23 ปี ทั้งสองคนเป็นชาวบ้านปางมะหัน หมู่ที่ 8 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

จากการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 20,000 เม็ด ซุกซ่อนในกระเป๋าสะพาย โดยทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าที่ตรวจพบเป็นของตนเอง ร่วมกันซื้อมาจากชาวมูเซอ ฝั่งบ้านแม่โจ๊ก ขายให้ในราคาเม็ดละ 1 บาท โดยจะนำมาขายให้กลุ่มผู้เสพในฝั่งไทยหมู่บ้านใกล้เคียง ในราคาเม็ดละ 10 บาท


กระฉ่อนโลก! ‘ฟ็อกซ์นิวส์’สื่อดังมะกันสีสันคนไทย หาของแปลกๆใส่แทนหลังแบนถุงพลาสติก

วันที่ 9 มกราคา 2563 หลังจากบรรดาห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อในประเทศไทยประกาศงดแจกถุงพลาสติกตามนโยบายของรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 เป็นต้นมา ก็ปรากฏภาพผู้คนนำสิ่งของต่างๆ มาใส่สินค้าอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ภาชนะใกล้ตัวอย่างหม้อ กะละมัง ไปจนถึงของแปลกๆ อย่างกรงนก รถขนวัสดุก่อสร้าง กรวยจราจร รวมถึงการขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปซื้อของในร้านแล้วให้พนักงานนำสินค้าใส่ในช่องเก็บของใต้เบาะนั่ง

ล่าสุดมีรายงานว่า สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ (Fox News) หนึ่งในสื่อเจ้าดังของสหรัฐอเมริกา ก็นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ไปเสนอข่าวด้วย เมื่อ 8 ม.ค. 2563 ตามเวลาในสหรัฐฯ โดยพาดหัวข่าวว่า “Plastic bag ban in Thailand has shoppers finding bizarre alternatives to carry groceries” (การแบนถุงพลาสติกในประเทศไทยจุดประกายไอเดียสุดประหลาดของบรรดานักช็อปปิ้งในการหาสิ่งของมาทดแทน)

จี้สอบด่วน!หลังพบหลักฐานเด็ดขีปนาวุธ‘อิหร่าน’สอยเครื่องบินยูเครนตก

10 มกราคม 2563 นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดแห่งแคนาดา แถลงเรียกร้องให้สอบสวนเหตุเครื่องบินโดยสารโบอิง 737 –800 ของสายการบินยูเครนอินเตอร์เนชันนัลแอร์ไลน์ หรือ UIA ของยูเครน เที่ยวบิน พีเอส 752 เดินทางจากกรุงเตหะราน เมืองหลวงอิหร่านไปยังกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน เมื่อช่วงเช้าวันพุธตามเวลาอิหร่าน พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ รวม 176 ชีวิต ประสบเหตุตกใกล้สนามบินอิหม่ามโคไมนี หลังทะยานขึ้นบินได้ไม่กี่นาที ทำให้ผู้คนบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด โดยผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวอิหร่าน 82 คน และชาวแคนาดา 63 คน หลังพบหลักฐานชี้ชัดได้ว่าเครื่องบินอาจถูกขีปนาวุธของอิหร่านยิงตก เพราะเหตุเครื่องบินตกเกิดขึ้นไม่นานภายหลังจากกองทัพอิหร่านระดมยิงขีปนาวุธหลายลูกถล่มฐานทัพทหารสหรัฐในอิรัก อยู่ทางด้านตะวันตกของอิหร่าน

เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ที่บอกว่ารัฐบาลอังกฤษพร้อมทำงานใกล้ชิดกับแคนาดาและประเทศอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ เพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว

ส่วนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ แถลงถึงเรื่องนี้เช่นกันโดยระบุเพียงความสงสัยเกิดอะไรขึ้นกับเครื่องบินโดยสารของยูเครน แต่ไม่เอ่ยถึงรายละเอียดอื่นๆ

ขณะที่สื่อโทรทัศน์ซีบีเอสของสหรัฐและแหล่งข่าวกรองของสหรัฐ ต่างระบุอ้างข้อมูลจากดาวเทียมของสหรัฐ ตรวจพบความเคลื่อนไหวของขีปนาวุธ 2 ลูกระเบิดบริเวณใกล้จุดเครื่องบินตก ทั้งเชื่อว่าขีปนาวุธที่ถูกยิงใส่เครื่องบินโดยสารยูเครนเพราะความเข้าใจผิด คือ ขีปนาวุธแบบยิงจากพื้นดินสู่อากาศ “ตอร์” ผลิตในรัสเซีย อย่างไรก็ดี อิหร่านปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าว ทั้งระบุเป็นเพียงข่าวลือไร้เหตุผล

ส่วนท่าทีของรัฐบาลยูเครนก่อนหน้านี้ ตั้งประเด็นสงสัยเครื่องบินตก อาจเกิดขึ้นได้จากถูกขีปนาวุธยิงตก หรือเครื่องบินอาจชนกับอากาศยานอื่นๆ หรือไม่ก็เกิดจากเครื่องยนต์ขัดข้อง และอาจเกิดระเบิดจากภายในเครื่องบินจากเหตุก่อการร้าย

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า รัฐบาลยูเครนกำลังพิจารณาถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ และได้ขอให้ผู้คนงดเว้นการคาดเดาถึงทฤษฎีสมคบคิดและด่วนสรุป

ทั้งนี้ ทางการอิหร่านพบกล่องดำบันทึกข้อมูลการบินแล้วทั้ง 2 กล่องและอยู่ระหว่างรอตรวจสอบข้อมูล แต่อิหร่านจะไม่ส่งกล่องดำให้แก่บริษัทโบอิงหรือเจ้าหน้าที่สหรัฐ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะส่งกล่องดำไปตรวจสอบที่ประเทศใด

ตามหลักการบินสากลแล้ว ประเทศที่เป็นจุดที่เครื่องบินตกมีสิทธิจะดำเนินการสอบสวน ดังนั้นสำนักงานการบินของอิหร่านจะสอบสวนเรื่องนี้ ส่วนทางการยูเครนก็สามารถส่งตัวแทนมาร่วมสอบสวนได้ อย่างไรก็ดี ตามหลักการของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศหรือไออาตา ที่ทั้งอิหร่าน ยูเครน และสหรัฐล้วนเป็นสมาชิก คณะสอบสวนอุบัติเหตุเครื่องบินจะนำโดยประเทศที่เกิดเหตุ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินชี้ว่า มีเพียงไม่กี่ประเทศที่สามารถวิเคราะห์กล่องดำ เท่าที่มีอยู่คือ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหรัฐ