ข่าว
'แคร์รี หล่ำ'ยันไม่ได้ถูก'จีน'บงการ ชาวฮ่องกงไม่พอใจรบ.เดินหน้าประท้วงต่อ

5 กันยายน 2562 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ชาวฮ่องกงจำนวนมากยังไม่พอใจท่าทีของรัฐบาล แม้ว่าแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารฮ่องกง ประกาศถอนร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนออกจากการพิจารณาของสภานิติบัญญัติอย่างเป็นทางการไปแล้วก็ตาม

โดยชาวฮ่องกงเห็นว่าการประกาศของนางหล่ำยังไม่ใช่การแก้ปัญหาทั้งหมดอย่างแท้จริง และยังประณามหล่ำด้วยว่า หากตัดสินใจตั้งแต่สองเดือนก่อน สถานการณ์ก็อาจไม่บานปลายเช่นนี้ บางกลุ่มได้มีการนัดเพื่อเดินหน้าชุมนุมต่อ ขณะที่บางคนก็บอกว่ารู้สึกไม่พอใจการประกาศดังกล่าว เพราะสิ่งที่ผู้ประท้วงเรียกร้องนั้นมีถึง 5 ข้อด้วยกัน แต่นางหลำประกาศยกเลิกแผนการออกกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

สำหรับ 4 ข้อ ที่ผู้ประท้วงต้องการก็คือ หยุดเรียกการประท้วงเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ว่า การก่อจลาจล ปล่อยตัวและถอนฟ้องผู้ประท้วงที่ถูกตำรวจจับกุม ตั้งคณะกรรมการอิสระสอบสวนการใช้ความรุนแรงของตำรวจ ยุบสภาและให้สิทธิชาวฮ่องกงในการเลือกตั้งอย่างเท่าเทียม

ด้านนางหล่ำได้แถลงต่อหน้าสื่อในวันนี้ว่า การตัดสินใจถอนร่างกฎหมายดังกล่าวเพราะต้องการป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรง หยุดยั้งความโกลาหลให้ได้โดยเร็วที่สุด ฟื้นความเป็นระเบียบในสังคม ช่วยให้เศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวฮ่องกงเดินหน้าต่อไป พร้อมยืนกรานว่าไม่ใช่การปฏิบัติตามคำสั่งจากรัฐบาลจีนที่เคารพและสนับสนุนการตัดสินใจของเธอ และเมื่อถามว่าเหตุใดจึงใช้เวลานานมากในการตัดสินใจจนทำให้เหตุประท้วงบานปลายขึ้น ซึ่งเธอบ่ายเบี่ยงที่จะตอบ

นอกจากนี้ ผู้นำฮ่องกงยังประกาศมาตรการอื่นๆ เช่น เปิดเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ซึ่งเธอเชื่อว่ามีส่วนกระตุ้นให้ชาวฮ่องกงลุกฮือต่อต้านรัฐ

ด้านไชนา เดลี หนึ่งในสื่อกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน รายงานว่าการที่แลมเพิกถอนร่างกฎหมายเจ้าปัญหาแล้ว ผู้ประท้วงไม่ควรหาข้ออ้างมาก่อความวุ่นวายและสร้างความรุนแรงอีก

ทำซะเอง! รวบตำรวจน้ำภูเก็ตคาด่าน ลอบขนใบกระท่อมสดเฉียด 400 กก.

วันที่ 5 กันยายน 2562 ภายใต้การอำนวยการของนาย ภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าชุดปราบปราบยาเสพติดได้ร่วมจับกุมตัวนายธนากร หรือ ด.ต.ธนากร คุ่ยยกสุย อายุ 40 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ส.รน.3 กก.8 บก.รน สถานีตำรวจน้ำ 3 กองบังคับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ 2.นายณัฐพงศ์หรือแอน บินยะเต๊ะ อายุ 29 ปี 3.นายเอกสิทธิ์ หรือปัก ศรีจรุง อายุ 40 ปี 4.นายราเชน โต๊ะล๊ะ อายุ 21 ปี พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ใบพืชกระท่อมสด) น้ำหนักรวม 385 กิโลกรัม บรรจุด้วยถุงพลาสติกใสวางไว้ในห้องโดยสารรถยนต์ยี่ห้อ ISUZU Mux สีขาว หมายเลขทะเบียน กข 3008 ภูเก็ต (ซึ่งผู้ต้องหาที่ 1 นั่งโดยสารมา และมีนายณัฐพงศ์หรือแอน บินยะเต๊ะ เป็นคนขับขณะตรวจค้นจับคุม) กระสุนปืนขนาด 11 มม.จำนวน 2 นัด รถยนต์ยี่ห้อ ISUZU Mux สีขาว หมายเลขทะเบียน กข 3008 ภูเก็ต รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA CAMRY สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ศจ 365 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง ได้ที่ด่านตรวจภูเก็ต ม.5 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

โดยการจับกุมได้ในครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบมาว่าจะมีการขนยาเสพติดเข้าไปยังพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต โดยใช้เส้นทาง ถ.เทพกระษัตรี ในการลำเลียงยาเสพติดครั้งนี้จะมีรถนำเพื่อสำรวจเส้นทางและด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จ.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าฉัตรไชย จึงได้วางแผนร่วมกันเพื่อสกัดจับ กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 04.30 น. ของวันที่ 5 ก.ย.62 ได้มีเจ้าหน้าที่ชุดหนึ่งคอยสังเกตรถนำที่มาจอดพักที่ด่านตรวจภูเก็ต พบรถต้องสงสัยรถยนต์ยีห้อ TOYOTA CAMRY สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ศจ 365 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ที่จอดรถบริเวณด่านตรวจ จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจคันพบนายเอกสิทธ์ ศรีจรุง ผู้ต้องหาที่ 3 เป็นผู้ทำหน้าที่ขับรถ และ นายราเซน โต๊ะล๊ะ ผู้ต้องหาที่ 4 เป็นผู้โดยสารมากับรถคันดังกล่าว จากการสอบถามทั้ง 2 คน ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้ขับรถคันดังกล่าวมาจากชุมพร เพื่อคอยดูเส้นทางในการลำเลียงยาเสพติด (ใบพืชกระท่อม) เข้ามายังพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งได้บรรทุกยาเสพติด (ใบพืชกระท่อม)มากับรถยนต์อีกคันหนึ่งได้ขับตามมาตลอดส้นทางเป็นรถยนต์ยีห้อ ISUZU Mux สีขาว หมายเลขทะเบียน กข 3008 ภูเก็ต

ขณะนั้นรถที่บรรทุกใบพืชกระท่อมได้จอดรอโอกาสอยู่ที่บริเวณ หน้าโรงเรียนบ้านท่านุ่น ต.โคกกลอย จ.พังงา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปสังเกตจนพบรถคันดังกล่าว เมื่อรถเคลื่อนที่จึงได้ขับตามมาจนถึงด่านตรวจภูเก็ตในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ที่ด่านตรวจก็ได้เรียกให้รถคันดังกล่าวจอดเข้าประจำที่ตรวจและทำการตรวจค้นของกลางตามบัญชีของกลางลำดับที่ 1 และ 2 อยู่ภายในรถยนต์ยี่ห้อ ISUZU Mux สีขาว หมายเลขทะเบียน กข 3008 ภูเก็ต ซึ่งมีนายณัฐพงศ์หรือแอน บินยะเต๊ะ เป็นคนขับ และ มีนาย ธนากร หรือ ดต.ธนากร คู่ยยกสุย เป็นผู้โดยสารนั่งอยู่ภายในรถที่เบาะฝั่งซ้ายด้านหน้ารถ สอบถามนาย ธนากรฯ ให้การรับว่า ใบพืชกระท่อมของกลางดังกล่าว ตนได้สั่งซื้อและไปรับด้วยตนเองมาจากพื้นที่ จ.ชุมพร โดยได้ร่วมกับผู้ต้องหาที่ 2 ที่ 4 ในการลำเลียงยาเสพติดทั้งหมดมีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยให้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ขับรถที่บรรทุกใบพืชกระท่อมสด ผู้ต้องหาที่ 3 และ 4 ขับรถนำทางและแจ้งข่าวความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ หลังจากได้เงินที่จำหน่ายยาเสพติดแล้ว ก็จะแบ่งเงินกันในสัดส่วนที่เท่ากันระหว่างผู้ต้องหาทั้ง 4 คน สำหรับกระสุนปืนของกลางลำดับที่ 2 นายธนากรฯ ได้รับว่าเป็นของตนเองซึ่งได้เก็บไว้ในช่องเก็บของภายในรถก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนผู้ต้องหาที่ 3 และ 4 ให้การว่า

ตนได้รับจ้างผู้ต้องหาที่ 1 ทำหน้าที่ขับรถยนต์ของกลางตามบัญชีของกลางลำดับที่ ๔ ขับนำทางรถยนต์คันที่บรรทุกใบพืชกระท่อม คอยสังเกตและรายงานความเคลื่อนไหวการตั้งด่านตรวจของเจ้าหน้าที่เพื่อให้การลำเสียงและขนใบพืชกระท่อมไปถึงที่หมายในพื้นที่เมืองภูเก็ต โดยได้รับค่าจ้างจาก นายธนากรหรือ ดต.ธนากร คุ่ยยกสุย ผู้ต้องหาที่ 1 คนละ 5,000 บาทต่อเที่ยว และได้ทำเช่นนี้มาแล้ว 4 ครั้ง และจาการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของนายนากรฯ ผู้ต้องหาที่ 1 พบข้อความสนทนาเกี่ยวกับการซื้อขายยาเสพติด มาโดยต่อเนื่องและมีข้อมูลการติดต่อทางโทรศัพท์ระหว่างผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ระหว่างการขนยาเสพติดจากพื้นที่ จ.ชุมพร จนถึงด่านตรวจภูเก็ต ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาว่า "ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ใบพืชกระท่อมสด)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย" และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้ผู้ต้องหาที่ 1 ทราบว่า "มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน และเพื่อทำการบันทึกจับกุมส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


หนุ่มใหญ่เครียดหนี้สิน เขียนจม.ลาครอบครัว ทำน้ำมนต์ให้เลขเด็ดก่อนผูกคอดับ

เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 5 กันยายน 2562 พ.ต.ท.สงคราม บัวพันธุ์ สารวัตรสอบสวน สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุชายใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิต ภายในหมู่บ้านบางใหญ่ซิตี้ บ้านเลขที่ 51/118 ซอยบางใหญ่ซิตี้ 23/2A หมู่ที่6 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จึงประสานเเพทย์จจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายใช้เชือกไนล่อนสีขาวผูกติดกับราวบันได สภาพศพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงยีนส์ขายสวเพียงตัวเดียว ที่บริเวณต้นคอมีร่องรอยการถูกรัด ทราบชื่อคือนายอนุชา โล่ห์ทอง อายุ 54 ปี ชาว จ.นนทบุรี จากการตรวจสอบภายในบ้าน ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ พบเพียงกระดาษ 1 ใบ ที่เขียนด้วยลายมือผู้เสียชีวิต ระบุข้อความว่า “คนเบื่อชีวิต ขอกราบขอบคุณน้าทุกคนที่รักเเละห่วงใย ช่วยเหลือมาตลอดไม่เคยขัดใจเลย ได้ทุกเที่ยว ทุกครั้ง จามยากน้าหวังหาข้าวให้กินทุกวัน รักน้าสกุลจุ้ยทุกคน 51/118 บ้านนี้ไม่จำเป็นอย่าขาย ตั้งเเต่วันนี้ใครอยู่บ้านนี้มีแต่รวย รวย รวย เฮง เฮง เฮง รักพ่อ ภูมิใจและดีใจชาตินี้ได้เป็นลูกพ่อ พ่อรักและตามใจทุกอย่าง สบายโครตๆ น้อย-โอ รักษาสุขภาพให้ลดความอ้วนลงทั้งสองคน ดูเเลพ่อให้ดีที่สุด รักน้องมากๆ เสียใจที่ทำให้ผิดหวังทำตัวไม่ดี ไม่ขออยู่ ลาก่อนทุกคน (อนุชา)"

นอกจากนี้ ยังพบน้ำมนต์ใส่อยู่ในกาละมังสีดำ ซึ่งในน้ำมีน้ำตาเทียนลอยอยู่ อีกทั้งยังมีข้อความระบุที่ข้างกาละมังว่า ทีเด็ดงวดเดียวจบ ของจริง (หนู) แพทย์ระบุ เสียชีวิตมาเเล้วไม่ต่ำกว่า 6-12 ชม.

ทางด้าน นายสมหวัง เนี่ยงจุ้ย อายุ 58 ปี น้าชาย ผู้พบศพเป็นคนเเรก เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.ตนกลับเข้ามาในบ้าน สังเกตุเห็นว่าประตูบานเลื่อนหน้าบ้านเเง้มอยู่ จึงเปิดประตูเข้าไปในบ้าน พอเปิดไฟสังเกตุเห็นหลานชายใช้เชือกผูกคอตัวเองห้อยอยู่ตรงที่ราวบันได จึงไปเรียกญาติๆที่อยู่บริเวณใกล้เคียงมาช่วยกันดูเเละแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้น่าจะมาจากการเครียดเรื่องหนี้สิน เพราะหลานชายไม่มีงานทำเป็นหลักเเหล่ง ก่อนหน้านี้ไปเช่าพระกับเพื่อนแต่ยังไม่ได้จ่ายเงิน แล้วหลานก็เอาพระของเพื่อนไปขายจนหมด พอได้เงินมาก็เอาไปใช้จ่ายส่วนตัวจนหมด ทำให้ไม่มีเงินไปใช้หนี้ จนทำให้เจ้าของพระมาทวงเงินส่วนที่ติดค้างเอาไว้ จึงทำให้เกิดอาการเครียด แล้วคิดสั้นดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุเพื่อเป็นหลักฐานไว้ก่อน โดยสันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตอาจจะเครียดเรื่องหนี้สิน จึงทำให้คิดสั้นเเละใช้เชือกผูกคอตัวเองจนทำให้เสียชีวิตดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องทำการสอบปากคำญาติอย่างละเอียดอีกครั้ง จากนั้นมอบร่างผู้เสียชีวิตให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตร ต่อไป


ชนสนั่น! 'รถไฟ'ขยี้'บรรทุก'ในโยโกฮามา เสียชีวิต 1 รายบาดเจ็บ 35 คน

5 กันยายน 2562 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เกิดเหตุรถไฟชนกับรถบรรทุก บริเวณทางข้ามทางรถไฟในเมืองโยโกฮามา ทางใต้ของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเวลา 11.40 น.ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นคนขับรถบรรทุก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 35 คน ในจำนวนนี้มีอาการสาหัส 1 คน จากอาการหัวใจหยุดเต้น ส่วนสาเหตุอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ

สหรัฐ-จีนพร้อมฟื้น เจรจาการค้ารอบใหม่เดือนหน้า

ปักกิ่ง/วอชิงตัน (เอเอฟพี/รอยเตอร์) -โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า ผู้แทนการค้าจีนและสหรัฐจะกลับมาเจรจากันที่กรุงวอชิงตัน ของสหรัฐ ในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้

โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีหลิว เฮ่อ ของจีนได้โทรศัพท์คุยกับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และ นายสตีเวน มนูชินรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐในเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาในจีน และตกลงกันว่าคณะผู้เจรจาการค้าของทั้งสองประเทศ จะกลับมาเจรจากันที่กรุงวอชิงตัน ในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ จีนหวังว่าการเจรจาจะมีความคืบหน้าเพื่อช่วยให้ปัญหาความขัดแย้งทางการค้าของทั้งสองฝ่ายบรรเทาเบาบางลงและยืนยันคัดค้านการดำเนินมาตรการใดๆ ที่ทำให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลายมากขึ้น แต่ทั้งหมดก็ขึ้นกับว่าสหรัฐจะสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยหรือไม่

แต่เดิม การเจรจาดังกล่าวกำหนดจะมีขึ้นในเดือนนี้ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ หลังจากทั้งสองฝ่ายต่างตั้งกำแพงภาษีต่อกัน เมื่อวันที่ 1 กันยายน ทั้งนี้ คณะ ผู้เจรจาของทั้งสองฝ่ายได้เจรจากันครั้งสุดท้ายที่นครเซี่ยงไฮ้ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แม้การเจรจาจะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์แต่ก็ไม่มีข้อตกลงใดๆ ตามมา ซึ่งหลังจากการเจรจาครั้งดังกล่าวผู้นำสหรัฐก็ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าร้อยละ 15 มูลค่ากว่า 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16.83 ล้านล้านบาท) จากจีน และจะเก็บอีกครั้งในวันที่ 15 ธันวาคม กับสินค้าจีนทั้งหมดที่ยังไม่ถูกเก็บภาษี ขณะที่จีนก็ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้ามูลค่า 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.29 ล้านล้านบาท) จากสหรัฐ แบ่งเป็นสองระยะคือวันที่ 1 กันยายน และวันที่ 15 ธันวาคม

ขณะที่ในสัปดาห์นี้ จีนก็เพิ่งยื่นคำร้องต่อองค์การการค้าโลก หรือ WTO หลังจากกำแพงภาษีใหม่ของสหรัฐเริ่มมีผลบังคับใช้ได้ 1 วัน ระบุการที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีรอบใหม่เป็นการละเมิดต่อข้อมติของประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ของจีน กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ในระหว่างการประชุมนอกรอบของการประชุมจี20 ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ที่ระบุว่าสหรัฐจะไม่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่ โดยทางการจีนยื่นเรื่องต่อ WTO แล้ว 3 ฉบับ นับตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายทำสงครามการค้าตอบโต้กันไปมาในช่วง 14 เดือนที่ผ่านมา

ด้านหนังสือพิมพ์พีเพิลเดลีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ฉบับวานนี้ ลงบทความแสดงความเห็นของนายจิน คั่นหรง อาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเหรินหมิน และนายซุน ซีฮุย นักวิจัยสถาบันสังคมศาสตร์จีน ว่า หากจีนแสดงท่าทีอ่อนแอและยอมอ่อนข้อให้พวกชอบใช้อำนาจครอบงำ จะเท่ากับเป็นการทำความผิดพลาดที่ทำลายล้างครั้งประวัติศาสตร์ การเผชิญหน้ากับแรงกดดันอย่างรุนแรงและพฤติกรรมกดขี่ข่มเหง หากอ่อนแอและถอยหลังจะไม่ได้รับความเห็นใจ จีนจะปกป้องผลประโยชน์หลักของประเทศชาติและประชาชนได้ต่อเมื่อยืนหยัดต่อสู้อย่างมีเหตุมีผลและเป็นผลดีอย่างถูกจังหวะเท่านั้น