ข่าว
ปล้นเรือมาเลเซีย บรรทุกน้ำมัน 9แสนลิตร โดนบังคับไปน่านน้ำอินโดฯ!

เรือบรรทุกน้ำมันดีเซล นับ 9 แสนลิตร สัญชาติมาเลเซีย เจอเหตุไม่คาดฝัน โดนกลุ่มคนร้ายบุกปล้นอุกอาจ หลังแล่นออกจากท่าเรือเมืองตันจุง เปเลปาส เจ้าหน้าที่มาเลย์ เชื่อ เรือบรรทุกน้ำมันลำนี้ถูกสั่งให้แล่นไปยังน่านน้ำอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 17 ส.ค.59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เกิดเหตุระทึก เรือบรรทุกน้ำมัน ‘MV Vier Harmoni’ (เอ็มวี เวียร์ ฮาร์โมนี) สัญชาติมาเลเซีย บรรทุกน้ำมันดีเซลนับ 9 แสนลิตร มูลค่าถึงประมาณ 1.57 ล้านริงกิต (392,795 ดอลลาร์ หรือประมาณ 13.5 ล้านบาท) โดนกลุ่มคนร้ายปล้น และยังบังคับให้ขับเรือไปยังน่านน้ำของประเทศอินโดนีเซีย เบื้องต้น ยังไม่ทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่ลงมืออุกอาจบุกปล้นเรือบรรทุกน้ำมันปริมาณมหาศาลลำนี้ เป็นกลุ่มใด เรือบรรทุกน้ำมัน เอ็มวี เวียร์ ฮาร์โมนี ได้แล่นออกจากท่าเรือเมืองตันจุง เปเลปาส ในมาเลเซีย เมื่อวันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก่อนจะถูกกลุ่มคนร้ายบุกปล้น ขณะที่ สำนักงานกฎหมายทางทะเล หรือ Malaysian Maritimes Enforcement Agency (MMEA) ของมาเลเซีย ได้ทวีตข้อความแจ้งเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า เจ้าหน้าที่มาเลเซียเชื่อว่า กลุ่มคนร้ายได้สั่งให้กัปตันขับเรือบรรทุกน้ำมัน เอ็มวี เวียร์ ฮาร์โมนี แล่นไปยังน่านน้ำของอินโดนีเซีย แถวๆ เกาะบาตัม ทางใต้ของสิงคโปร์

ร้านดังรับซื้อเหรียญสลึง ปี 2500 เหรียญละ 3 หมื่น

ใครที่ชอบหยอดกระปุกและมีเศษเหรียญสลึง ขอแนะนำให้รีบแคะมาดูทันที หลังร้านจิวเวอรี่ชื่อดัง ประกาศรับซื้อเหรียญสลึง 1 เหรียญ สูงถึง 30,000 บาท ล่าสุดกลายเป็นที่พูดถึงสนั่นในโลกโซเชียลจำนวนมาก เรื่องนี้ถูกโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ 'ร้านปาหนัน จิวเวลรี่’ หลังจากลงประกาศรับซื้อเหรียญ 25 สตางค์ รุ่นปี 2500 ซึ่งเหรียญสลึงรุ่นนี้จะไม่มีเหมือนในปัจจุบัน โดย ตัว พ. พาน จะต้องมีขีดลงระหว่างกลาง ไม่ได้ลงท้ายที่หางตัวอักษร ราคาซื้อสูงถึงเหรียญละ 30,000 บาท ซึ่งบรรดาชาวเน็ตที่เป็นนักสะสมเหรียญ ต่างพากันหยิบเหรียญที่ตัวเองมีอยู่ในมือขึ้นมาถ่ายรูปส่งไปยังร้านปาหนันเป็นจำนวนมาก แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบผู้ครอบครองเหรียญตามที่เจ้าของร้านปาหนันต้องการแต่อย่างใด โดยบางรายนำเหรียญ 50 สตางค์มาแอบอ้าง เจ้าของร้านประกาศชัดเจนว่าไม่รับ รับเพียงเหรียญ 25 สตางค์เท่านั้น นอกจาก เหรียญ 25 สตางค์ที่กำลังถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในสังคมออนไลน์แล้ว ยังมีเหรียญอีกหลากหลายชนิดที่เจ้าของร้านต้องการรับซื้อโดยให้ราคาสูง อย่างเช่นเหรียญ 5 บาท รุ่นปี 2540 โดยให้ราคาถึง 1,500 บาทต่อเหรียญ และเหรียญ 5 บาทปี 2546 ให้ราคาสูงถึง 250 บาทต่อ 1 เหรียญ นอกจากนี้เหรียญ 50 สตางค์รุ่นปี 2530 ก็รับซื้อในราคาสูงถึง 4,500 บาท


ฮือฮาหนุ่มชื่อแปลกนาย ‘หัวหน้า’ นามสกุล ‘คณะปฎิวัติ’

รายงานจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมว่า หนุ่มใหญ่ชาวกรุงเทพมหานคร วัย 44 ปี ที่เคยสร้างความฮือฮาปีที่แล้ว เมื่อมีชื่อ และนามสกุล สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมือง โดยมีชื่อตามบัตรประชาชนว่า นายหัวหน้า นามสกุล คณะปฎิวัติ กระทั่งสังคมออนไลน์นำมาเผยแพร่ และมีผู้แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้หลายทาง ล่าสุดนายหัวหน้า เปลี่ยนชื่อและนามสกุล ใหม่แล้ว โดยเปลี่ยนเป็นชื่อนายสุวิทย์ นามสกุล ช่วยชูใจ ทั้งนี้ในบัตรประชาชนใบใหม่นั้น มีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ด้วยเช่นกัน จากเดิมเมื่อครั้งใช้ชื่อ นายหัวหน้า คณะปฎิวัติ อาศัยอยู่ในแขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร แต่ที่อยู่ใหม่ ระบุอยู่แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร


“ครูบำนาญ”แจ้งจับ“หญิงไก่” เพิ่ม2คดี “ฉ้อโกง-ทำร้ายร่างกาย”

เมื่อเวลา10.00น. วันที่ 15 สิงหาคม ที่สน.ประชาชื่น น.ส.ญาดาภา ลักษณัย อายุ 73 ปี อดีตข้าราชการครูบำนาญ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.รัถย์ศานต์ ประจิตร์ รองสว.สอบสวน สน.ประชาชื่น เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับนางมณตา หยกรัตนกาญจน์ อายุ 58 ปี จำนวน 2 คดี ในคดีฉ้อโกง และคดีทำร้ายร่างกาย โดยมี พ.ต.อ.สามารถ พรหมชาติ ผกก.สน.ประชาชื่น ร่วมสอบปากคำ ใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 5 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ น.ส.ญาดาภา เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาแจ้งความที่สน.ประชาชนชื่น เพื่อดำเนินคดีกับนางไก่ เพราะรู้จักกับนางไก่ตอนมาแจ้งความในคดีฉ้อโกงเช็ค 9 ล้านบาท ที่สน.ประชาชื่น นางไก่ได้เข้ามาพูดคุยตีสนิท และมาขอเป็นลูกบุญธรรม จากนั้นมีการทำธุรกรรมเรื่องที่ดินร่วมกัน โดยนางไก่เป็นนายหน้าหาคนมาซื้อที่ดิน ส่วนในวันนี้จะมาแจ้งความกับนางไก่ 2 คดี คดีแรกเป็นคดีฉ้อโกงเงิน 8 แสนบาท เมื่อวันที่26 เมษายนที่ผ่านมา นางไก่มาเสนอขายร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ย่านประชานิเวศน์ โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของร้าน และนำเอกสารโฉนดที่ดิน รวมทั้งการประเมินราคาจากธนาคารประมาณ 40 ล้านบาท เมื่อให้เงินกับนางไก่ไปก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก ส่วนคดีที่ 2 คดีทำร้ายร่างกาย เกิดขึ้นหลังจากที่ตนไปหานางไก่ที่ห้องพัก เพื่อทวงใบสัญญาซื้อขาย แต่ไม่ได้รับคำตอบใดๆ และโดนทำร้ายร่างกาย วันนี้จึงเดินทางเข้าเเจ้งความเพิ่มเติม ทั้งนี้ในส่วนของคดีที่ยังค้างอยู่ ตนจะเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมในวันที่16 สิงหาคม เวลา10.00น. ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พ.ต.อ.สามารถ เปิดเผยว่า วันนี้ น.ส.ญาดาภา มาแจ้งความเพิ่มเติม 2 คดี ทางเจ้าหน้าที่ได้รับลงประจำวันเบื้องต้นไว้ก่อน เนื่องจากยังไม่มีพยานหลักฐาน หลังจากนี้จะต้องให้ผู้เสียหายไปรวบรวมพยานหลักฐาน และเอามายื่นให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อไป


ป๋อมแป๋ม เปิดใจยิบ นาทีเปลือยในคลิปดัง

เมื่อเวลา 19.40 น.วันที่ 11 ส.ค. ที่สถานีโทรทัศน์อัมรินทร์ทีวี ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. น.ส.ป๋อมแป๋ม อายุ 24 ปี ให้สัมภาษณ์รายการต่างคนต่างคิด กรณีถูก น.ส.วิราลักษณ์ สุทธิปะภา หรือ มะนาว อายุ 24 ปี อดีตนางแบบนิตยสารแม็กซิมถ่ายคลิปวิดีโอในสภาพเปลือยเปล่า จนมีการแชร์ในโลกออนไลน์

น.ส.ป๋อมแป๋ม กล่าวว่า รู้จักกับผู้ชายในคลิปผ่านพี่ที่รู้จักได้แค่หนึ่งวันก่อนเกิดเหตุ วันเกิดเหตุฝ่ายชายทักไลน์มาหาตนชวนให้ไปหาที่ห้อง ซึ่งวันนั้นตนได้ไปดื่มกินมาบ้าง แต่ไม่ได้ไปกับผู้ชายหรือกลัวด่านเป่าแอลกอฮอล์ตามที่ฝ่ายชายเคยให้สัมภาษณ์ ผ่านสื่อ พอชวนมาตนก็ไป โดยไม่รู้ว่าฝ่ายชายเป็นแฟนหนุ่มของน.ส.วิราลักษณ์ และยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นไซด์ไลน์ ที่ไปเพราะเรื่องชู้สาว พอไปถึงในห้องก็พบฝ่ายชายกับเพื่อนเขาเป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน นั่งคุยกันเรื่องกระเป๋า จนประมาณ เวลา 01.00 น. ทางเพื่อนก็เดินทางกลับ พออยู่กันสองต่อสอง ตนก็รู้แล้วว่าจะเป็นอย่างไรต่อ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของวัยรุ่น กระทั่ง น.ส.วิราลักษณ์ เคาะประตูห้อง ฝ่ายชายแสดงอาการตกใจ ตนก็ตกใจมาก จึงรีบวิ่งเข้าไปในห้องนอนด้วยสภาพเปลือยเปล่า เลยนำผ้าห่มมาห่อตัวไว้

น.ส.ป๋อมแป๋ม กล่าวอีกว่า พอน.ส.วิราลักษณ์เข้ามาในห้องเห็นเสื้อผ้าของตน จึงคุยกับฝ่ายชายแล้วก็มาเรียกตนให้ออกจากห้องนอน วินาทีนั้นกลัวมาก คิดว่าทำไมซวยขนาดนี้ เคยเห็นแต่ในละครไม่คิดมาเจอในชีวิตจริง ในขณะที่อีกฝ่ายเรียกออกไป ตนก็คิดเปลือยอยู่จะออกได้อย่างไร หากใส่เสื้อผ้าคงออกแล้ว แถมกลัวถูกทำร้ายร่างกายด้วย กระทั่ง สุดท้ายออกจากห้อง น.ส.วิราลักษณ์ ก็ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิป ตนก็ตกใจแต่ทำอะไรไม่ได้ พยายามไม่ให้เห็นหน้า และวิงวอนขอร้องไม่ให้อีกฝ่ายทำร่างกาย ปากก็พูดขอโทษด้วย แต่อีกฝ่ายบังคับออกจากห้อง ตนต้องตะโกนขอเสื้อผ้ากับสิ่งของทีละชิ้น ทั้งนี้ ขณะเกิดเหตุน.ส.วิราลักษณ์ไม่มีอาวุธปืนในมือตามที่มีกระแสข่าว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนตนเป็นที่ระบายอารมณ์ของอีกฝ่าย ยอมรับว่าผิดแต่ไม่คิดว่าจะใจร้ายกันถึงขนาดนี้ ทั้งที่ตอนอยู่ในห้อง ฝ่ายชายพิศวาทตนอย่างกับอะไรดี ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นไซด์ไลน์ อีกทั้ง มีสติถ้ารู้ผู้ชายมีแฟนแล้วจะไม่ทำแบบนี้เด็ดขาด


ตายแล้ว 11! ลุยเซียนาอ่วม บ้าน4หมื่นหลังจมบาดาล

เมื่อ 17 ส.ค.59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในรัฐลุยเซียนา ทางภาคใต้ของสหรัฐฯ หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อหลายวัน จนทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำอย่างน้อย 6 สาย รวมทั้งแม่น้ำอมิที เอ่อล้นฝั่งไหลท่วมในหลายพื้นที่ของรัฐว่า เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 ศพ ขณะที่มีบ้านเรือนราว 40,000 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมสูง ประชาชนนับ 30,000 คน สัตว์เลี้ยงราว 1,000 ตัว ได้รับความเดือดร้อน จนต้องได้รับความช่วยเหลือจากทีมกู้ภัย อีกทั้งยังมีผู้ประสบอุทกภัยประมาณ 8,000 คน ต้องพำนักอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวตั้งแต่คืนวันจันทร์ที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ด้านนายอำเภอเมืองลิฟวิงตัน แพริช ในรัฐลุยเซียนา กล่าวกับนักข่าวเอบีซี นิวส์ว่า บ้านเรือนในเมืองบาตัน รูจ ถึงประมาณ 80% อาจพังเสียหายจากน้ำท่วมคราวนี้ โดยข่าวแจ้งว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้มีประชาชนนับ 60,000 คนที่ประสบอุทกภัยร้ายแรงในรัฐลุยเซียนา มาลงชื่อขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง ขณะที่คาดว่า ความเสียหายจากน้ำท่วม ภาวะอุทกภัยรุนแรงในรัฐลุยเซียนาครั้งนี้ จะสูงนับ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ รัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐลุยเซียนา ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 14 ส.ค. ขณะประสบอุทกภัยร้ายแรง หลังได้เกิดฝนตกหนักในรัฐ โดยเฉพาะที่ เมืองลิฟวิงตัน แพริช สามารถวัดปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา ในช่วง 24 ชั่วโมง ได้ถึง 21 นิ้ว ซึ่งถือเป็นปริมาณน้ำฝนที่สูงถึงเกือบสถิติในปี 2505 เพราะปีนั้น เกิดฝนตกหนักวัดปริมาณน้ำฝนในช่วง 24 ชั่วโมงได้ 22 นิ้ว.

กระแสหวาดกลัวมุสลิมลาม ยิงดับอิหม่ามนิวยอร์ก

เมื่อวันที่ 14 ส.ค. เกิดเหตุฆาตกรรมในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา อิหม่ามมาอูลามา อาคอนจี วัย 55 ปี พร้อมผู้ช่วยคือนายธรา อุดดิน วัย 64 ปี ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตในเวลากลางวันแสกๆ ขณะเดินกลับบ้านหลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติธรรม ย่านชุมชนมุสลิมบังกลาเทศ ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ในย่านควีนส์ของนครนิวยอร์ก บนถนนลิเบอร์ตี รอยต่อกับย่านบรู๊คลิน ใกล้มัสยิดอัล-ฟูร์–คาน เจม สถานที่ผู้ตายเพิ่งเสร็จการปฏิบัติธรรมมาหมาดๆ โดยจากการเปิดเผยของพยานในที่เกิดเหตุพบเห็นคนร้ายได้เดินตามประกบอิหม่ามและผู้ช่วย ก่อนชักปืนขึ้นมาจ่อยิงระยะเผาขน ก่อนวิ่งหนีลอยนวลไปจากที่เกิดเหตุพร้อมอาวุธปืนในมือ ส่วนเหยื่อมือปืนได้เสียชีวิตทั้ง 2 คน หลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบแรงจูงใจผู้ก่อเหตุที่อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม และยังไม่พบหลักฐานใดๆ ว่าผู้ตายถูกยิงเพราะว่าเป็นมุสลิม สำนักงานนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนครนิวยอร์กอยู่ระหว่างสืบสวนในทุกๆความเป็นไปได้ รวมถึงว่าเหตุการณ์นี้เป็นการฆาตกรรมเพราะความเกลียดชังหรือไม่ ขณะที่นายโคบีร์ ชอดฮูรี ผู้ดูแลมัสยิดอัลอามาน ในย่านบรู๊คลินใกล้เคียง ระบุว่า กระแสความหวาดกลัวอิสลามได้ทำให้ทุกอย่างแย่ไปหมด ส่วนสำนักข่าวเอเอฟพีระบุด้วยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศต่อต้านชาวมุสลิมและกระแสความหวาดกลัวศาสนาอิสลามที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเหตุความรุนแรงในสหรัฐฯ และต่างแดน ที่บางกรณีเป็นฝีมือของกองกำลังรัฐอิสลามหรือไอเอส รวมถึงนโยบายหาเสียงกีดกันชาวมุสลิมไม่ให้เข้าสหรัฐฯของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน