ข่าว
"บี้ สุกฤษฎิ์”ควง”นก จริยา" คว้ารางวัลขวัญใจมหาชน

ที่โรงละครแห่งชาติ มีการจัดงานประกาศผลรางวัลเกียรติยศ "ไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ดส์ 2012" ภายใต้คอนเซ็ปต์ "หน้าม่านคุณภาพ หลังม่านคุณธรรม ซึ่งจัดโดยรายการ "ไนน์เอ็นเตอร์เทน" ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี

บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีบุคคลในวงการบันเทิงจากหลากหลายสาขา ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังเข้าร่วมงานมากมาย อาทิ หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล, พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, บี้-สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว, นัท-มีเรีย เบนเนเดดตี้, หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ, ตุ้ย-เกียรติกมล ล่าทา, เจมส์-เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์, โดม-ปกรณ์ ลัม, ณัฐ ศักดาทร, นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา, หวาย-ปัญญริสา เธียรประสิทธิ์, โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร, วงพาราดอกซ์, วงโปเต้โต้, วงซิงกูลาร์ ฯลฯ นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก "วงบอยเฟรนด์" บอยแบนด์ชื่อดังจากประเทศเกาหลี เดินทางมาร่วมงานประกาศผลรางวัลในครั้งนี้ด้วย

จากนั้นเวลา 19.30 น. พิธีประกาศผลรางวัลเริ่มขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท รวมจำนวน 13 รางวัล ซึ่งมีดังต่อไปนี้

ทีมสร้างสรรค์แห่งปี ได้แก่ ทีมสร้างสรรค์ภาพยนตร์ "อุโมงค์ผาเมือง" สหมงคลฟิล์ม, ศิลปินกลุ่มแห่งปี ได้แก่ "สล็อตแมชชีน" อัลบั้ม Cell, ศิลปินเดี่ยวแห่งปี ได้แก่ ′เต้น′นรารักษ์ ใจบำรุง อัลบั้ม "ของหายอยากได้คืน", เพลงแห่งปี ได้แก่ "หน่วง" ของ Room 39

ด้านรางวัล นักแสดงชายแห่งปี ได้แก่ ′ปีเตอร์′นพชัย ชัยนาม จากผลงานภาพยนตร์ ฝนตกขึ้นฟ้า และ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ ภาค 3 และ 4, นักแสดงหญิงแห่งปี ได้แก่ ′นก′จริยา แอนโฟเน่ จากผลงานละคร มงกุฎดอกส้ม, ดอกส้มสีทอง และ กลรักลวงใจ, ละครโทรทัศน์แห่งปี ได้แก่ มงกุฎดอกส้ม โดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น, ภาพยนตร์แห่งปี ได้แก่ ฝนตกขึ้นฟ้า โดยบริษัท โลคัล คัลเลอร์ ฟิล์ม

ส่วนรางวัล พิธีกรแห่งปี ได้แก่ ′น้าเน้ก′เกตุเสพสวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา จากผลงาน Take Me Out, เปรี้ยวปาก, รู้จริงปะ ยกกำลังสาม, อีเม้าท์มาเต็ม, สะบัดช่อ, เกมเผาขน, เดอะจ๊อบ, บุคคลเบื้องหลังแห่งปี ได้แก่ ′สุรางค์ เปรมปรีดิ์′, ครอบครัวบันเทิงแห่งปี ได้แก่ ครอบครัวสุโกศล แคลปป์ และ รางวัลขวัญใจมหาชน ได้แก่ ′บี้′สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว

สำหรับรางวัลเกียรติยศ "บันเทิงเทิดธรรม" มีขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติคนบันเทิงที่มีคุณภาพและคุณธรรม โดยในการนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานถ้วยรางวัลเกียรติยศ แก่บุคลากรในวงการบันเทิงที่มีความประพฤติดี มีน้ำใจ และมีผลงานเป็นที่ยอมรับในสังคมอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปี ซึ่งในปีนี้ ได้แก่ ′อี๊ด′สุประวัติ ปัทมสูต

ด้าน นก-จริยา เผยความรู้สึกหลังได้รับรางวัล นักแสดงหญิงแห่งปี ว่า ตนรู้สึกแปลกใจและตื่นเต้น เพราะหลังๆ มาทำงานไม่ได้หวังอะไร แค่สนุกกับงานที่ทำ ต้องบอกว่ารางวัลไทยและสากลไม่เหมือนกัน เพราะถ้าเกิดอายุขนาดนี้ก็จะไม่ค่อยได้รางวัลเท่าไหร่ ตนจึงเลิกคาดหวังแค่ได้ยินว่ามีชื่อเข้าชิงก็ถือว่าได้รับเกียรติมากแล้ว กับรางวัลนี้ถือว่าเซอร์ไพร้สมากๆ เพราะตนไม่ได้คาดหวัง ต้องบอกว่าปีที่ผ่านมาเป็นงานยากสำหรับตน ไม่ว่าจะเป็นละครเรื่อง ดอกส้มสีทอง, กลรักลวงใจ อย่างในเรื่อง ดอกส้มสีทอง เล่นเป็นผู้หญิงมีอายุและเป็นคนจีนด้วย กับรางวัลนี้จึงเป็นรางวัลที่ภูมิใจมาก อีกอย่างนึงที่นี่เขาแจกรางวัลแบบดูภาพรวมหลายๆ อย่างด้วย

ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่าห่างจากการได้รางวัลนานขนาดไหน ′นก-จริยา′ กล่าวว่า "ประมาณ 2-3 ปี ซึ่งหลังๆ มาไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องได้รางวัล อย่างรางวัลนี้คิดว่าแค่มาร่วมงาน เพราะตัวเองมีความคิดว่าแค่เขาเชิญ หรือมีชื่อร่วมเข้าชิงรางวัลก็ควรมา ไม่จำเป็นว่าต้องได้รางวัลถึงมา กับรางวัลนี้ก็คงกลับไปฉลองกันแต่ยังไม่ได้วางแผนอะไรเลยค่ะ"

ด้านนักร้องหนุ่ม บี้-สุกฤษฎิ์ เผยความรู้สึกหลังจากได้ รางวัลขวัญใจมหาชน 4 ปีซ้อน ว่า ตนรู้สึกดีใจมาก ไม่ได้ถือว่าเป็นการป้องกันแชมป์แต่อย่างใด ตอนแรกไม่รู้และไม่คิดว่าจะได้ เพราะผู้เข้าชิงทุกคนก็มีแฟนคลับค่อนข้างเยอะ กับรางวัลนี้ตนได้จากแฟนคลับที่เขาเสียทั้งเงินและให้กำลังใจ ต้องขอบคุณแฟนคลับ ขอบคุณบ.เอ็กแซ็กท์ ขอบคุณบ.แกรมมี่ ที่ทำให้ตนมีวันนี้ ตนถือว่าการได้รางวัลนี้ 3 ปีซ้อน ถือว่ายากแล้ว แต่นี่ได้เป็นปีที่4 ตนไม่คิดว่าเรื่องของตำแหน่งไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ขึ้นอยู่เรื่องของงาน ความสุขในการทำงาน และผลงานที่ทำออกมามากกว่า

ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่าคาดหวังว่าจะได้รางวัลนี้หรือไม่ นักร้องหนุ่มกล่าวว่า "ผมไม่ได้คาดหวัง เพราะแค่เห็นรายชื่อผู้ที่เข้าชิงก็ไม่คิดว่าจะได้ ผมต้องขอบคุณมากครับ บอกความรู้สึกไม่ถูกจริงๆ เพราะรางวัลนี้ที่ได้มานั้น ได้มาจากแฟนคลับที่เขาพยายามโหวต ถือว่าเป็นเกียรติของเรา คิดว่าคงจะมีการเลี้ยงขอบคุณแฟนคลับ แต่ตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออกจริงๆ ซึ่งตอนนี้ตื้นตันครับ ผมพูดไม่ค่อยถูกเพราะผมจะร้องไห้" นักร้องหนุ่มกล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำตาคลอ

"ลุงเอี่ยม"ขอทานใจบุญ มอบเงินล้านให้วัดไร่ขิง

จากกรณีนายเอี่ยม คัมภิรานนท์ อายุ 62 ปี ชาว ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ผู้พิการป่วยเป็นโปลิโอ แขนขาลีบ ลิ้นไก่สั้น พูดไม่ชัด นำเงินที่เก็บหอมรอมริบจากการนั่งตั้งใบอนุโทนาบัตรเชิญชวนให้ประชาชนร่วมบริจาคเงินในวัดไร่ขิงมานาน 30 กว่าปี โดยในปีนี้รวบรวมเงินสามารถถวายวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อ.สามพราน จ.นครปฐม ได้ถึง 999,999 บาท จนข่าวความใจบุญสุนทานของลุงเอี่ยมแพร่สะพัดออกไปเรียกเสียงชื่นชมยกย่องจากคนไทยทั้งประเทศ ตามที่ "ข่าวสด" รายงานไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 16 มี.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" เดินทางไปที่วัดไร่ขิง พระอารามหลวง อ.สามพราน จ.นครปฐม บรรยากาศในช่วงเช้านั้นมีประชาชนเดินทางทยอยกันมาทำบุญเหมือนทุกๆ วัน บ้างก็เดินทางมาที่วัดเพื่อรอพบกับลุงเอี่ยมโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีรายการ วีไอพี จากช่อง 9 และรายการเจ็ดวันเจ็ดอย่างของช่อง 7 ติดต่อเข้ามาทำรายการเพื่อดูชีวิตความเป็นอยู่ของลุงเอี่ยมอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้พบนายเอี่ยมกำลังนั่งรถสามล้อซาเล้งของนายสมพงษ์ บัวเกิด อายุ 45 ปี ไป ผู้ดูแลช่วยเหลือนายเอี่ยมเวลาจะไปธุระซื้อของมาพอดี ซึ่งนายสมพงษ์กำลังพานายเอี่ยมออกไปซื้อแกงถุงแล้วกลับมานั่งที่ร้านประจำ นายสมพงษ์ เผยว่า นายเอี่ยมเป็นคนตรงเวลามาก หากเวลา 07.00 น. จะมานั่งรอเพื่อให้ตนพาไปซื้อแกงถุงข้างโรงพยาบาล จากนั้นจะกลับมานั่งกินกับข้าวสวยที่ร้านอาหารตามสั่งหลังวัด พร้อมกับสั่งเครื่องดื่มเป๊ปซี่ ทุกวันนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย นายเอี่ยมชอบกินอาหารรสจัด แต่ละวันจะเลือกซื้อแกงร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ แกงส้ม แกงป่าไก่ เมื่อทานข้าวอิ่มเรียบร้อยก็จะกลับเข้าไปนั่งในวัดพร้อมกางแผ่นป้ายไวนิล และตั้งใบอนุโทนาบัตรทุกวัน

นายสมพงษ์ กล่าวว่า ในช่วงค่ำหากวัดใดที่จัดงานหรือมีมหรสพ หนังกลางแปลงนายเอี่่ยมจะต้องไม่พลาดชม เพราะชอบหนังกลางแปลงเป็นชีวิตจิตใจ ต้องให้ตนพาไปดูให้ได้ นายเอี่ยมจะมีค่าใช้จ่ายวันละ 500 บาทต่อวัน รวมค่าแรงของตน 300 บาท ค่ากิน 150 บาท และที่สำคัญต้องซื้อไก่ย่างเลี้ยงหมาทุกวันอีก 50 บาท

ขณะนายเอี่ยมกำลังรับประทานอาหาร ปรากฎว่า มีชาวบ้านเดินถือหนังสือพิมพ์ "ข่าวสด" ที่มีรูปนายเอี่ยมขึ้นหน้า 1 หยิบมาให้ดู ทำให้นายเอี่ยม ยิ้มอย่างมีความสุข พร้อมกับชูมือสองนิ้วให้ดู นอกจากนี้ยังมีรายการทีวีช่อง 3 เรื่องเล่าเช้านี้ของสรยุทธ สุทัสนะจินดา ที่นายเอี่ยมให้สัมภาษณ์ นายเอี่ยมก็นั่งมองอย่างมีความสุข จนแม่ค้าแซวกันเสียงดังว่าเป็นคนดังออกทีวีบ้าง หรือ ดาราหน้ากล้องบ้าง

นางจิตราวดี โพธิ์จินดา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/3 หมู่ 5 ต.ท่าตลาด อ.สามพราน จ.นครปฐม เจ้าของร้านอาหารตามสั่งมุกแม็ก ร้านที่นายเอี่ยมซื้อแกงไปนั่งกินทุกวัน เปิดเผยว่า นายเอี่ยมเป็นคนกินเก่ง จะตักข้าวสวยร้อนๆให้พูนจานแต่ก็กินจนหมด หากวันไหนเบื่อแกงใต้จะเข้ามาสั่งข้าวราดกระเพราไก่ คู่กับเครื่องดื่มเป๊ปซี่ ซึ่งเป็นอาหารที่นายเอี่ยมชอบ ไม่ค่อยสั่งเมนูอื่น ทางร้านจะคิดราคาข้าวสวยและค่าเป็ปซี่รวม 20 บาทเท่านั้น หากมื้อกลางวันลุงเอี่ยมจะไม่ออกมา แต่จะให้นายสมพงษ์ ซาเล้งคู่ใจเป็นคนขี่ออกมาซื้ออาหารให้ทาน

นายอุดร ศิริอาภรณ์ อาจารย์โรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา ที่เห็นพฤติกรรมใจบุญของนายเอี่ยมมานับสิบปี ระบุว่า หลังจากที่ข่าวนายเอี่ยม ขอทานใจบุญ แพร่สะพัดออกไปนั้น ตนมีความรู้สึกว่าเป็นเรื่องดี แต่ห่วงความปลอดภัยกลัวอันตรายกับตัวนายเอี่ยมเอง หรือเกรงว่ากลุ่มมิจฉาชีพจะนำไปเป็นช่องทางในการหารายได้ แต่อยากวอนขอว่าอย่าทำเลย หรือใครที่กำลังคิดว่านายเอี่ยมมีเงินติดตัวจำนวนมากนั้น ขอบอกได้เลยว่าเงินเข้าธนาคารหมด จะไม่มีติดตัว ไม่อยากให้ใครมาคิดทำร้ายนายเอี่ยมจริงๆ โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกดีกับนายเอี่ยมและขอชื่นชม ตนก็ขออนุโมทนาบุญด้วย หากรายการใดต้องการติดต่อไปออกรายการ ขอเชิญมาที่วัดจะดีกว่า เพราะนายเอี่ยมเดินลุกนั่งลำบากและเหนื่อยเวลาเดินทาง

นางสาวชลกนก สิทธิลาภ อายุ 30 ปี อาชีพรับราชการสาธารณสุข อำเภอสามพราน อยู่บ้านเลขที่ 33/3 หมู่ 1 ต.ตลาดจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม ประชาชนที่มาทำบุญที่วัดไร่ขิง กล่าวว่า เมื่อปีที่ผ่านมา เคยมาทำบุญที่วัดแล้วและเคยพบกับนายเอี่ยม เห็นนายเอี่ยมนั่งอยู่ตรงจุดเดิมนี้ มีป้ายไวนิลบอกบุญ เชิญชวนคนทำบุญ เมื่อตนเห็นแล้วก็รู้สึกดีเห็นว่ามีจิตใจดี ส่วนนายเอี่ยมเมื่อมีคนให้เงินก็จะยิ้มและกล่าวขอบคุณอย่างมีความสุขเช่นกัน

แท็กซี่หอบทองคำ 13 ล้านคืน เสี่ยซึ้งใจตอบแทนทอง 8บาท!

จากกรณีนายเอกรัตน์ กนกวรรณากรณ์ อายุ 60 ปี เสี่ยเจ้าของร้านทองเยาวราช จ.อุบลราชธานี ลืมกระเป๋าใส่ทองคำน้ำหนัก 540 บาท มูลค่า 13 ล้านบาท ไว้บนรถแท็กซี่สีชมพู หลังจากลงรถที่ตลาดสี่มุมเมือง ย่านรังสิต ก่อนเข้าแจ้งความที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เพื่อให้ติดตามหาโชเฟอร์แท็กซี่คันดังกล่าว พร้อมตั้งรางวัล 5 แสนบาท หากยอมนำทองคำมาคืนให้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 มี.ค. ที่สถานีวิทยุ สวพ.91 นายศักดิ์ศรี เกษสีแก้ว อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 ม.5 ต.ศรีแก้ว อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด อาชีพขับรถแท็กซี่ สีชมพู ทะเบียน ทศ-8421 กทม. และส.อ.ศดิพงษ์ บุญยวุฒิ ทหารประจำ ร.1พัน 4 รอ. หลานชาย เข้ามาติดต่อนำทองคำน้ำหนัก 540 บาท มูลค่าประมาณ 13 ล้านบาท ที่ผู้โดยสารลืมไว้บนรถย่านตลาดสี่มุมเมืองมาคืนให้

นายศักดิ์ศรีกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุรับผู้โดยสารมาส่งที่ตลาดสี่มุมเมืองแล้วพบว่าลืมกระเป๋าไว้บริเวณด้านหน้ารถ จึงมาปรึกษากับนายมนูญ เนตรลอย เพื่อนขับรถแท็กซี่ จากนั้นจึงตัดสินใจนำกระเป๋ามาคืนเจ้าของ โดยลองเปิดภายในกระเป๋า เพื่อหานามบัตรติดต่อเจ้าของที่ลืมไว้ แต่ไม่พบ เมื่อลองหาบริเวณช่องใส่ของด้านหน้ากระเป๋าพบถุงพลาสติกอยู่ จึงหยิบออกมาดูพบภายในเป็นทองคำรูปพรรณจำนวนมาก

ซึ่งตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก เพราะไม่เคยเห็นทองคำมาขนาดนี้ ก่อนรีบขับรถวนไปบริเวณที่ส่งผู้โดยสารหวังนำทองคำมาคืนให้ แต่ก็ไม่พบอีกเช่นกัน โดยยังลองขับรถวนไปบริเวณจุดเดิมที่ส่งอีกครั้งเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15 มี.ค. และช่วงเช้าที่ผ่านมา ก่อนเพื่อนจะแนะนำให้โทรศัพท์เข้ามาที่สถานีวิทยุ สวพ.91 เพื่อให้ช่วยติดต่อหาเจ้าของ แล้วทราบว่ามีผู้ติดต่อว่าลืมทองคำไว้บนรถแท็กซี่เข้ามา จึงนัดหมายให้เจ้าของมารับทองคำที่ลืมไว้

ต่อมานายเอกรัตน์ เดินทางมาที่ศูนย์วิทยุ สวพ.91 เพื่อรับทองคำที่ลืมไว้คืน เมื่อนายเอกรัตน์เห็นทองที่ลืมไว้ก็มีสีหน้าดีใจ พร้อมให้รางวัลนายศักดิ์ศรี เป็นทองคำรูปพรรณน้ำหนัก 5 บาท 1 เส้น และน้ำหนัก 3 บาท อีก 1 เส้น

จับพระเอก“จอร์จ คลูนีย์” ประท้วงหน้าสถานทูตซูดาน

จับจอร์จ คลูนีย์ พร้อมกับพ่อและทีมส.ส.พรรคเดโมแครต ขณะล้ำเส้นกันตำรวจหน้าสถานทูต ขณะประท้วงรัฐบาลซูดานให้ยุติการใช้กำลังรุกรานเขตเซาธ์ คอร์โดฟาน ที่มีผู้ยากไร้กว่า 2 แสนคน 16 มี.ค. “จอร์จ คลูนีย์” พระเอกชื่อดังแห่งวงการภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด และสมาชิกอีกหลายคนของสภาคองเกรส ถูกจับกุมตัวในวันนี้ ที่บริเวณด้านหน้าสถานทูตซูดานในกรุงวอชิงตัน ขณะชุมนุมประท้วงเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลซูดาน ยุติการใช้กำลังรุกรานในเขตภูมิภาค เซาธ์ คอร์โดฟาน ของซูดาน

โดยพระเอก “จอร์จ คลูนีย์” ชาวอเมริกันในวัย 50 ปี และมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง “The Descendants” ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมบนเวทีประกาศผลรางวัลตุ๊กตาทอง “ออสการ์” ด้วยนั้น เขากับพวกนักเคลื่อนไหว ฝ่าฝืนคำเตือนว่า อย่าข้ามเส้นกั้นที่ตำรวจตั้งไว้ด้านหน้าสถานทูตซูดาน ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับใส่กุญแจมือ นำตัวขึ้นรถของตำรวจไป

“จอร์จ คลูนีย์” ถือว่าเป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนคนสำคัญชาวอเมริกัน และยังได้มีโอกาสเข้าพบกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เขายังยอมรับว่า เคยลอบเดินทางเข้าไปที่เขตภูมิภาคเซาธ์ คอร์โดฟาน ซึ่งทางหน่วยงานบรรเทาทุกข์ ระบุว่า มีชาวซูดานในราว 250,000 คน กำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะอดอยากและขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง ดังนั้น เขาจึงเรียกร้องให้รัฐบาลของประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาชีร์ ของซูดาน อย่าปิดกั้นหรือขัดขวางการจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปช่วยเหลือประชาชนที่กำลังอดอยากอย่างหนัก

นอกจาก “จอร์จ คลูนีย์”แล้วยังมี พ่อของเขา “นิค คลูนีย์” กับส.ส.พรรคเดโมแครต นายจิม มอแรน จากรัฐเวอร์จิเนีย กับนายเบน จีลัส ผู้นำการต่อสู้ด้านสิทธิมนุษยชน ถูกจับกุมตัวไปพร้อมกันนี้ด้วย