ข่าว
3 ชาวบราซิลถูกตั้งข้อหาฆ่า-กินเนื้อมนุษย์

ตำรวจบราซิลรายงานว่า ชาวบราซิล 3 คน ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมผู้หญิง 3 ราย และกินเนื้อพวกเธอด้วยโดยอ้างว่าเป็นความเชื่อตามลัทธิเพื่อชำระจิตวิญญาณและควบคุมจำนวนประชากรไม่ให้มากเกินไป เจ้าหน้าที่บราซิลจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และตั้งข้อหาคนทั้งสาม ซึ่งประกอบด้วยคู่สามีภรรยาวัย 50 ปี และผู้หญิงอีกคนวัย 25 ปี ฐานฆาตกรรมผู้หญิง 3 คน อายุระหว่าง 17-30 ปี ในช่วงปี 2008-2012 ที่รัฐเปร์นัมบูกู ทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล

ตำรวจเผยว่า ทั้งสามคนอ้างว่าได้ยินเสียงที่กระซิบให้ฆ่าคน และยอมรับสารภาพว่ากินเนื้อของเหยื่อด้วย โดยศพของเหยื่อสองรายถูกฝังไว้ในพื้นดินบริเวณบ้านของพวกเขา โดยเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนว่า พวกเขาเกี่ยวข้องกับการตายของผู้เสียชีวิตอีก 4 คนหรือไม่ ทั้งนี้ ผู้ต้องสงสัยอ้างว่าทำตามความเชื่อของลัทธิเอล การ์เตล และเพื่อควบคุมจำนวนประชากรไม่ให้มากเกินไป

โดยวิธีการทำงานของคนทั้ง 3 คือ การเลือกเหยื่อที่"มีมลทิน" และตีสนิทโดยการเสนองานให้ทำ ก่อนที่จะสังหารพวกเธอทั้งหมด โดยระบุชื่อของสองสามีภรรยาที่ตกเป็นผู้ต้องหา คือนายยอร์เก้ ดา ซิลวีรา และนางอิซาเบล พิเรส ซึ่งมีอายุราว 50 ปี และบรูนา ดา ซิลวา หญิงวัย 25 ปี

ดับ "อาบู ยาห์ยา อัลลิบี" ผู้นำเบอร์2 กลุ่มอัลกออิดะห์

รัฐบาลสหรัฐฯเปิดเผยว่า ยานไร้คนขับของกองทัพสหรัฐฯ สามารถสังหารหนึ่งในหัวหน้ากลุ่มก่อการของอัลกออิดะห์ในปากีสถาน สร้างความสั่นคลอนครั้งใหญ่ให้แก่อัลกออิดะห์นับตั้งแต่นายอุซมะห์ บิน ลาดิน หัวหน้ากลุ่มถูกสังหารเมื่อปีก่อน เจ้าหน้าที่สหรัฐฯกล่าวว่านายอาบู ยาห์ยา อัลลิบี เป็นหัวหน้ากลุ่มก่อการของอัลกออิดะห์ในปากีสถานเสียชีวิตเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 5 มิ.ย. เมื่อยานไร้คนขับของสหรัฐฯถล่มแหล่งกบดานในเขตชนเผ่าของจังหวัดนอร์ธวาซิริสถาน หลังจากรอดชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีของสหรัฐฯมาหลายครั้ง อย่างไรก็ดี ยังคงไม่มีคำยืนยันจากฝ่ายปากีสถานถึงข่าวนี้

ด้านทำเนียบขาวระบุว่า เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของอัลกออิดะห์และยากที่ทางกลุ่มจะหาผู้มากประสบการณ์อย่างนายลิบีได้ และการส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติการของกลุ่ม เนื่องจากเขาเป็นผู้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการวางกลยุทธิ์โจมตีชาติตะวันตก นายลิบีหลบหนีจากการควบคุมตัวของสหรัฐฯในอัฟกานิสถานเมื่อปี 2005 เป็นนักสอนศาสนามีชื่อจริงว่า โมฮาเหม็ด ฮัสซัน กาอิด

สหรัฐฯเชื่อว่า หลังการเสียชีวิตของนายโอซามะห์ บิน ลาเดน เมื่อปีก่อน นายอัลลิบี นักการศึกษาด้านศาสนาอิสลามจากลิเบีย ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำลำดับที่สองของอัลกออิดะห์ เป็นรองเพียงนายเอย์มาน อัล-ซาวาฮิรี

สหรัฐฯได้เพิ่มปฏิบัติการโจมตีในปากีสถานด้วยยานไร้คนขับมากขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มความตึงเครียดให้แก่ความสัมพันธ์กับปากีสถาน ล่าสุดปากีสถานได้เรียนอุปทูตสหรัฐมารับทราบความวิตกอย่างยิ่งต่อการกระทำของสหรัฐฯแล้ว

ช้างทายบอลยูโรนัดแรก โปแลนด์เคี้ยวหมูกรีซ

วันที่ 6 มิ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองคราคุฟ ประเทศโปแลนด์ว่า หลังจากที่ “หมึกพอล” เคยสร้างความฮือฮามาแล้วทั่วโลก กับการเป็นสัตว์พยากรณ์ทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลโลกได้อย่างแม่นยำ 100 เปอร์เซ็นต์ ถูกทุกนัดมาแล้ว

ขณะนี้มีสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่จะมาสืบทอดตำนานการทายผลฟุตบอลยูโร 2012 หรือฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ที่ประเทศเจ้าภาพร่วม โปแลนด์ กับ ยูเครน ระหว่างวันที่ 8 มิ.ย.ถึง 1 ก.ค.นี้ นั่นคือ ช้างเอเชียอายุ 33 ปี เพศเมีย ชื่อ “ซิตต้า” ซึ่งมีสถิติการทำนายผลอย่างแม่นเช่นกัน โดยเฉพาะล่าสุดก็ทายได้อย่างแม่นยำเช่นกันกับผลการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง “บาเยิร์น มิวนิค” กับ “เชลซี” เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา

นายเจอร์ซี พิรอก เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เมืองคราคุฟ เปิดเผยว่า พังซิตต้า ถูกทดสอบอันดับแรกกับการทายผลบอลยูโรคู่เปิดสนาม กลุ่มเอ ระหว่างโปแลนด์เจ้าภาพ กับ กรีซ โดยมีผลแตง 3 ลูกมาให้เลือก แต่ละลูกมีป้ายด้านหลังของช้าง เป็นธงชาติของทีมโปแลนด์ ป้ายกากบาท และป้ายธงชาติของกรีซ หากมันเลือกป้ายไหนก็แสดงว่าทีมนั้นชนะ แต่ถ้าเลือกป้ายกากบาทตรงกลาง แสดงว่า เสมอกัน

ผลปรากฏว่า ช้างพังซิตต้าเลือกกินผลแตงซึ่งมีป้ายธงชาติทีมโปแลนด์ แสดงว่า มันได้ทายให้ทีมโปแลนด์เป็นทีมชนะในนัดเปิดสนามบอลยูโร 2012 อย่างไรก็ตาม ทางสวนสัตว์คิดว่าคงจะเป็นงานหนักสำหรับช้างพังซิตต้าที่จะต้องมาทำนายผลการแข่งขันในทุกนัดนั้น ดังนั้นทางสวนสัตว์จึงขอเลือกให้ช้างพังซิตต้าทำนายผลการแข่งขันเฉพาะนัดที่ทีมชาติโปแลนด์ลงแข่งเท่านั้น

"บัฟเฟตต์" เชื่อ มะกันไม่เจอตกต่ำรอบสอง

วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีพันล้านเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจสหรัฐแทบไม่มีแนวโน้มที่จะร่วงสู่ภาวะตกต่ำรอบใหม่ แม้ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมาจะส่งสัญญาณว่าการฟื้นตัวเริ่มชะลอลง

เอพีรายงานว่า นักลงทุนชื่อก้องกล่าวในงานเลี้ยงอาหารค่ำครบรอบ 25 ปีของสโมสรเศรษฐกิจแห่งวอชิงตันว่า ความเป็นไปได้ที่มะกันจะเผชิญกับความตกต่ำรอบใหม่มี "ต่ำมาก"

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วตัวเลขจ้างงานในเดือนพฤษภาคมของสหรัฐออกมาต่ำจนทำให้ดัชนีตลาดหุ้นทรุด และนักเศรษฐศาสตร์ลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตในปีนี้ของเศรษฐกิจสหรัฐ

นอกจากนี้ เขายังยืนยันว่าหนุน "กฎของบัฟเฟตต์" ซึ่งเสนอให้เก็บภาษีคนอเมริกันที่มีรายได้ 1 ล้านดอลลาร์ต่อปีขึ้นไปในอัตรา 30% อย่างเต็มที่ และยังชี้ว่าเป็นความผิดของทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครตที่ทำให้รัฐบาลกลางล้มเหลวในการลดตัวเลขขาดดุลงบประมาณ โดยวิธีที่เขามองว่าจะช่วยลดการขาดดุลงบประมาณที่จ่อทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นปีที่ 4 ติดต่อกันคือ ลดรายจ่ายและเพิ่มภาษี

"ปัญหาคือเดโมแครตไม่ต้องการพูดเรื่องลดรายจ่าย ส่วนรีพับลิกันไม่อยากพูดเรื่องขึ้นภาษี คุณต้องตั้งเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง การพูดถึงการปฏิรูปไม่ช่วยให้ไปถึงไหน" บัฟเฟตต์กล่าว