ข่าว
'แคลิฟอร์เนีย'แผ่นดินไหว6.4 หวั่นเขย่าซ้ำรุนแรงกว่าเดิม

5 กรกฎาคม 2562 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (ยูเอสจีเอส) รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.4 แมกนิจูด เมื่อเวลา 10.33 น.วันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ศูนย์กลางลึกเพียง 10.7 กิโลเมตร เกิดขึ้นในย่านที่มีประชากรเบาบางในทะเลทรายโมฮาวี ห่างจากเมืองริดจ์เครสต์ไป 10 กิโลเมตร ทางตอนใต้แคลิฟอร์เนียของสหรัฐ แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ไกลถึงนครลอสแอนเจลิสที่อยู่ห่างออกไป 256 กิโลเมตร และเมืองลาสเวกัสในรัฐเนวาดา

แผ่นดินไหวครั้งนี้มีความเป็นไปได้ 1 ใน 20 ที่พื้นที่นี้อาจจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่กว่าเดิมในอีกไม่กี่วัน เพราะสำนักสำรวจธรณีวิทยาสามารถวัดอาฟเตอร์ช็อกขนาดใหญ่กว่า 2.5 ได้มากกว่าร้อยครั้ง ขณะที่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด บ้านไฟไหม้จำนวนหนึ่ง บางพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ และท่อแก๊สแตก

กุนซือ'ชวน'ตอกหน้าฝ่ายค้าน แจงเหตุไม่บรรจุญัตติตั้งกมธ.ตรวจสอบที่มาสว.

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2562 นายสุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวกรณีที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการทำหน้าที่ของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในการไม่บรรจุญัตติที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบการสรรหา ส.ว. ว่า กรณีที่กล่าวหาว่าประธานสภาฯอาจจะเกิดความสับสนในสาระของญัตติ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะการที่ไม่บรรจุญัตติดังกล่าวในระเบียบวาระนั้น เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับการประชุมสภาฯ

นายสุกิจ กล่าวว่า ญัตติดังกล่าวถูกเสนอมา 3 ญัตติ โดย 2 ญัตติที่ถูกเสนอมาจากพรรคเพื่อไทย และพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นไปในทำนองเดียวกัน คือ ขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบการสรรหา ส.ว. ส่วนญัตติของพรรคพลังปวงชนไทย คือขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญสืบสวนและสอบสวน ส.ว. และขอให้ส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ แต่ญัตติของพรรคพลังปวงชนไทย มีความแตกต่างจาก 2 ญัตติแรก และเหตุผลที่ไม่บรรจุทั้ง 3 ญัตติในระเบียบวาระ เนื่องจากเรื่องดังกล่าวไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร และตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 การส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นสิทธิของสภาใดสภาหนึ่ง ไม่สามารถทำข้ามสภาได้ จึงทำให้ญัตติดังกล่าวต้องตกไป ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังนายสุทิน เรียบร้อยแล้ว ภายในระยะเวลาที่กำหนด

นายสุกิจ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการประชุมสภาฯเมื่อวันที่ 10 และ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการหารือกับวิปฝ่ายค้าน และวิปรัฐบาล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้ข้อสรุปว่า ก่อนการเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม จะขอปรับเวลาในการหารือให้เหลือวันละ 1 ชั่วโมง และให้วิป เป็นผู้รวบรวมชื่อ ส.ส. ที่จะหารือมาเสนอต่อประธานฯ ก่อนเปิดประชุมครึ่งชั่วโมง โดยจำกัดเวลาท่านละ 2 นาที เป็นจำนวน 30 ท่าน แบ่งเป็นฝ่ายค้าน 15 ท่าน และฝ่ายรัฐบาล 15 ท่าน

สำหรับระเบียบวาระที่จะพิจารณาในสัปดาห์หน้า จะเป็นเรื่องคณะกรรมาธิการวิสามัญยกร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทางคณะกรรมาธิการฯ ได้ยกร่างข้อบังคับเสร็จแล้ว และจะเปิดโอกาสให้ ส.ส. อภิปรายได้ในภาพรวม ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขปรับปรุงทางคณะกรรมาธิการฯ จะนำกลับไปพิจารณาปรับแก้ไขต่อไป

ด้านนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเสริมว่า กรณี ส.ส.ที่นับถือศาสนาอิสลาม ได้เคยหารือถึงการจัดเตรียมห้องละหมาดไว้สำหรับประกอบศาสนกิจว่า ขณะนี้ได้จัดเตรียมห้องละหมาดไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ณ ชั้น ๓ อาคารรัฐสภา เกียกกาย ทั้งนี้ จะนำแจ้งต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในคราวต่อไป


ชมแนวคิดดี! 'พวงหรีดชุดนักเรียน' ของเจ้าอาวาสวัดตะโหมด

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังวัดตะโหมด จังหวัดพัทลุง หลังในโลกสังคมออนไลน์แห่แชร์โพสต์รูปภาพพวงหรีดชุดนักเรียน ในงานศพ แทนพวงหรีดดอกไม้สดในวัดตะโหมด ตำบลโหมด อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง ทำให้ชาวเน็ตต่างเข้ามาสนับสนุนกับการนำชุดนักเรียนมาเป็นพวงหรีด แทนดอกไม้สด นอกจากจะช่วยไม่เป็นภาระในการกำจัดขยะแล้ว ยังสามารถนำไปช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่มีฐานะยากจนในพื้นที่ห่างไกลอีกด้วย

พระครูสุนทร กิจจานุโยค เจ้าอาวาสวัดตะโหมด ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์มหาวิทยาลัยทักษิณ ครูภูมิปัญญาไทยสาขาสิ่งแวดล้อมของสภาการศึกษา เล่าว่า ตนได้มีโอกาสไปเทศนาตามงานศพ และพบว่าเจ้าภาพในแต่ละงานได้จัดวางพวงหรีดดอกไม้กันอย่างมากมาย ไปงานไหนๆ ก็เจอ ซึ่งมองว่าพวงหรีดดออกไม้เหล่านั้นเมื่อเผาศพแล้วก็นำไปทิ้งไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร

จึงเกิดความคิดว่าน่าจะจัดทำพวงหรีดที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ เลยคิดไอเดียพวงหรีดชุดนักเรียนขึ้นแทนการวางพวงหรีดดอกไม้เพราะราคาก็ใกล้เคียงกันและเกิดประโยชน์ต่อสังคมและยังช่วยลดขยะได้อีกทาง โดยพวงหรีดชุดนักเรียนหลังจบงานก็จะนำไปบริจาคให้ทางโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล หรือนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หลังที่อาตมารณรงค์ให้ผู้ที่มาจัดงานศพภายในวัดใช้พวงหรีดชุดนักเรียนแทนพวงหรีดดอกไม้สดผลได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และทุกคนเห็นชอบด้วย


บิ๊ก ทช.ชี้โทษคุก4ปีปรับ4หมื่น! รายการดังเกาหลีจับ 'หอยมือเสือ' ทำอาหาร

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2562 ที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายจตุพร กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีรายการ Law of The Jungle วาไรตี้ยอดนิยมของเกาหลีใต้ที่ได้มาถ่ายทำรายการตอนที่ 370 ในประเทศไทย และมีการจับ "หอยมือเสือ" 3 ตัวมาประกอบอาหารกินว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการแจ้งความแล้ว เรียนว่าเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ที่สำคัญเพราะว่าต้องมีการหารือในคณะกรรมการว่าการให้คนมาถ่ายทำสารคดี เงื่อนไขที่กำหนดว่าทำอะไรได้บ้าง

"ถ้าทำนอกเหนือจากเงื่อนไขจะต้องดำเนินการ อีกทั้งการที่เขานำไปเผยแพร่จะทำให้เกิดความเสียหายเนื่องจากหอยมือเสือเป็นสัตว์สงวน แม้ว่าการมาถ่ายทำสารคดีจะเป็นการโปรโมทการท่องเที่ยว แต่การท่องเที่ยวนั้นแฝงไปด้วยสิ่งที่ทำให้เกิผลกระทบต่อเรื่องสิ่งแวดล้อม ส่วนความผิดต้องระวางโทษจำคุก 4 ปี ปรับ 40,000 บาท ตามพ.ร.บ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า" นายจตุพร บุรุษพัฒน์ กล่าว

สำหรับ "หอยมือเสือ" เป็น "สัตว์ป่าคุ้มครอง" จัดอยู่ในบัญชีสัตว์สงวนและคุ้มครองประเภท 2 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 คือ ห้ามล่า ห้ามมี และห้ามซื้อขาย ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท นอกจากนี้ เปลือกของหอยมือเสือถือเป็นซากสัตว์ป่า เช่นเดียวกับปะการัง ที่ห้ามซื้อขาย รวมทั้งห้ามนำมาวางประดับ ใช้เป็นที่เขี่ยบุหรี่ หรือที่ใส่สบู่ตามโรงแรมและร้านอาหาร


แม่ฉันต้องได้กินกุ้ง! สื่อนอกตีข่าว'ตลาดออนไลน์'สุดอู้ฟู่ในเมืองไทย

1 ก.ค. 2562 สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) เสนอข่าว “From shrimp to fake eyelashes, social media sales soar in Facebook-friendly Thailand” ระบุว่า สื่อออนไลน์กำลังกลายเป็นช่องทางทำรายได้สำคัญในประเทศไทย อาทิ Anurak Saruethai บุตรชายชาวประมงในพื้นที่ จ.สตูล ผู้ซึ่งแม้ตนเองจะไม่เคยออกทะเลจริงๆ สักครั้ง แต่การเล่าเรื่องตลกพร้อมกับขายอาหารทะเลตากแห้งผ่านโปรแกรมเฟซบุ๊คไลฟ์ (Facebook Live) ของเขานั้นมียอดผู้เข้าชมถึง 3 แสนคน โดยในเดือน มี.ค. 2562 เขาทำยอดขายได้สูงถึง 26 ล้านบาท

รายงานข่าวยังอ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ของไทย ที่พบว่า การใช้บริการธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือที่เกี่ยวข้องกับการซื้อ-ขายสินค้าบนสื่อออนไลน์ ณ ปี 2560 อยู่ที่ราว 1.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ยอดขายดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 44 ของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) เพิ่มจากปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 21 และการที่ธนาคารลดค่าธรรมเนียมโอนเงิน ยิ่งส่งเสริมให้ตลาดนี้ขยายตัวเร็วขึ้น

ทั้งนี้ คนไทยราว 38 ล้านคน หรือร้อยละ 57 ของประชากรทั้งประเทศเป็นผู้ใช้งานเฟซบุ๊คทุกวัน ซึ่ง Alessandro Piscini ผู้ร่วมก่อตั้ง CREA อันเป็นบริษัทให้คำปรึกษาผู้ประกอบการที่ต้องการทำตลาดบนโลกออนไลน์ กล่าวว่า การค้าขายบนสื่อออนไลน์เป็นเรื่องต้องจับตามอง เพราะเมื่อเร็วๆ นี้เฟซบุ๊คได้เปิดตัวเครื่องมือที่เป็นมิตรกับผู้ค้ามากขึ้น

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า บรรดาประเทศในละแวกใกล้กันมีเพียงอินโดนีเซียเท่านั้นที่พอจะเรียกว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของไทย การค้าขายออนไลน์มีสัดส่วนร้อยละ 40 ของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด แต่ก็ยังมีมูลค่าเพียง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่ง McKinsey & Company บริษัทวิเคราะห์และให้คำปรึกษาด้านธุรกิจชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ให้ความเห็นว่า ชาวอินโดนีเซียจำนวนไม่น้อยยังไม่มีบัญชีธนาคาร รวมถึงมีปัญหาด้านการส่งสินค้าข้ามประเทศ ทำให้ตลาดการค้าออนไลน์เติบโตไม่มากนัก

ทั้งนี้ สำหรับประเทศไทย เฟซบุ๊คและอินสตาแกรม (Instagram) คือที่ที่ลูกค้ามักจะใช้ค้นหาสินค้าที่ต้องการ แต่การชำระเงินนั้นใช้แอพพลิเคชั่นที่แตกต่างกันไป โดยสิ่งที่ดึงดูดให้คนไทยหันมาซื้อสินค้าบนโลกออนไลน์นั้นมาจากการได้สนทนากับผู้ค้าโดยตรง อาทิ Chonticha Srisawang ผู้ใช้อินสตาแกรม “prang_bohktoh” เปิดร้านขายขนตาปลอม มีผู้ติดตามถึง 76,000 คน กล่าวว่า มีลูกค้ามาสั่งซื้อสินค้ามากขึ้นหลังจากเธอตอบคำถามต่างๆ ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ (Line)

ขณะที่ Vilaiporn Taweelappontong หุ้นส่วนของ PwC Thailand กล่าวเสริมว่า ลูกค้าชาวไทยชอบการค้นหาและบอกต่อ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมพื้นที่สื่อออนไลน์จึงกลายเป็นตลาดขนาดใหญ่ อีกด้านหนึ่ง 2 ยักษ์ใหญ่ผู้ครองตลาดออนไลน์อย่าง Alibaba และ Sea Ltd. กำลังเร่งเชิญชวนผู้ค้าให้เข้ามาใช้บริการเว็บไซต์ของตน ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเชื่อมั่น

อาทิ Patchararak Thanasintrakul ผุ้ใช้อินสตาแกรม “Swimsaic” เปิดร้านขายชุดว่ายน้ำ เป็นห่วงเรื่องการลอกเลียนแบบและการขายแบบลดราคา เธอบอกว่า Lazada เว็บไซต์ค้าขายออนไลน์ชื่อดัง ชอบสนับสนุนส่วนลด แต่สินค้าของเธอไม่เคยทำเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม โฆษกของ Lazada ยืนยันว่าบริษัทไม่เคยบังคับให้ผู้ค้าที่ใช้บริการเว็บไซต์ต้องลดราคาแต่อย่างใด

'ญี่ปุ่น'เริ่มล่าวาฬทุกชนิดเชิงพาณิชย์ เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี

1 กรกฎาคม 2562 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ญี่ปุ่นเริ่มการออกเรือล่าวาฬเพื่อการพาณิชย์แล้วในวันนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีหลังจากถอนตัวจากคณะกรรมการการล่าวาฬระหว่างประเทศ หรือ IWC เมื่อเดือนธ.ค. ปีที่แล้ว ท่ามกลางเสียงตำหนิจากทั้งประเทศและนักเคลื่อนไหวที่ต่อต้านการล่าวาฬ

รัฐบาลญี่ปุ่นญี่ปุ่นยืนยันว่าการกลับมาล่าวาฬในครั้งนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะภายในทะเลที่อยู่ภายใต้อธิปไตย และน่านน้ำที่ถือเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ( อีอีซี ) ของประเทศเท่านั้น การล่าวาฬโดยเรือของญี่ปุ่นจะไม่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแอนตาร์กติกหรือน่านน้ำในแถบซีกโลกใต้อีก แต่หากมีวาฬสายพันธุ์หายากสายพันธุ์ใดก็ตามว่ายเข้ามาอยู่ในเขตน่านน้ำของญี่ปุ่น ต่อให้เป็นสายพันธุ์ที่อยู่ในรายชื่อการอนุรักษ์ของไอดับเบิลยูซี ญี่ปุ่นก็มีสิทธิ์ล่าวาฬชนิดนั้นเช่นกัน โดยรัฐบาลตั้งเป้าการล่าวาฬไว้ถึง 227 ตัว จนสิ้นสุดฤดูกาลช่วงสิ้นปีนี้ รวมถึงวาฬมิงค์ 52 ตัว และวาฬบรูด้ามากถึง 150 ตัว