ข่าว
ตร.บุกค้นบ้าน"เซอร์คลิฟ ริชาร์ด" สอบคดีล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ตำรววจอังกฤษได้บุกเข้าค้นบ้านพักของเซอร์คลิฟ ริชาร์ด นักร้องชื่อดังของอังกฤษ วัย 73 ปี ในหมู่บ้านซันนิ่งเดล ในเมืองเบิร์กไชร์ ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน เพื่อสอบสวนกรณีต้องสงสัยว่าเขาเคยมีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ในช่วงปี 1980 แต่ตำรวจยังไม่ได้ออกหมายจับกุม และขณะเกิดเหตุ เซอร์คลิฟ ริชาร์ด ไม่ได้อยู่ในบ้านพักแต่อย่างใด ขณะที่การตรวจค้นนี้เป็นเพียงการขั้นตอนแรก โดยตำรวจได้ยึดสิ่งของหลายอย่างออกจากบ้านพักดังกล่าว เพื่อนำไปสอบสวนต่อไป

ด้านเซอร์คลิฟ ริชาร์ด ซึ่งอยู่ระหว่างการพักผ่อนในต่างแดนให้สัมภาษณ์ว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นเรื่องเท็จโดยสิ้นเชิง แต่ก็พร้อมจะให้ความร่วมมือกับการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ เซอร์คลิฟ ริชาร์ด ถือเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของอังกฤษคนหนึ่ง อัลบั้มของเพลงของเขาถูกขายมากกว่า 250 ล้านแผ่นทั่วโลก และเขาได้รับฉายาว่าเป็นปีเตอร์ แพน แห่งวงการป๊อปของอังกฤษ เนื่องจากเขามีใบหน้าที่ยังดูอ่อนเยาว์และบุคลิกที่กระฉับกระเฉงแม้จะสูงอายุแล้ว ที่ผ่านมา เขามีประวัติเป็นคริสเตียนที่ดี ไม่เคยมีชื่อเสียงด่างพร้อยเรื่องเพศ ยาเสพติด และแอลกฮอลล์ และเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นท่านเซอร์ โดยมียศชั้นอัศวิน เมื่อปี 1995

“อานันท์” เห็นใจทหาร มีเหตุผลจำเป็นต้องรปห.

“นายอานันท์ ปันยารชุน” อดีตนายกฯ เผย ไม่เห็นชอบรัฐประหารแต่เห็นใจทหาร ถ้ารัฐบาลดีทหารคงไม่ออกมา เชื่อรัฐประหารสร้างธรรมาภิบาลในกรอบประชาธิปไตยได้ พร้อมเตือน คสช.ระวังอย่าโกงกินเหมือนระบอบเก่า

เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ห้องราชมณเฑียร โรงแรมมณเฑียร เครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (เอสเอ็นวี) ร่วมกับมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม จัดงานระดมทุนเพื่อสร้างอนุสาวรีย์วีรชนพฤษภา 2535 ภายในงานมีการสนทนากับนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ในหัวข้อ “ถามคุณอานันท์เรื่องวันนี้” โดยนายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา เป็นพิธีกร นายอานันท์กล่าวตอบคำถามที่ว่า มองเหตุการณ์เมื่อ 22 ปีที่แล้ว ที่มีการรัฐประหาร กับวันนี้ ว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ว่า ในทางหลักการและทฤษฎีแล้ว การรัฐประหารเป็นสิ่งไม่ดีแน่นอน แต่การรัฐประหารครั้งนี้ตนเห็นว่ามีเหตุผลจำเป็น ไม่ใช่ว่าตนเห็นชอบ แต่ตนเห็นใจทหาร ทั้งนี้ เมื่อ 5-6 ปีที่แล้วมีโปรเฟสเซอร์ที่ฮาเวิร์ดมีทฤษฎีใหม่ว่า ขณะนี้ ประเด็นไม่ใช่คำถามว่ารัฐประหารดีหรือไม่ดี แต่ควรถามว่ารัฐประหารเพราะอะไร และจะนำประเทศไปที่ไหน ซึ่งบางครั้ง การที่ต้องทำรัฐประหารอาจเพราะประเทศนั้นกำลังจะสูญเสียประชาธิปไตย และควรถามว่าหลังจากรัฐประหารแล้วจะนำไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงหรือไม่ สองคำถามนี้เราต้องตอบให้ได้

เมื่อพิธีกรถามว่า คุณอานันท์ให้ความชอบธรรมหรือสนับสนุนการรัฐประหารครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน นายอานันท์ กล่าวว่า ขอตอบเป็นคำถามว่า ตนจะเห็นด้วยหรือไม่ แล้วมันเปลี่ยนแปลงอะไรได้ไหม เพราะมันเกิดขึ้นแล้ว จึงมีศัพท์ใหม่ว่า ไม่ประณามแต่ก็ไม่ได้สนับสนุนเต็มที่ ตนมองว่าการพูดเรื่องนี้ไม่มีประโยชน์อะไร เคยมีคนบอกตนว่า คุณมาเป็นนายกฯ ไม่ชอบธรรมเพราะมาจากการรัฐประหาร ตนไม่เคยเถียง ต้องเข้าใจว่า มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แก้ไขไม่ได้ คำถามคือ เมื่อตนเป็นนายกฯ แล้ว ทำอะไรที่ไม่ชอบธรรมหรือไม่นายอานันท์ กล่าวต่อว่า ตนไม่คิดว่าทหารสนุกกับการรัฐประหาร เพราะการเข้ามานั้นเสี่ยงมาก ถ้าทำไม่สำเร็จก็มีโทษ อย่าคิดว่าทหารเอะอะจะรัฐประหาร ตนเห็นว่าเขาคิดแล้วคิดอีก และตนเองก็ไม่ได้ชอบการรัฐประหาร บอกได้เลยว่าไม่อยากเห็นการรัฐประหารในไทย แต่ถ้าประเทศไทยมีรัฐบาลที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน เป็นรัฐบาลที่ให้ความเป็นธรรม มีพื้นที่ให้ประชาชนทุกคนได้หายใจ พื้นที่ให้แสดงความเห็น รักษาความเป็นมนุษย์ของเขาได้ ก็คงไม่มีรัฐบาลที่จะทำให้ทหารต้องมารัฐประหาร โดยตนมองว่าการรัฐประหารไม่ใช่ต้นเหตุ แต่เป็นปลายเหตุ

นายอานันท์ ยังกล่าวอีกว่า การสร้างธรรมาภิบาลในกรอบประชาธิปไตยสามารถเกิดขึ้นในยุครัฐประหารได้ ถ้าตั้งใจดี ดูแลผลประโยชน์ส่วนรวม ลืมผลประโยชน์ส่วนตัว การจะทำให้รัฐประหารไม่เสียของ จะต้องระวังการใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว โดยอย่าเดินกลับไปสู่ปมปัญหาที่ทำให้ต้องทำรัฐประหาร ไม่ว่าจะเป็น การโกงกิน รวบอำนาจ ต้องอย่ากลับไปหาระบบเก่า


ปะทะเดือด-จลาจล4คืนติดในมิสซูรี หลังตำรวจยิงวัยรุ่นมือเปล่าเสียชีวิต

14 ส.ค.ประธานาธิบดีบารัค โอบามา รุดออกมาแถลงเรียกร้องขอความสงบบนท้องถนนในเมืองเฟอร์กูสัน มลรัฐมิสซูรี หลังเกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจและผู้ประท้วง 4 คืนติด อันมีชนวนเหตุจากความไม่พอใจของชาวบ้านต่อกรณีเจ้าหน้าที่ยิงวัยรุ่นไม่มีอาวุธเสียชีวิตเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ว่าการรัฐยอมรับสถานการณ์กำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆ

ระหว่างการแถลงข่าวบนเกาะมาร์ธาไวน์ยาร์ด ซึ่งเขากำลังพักผ่อนอยู่กับครอบครัว ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยังเรียกร้องให้ดำเนินการสืบสวนคดีที่เป็นต้นต้อของการประท้วงอย่างโปร่งใส "ตอนนี้คือเวลาสำหรับการเยียวยา เป็นเวลาแห่งความสันติและสงบบนท้องถนนของเฟอร์กูสัน" เขากล่าว "ตอนนี้คือเวลาของกระบวนการสืบสวนที่โปร่งใสเพื่อความยุติธรรม"

ผู้ประท้วงรวมตัวกันทุกคืนในเฟอร์กูสัน แถบชานเมืองเซนต์หลุยส์ ที่ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นคนผิวดำ นับตั้งแต่นายไมเคิล บราวน์ ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ 9ส.ค. ในเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าเขาพยายามต่อสู้ขัดขืนแย่งปืนในรถตำรวจ แต่ผู้เห็นเหตุการณ์บางส่วนบอกว่าตอนนั้นเขาอยู่นอกรถและถูกยิงทั้งที่ชูมือขึ้นทั้งสองข้าง

โอบามา บอกว่าเขาได้ขอให้กระทรวงยุติธรรมและเอฟบีไอเข้าสืบสวนเหตุวิสามัญครั้งนี้ด้วยตนเอง และแสดงความเป็นกังวลแทนนายเจย์ นิกสัน ผู้ว่าการรัฐมิสซูรี เกี่ยวกับเหตุความรุนแรงตามหลังคดีดังกล่าว และเผยว่าได้สั่งการให้ เอริก โฮลเดอร์ อัยการสูงสุดรายงานผลการสืบสวนกลับไปที่เขาเร็ววันนี้

"เราสูญเสียคนหนุ่ม ไมเคิล บราวน์ ในกรณีแวดล้อมที่ใจสลายและน่าสลด เขาอายุแค่ 18 ปี และครอบครัวของเขาจะไม่มีทางได้โอบกอด ไมเคิล ไว้ในอ้อมแขนอีกแล้ว" โอบามากล่าว "เมื่อเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรวมถึงตำรวจ ต้องรับผิดชอบด้วยการดำเนินการสืบสวนอย่างเปิดเผยและโปร่งใส่ รวมถึงเปิดเผยอย่างโปร่งใสต่อแนวทางที่พวกเขากำลังใช้ปกป้องประชาชนในชุมชนนั้นๆ"

โอบามากล่าวต่อว่าไม่มีข้ออ้างใดๆต่อเหตุปล้นสะดมหรือกระทำรุนแรงกับตำรวจ แต่ขณะเดียวกันเขาก็ชี้ว่าไม่มีข้ออ้างใดๆสำหรับตำรวจในการใช้กำลังเกินกว่าเหตุต่อผู้ประท้วงที่ชุมนุมกันอย่างสันติเช่นกัน ซึ่งนั่นยังหมายรวมถึงการโยนผู้คนและผู้สื่อข่าวเข้าสู่ห้องขัง ทั้งที่คนเหล่านั้นกำลังใช้สิทธิการแสดงออกภายใต้รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ "เราทุกคนจำเป็นต้องยึดมั่นบรรทัดฐานอันสูงส่งของเรา" โอบามากล่าว

ประธานาธิบดีถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักนับตั้งแต่เดินทางมาพักผ่อนที่เกาะมาร์ธาไวน์ยาร์ด ด้วยใช้เวลาส่วนใหญ่เล่นกอล์ฟและปาร์ตีกับเพื่อนๆ ทั้งที่กองกำลังสหรัฐฯกำลังปฏิบัติภารกิจในอิรักและเกิดความโกลาหลปะทุขึ้นในเฟอร์กูสัน อย่างไรก็ตามทำเนียบขาวปฏิเสธเสียงตำหนิดังกล่าว ด้วยบอกว่า โอบามา ยังคงทำงานระหว่างที่ยังอยู่ในช่วงพักผ่อน ทว่าไม่นานหลังจากเสร็จสิ้นอ่านคำแถลงเกี่ยวกับสถานการณ์ในเฟอร์กูสันและอิรัก ก็มีรายงานว่า โอบามา ได้ไปออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนๆ

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ผู้ว่าการรัฐมิสซูรี ออกมาวิงวอนขอความสงบและให้ความเคารพต่อสิทธิของผู้ประท้วง ท่ามกลางสิ่งที่เขาเรียกว่า "สถานการณ์ที่กำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆ" ในเฟอร์กูสัน เมืองที่ตำรวจติดอาวุธหนักปะทะกับผู้ประท้วงเป็นคืนที่ 4 ติดต่อกัน หลังจากตำรวจยิงนายไมเคิล บราวน์ ที่ไม่มีอาวุธ เสียชีวิตเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ผู้ว่าการรัฐ เจย์ นิกสัน เปิดเผยว่าเขาจะลงพื้นที่เมืองเฟอร์กูสัน ท่ามกลางคำประกาศเดินหน้าประท้วงต่อและความขุ่นเคืองที่สาหัสขึ้นเรื่อยๆของชาวบ้านเกี่ยวกับคดีที่ยังไร้ความคืบหน้าและการใช้กำลังกับผู้ชุมนุมเกินกว่าเหตุของตำรวจ

ทั้งนี้ตำรวจยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ด้วยถ้อยคำที่รุนแรงจากองค์กรสื่อมวลชนระดับประเทศ หลังจากเมื่อวันพุธ(13) พวกเขาควบคุมตัวผู้สื่อข่าว 2 คนเป็นเวลาสั้นๆและใช้แก๊สน้ำตากับช่างภาพชาวอเมริกันของสำนักข่าวอัลญะซีเราะฮ์

"สถานการณ์ที่กำลังเลวร้ายลงในเฟอร์กูสันคือปัญหาที่ลึกซึ้ง และไม่ได้บ่งบอกถึงความเป็นพวกเราในฐานะชาวมิสซูรีหรือชาวอเมริกา" นิกสันระบุในถ้อยแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14ส.ค. "ขณะที่เราเคารพต่อความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของเราในการคุ้มครองประชาชน แต่เราก็จะต้องปกป้องสิทธิของประชาชนชาวมิสซูรีในการชุมนุมอย่างสันติและสิทธิของสื่อมวลชนในการนำเสนอเรื่องราวที่สาธารณชนสนใจ"

ถ้อยแถลงของนิกสันมีขึ้น หลังจากการปะทะกันระหว่างตำรวจและผู้ประท้วงที่เริ่มต้นมาตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 10ส.ค. ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องเข้าสู่คืนที่ 4 เมื่อวันพุธที่ 13ส.ค. ด้วยระหว่างนั้นยังมีเหตุความไม่สงบและปล้นสะดมอีกหลายจุด

หลังจากสั่งให้ผู้สื่อข่าวงดใช้กล้องแล้ว ตำรวจก็เปิดฉากยิงระเบิดควัน แก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่ผู้ประท้วง ตอบโต้ที่ผู้ชุมนุมขว้างปาวัตถุใส่พวกเขา ขณะที่ โธอมัส แจ็คสัน ผู้บัญชาการตำรวจเฟอร์กูสัน เปิดเผยว่ามีผู้ประท้วง 12 คนถูกจับกุมและตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย

สาวพม่าเด็กเสิร์ฟร้านลาบเชียงใหม่ หน้าตาดี งานถ่ายแบบติดต่อเพียบ!

เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ชาวเชียงใหม่กำลังฮือฮากับภาพนางแบบสาวงามที่นำภาพนางแบบหุ่นดีมาโพสต์ในโซเซียลเน็ตเวิร์คจำนวนมากซึ่งนางแบบดังกล่าวเป็นสาวเสิร์ฟในร้านลาบอีกด้วย อยู่ที่ร้านลาบต้นยาง ร้านอาหารชื่อดังของ จ.เชียงใหม่

ร้านลาบต้นยาง ตั้งอยู่ ม.4 บ้านสันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นางศรินทร สุ่นทอง เจ้าของร้านลาบต้นยางบอกว่า ทางร้านได้รับเด็กเสิร์ฟทั้งชาวไทยและชาวพม่ามาทำงานจริง ส่วนใหญ่จะเป็นสาวสวยชาวพม่า และยอมรับว่ามีนางแบบสาวชาวพม่าอยู่จริง ชื่อน้องแนน นุชนัท ศรีทอง อายุ 25 ปี เป็นชาวไทยใหญ่ อยู่เมืองตองจี ประเทศพม่า

ในร้านพบน้องแนน กำลังทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟอย่างตั้งใจ กับเพื่อนเด็กเสิร์ฟคนอื่นๆ น้องแนน กล่าวว่า ในช่วงนี้ได้มีผู้นำภาพที่ตนไปถ่ายแบบในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และภาพถ่ายแบบแฟชั่นเสื้อผ้านำมาโพสต์ในโซเซียลเน็ตเวิร์คจำนวนมาก ซึ่งตนยอมรับว่ารับงานถ่ายแบบเป็นงานอดิเรก ส่วนงานหลักคือทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านลาบต้นยางแห่งนี้มานานถึง 5 ปีแล้ว

น้องแนนเล่าให้ฟังอีกว่า ตนได้เข้ามาทำงานที่ประเทศไทยเมื่ออายุ 17 ปี ฝึกเรียนภาษาไทยเพียง 2 ปีก็พูดและเขียนได้ ส่วนการทำงานเริ่มต้นเป็นแม่บ้านเลี้ยงผู้สูงอายุ จากนั้นรับจ้างทำงานก่อสร้าง ต่อมาก็เข้ามาเป็นเด็กเสิร์ฟของร้านลาบต้นยาง ตนเห็นว่างานทุกอย่างหากตั้งใจทำก็สร้างรายได้ทั้งหมด ตนไม่เลือกงาน ตั้งใจทำให้ดีที่สุด และการเข้ามาทำงานที่ร้านลาบต้นยางได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีจากนายจ้าง มีวันหยุดและมีวันพักผ่อนที่เพียงพอและนายจ้างชอบออกค่ายทำบุญบริจาคสิ่งของให้ผู้ด้อยโอกาสตามสถานที่ต่างๆเป็นประจำทุกปีตนก็ชอบทำบุญด้วยเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเข้าวงการถ่ายแฟชั่นได้อย่างไรน้องแนน กล่าวว่า ตนสนใจถ่ายภาพมาประมาณ 3 ปีแล้ว ขณะนั้นได้ไปนั่งกินขนมที่ร้านกาแฟชื่อดังของเชียงใหม่แห่งหนึ่งก็พบพี่ๆช่างภาพในชมรมคนสร้างภาพเชียงใหม่กำลังทำงานถ่ายนางแบบให้กับร้านกาแฟนในมุมต่างๆอยู่ พอช่วงที่พี่ๆช่างภาพพักอยู่นั้นตนก็เข้าไปสอบถามว่า หน้าตาแบบหนูสามารถเป็นนางแบบได้หรือไม่ พี่ๆช่างภาพก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นได้ จากนั้นก็แลกเบอร์โทรกัน

"พอมีงานถ่ายภาพแฟชั่นหรืองานถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆก็จะชวนไปถ่ายด้วยโดยให้ค่าตอบแทนเป็นครั้งๆไป ตามความเหมาะสม ซึ่งส่วนตัวก็ชอบท่องเที่ยวในวันหยุดอยู่แล้ว และหากวันไหนมีงานถ่ายแบบตรงกับวันทำงานก็ขอลางานที่ร้านลาบ ทางเจ้าของร้านก็ให้ลาได้โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ เพราะตนอยู้ที่ร้านก็อยู่กันแบบลูกๆหลานๆของทางร้านอยู่แล้ว น้องแนน กล่าวอีกว่า "ผลงานของแนนเคยถ่ายลงนิตยสาร และหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นมาแล้วหลายครั้ง แต่อย่างไรก็ตามขอย้ำว่าการทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟและเป็นนางแบบด้วยนั้นไม่อายไม่เขิน เพราะทำงานสุจริตได้เงินเป็นค่าตอบแทน เพื่อนำไปให้พ่อแม่ ตอนนี้ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก็บเงินเพื่อสร้างอนาคตต่อไป ส่วนตัวมองว่าหน้าตาไม่สวยอะไรมาก แต่คงถ่ายภาพแล้วสวยงาม และไม่ได้ทำศัลยกรรมอะไรเลย เป็นธรรมชาติทุกอย่างมาแต่กำเนิด"

น้องแนนกล่าวอีกว่า สำหรับบ้านเกิดที่เมืองตองจี อยู่ทางตอนเหนือของพม่า การเดินทางโดยรถ 2 วัน 2 คืน ระยะทางกว่า 700 กิโลเมตร วันแม่ก็ได้กลับบ้านไปหาแม่มาแล้วและกลับมาทำงานต่อที่ร้านลาบต้นยางแห่งนี้