ข่าว
'เกาหลี'เปลี่ยนโรงแรมเป็นที่อยู่อาศัย หวังแก้ปัญหาราคาแพง

19 พฤศจิกายน 2563 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน นายคิม ฮยอนมี รัฐมนตรีที่ดิน โครงสร้างพื้นฐานการและการขนส่งเกาหลีใต้แถลงข่าววันนี้ว่า รัฐบาลจะเพิ่มที่พักการเคหะให้ประชาชนเช่าอยู่อีก 114,000 แห่งภายในสองปี ด้วยการซื้อโรงแรมและสำนักงานว่างมาปรับเปลี่ยนเป็นที่พักในราคาที่จับต้องได้

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากรัฐบาลประธานาธิบดีมุน แจอิน ดำเนินมาตรการหลายอย่างเพื่อแก้ไขวิกฤตที่พักอาศัยมาตั้งแต่ปี 2560 เช่น ผ่อนคลายการจำกัดความสูงอาคารที่พัก เปลี่ยนที่ตั้งทางทหารมาเป็นที่พักอาศัย แต่ยังไม่สามารถทำให้ราคาที่พักถูกลงได้

สมาชิกสภาฝ่ายค้านประณามนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล ขณะที่นักวิเคราะห์อสังหาริมทรัพย์มองว่า น่าสิ้นหวังและเป็นแนวคิดที่ไร้เหตุผล เพราะถึงแม้การซื้อโรงแรมและสำนักงานว่างมาปรับเปลี่ยนเป็นที่พักจะเป็นวิธีเพิ่มที่พักได้เร็วที่สุด แต่นโยบายนี้มุ่งเน้นคนโสด ไม่สนใจครอบครัวที่มีลูกซึ่งเป็นกลุ่มที่ประสบปัญหาไม่สามารถหาบ้านในราคาที่จับต้องได้

ด้านรอยเตอร์อ้างตัวเลขอย่างเป็นทางการชี้ว่า ที่พักคนโสดในเกาหลีใต้ในปีที่แล้วมีทั้งหมด 6.15 ล้านแห่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากปี 2558 คิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของที่พักทั้งหมดในเกาหลีใต้

ฝุ่น PM2.5 กลับมาแล้ว เกินมาตรฐานหลายพื้นที่ เริ่มกระทบสุขภาพ

19 พฤศจิกายน 2563 กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ และคุณภาพอากาศพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เมื่อเวลา 07.00 น. โดยระบุว่า คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ คุณภาพดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยสารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐาน ได้แก่ ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ตรวจพบค่าระหว่าง 21 - 69 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) เกินมาตรฐานที่บริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน จ.กรุงเทพฯ, ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร, ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ, ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ตรวจพบค่าระหว่าง 43 - 142 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) เกินมาตรฐานที่บริเวณริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 8 เขตหนองแขม จ.กรุงเทพฯ


'อ.เจษฎา'ชี้ถ้าลดฝุ่น PM 2.5 เลิกเอางบมาฉีดพ่นน้ำ ซื้อรถดูดฝุ่น-เปลี่ยนรถขนส่งเป็น EV ดีกว่า

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ก่อนหน้านี้รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า มาพ่นฉีดน้ำกันอีกแล้วเหรอเนี่ย เฮ้ออ.. พูดเตือนมาหลายปีแล้ว มันเป็นความเข้าใจที่ผิดๆ เชื่อตามๆ กันมา

ฉีดพ่นน้ำ นอกจากจะเปลืองน้ำแล้ว มันไม่ได้ช่วยอะไรในการลดฝุ่น PM 2.5 (ฝุ่นจิ๋วพวกนี้ จะแพ้กระแสลมแรงต่างหาก ส่วนละอองน้ำที่พ่นนั้น ใหญ่กว่าที่จะจับมันลงมาได้) แถมเครื่องยนต์ของรถที่เอามาใช้ ก็เป็นตัวก่อมลพิษสร้างฝุ่น PM 2.5 ด้วยนะ

อันนี้ จริงๆ ไม่ได้ต้องการตำหนิหน่วยงานใดเป็นพิเศษนะ แต่อยากฝากเตือนไปถึงทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนด้วย ว่าไปเน้นการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ด้วยการลดที่ "สาเหตุ" ดีกว่าจะมาพยายามหาทางแก้ที่ "ปลายเหตุ" แบบนี้ครับ

(เพิ่มความรู้เรื่อง ปัญหาของการฉีดพ่นน้ำ) การแก้ปัญหาโดยการฉีดน้ำจากภาคพื้นดินนั้น รศ.ดร.ศิริมา ปัญญาเมธีกุล อาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ระบุว่า การฉีดน้ำแบบที่ กทม. ทำอยู่ สามารถช่วยลดได้เฉพาะฝุ่นขนาดใหญ่ หรือ PM10 เท่านั้น ไม่สามารถช่วยลดฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ได้

แต่หากต้องการพ่นน้ำแบบที่ช่วยลด PM2.5 ได้จริง จะต้องใช้ Jet ทางวิศวกรรมแบบที่ใช้ในประเทศอินเดีย ซึ่งสามารถพ่นละอองน้ำที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนได้ ซึ่งไอน้ำนี้จะไปจับตัวฝุ่น PM2.5 และชะล้างลงมาได้

“ถ้าคุณฉีด อย่างที่อินเดียเขาทำ ก็คือต้องใช้ Jet ทางวิศวกรรมทำได้ คือฉีดพ่นละอองฝอยให้มันเล็กกว่า 2.5 นึกออกไหม ให้มันไปติดแล้วก็ตกลงมา” อาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวเพิ่มเติม

นอกจากนี้ รศ.ดร.ศิริมา ยังแนะนำเพิ่มด้วยว่า หากต้องการลดความเข้มข้น PM2.5 ให้ได้ตามมาตรฐาน จาก 60 ไมโคกรัม/ลูกบาศก์เมตร เหลือ 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามมาตรฐานของประเทศไทย จะต้องใช้การฉีดพ่นน้ำพร้อมกัน 30,000 จุดทั่วกรุงเทพฯ จึงจะสามารถช่วยลด PM2.5 ลงได้"


หนุ่มไม่กลัวบาปทุบตู้บริจาควัดฉกเงิน อ้างหน้าด้านๆพระพุทธรูปพยักหน้าอนุญาตแล้ว

วันที่ 19 พ.ย.63 เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจ ภูธรเมืองอุทัยธานี นำโดย พ.ต.ท.สามารถ สุคง สารวัตรปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองอุทัยธานี พร้อมด้วย ร้อยตำรวจเอกจรัญ ศรีทับทิม ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองอุทัยธานี พร้อมพระครูอาทรจริยวัตร พระวินยาธิการประจำจังหวัดอุทัยธานี ร่วมกันทำการสืบสวนสอบสวน นายน้อย ทับทิม อายุ 43 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 3 ตำบลหนองไผ่แบน อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี หลังได้รับแจ้งจากคณะกรรมการวัดหลวงราชาวาส เขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี ว่าเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 15.00 น. วานนี้ มีคนร้ายเข้าไปทุบตู้บริจาคและขโมยเงินจากไม้เสียบกองผ้าป่า ที่ตั้งอยู่ภายในศาลาวัดโดยไม่ทราบจำนวน ซึ่งในช่วงนั้นที่วัดกำลังมีการจัดงานบวชอยู่ จึงทำให้ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ขณะที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ แต่ภาพจากกล้องวงจรปิดอยู่ภายในศาลาของวัดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ ทางวัดจึงนำภาพดังกล่าวมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี

โดยภาพจากกล้องวงจรปิดนั้น สามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน และมีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับนายน้อยฯเป็นอย่างมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองอุทัยธานี จึงได้ทำการสืบสวนติดตามจนพบตัวนายน้อยฯได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นนายน้อยกำลังเดินอยู่บริเวณถนนแถวหน้าบ้านตัวเอง โดยเมื่อนายน้อยฯเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายน้อยฯพยายามจะขับรถจักรยานยนต์ เพื่อเลี่ยงการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนสุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเชิญตัวนายน้อยมาที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองอุทัยธานี เพื่อทำการสืบสวนสอบสวน พร้อมกับให้ทางกรรมการวัดดูตัวเพื่อชี้ชัดว่าบุคคลในกล้องวงจรปิดนั้นคือนายน้อยจริงหรือไม่

จนสุดท้ายนายน้อยฯนั้นให้การรับสารภาพว่า คือคนที่อยู่ในภาพกล้องวงจรปิดและขโมยเงินจากวัดออกไปจริง ซึ่งหลังจากที่ขอค้นตัวนายน้อยฯพบว่ามีเงินสดอยู่ในตัวทั้งสิ้น 420 บาท โดยนายน้อยฯนั้นอ้างว่าเป็นเงินที่ขโมยมาจากวัดทั้งหมด และยังไม่ได้ใช้ ซึ่งจากการสอบสวนของร้อยเวรนั้น นายน้อยฯ ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ตนลงมือก่อเหตุนั้น เกิดจากอาการมึนเมา โดยในวันเกิดเหตุนั้น ตนเองได้ดื่มเบียร์ พอเกิดอาการเมาไม่ได้สติ จึงเข้าไปลักเงินในตู้บริจาคและดึงเงินจากไม้ผ้าป่าที่เสียบไว้ แต่ก่อนที่จะหยิบเงินมานั้น ตนเองก็ได้ขออนุญาตพระพุทธรูปปั่นทีอยู่ด้านหน้าแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสอบถามกลับไปว่า ขออนุญาตจากพระรูปไหน ทางนายน้อยฯนั้นได้บอกว่า ของกับหลวงพ่อ ซึ่งก็คือพระพุทธรูปปั่นที่อยู่ด้านหน้าภายในศาลา พอยกมือไหว้ขอเงินแล้ว นายน้อยฯกล่าวว่า พระพุทธรูปปั่นนั้นพยักหน้าอนุญาตให้ ตนเองจึงได้หยิบเงินบริจาคออกมาดังกล่าว โดยเมื่อหลายปีที่ผ่านมานั้น นายน้อยฯเคยถูกดำเนินคดีจำคุกในข้อหาคดียาเสพติดและลักทรัพย์มาแบบนี้อีกหลายวัดในเขตจังหวัดอุทัยธานี โดยบ้างวัดก็ไม่แจ้งความอะไรเนื่องจากไม่มีหลักฐาน และตอนหลังมาทางวัดหลวงราชาวาสได้มีของหายอยู่เป็นประจำ ทางวัดจึงได้ติดกล้องวงจรปิดจนสามารถจับคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีดังกล่าว

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งหมดเพื่อทำการตั้งข้อหาดำเนินคดีกับนายน้อยฯ ในข้อหา ลักทรัพย์ในเคหะสถานหลังจากนั้นเจ้าอาวาสวัดหลวงราชาวาส พร้อมคณะกรรมการวัดได้เข้าให้ปากคำกับร้อยตำรวจเอกจรัญ ศรีทับทิม ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองอุทัยธานี


ที่พักเต็ม! เกาะเสม็ดคึกคักนักท่องเที่ยวหลั่งไหลพักผ่อนช่วงหยุดยาว 4 วัน

วันที่ 19 พ.ย.63 นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าพักที่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง กันอย่างคึกคัก หลังจากจับจองที่พักในโครงการเราเที่ยวด้วยกันทำให้ที่พักบนเกาะในช่วงนี้เต็มแล้ว โดยบรรยากาศที่สะพานท่าเรือฝั่งเกาะเสม็ดมีนักท่องเที่ยวทยอยขึ้นจากเรือเพื่อเข้าไปยังชายหาดและที่พักบนเกาะเสม็ดเนื่องจากวันนี้เป็นวันแรกของวันหยุด 4 วันโดยทุกคนต้องผ่านการคัดกรองตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งปัจจุบันเปิดให้ขึ้นเกาะเสม็ดได้เพียงช่องทางเดียวคือที่ท่าเรือขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นี้เท่านั้นทำให้ในบางช่วงต้องเข้าแถวหนาแน่น

น.ส.สริญทิพญ ทัพมงคลทรัพย์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเกาะเสม็ด กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดยาวทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้าพักผ่อนบนเกาะเสม็ดเต็มหมดแล้วแต่ก็ยังสามารถรับนักท่องเที่ยวที่วอคอินเข้ามาได้โดยการข้ามเรือไปเที่ยวและกลับมานอนที่ฝั่งซึ่งทางผู้ประกอบการเกาะเสม็ดตลอดจนเจ้าหน้าที่อุทยานฯได้เตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้ท่องท่องเที่ยวได้เที่ยวกันอย่างมีความสุขเนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่สภาพน้ำทะเลใส นิ่งสงบสวยงามและอากาศเย็นกำลังดีเหมาะกับการท่องเที่ยวและเดินทางมาพักผ่อน

ส่วนบรรยากาศที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด ตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ตั้งแต่ช่วงเช้ามีนักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวและกางเต๊นท์ในบริเวณลานกางเต๊นท์ริมชายทะเลกันเป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯคอยดูแลอำนวยความสะดวกทั้งด้านความปลอดภัยและจัดรถรับส่งนักท่องเที่ยวไปยังจุดชมวิวและลานกางเต๊นท์ ซึ่งพบว่าบรรดานักท่องเที่ยวต่างทยอยเข้ากางเต็นท์กันจนเต็มพื้นที่ที่ทางอุทยานฯจัดไว้

นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังไม่ให้ฝูงลิงมาขโมยทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวด้วยการใช้หนังสติ๊กยิงขู่ฝูงลิงไม่ให้ลงจากเขามาสร้างความเดือดร้อนให้นักท่องเที่ยวด้วย

ในส่วนของพื้นที่บนเกาะเสม็ดมีนักท่องเที่ยวที่จับจองเข้าพักแล้ว 90% ซึ่งผู้ประกอบการได้เปิดรับจองที่พักไปแล้วก่อนหน่านี้ หากนักท่องเที่ยวที่ต้องเข้ามา พักขอให้ตรวจเชคข้อมูลการท่องเที่ยวทางเวปไซด์ หรือเฟสบุกของ ททท.สำนักงานระยอง ก่อน

‘5 วัคซีนโควิด-19’จากจีน อยู่ระหว่างทดลองระยะ3ในต่างประเทศ

19 พฤศจิกายน 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงาน จ้าวลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน เปิดเผยว่าขณะนี้จีนมีวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จำนวน 5 ตัวที่อยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ในต่างประเทศ

จ้าวแถลงว่านับตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มอุบัติขึ้นในประเทศ รัฐบาลจีนได้ปรับใช้แนวทางด้านเทคโนโลยี 5 ประการในการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ซึ่งได้แก่ วัคซีนชนิดเชื้อตาย วัคซีนแบบโปรตีนลูกผสม วัคซีนที่ใช้อะดิโนไวรัสเป็นตัวนำพา วัคซีนที่ใช้เชื้อไข้หวัดใหญ่ซึ่งมีฤทธิ์อ่อนแอเป็นตัวนำพา และวัคซีนกรดนิวคลีอิก โดยจีนกำลังดำเนินการวิจัยและพัฒนาอย่างเป็นระเบียบขั้นตอน

จ้าวระบุว่าปัจจุบันจีนมีวัคซีนต้านโรคโควิด-19 จำนวน 5 ตัว ที่กำลังอยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ในสหรัฐฯ อาหรับเอมิเรตส์ บราซิล ปากีสถาน และเปรู และวัคซีนตัวอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งที่อยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิกระยะที่ 1 และ 2

เขาเสริมว่าจีนได้ดำเนินความร่วมมือด้านวัคซีนระหว่างประเทศอย่างแข็งขันผ่านแนวทางพหุภาคีและทวิภาคี และรักษาไว้ซึ่งการสื่อสารและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ องค์การอนามัยโลก (WHO) องค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีน (GAVI) และกลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด (CEPI)

ขณะเดียวกัน จีนได้เข้าร่วมในโครงการส่งเสริมการเข้าถึงเครื่องมือในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 (ACT) ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลก และโครงการจัดหาวัคซีนระดับโลกหรือโคแวกซ์ (COVAX) เพื่อส่งเสริมการแจกจ่ายวัคซีนอย่างเป็นธรรมและรับประกันว่าวัคซีนจะถูกจัดส่งไปยังกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา

จีนคาดการณ์ว่าหลังเสร็จสิ้นการวิจัยและพัฒนา วัคซีนของประเทศจะถูกรวมอยู่ในรายการจัดซื้อของโคแวกซ์โดยเร็ว เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาสามารถเข้าถึงและมีกำลังซื้อวัคซีนดังกล่าว