ข่าว
สหรัฐเริ่มบังคับใช้แล้ว มาตรการคว่ำบาตรกับอิหร่าน

วอชิงตัน/เตหะราน (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - สหรัฐเริ่มบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดฝ่ายเดียวกับอิหร่านตั้งแต่วันอังคาร โดยจะมีบทลงโทษหนักขึ้น ภายหลังจากระงับไปในช่วงรัฐบาลชุดก่อนของสหรัฐทำข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ร่วมกับชาติมหาอำนาจและอิหร่าน แต่รัฐบาลปัจจุบันในยุคประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงเมื่อพฤษภาคม

มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านชุดแรกจากทั้งหมด 2 ชุด ของรัฐบาลสหรัฐเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 11.30 น. วันที่ 7 ส.ค. ในไทย โดยมีเป้าหมายสกัดไม่ให้อิหร่านเข้าถึงเงินดอลลาร์สหรัฐและอุตสาหกรรมหลัก เช่น ยานยนต์ และพรม ปัจจุบันอิหร่านได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตร เช่น ค่าเงินสกุลเรียลของอิหร่าน ดิ่งหนักกว่าครึ่งหนึ่งนับตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศให้สหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านปี 2558 โดยบอกว่าเป็นความตกลงเพียงฝ่ายเดียวและแย่มาก มาตรการคว่ำบาตรนี้เป็นเพียงส่วนแรก ซึ่งส่วนที่สองจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะมีผลต่อธุรกิจภาคการพลังงานและการขนส่ง น้ำมันเชื้อเพลิงและการทำธุรกรรมของสถาบันการเงินต่างประเทศที่มีกับธนาคารกลางของอิหร่าน

การถอนตัวฝ่ายเดียวของสหรัฐมีขึ้นแม้ว่าประเทศภาคีอื่นๆ เช่น อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย และสหภาพยุโรป(อียู) บอกกับผู้นำสหรัฐว่าอย่าถอนตัวจากข้อตกลงที่มีวัตถุประสงค์ให้อิหร่านล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ ทั้งอียู อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ต่างแสดงความเสียใจอย่างยิ่งที่รัฐบาลสหรัฐดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียว ขณะที่บริษัทรายใหญ่ของยุโรปหลายแห่งต่างทยอยถอนธุรกิจกับอิหร่านเพราะกลัวสหรัฐลงโทษ และนายทรัมป์เตือนว่าบริษัทและบุคคลที่ยังทำธุรกิจติดต่อกับอิหร่านจะต้องเจอกับผลเสียหายร้ายแรงตามมา

ด้านนายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีทรัมป์ เรียกร้องให้อิหร่านรับข้อเสนอเรื่องการเปิดเจรจากับสหรัฐในการยกเลิกโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์อย่างเต็มที่และพิสูจน์ได้จริง เพราะไม่เช่นนั้นจะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ขณะที่ประธานาธิบดีฮัสซาน โรว์ฮานี ของอิหร่าน ปฏิเสธข้อเสนอเรื่องการเจรจา โดยบอกว่าอิหร่านยินดีกับการดำเนินการทางการทูตและการเจรจา แต่ต้องเป็นการเจรจาที่มีความจริงใจ และอิหร่านจะเจรจากับสหรัฐก็ต่อเมื่อสหรัฐพิสูจน์ให้เห็นว่าไว้วางใจได้เท่านั้น พร้อมประณามการกระทำของสหรัฐว่าเป็นการทำสงครามจิตวิทยา ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างความแตกแยกในหมู่ชาวอิหร่าน ส่วนนายโมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ปฏิกิริยาทั่วโลกที่มีต่อความพยายามของนายทรัมป์แสดงให้เห็นว่าสหรัฐถูกโดดเดี่ยวทางการทูต แต่ยอมรับว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐอาจส่งผลกระทบกับอิหร่านบ้าง

เห็นแต่หลังคา!หมู่บ้านเหนือเขื่อนแก่งกระจานอ่วมหนัก น้ำท่วมสูงเกิน 2 เมตร

8 ส.ค.61 เพจราชสีห์ จิตอาสา โพสต์ภาพและรายงานสถานการณ์น้ำท่วมหมู่บ้านเหนือเขื่อนแก่งกระจาน ที่หมู่บ้านพุเข็ม ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เมื่อ 8 ชม.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า หมู่บ้านดังกล่าว ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือน โรงเลี้ยงสัตว์ ที่ปลูกอยู่พื้นที่ลุ่มต่ำริมเขื่อนแก่งกระจาน

จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า น้ำได้เข้าท่วมเมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ (6 ส.ค.61) โดยน้ำมาเร็วมากทำให้เก็บสิ่งของขึ้นแทบไม่ทัน มีข้าวของเครื่องใช้ และอุปกรณ์ทำกินจมอยู่ในน้ำ บางส่วนเก็บขึ้นไว้ที่สูง โดยมีบางหลังจมน้ำไปครึ่งหลัง มีทั้งบ้านของชาวบ้านและบ้านพักแบบโฮมสเตย์ ที่พักของนักท่องเที่ยว และ คอกวัวที่เหลือเพียงหลังคา น้ำลึกกว่า 2 เมตร

น้ำที่เข้าท่วม เป็นน้ำที่มาจากบ้านโป่งลึก บางกลอย โดยชาวบ้านบอกว่า น้ำมาเร็วมากและไม่คิดว่าจะสูงเข้าท่วมถึงตัวบ้าน มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบกว่า 30 หลังคาเรือน โดยบ้านที่จมน้ำต้องไปขออาศัยพักอยู่กับเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่น้ำท่วมไม่ถึง

ตั้งแต่ช่วงเย็นวาน (7 ส.ค.61) จนถึงเช้าวันนี้ (8ส.ค.61) #น้ำขึ้นมาอีก30 ซ.ม. ทำให้บ้านเรือนไร่สวน ได้รับผลกระทบจำนวนมาก


เฮลั่นแม่สาย! '4 หมูป่าอะคาเดมี' ได้สัญชาติไทยแล้ว

วันนี้ (8 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมหมูป่าอะคาเดมี 4 คนที่เคยเข้าไปติดอยู่ในถ้ำหลวง ประกอบด้วย 1.ด.ช.อดุลย์ สามอ่อน 2.ด.ช.มงคล บุญเปี่ยม 3.ด.ช.พรชัย คำหลวง และ 4.นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือ โค้ชเอก ได้สัญชาติไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยได้มีพิธีปฏิญาณตนเป็นพลเมืองไทยพร้อมกันทั้งหมด 30 คนไปเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ที่บริเวณที่ว่าการอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

โดยนายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอแม่สาย เปิดเผยว่า บ่ายวันนี้ได้มีพิธีการปฏิญาณตนเป็นพลเมืองไทยและมอบบัตรประชาชนให้กับบุคคลที่ได้รับสถานะเป็นสัญชาติไทย ตามมาตรา 7ทวิ และมาตรา 23 ตาม พ.ร.บ.สัญชาติ ทั้งหมด 30 คน ในจำนวนมีทีมหมูป่า 4 คน ประกอบด้วย 1.ด.ช.อดุลย์ สามอ่อน 2.ด.ช.มงคล บุญเปี่ยม 3.ด.ช.พรชัย คำหลวง ทั้ง 3 คนเป็นไปตามมาตรา 7 ทวิ โดยได้ไปยื่นคำร้องการเกิดที่เทศบาลเม่สาย และเทศบาลเวียงพานคำ ได้รับใบรับรองการเกิด จากนั้นนำมายื่นกับนายอำเภอเพื่อขออนุมัติสัญชาติไทย ซึ่งเห็นว่าเข้าเกณฑ์ หลักฐานครบถ้วน จึงได้อนุมัติ และ 4.นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือ โค้ชเอก เกิดที่โรงพยาบาลแม่สาย มีพ่อหรือแม่เกิดในไทย มีหลักฐานการเกิด มีความประพฤติดี ทำคุณประโยชน์ให้สังคม เข้าข่ายตามมาตรา 23 จึงได้อนุมัติให้ได้สัญชาติไทยดังกล่าว


‘บิ๊กแป๊ะ’แทงคำสั่งด่วนห้ามนำรถหลวงไปใช้ส่วนตัว-จอดมั่ว ส่งสายลับสุ่มตรวจ

8 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้มีหนังสือคำสั่งด่วนที่สุดถึงผบช.และผบก.ทุกหน่วยกำกับดูแลการใช้รถราชการในสังกัด ให้เป็นไปตามระเบียบและคำสั่งโดยเคร่งครัด เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ได้ตรวจพบมีข้าราชการตำรวจนำรถราชการไปใช้ไม่เป็นไปตามระเบียบฯและคำสั่ง โดยเฉพาะการนำไปใช้เป็นการส่วนตัว การนำไปจอดในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม หรือนำไปเก็บรักษา จอดที่บ้านพักโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นเพื่อให้การใช้รถราชการที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ตำรวจทุกประเภท เป็นไปด้วยความถูกต้องเรียบร้อย และรัดกุมมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ผบ.ตร. ยังระบุด้วยว่า ต่อไปนี้จะต้องออกคำสั่งมอบหมายหน้าที่ ความรับผิดชอบในการใช้ ดูแล บำรุงรักษา รถราชการทุกคันให้เรียบร้อย กรณีที่ต้องนำรถราชการไปจอดที่อื่นเป็นการชั่วคราวให้ขออนุญาตตามระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง ให้หัวหน้าพัสดุและหรือผู้รับผิดชอบงานพัสดุของหน่วยงานทุกระดับ กำหนดวงรอบให้นำรถราชการมาตรวจสอบในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม เพิ่มเติมจากการตรวจสอบพัสดุประจำปี ให้จเรตำรวจ และรอง ผบช.และรอง ผบก.ที่รับผิดชอบงานจเรตำรวจทุกหน่วยงาน สุ่มตรวจสอบการใช้รถราชการ หากตรวจพบข้อบกพร่องให้พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้วรายงานทันที โดยขอให้ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด


ลาวมุ่งเน้น 4 ภารกิจหลัก ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเขื่อนแตก

เวียงจันทน์ (เอเอฟพี/รอยเตอร์) - รัฐมนตรีสปป.ลาว เปิดเผยว่า จะเน้นภารกิจหลัก 4 ด้าน ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากเหตุเขื่อนแตกในแขวงอัตตะปือ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 34 คน พร้อมตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยการก่อสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำทั่วประเทศ

นายสะเหลิมไซ กมมะสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาว แถลงที่กรุงเวียงจันทน์วานนี้ ร่วมกับบรรดารัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม โดยมีบรรดาผู้แทนจากองค์การระหว่างประเทศ นักการทูต สื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม โดยกล่าวถึงความคืบหน้าล่าสุดในพื้นที่ประสบภัยและแนวทางในการรับมือของรัฐบาล โดยระบุว่า ภารกิจแรกที่รัฐบาลต้องดำเนินการก็คือ การเดินหน้าค้นหาผู้ที่ยังคงสูญหายไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ยังคงมีประชาชนสูญหายไปราว 100 คน รัฐบาลต้องการเครื่องมือในการช่วยค้นหาพวกเขาเหล่านั้น

ส่วนภารกิจที่ 2 คือ การฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการซ่อมแซมถนนไปยังพื้นที่ประสบภัยหลังถูกกระแสน้ำพัดพังเสียหาย ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบาก ภารกิจที่ 3 ก็คือ การแจกจ่ายอาหาร และภารกิจหลักสุดท้าย คือการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมทั้งรถพยาบาล และเวชภัณฑ์ และว่าขณะนี้ ทางการลาวกำลังประเมินมูลค่าความเสียหายความเสียหายทั้งหมด และร่างแผนแม่บทสำหรับการตั้งถิ่นฐานใหม่และฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยเพื่อให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ขณะเดียวกัน นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ ซึ่งมีการแถลงถึงความคืบหน้าในการจัดการภายหลังเกิดภัยพิบัติ ที่ประชุมได้เห็นพ้องให้มีการตรวจสอบเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังานน้ำทั้งหมดทั้งที่สร้างเสร็จแล้วและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่จะร่วมมือกับกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศดำเนินการตรวจสอบเขื่อนทั้งหมด หากพบความไม่ถูกต้องทั้งในการออกแบบหรือการก่อสร้างจะต้องรายงานต่อรัฐบาลเป็นกรณีไปเพื่อดำเนินการแก้ไขปรับปรุง

นอกจากนี้ รัฐบาลลาวยังได้ตัดสินใจระงับการพิจารณาโครงการลงทุนใหม่ในโครงการก่อสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำ เพื่อทบทวนแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาในปัจจุบันสำหรับใช้อ้างอิงในอนาคต ที่ประชุมยังได้เห็นพ้องตั้งคณะทำงานเพื่อสอบสวนสาเหตุของเขื่อนแตกด้วย

ทั้งนี้ อุทกภัยครั้งนี้นับเป็นอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของลาว มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 34 คน และสูญหายไปอีกราว 100 คน


ยอดตายดินไหวลอมบอกพุ่ง 130 คน

จาการ์ตา (เอเอฟพี/รอยเตอร์) - เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียกล่าวว่า ยอดเสียชีวิตจากแผ่นดินไหวขนาด 7 ที่เกาะลอมบอกเพิ่มขึ้นเกิน 130 คนแล้ว ขณะที่ประชาชนกว่า 70,000 คน ไร้ที่อยู่อาศัย ต้องอาศัยนอนอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขาดแคลนทั้งอาหาร ยารักษาโรค และน้ำสะอาด

นายซูโตโป เปอร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซียกล่าวว่า ยอดเสียชีวิตจากแผ่นดินไหวขนาด 7 ที่เกาะลอมบอกเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 131 คนแล้วและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่หน่วยกู้ภัยใช้อุปกรณ์หนักเข้ารื้อถอนกองซากหักพังตามอาคารบ้านเรือน โรงเรียนและมัสยิด ส่วนความหวังพบผู้รอดชีวิตเลือนลางลงแล้ว แผ่นดินไหวล่าสุดยังทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัสราว 236 คน บ้านเรือนหลายหมื่นหลังพังเสียหาย เจ้าหน้าที่ต้องร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และสิ่งของจำเป็นเพิ่มเติมสำหรับผู้ประสบภัย ขณะที่ประชาชนกว่า 70,000 คน ไร้ที่อยู่อาศัย ต้องอาศัยนอนอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขาดแคลนทั้งอาหาร ยารักษาโรค และน้ำสะอาด ขณะที่คาดว่า แผ่นดินไหวรุนแรงครั้งล่าสุดนี้ สร้างความเสียหายให้อินโดนีเซียคิดเป็นมูลค่ากว่า 2,300 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังพื้นที่ประสบภัยและบริเวณใกล้เคียงได้รับความช่วยเหลือตามสมควรจากทางการท้องถิ่นและผู้อยู่อาศัย นักท่องเที่ยวที่ตกค้างบนหมู่เกาะกิลีที่อยู่ใกล้เคียงได้รับการอพยพออก โดยมีอาสาสมัครจากการท่องเที่ยวท้องถิ่นจัดหาอาหาร ที่พักชั่วคราว และน้ำดื่มให้ รวมทั้งยังมีบริการข่าวสารอยู่ที่ศูนย์อพยพ โดยไม่คิดค่าบริการพิเศษเพิ่มเติม นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือของกระทรวงคมนาคมไปยังเกาะบาหลี หรือรถโดยสารที่ให้บริการไปยังท่าอากาศยานเพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทาง

มีรายงานด้วยว่า เดวิด เบ๊คแฮม และ วิคตอเรีย เบ๊คแฮม และลูกๆ ทั้ง 4 คน กำลังพักผ่อนวันหยุดอยู่บนเกาะบาหลี ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเกาะลอมบอก โดยจุดที่ครอบครัวเบ๊คแฮมอยู่บนเกาะบาหลีอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวราว 96 กิโลเมตร และทุกคนรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวด้วย โชคดีที่ครอบครัวคนดังของอังกฤษทั้งครอบครัว ปลอดภัยดีทุกคน และไม่ได้รับอันตรายใดๆ และพวกเขายังแสดงความเสียใจต่อผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในอินโดนีเซียด้วย

'เกาหลีเหนือ'ปล่อยตัวชาวเกาหลีใต้ หลังลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย

7 ส.ค.61 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เกาหลีเหนือได้ปล่อยตัว นายโซวัย 34 ปี พลเมืองเมืองชาวเกาหลีใต้ ที่บริเวณเขตปลอดทหาร (ดีเอ็มซี) ของหมู่บ้านปันมุนจอม เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอังคาร หลังชายคนดังกล่าวลักลอบข้ามพรมแดนและถูกควบคุมตัวไว้เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา

โดยรายงานระบุว่าเจ้าหน้าที่ของเกาหลีเหนือซึ่งนำตัวชายคนดังกล่าวมาส่ง เผยว่าเป็นการดำเนินการ "ตามหลักมนุษยธรรม" ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้ได้แสดงความขอบคุณ และกำลังดำเนินการสอบสวนชายคนดังกล่าวตามขั้นตอน นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังเรียกร้องให้ส่งกลับชาวเกาหลีใต้อีก 6 คน ที่เชื่อว่าถูกควบคุมตัวในเกาหลีเหนือมาหลายปีแล้ว