ข่าว
ระทึก ! ไฟไหม้รุนแรงตึกสูง 42 ชั้นใน “ฮ่องกง” ปชช.130 ชีวิตเร่งอพยพหนีตายกลางดึก

3 มีนาคม 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ความสูง 42 ชั้น ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ในย่านจิมซาจุ่ย ซึ่งเป็นพื้นที่ธุรกิจและการค้า บนฝั่งเกาลูนของฮ่องกง เมื่อช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยเปลวเพลิงยังได้ลุกลามสร้างความเสียหายต่ออาคารใกล้เคียง เบื้องต้นมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 2 คน และประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณนั้นประมาณ 130 คน ต้องอพยพออกจากพื้นที่เป็นการชั่วคราว

โดยเปลวเพลิงได้ลุกลามทั้งอาคารอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เริ่มไหม้เมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ของเมื่อคืนนี้ และจนถึงช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงทำงานอย่างหนักเพื่อดับไฟ ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ไฟไหม้ลามไปยังอาคาร 4 หลังที่อยู่ใกล้เคียง รวมไปถึงจุงกิง แมนชั่น, ฟาร์อีสต์ แมนชั่น และห้างสรรพสินค้า 26 ที่อยู่บนถนนนาธาน ขณะเดียวกันมีผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจำนวน 2 ราย และประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงต้องรีบอพยพออกไป

ด้านสำนักงานตำรวจฮ่องกงประกาศเตือนภัยประชาชนระดับ 4 จากทั้งหมด 5 ระดับ นอกจากนี้ มีรายงาน การเกิดเพลิงไหม้เล็กน้อยที่อาคารพาณิชย์ตั้งอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว และสันนิษฐานว่า อาจเป็นเพราะสะเก็ดไฟจากอาคารที่เกิดเหตุที่ลอยไปตามกระแสลม

มอบเช็คให้กับกงสุลตุรกี

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม 2023 เวลา 14.00 น. ที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส นุชนาฎ อุงอำรุง นายกสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ (คนมอบ Check) พร้อมด้วยคณะ ประกอบด้วย Enny Wiratiya (ประชาสัมพันธ์สมาคมฯ, Surinun Blaignan (เลขาฯสมาคมฯ),แซม พรมพิชัย (รองนายกสมาคมฯ)) นำ Check จำนวน $20,000 มอบให้กับกงสุลตุรกี โดยการประสานงานจากท่านต่อ ศรลัมพ์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส

โดยเงินจำนวนดังกล่าว ทางสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ ร่วมกับ สภาสตรีไทย, สมาคมนวดและสปา, สมาพันธ์ทำความดีแห่งแอลเอ และชุมชนไทยในนครลอสแอนเจลิส ได้ร่วมกัน “จัดงาน ราตรีการกุศล ด้วยรักและห่วงใย” หาเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ในตุรกี และ ซีเรีย เมื่อวันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา รายได้ ทั้งหมดจำนวน $20,000 โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สุดท้ายนี้ทางสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ ขออนุโมทนากับทุกๆ ท่าน ขอให้มีแต่ความสุข ความเจริญ และสุขภาพแข็งแรงตลอดไป


รัสเซียยิงมิสไซล์โจมตีสะพานในบักห์มุต ทหารรับจ้างแวกเนอร์ล้อมเมืองได้แล้ว

Aljazeera, CNN: กองทหารรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีสะพานสำคัญในเมืองบักห์มุตพังยับ ขณะที่ทหารรับจ้างแวกเนอร์โว สามารถล้อมเมืองบักห์มุตได้แล้ว

เมื่อ 3 มี.ค. 2566 สงครามรัสเซีย-ยูเครนล่าสุด ขณะเข้าสู่วันที่ 373 นายเยฟเกนี ปริโกซิน ผู้ก่อตั้งและเจ้าของเครือข่ายกองกำลังทหารรับจ้าง แวกเนอร์ (Wagner) ที่ถูกประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ส่งไปช่วยทหารรัสเซียทำสงครามในยูเครน กล่าวถึงสถานการณ์ในเมืองบักห์มุต ทางภาคตะวันออกของยูเครน ที่กลายเป็นศูนย์กลางการสู้รบอย่างดุเดือดตั้งแต่หลายเดือนที่ผ่านมาว่า ทหารรับจ้างกลุ่มแวกเนอร์สามารถโอบล้อมเมืองบักห์มุตไว้ได้แล้ว

โดยขณะนี้ทหารยูเครนเหลือเพียงถนนสายเดียวที่จะสามารถใช้เป็นเส้นทางหนีออกจากเมืองได้

ขณะเดียวกันมีแหล่งข่าวหลายคนเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า กองทหารรัสเซียได้ยิงมิสไซล์ หรือขีปนาวุธมาโจมตีสะพานสำคัญที่เชื่อมระหว่างตัวเมืองบักห์มุตกับหมู่บ้านโครโมฟซึ่งอยู่ใกล้เคียง เมื่อคืนวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยสะพานแห่งนี้ยังเป็นเส้นทางในการเดินทางจากบักห์มุตไปยังเมืองชาซิฟยาร์

ขณะที่มีภาพความเสียหายของสะพานที่ถูกกองทหารรัสเซียยิงโจมตีด้วยขีปนาวุธลูกหนึ่ง จนทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ ถูกเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งฝ่ายยูเครนเชื่อว่าขีปนาวุธที่กองทหารรัสเซียใช้ยิงโจมตีสะพานสำคัญในเมืองบักห์มุต คือ ขีปนาวุธอิสกันเดอร์ (Iskander missile)

ที่มา : Aljazeera, CNN


สงครามยูเครน รัสเซียระดมรับมือแคว้นชายแดนถูกกลุ่มก่อการร้ายโจมตี

สงครามยูเครน – วันที่ 2 ก.พ. รอยเตอร์รายงานว่า ทางการรัสเซียเร่งระดมเจ้าหน้าที่เข้าต่อสู้กับการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายที่แคว้นเบรียนสก์ติดกับพรมแดนภาคเหนือของประเทศยูเครน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีพลเรือนถูกจับเป็นตัวประกัน

เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการเปิดเผยผ่านผู้ว่าการแคว้นเบรียนสก์ กล่าวหาว่ากองกำลังจารกรรมของยูเครนเข้ามาก่อเหตุโจมตีและจับตัวประกัน ขณะที่ทางการยูเครน ระบุว่า รัสเซียกำลังพยายามสร้างข้ออ้างว่ายูเครนเป็นฝ่ายยั่วยุรัสเซีย

รายงานระบุว่า พื้นที่ตามแนวชายแดนของรัสเซียที่ติดกับยูเครนนั้นกลายเป็นพื้นที่อันตรายและคาดเดาได้ยากหลังประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ส่งกองทัพเข้ารุกรานรัสเซียเมื่อ 24 ก.พ. 2565 ทำให้พื้นที่ตามแนวชายแดนเผชิญกับการก่อเหตุโดยกองกำลังไม่ทราบสังกัด

นายดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการก่อการร้ายและเจ้าหน้าที่กำลังพยายามคลี่คลายเหตุการณ์และสืบสวนมาเป็นกลุ่มใดที่ก่อเหตุ ส่วนประธานาธิบดีปูตินนั้นรับทราบเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว

ด้านนายมิไคโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาผู้นำยูเครน ทวีตว่า เรื่องราวของกองกำลังยูเครนเข้าไปก่อเหตุจารกรรมในรัสเซียนั้นเป็นการกุเรื่องเหลวไหลที่รัสเซียมักทำมาตลอด “ทางการรัสเซียต้องการทำให้ประชาชนชาวรัสเซียตกอยู่ในความกลัวเพื่อนำมาใช้เป็นข้ออ้างความชอบธรรมในการโจมตีชาติอื่น รวมถึงเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนจากความยากลำบากเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของรัสเซีย” นายโปโดลยัก ระบุ

แถลงการณ์ของหน่วยข่าวกรองรัสเซีย หรือเอฟเอสเบ ระบุว่า เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อกวาดล้างกองกำลังติดอาวุธคลั่งชาติของยูเครนที่ลักลอบข้ามพรมแดนเข้ามา

นายอเล็กซานเดอร์ โบโกมาซ ผู้ว่าการแคว้นเบรียนสก์ กล่าวว่า กลุ่มคนจากยูเครนเปิดฉากยิงเข้าใส่รถยนต์คันหนึ่งที่กำลังเคลื่อนที่ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิต 1 ราย และเด็กอายุ 10 ขวบในรถได้รับบาดเจ็บ ที่เขตคลิมอฟสกี

นอกจากนี้ นายโบโกมาซ ยังอ้างว่า กองทัพยูเครนยิงปืนใหญ่และใช้โดรนบินเข้ามาโจมตีในพื้นที่อื่นๆ ตามแนวชายแดนด้วย

ข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองอังกฤษ ระบุว่า แคว้นเบรียนสก์เป็นพื้นที่ซึ่งรัสเซียปล่อยโดรนเข้ามาโจมตียูเครน โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้กรุงเคียฟ เพราะแคว้นเบรียนสก์นั้นเป็นตำแหน่งปล่อยโดรนที่ใกล้ยูเครนมากที่สุด


วิจัยพบ “น้ำแข็งทะเลแอนตาร์กติก” ลดต่ำเป็นประวัติการณ์

วันศุกร์ ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2566: สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อไม่นานนี้ การศึกษาจากศูนย์ข้อมูลน้ำแข็งและหิมะแห่งชาติของสหรัฐฯ (NSIDC) เปิดเผยว่าขอบเขตน้ำแข็งในทะเลแอนตาร์กติกมีแนวโน้มลด แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. น้ำแข็งในทะเลดังกล่าวมีแนวโน้มแตะระดับต่ำสุดเมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 1.79 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 45 ปี จากการบันทึกข้อมูลด้วยดาวเทียม ศูนย์ฯ ระบุว่าปีนี้เป็นปีที่ขอบเขตของแผ่นน้ำแข็งในทะเลแอนตาร์กติกแตะระดับต่ำสุดติดต่อกันเป็น ครั้งที่ 2 หลังจากลดต่ำมากสุดเป็นอันดับ 3 และอันดับ 4 ในปี 2017 และปี 2018 ตามลำดับ เท็ด สแคมโบส นักวิจัยอาวุโสของสถาบันความร่วมมือด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมแห่งมหาวิทยาลัยโคโลราโด โบลเดอร์ กล่าวว่าการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของทวีป แอนตาร์กติกาแตกต่างจากทวีปอาร์กติก

พร้อมเสริมว่าแนวโน้มน้ำแข็งลดลงอาจส่งสัญญาณว่าในที่สุดภาวะ โลกร้อนก็กำลังส่งผลกระทบต่อน้ำแข็งที่ลอยอยู่บริเวณแอนตาร์กติกา ทว่าต้องใช้เวลาศึกษาอีกหลายปีจึงจะมั่น ใจได้

สแคมโบสชี้ว่าขอบเขตของแผ่นน้ำแข็งในทะเลแอนตาร์กติกที่ลดลง หมายความว่าคลื่นทะเลจะซัดเข้า หาชายฝั่งของแผ่นน้ำแข็งขนาดยักษ์ และทำให้ชั้นน้ำแข็งรอบแอนตาร์กติกาลดลงไปอีก

คณะนักวิทยาศาสตร์ของศูนย์ฯ เน้นย้ำว่าตัวเลขขอบเขตของแผ่นน้ำแข็งในทะเลแอนตาร์กติกถือ เป็นปัจจัยเบื้องต้น ขณะการเปลี่ยนทิศทางของลมหรือการละลายของน้ำแข็งช่วงปลายฤดูกาลอาจทำให้ขอบ เขตของแผ่นน้ำแข็งลดลงได้อีกเช่นกัน

ที่มา xinhuathai

“กรีซ” วุ่น ! พนักงานรถไฟแห่หยุดงานประท้วง ระบบขนส่งหยุดชะงักทั้งกรุงเอเธนส์

3 มีนาคม 2566 จากกรณีรถไฟโดยสารชนประสานงากับรถไฟขนส่งสินค้า ในเมืองลาริสซา ทางตอนเหนือของกรีซ ขบววนรถไฟโดยสารมีผู้โดยสารประมาณ 350 คน และกำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองเทสซาโลนิกิ วิ่งมาด้วยความเร็วสูงบนรางเดียวกับรถไฟขนส่งสินค้า ก่อนจะชนประสานงากันอย่างแรง ตู้รถไฟอย่างน้อย 1 ตู้ถูกชนอัดจนเสียหายอย่างหนัก อีกอย่างน้อย 3 ตู้เกิดเพลิงลุกไหม้ ขณะที่ตู้รถไฟ 4 ตู้แรกของขบวนรถโดยสารพลิก คว่ำตกราง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 46 ราย และมีผู้บาดเจ็บรักษาตัวที่โรงพยาบาล 52 คน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าพนักงานรถไฟผละงานประท้วงนาน 24 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เวลา 6.00 น. ของวันพฤหัสบดีสหภาพแรงงาน กล่าวโทษว่า การที่รัฐบาลหลายชุดที่ผ่านมาไม่ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงระบบรางรถไฟในประเทศจึงทำให้เกิดโศกนาฏกรรม รถไฟชนกันมีปัจจัยจากหลายสิ่ง และอุบัติเหตุล่าสุดตอกย้ำถึงความบกพร่องที่เรื้อรัง ซึ่งรวมถึงการขาดแคลนพนักงาน ระบบสัญญาณรถไฟเสีย และโครงสร้าง ที่ล้าสมัย

ขณะที่มีข้อมูลว่ารถไฟโดยสารวิ่งด้วยความเร็วราว 160 กม. /ชม. และวิ่งอยู่บนรางเดียวกันกับรถไฟขนสินค้านานถึง 12 นาที หรือเป็นระยะทาง 17.6 กม. ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลกระทบให้รถไฟทั่วประเทศและรถไฟใต้ดินในกรุงเอเธนส์หยุดวิ่ง

นายกรัฐมนตรี คิริอาคอส มิตโซทาคิส กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ ทำให้จุดชนวนความโกรธแค้นภายในประเทศ ซึ่งทำให้มีผู้เดินกลุ่มประท้วงตามท้องถนนในกรุงเอเธนส์, เมืองเทสซาโลนิกิ และเมืองลาริสซา โดยในกรุงเอเธนส์ ผู้ประท้วงปะทะกับตำรวจที่ด้านนอกสำนักงานใหญ่ของบริษัท เฮลเลนนิก เทรน ในกรุงเอเธนส์ โดยบริษัทนี้ให้บริการรถไฟโดยสารและรถไฟขนสินค้า

ทางด้านของคอสตาส คารามานลิส รัฐมนตรีกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานและคมนาคม ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้ว