ข่าว
ญี่ปุ่นวิกฤต! เด็กเกิดใหม่ทุบสถิติลดลงต่อเนื่องปีที่ 8 อีก 6 ปีประชากรหนุ่ม-สาวลดฮวบ

28 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเผยข้อมูลว่า จำนวนทารกแรกเกิดลดลง 5.1% เหลือเพียง 758,631 คน ซึ่งต่ำกว่า 800,000 คน ตั้งแต่ปี 2565 และจำนวนการแต่งงานลดลง 5.9% เหลือ 489,281 ครั้ง ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 90 ปี ที่จำนวนลดลงต่ำกว่า 500,000 ครั้ง ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ 1,590,503 ราย ซึ่งเพิ่มติดต่อกันเป็นปีที่ 3 และอัตราประชากรลดลงตามธรรมชาติ ซึ่งหมายถึง จำนวนผู้เสียชีวิตลบด้วยจำนวนทารกแรกเกิดอยู่ที่ 831,872 คน ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องปีที่ 17 และลดลงมากที่สุดเท่าที่เคยบันทึก

โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น ได้ออกแถลงการณ์ว่า อัตราการเกิดที่ลดลงต่อเนื่องเป็นสถานการณ์ขั้นวิกฤต และในช่วง 6 ปีข้างหน้า หรือจนถึงปี 2573 จะเป็นช่วงที่จำนวนประชากรวัยหนุ่มสาวจะลดลงอย่างรวดเร็ว และเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะเปลี่ยนแปลงโน้มอัตราการเกิดลดลง

ดังนั้นเวลานี้จำเป็นต้องดำเนินมาตรการแก้ไขโดยด่วน นอกจากนี้ภายใต้นโยบายยุทธศาสตร์อนาคตของเด็ก รัฐบาลจะเร่งควบคุมอัตราการเกิดที่ลดลงในระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยเน้นเรื่อง 3 เสาหลัก ได้แก่ เพิ่มรายได้ของกลุ่มคนรุ่นใหม่, เปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการตระหนักรู้ของสังคม และให้การสนับสุนอย่างต่อเนื่องแก่ทุกครอบครัวที่เลี้ยงดูเด็กในแต่ละช่วงวัย

นรข.บุกยึดปิกอัพคาโขง เตรียมส่งลูกค้า คาดยังเหลืออีก 1 คันซุกในหมู่บ้าน

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 หน้าสโมสรสัญญาบัตร กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) น.อ.วรรณะ เกื้อทิพย์ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม (ผบ.นรข.เขตฯ) ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง แถลงผลการตรวจยึดรถกระบะ 4 ประตู TOYOTA HILUX VIGO สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน งพ 8212 นครราชสีมา บริเวณริมแม่น้ำโขง บ้านยางนกเหาะ หมู่ 2 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เมื่อคืนวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

โดย น.ท.วรวิทย์ นพเก้า หัวหน้าสถานีเรือนครพนม เปิดเผยรายละเอียดผลการตรวจยึดครั้งนี้ ว่า ด้วยมีการบูรณาการหน่วยงานความมั่นคง ร่วมลาดตระเวนตามจุดล่อแหลม ระหว่างพรมแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยริมแม่น้ำโขงมี นรข. ทหารพราน หน่วยเคลื่อนที่เร็ว กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และฝ่ายปกครอง ฯลฯ ส่วนพื้นที่ชั้นในมีมณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) รวมถึงตำรวจเป็นหน่วยงานหลัก ร่วมลาดตระเวนตามภารกิจที่รับผิดชอบ โดยวันที่ 25 ก.พ.พบความผิดปกติบริเวณบ้านยางนกเหาะ หมู่ 2 ต.เวินพระบาท จึงเฝ้าระวังจุดล่อแหลมที่มีประวัติ การลักลอบลำเลียงยาเสพติด และรถยนต์,มอเตอร์ไซค์ข้ามชาติ โดยชุดปฏิบัติการนอกเครื่องแบบแฝงอยู่ในชุมชน ขณะที่กำลังส่วนหนึ่งซุ่มเฝ้าในป่า

กระทั่งเวลาเกือบห้าทุ่ม ได้ยินเสียงเครื่องเรือยนต์ ดังแว่วมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ตรวจด้วยเทคนิคพิเศษพบมีเรือเหล็ก จำนวน 3 ลำ ลักษณะประกบต่อกัน คาดคืนนี้ต้องมีการลำเลียงรถยนต์อย่างน้อย 2 คัน เมื่อเรือทั้งสามลำเทียบฝั่งไม่นาน ได้มีรถยนต์คันดังกล่าววิ่งออกมาจากหมู่บ้าน สันนิษฐานคงจอดซ่อนไว้ที่ใดที่หนึ่งใกล้ๆบริเวณนั้น

จากการตรวจสอบกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดมี 7 คน ได้ช่วยกันจัดแจงเรือให้ชิดตลิ่ง รถจะได้แล่นขึ้นไปบนเรือ ที่มีไม้กระดานพาดประกบเรือ 2 ลำอย่างสะดวก ชุดปฏิบัติการจึงออกจากที่ซุ่มขอตรวจค้น กลุ่มชายทั้ง 7 คนใช้ความชำนาญพื้นที่ ต่างแยกย้ายวิ่งหลบหนี ทิ้งรถยนต์จอดค้างไว้บนเรือ จึงเข้าตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน โดยพบหลักฐานรถยนต์มีเอกสารระบุชื่อนายวันชนะชัย คะตะอินทร์ อายุ 24 ปี ชาว ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นผู้ครอบครอง มีชื่อบริษัทโอรีโค่ ลิสซิ่ง เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ แสดงว่ารถยนต์ที่ตรวจยึดยังติดผ่อนส่งบริษัทไฟแนนซ์

น.ท.วรวิทย์ นพเก้า หน.สน.เรือนครพนม เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จุดยึดรถยนต์อยู่บริเวณท่าทรายเก่า ซึ่งเป็นทางลาดที่ชาวบ้านใช้เลี้ยงสัตว์ แต่สามารถนำรถกระบะ 4 ประตูลงไปได้ แต่ต้องเป็นคนพื้นที่เท่านั้นถึงจะรู้ชัยภูมิ เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล เจ้าของใช้ไม้ไผ่กั้นเป็นรั้วห้ามสัตว์เลี้ยงลงไป ซึ่งขณะเข้าทำการตรวจยึดรั้วไม้ไผ่ถูกเปิดออก และบริเวณดังกล่าวมีประวัติการตรวจยึดรถบิ๊กไบค์ ที่ส่งข้ามจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมายังฝั่งไทย ถือว่าตรงบริเวณนี้เป็นจุดล่อแหลมที่ต้องเฝ้าระวังแห่งหนึ่ง

และจากลักษณะเรือมีการเตรียมลำเลียงรถยนต์ 2 คัน เจ้าหน้าที่จึงออกสืบหาว่าอีกคันหนึ่งซ่อนอยู่ที่ใด และคาดว่าขบวนการค้ารถยนต์ข้ามชาติ ต้องปกปิดอำพรางแล้ว เพื่อรอจังหวะเคลื่อนย้ายข้ามโขงตอนเจ้าหน้าที่เผลอ


ชาวบ้านตื่นเต้นเกิดมาเพิ่งเคยเห็นค้างคาวสีส้ม พบหายาก-ใกล้สูญพันธุ์

เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่าพบสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายผีเสื้อ ตัวสีส้มลายดำ จึงเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่ง ในต.กองดิน อ.แกลง จ.ระยอง เพื่อตรวจสอบว่าคือตัวอะไร

พบว่าชาวบ้านกำลังปรับหน้าดินเพื่อที่จะทำการเกษตรเพาะปลูกทุเรียน บริเวณโดยรอบเป็นที่โล่ง และมีป่ากล้วยอยู่ใกล้ๆ พบกับ น.ส.จิตนภา อายุ 29 ปี พร้อมด้วยชาวบ้านคนอื่น กำลังมุงดูสัตว์ตัวดังกล่าว พบว่าคือค้างคาว ตัวเท่าฝ่ามือ ลำตัวสีส้มบริเวณปีกมีลายดำ กางปีกออกยาวประมาณ 20 เซนติเมตร ชาวบ้านทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยพบเจอค้างคาวสายพันธุ์นี้มาก่อน คนที่อายุมากที่สุด 71 ปี ที่อยู่ในพื้นที่ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยพบเจอค้างคาวสายพันธุ์นี้ ต่างก็มีความตื่นเต้นที่ได้เจอค้างคาวสายพันธุ์นี้

จากการสอบถาม น.ส.จิตนภา อายุ 29 ปี เล่าว่า ตนกำลังนั่งอยู่ จู่ ๆ ตัวอะไรสักอย่างตัวนี้บินมาใส่มือแฟน คาดว่าคงบินมาจากป่ากล้วย แฟนจึงจับไว้ได้ ตอนแรกคิดว่าเป็นผีเสื้อ พอมาดูใกล้ๆ ปรากฏว่าเป็นค้างคาว ก็ตกใจ เพราะปกติแล้วตนเป็นคนกลัวสัตว์มีปีกทุกชนิด หลังจากนั้นตนได้ไปค้นหาดูในอินเทอร์เน็ต พบว่าเป็นค้างคาวหายากที่ใกล้จะสูญพันธุ์แล้วในประเทศประเทศไทย ถือว่าตนโชคดีที่ได้เห็นตัวเป็น ๆ คงไม่คิดจะเลี้ยงไว้ หลังจากนี้ก็จะปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติต่อไป


พับโปรเจกต์! 'แอปเปิล'ล้มเลิกผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรู พนักงานถูกโยกไปพัฒนาเอไอแทน

29 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า Apple Inc. (แอปเปิล อิงค์.) บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของโลก ได้ออกมาแจ้งว่าโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ที่ชื่อว่า "โปรเจกต์ไททัน" กำลังปิดตัวลง พนักงานทีมผลิตรถยนต์ก็จะถูกโยกไปอยู่แผนกปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และพวกเขาจะต้องโฟกัสไปที่โครงการ AI ที่บริษัทให้ความสำคัญมากขึ้น

แอปเปิล ซึ่งมีฐานอยู่ที่เมืองคูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย ตั้งใจผลิตซูเปอร์คาร์เพื่อให้สมกับเป็นแบรนด์ Luxury Society ที่เน้นลูกค้ากำลังซื้อสูง และบุคคลากรในทีมผลิตรถยนต์มีทั้งวิศวกรด้านฮาร์ดแวร์และนักออกแบบรถยนต์ ซึ่งเป็นไปได้ว่าบางส่วนสามารถโยกไปทำงานในทีมอื่น แต่บางส่วนจะถูกเลิกจ้าง แต่ไม่แน่ชัดว่ามีจำนวนเท่าใด แม้จะสร้างความตกตะลึงให้สาวกที่อยากเห็นโปรเจกต์ใหม่ของ Apple และพนักงานที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ช่วยบรรเทาความกังวลให้แก่นักลงทุน ส่งผลให้หุ้นของ Apple ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 1% เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ต่อมา อีลอน มัสก์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเอ็กซ์ส่วนตัว ที่เป็นการโควท ด้วยการใส่รูปอีโมจิที่แสดงให้เห็นถึงการหมดคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว เพราะอีลอน มัสก์ นั้นเรียกได้ว่าเป็นเจ้าของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างเทสล่า

การพับโปรเจกต์ไททัน ที่ใช้งบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ ทำให้แอปเปิลถอยออกจากวงการอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างสิ้นเชิง หลังเริ่มพัฒนาตั้งแต่ปี 2557 เพื่อหวังสร้างรถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ภายในตกแต่งให้หรูแบบเดียวกับลีมูซีนและระบบนำทางด้วยเสียง แต่ปรากฎว่าโครงการติดขัดตั้งแต่ต้น เมื่อมีการเปลี่ยนหัวหน้าทีมและยุทธศาสตร์หลายครั้ง ซึ่งในจำนวนนี้คือ ดั๊ก ฟิลด์ ที่กลายไปเป็นผู้บริหารระดับสูงของ ฟอร์ด มอเตอร์ โค.

แอปเปิล ยังใช้เวลาหลายปีในการผลิตรถยนต์และคิดค้นการออกแบบมามากมาย นอกเหนือจากรูปลักษณ์ของยานพาหนะแล้ว เทคโนโลยีการขับขี่ด้วยตนเองก็ยังเป็นความท้าทายที่สำคัญ โดยมีการทดสอบระบบบนท้องถนนมาตั้งแต่ปี 2560 โดยใช้รูปลักษณ์ภายนอกของเล็กซัส และส่งหลายสิบคันไปลงถนนหลายสายในสหรัฐฯ เพื่อทำการทดสอบ ทั้งยังทดสอบส่วนประกอบที่เป็นความลับเพิ่มเติมบนเส้นทางขนาดยักษ์ ในเมืองฟีนิกซ์ แต่ที่สุดก็พบว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้คึกคักอย่างที่หวัง อีกทั้งการเติบโตของยอดขายก็ลดลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เพราะหลายปัจจัย ทั้งราคาที่สูง สถานีชาร์จรถไฟฟ้าไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ซื้อกระแสหลักเกิดความท้อที่จะเป็นไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า แม้กระทั่งเทสลาที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ ก็ยังได้รับสัญญาณเตือนว่าอัตราการขยายตัวจะ "ลดลงอย่างเห็นได้ชัด" ในปีนี้ การเติบโตของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจะลดลงเหลือ 11% ในปีนี้ จากอัตราการเติบโตประมาณ 47% ในปีที่แล้ว


ระทึก! ไฟป่าเท็กซัสรุกคืบใกล้โรงงานนิวเคลียร์ เร่งอพยพประชาชน

28 ก.พ.67 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สถานการณ์ไฟป่ารุนแรงในเขตแพนแฮนเดิล รัฐเทกซัสของสหรัฐฯ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ล่าสุดสถานการณ์ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากกระแสลมแรงพัดเปลวเพลิงติดกับหญ้าแห้งจนทำให้เพลิงลุกลาม ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดผิดฤดู และความชื้นในอากาศต่ำส่งผลให้เพลิงไหม้ลุกลามขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดมีการสั่งปิดโรงงานของบริษัท แพนเท็กซ์ โรงงานผลิตอาวุธนิวเคลียร์แห่งสำคัญของอเมริกา ที่ตั้งอยู่ในเขตคาร์สัน เคาท์ตี้ชั่วคราว จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยโรงงานแห่งดังกล่าวมีแกนพลูโตเนียมเกือบ 20,000 แท่ง และเป็นแหล่งผลิตระเบิด B61-12 และหัวรบ W88 Alt370

นายเกร็ก แอบบ็อตต์ ผู้ว่าการรัฐเทกซัส ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 60 เขต เเละสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย หลังจากที่เพลิงไหม้ได้กินพื้นที่ไปกว่า 400 ตารางไมล์ หรือราว 647,000 ไร่แล้ว ซึ่งนับว่ามากกว่า 2 เท่า นับจากวันที่ไฟป่าปะทุขึ้น

นอกจากนี้มีรายงานไฟป่าอีกหลายจุดในเขตเฮมฟิลล์เคาน์ตี้ และเขตฮัทชินสันเคาน์ตี้ ซึ่งอยู่ใกล้กับชายแดนรอยต่อโอกลาโฮมา ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลาม ส่วนสาเหตุของไฟป่าครั้งนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน

เกาหลีใต้-ญี่ปุ่นวิกฤตหนัก อัตราเจริญพันธุ์-เด็กเกิดใหม่ร่วง

โซล/โตเกียว (รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์/เอ็นเอชเค) - อัตราการเจริญพันธุ์ (fertilityrate) ของเกาหลีใต้ ซึ่งต่ำที่สุดในโลกอยู่แล้ว ร่วงลงไปต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2023 ขณะที่จำนวนประชากรหดตัวเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ส่วนญี่ปุ่นไม่น้อยหน้า เผชิญอัตราการเกิดใหม่ลดลงเป็นปีที่ 8 ติดต่อกันแล้ว ขณะที่การแต่งงานก็ลดลงต่ำกว่า 500,000 คน เป็นครั้งแรกในรอบ 90 ปี

สตาทิสติก โคเรีย (Statistic Korea)หรือสำนักงานสถิติเกาหลีใต้ กล่าวว่าค่าเฉลี่ยการมีบุตรของผู้หญิงเกาหลีใต้หนึ่งคน ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ลดลงจาก 0.78ในปี 2022 ไปอยู่ที่ 0.72 ในปี 2023 สตรีเกาหลีใต้กังวลเกี่ยวกับความก้าวหน้าในอาชีพการงานและค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรทำให้พวกเธอเลื่อนการมีบุตรออกไปหรือตัดสินใจไม่มีบุตรเลย

สำนักงานสถิติเกาหลีกล่าวว่า สตรีในช่วงวัย 20-30 ปี กล่าวว่า การสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาลและสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีขึ้นในการเลี้ยงดูบุตร เป็นปัจจัยสำคัญที่จะหยุดยั้งมิให้อัตราการเกิดลดลง นอกจากนั้น การไม่มีหลักประกันในด้านอาชีพการงานของสตรีหลังจากที่พวกเธอมีบุตรก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อัตราการเกิดลดลงไปด้วย ขณะที่นับตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา เกาหลีใต้เป็นประเทศเดียวที่เป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ โออีซีดี ที่มีอัตราการเกิดต่ำกว่า 1 รัฐบาลเกาหลีใต้กำหนดให้เรื่องนี้มีความสำคัญระดับชาติในการเพิ่มอัตราการเกิดและได้ประกาศไปเมื่อเดือนธันวาคมว่า จะหามาตรการพิเศษในการแก้ไขสถานการณ์ในเรื่องนี้

ขณะเดียวกัน รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นล่าสุดวันที่ 28 ก.พ. พบว่าจำนวนเด็กเกิดใหม่ในญี่ปุ่นลดลงเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ในปี 2024 โดยอัตราการเกิดใหม่ลดลงร้อยละ 5.1 จากปีก่อนหน้า อยู่ที่ 758,631 คน ขณะที่จำนวนการแต่งงาน ลดลงร้อยละ 5.9 อยู่ที่ 489,281 คน นับเป็นครั้งแรกในรอบ 90 ปี ที่จำนวนลดลงต่ำกว่า500,000 คน ตอกย้ำภารกิจอันน่ากังวลของญี่ปุ่น ในการพยายามที่จะหยุดยั้งการลดลงของจำนวนประชากร ด้าน โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น กล่าวยอมรับว่า อัตราการเกิดของประเทศที่กำลังลดลงนี้ถือเป็นสถานการณ์วิกฤต และว่า 6 ปีจากนี้ไป หรือจนถึงปี 2030 ซึ่งจำนวนคนหนุ่มสาวจะลดลงอย่างรวดเร็ว จะเป็นโอกาสสุดท้ายที่ญี่ปุ่นจะพลิกสถานการณ์นี้