ข่าว
'บิ๊กตู่'ปิดห้องกล่อม'มีชัย' ยอมนั่งเก้าอี้ปธ.กรธ.แล้ว

"มีชัย" ตอบรับนายกฯ ยอมนั่งเก้าอี้ ปธ.กรธ.แล้ว พร้อมเรียกประชุม คสช. 5 ต.ค. ชัดเจนเปิดชื่อกรธ.-สปท.อย่างเป็นทางการ

เมื่อวันที่2ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังจากที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ สมาชิก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ว่า นายมีชัย ถือเป็นผู้ใหญ่ ต้องให้เวลาในการพิจารณา เพราะเป็นการให้เกียรติ และเชื่อว่าเรื่องของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นายกฯ และนายมีชัย ได้มีการพูดคุยกันบ้างแล้ว อีกทั้งการตั้งกรรมการกรธ.แม้เป็นอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ แต่ก็ต้องเป็นไปตามระเบียบขั้นตอน โดยพล.อ.ประยุทธ์ จะมีการเรียกประชุม คสช.ในวันที่5 ต.ค.ซึ่งจะได้รายชื่อกรธ.อย่างเป็นทางการ และเชื่อว่านายมีชัย จะให้คำตอบในวันนั้น รวมถึงรายชื่อสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) ก็จะมีการความชัดเจนในวันดังกล่าวเช่นเดียวกัน

พร้อมกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายกฯได้พูดคุยกับนายมีชัยในหลักการ และเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนประเทศ และตัวเลือกไม่มีใครแล้วที่เหมาะสม ซึ่งสุดท้ายนายมีชัย จึงได้ตอบรับนายกฯแล้วที่จะนั่งในตำแหน่งประธานกรรมการกรธ. พร้อมกันนี้พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบรายชื่อว่าที่ กรธ.ทั้งหมดที่มีการคัดกรองแล้วให้นายมีชัยไปพิจารณา ว่าต้องการบุคคลใดร่วมทีมในกรธ.บ้าง โดยขอให้นายมีชัยส่งกลับมาในการประชุม คสช.วันที่5ต.ค.เพื่อให้นายกฯลงนามแต่งตั้งต่อไป.

'บิ๊กตู่'เผยพระอาการ'ในหลวง' ทรงแข็งแรง-ห่วงคนไทยทุกคน

"บิ๊กตู่" แจงผลสำเร็จร่วมประชุมยูเอ็น ภูมิใจไทยได้แสดงจุดยืน-แจงโรดแม็พ พร้อมขอบคุณคนไทยให้กำลังใจทำงาน เผยพระอาการ "ในหลวง-ราชินี"ทรงแข็งแรง ทรงพระราชทานความห่วงใยให้คนไทย

เมื่อวันที่ 2 ต.ค. เวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยได้กล่าวถึงผลสำเร็จในการเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยที่ 70 ที่นครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า ถือเป็นโอกาสที่ดีของไทยในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกที่เราได้แสดงจุดยืนและคืบหน้าของการเดินหน้าประเทศตามโรดแม็พช่วงที่ผ่านมา และขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในระหว่างการเดินหน้าปฏิรูปในทุกด้าน คงต้องใช้เวลาแต่ประสบความสำเร็จดี ตลอดจนย้ำจิตสำนึกของความเป็นคนไทย ซึ่งภาพลักษณ์ของไทยในสายตาของคนต่างชาติไม่มีปัญหา ยังคงมีความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในประเทศไทยอยู่เช่นเดิม

“สำหรับการเยือนครั้งนี้ได้รับการต้อนรับอย่างดี อบอุ่น และเป็นกันเองอย่างที่ผมพบเสมอมา ขอขอบคุณทีมประเทศไทย เอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ และเอกอัครราชทูตประจำกรุงวอชิงตัน และข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนที่ให้การสนับสนุนอำนวยความสะดวกให้กำลังใจ จนทำให้ผมและคณะสามารถปฏิบัติภารกิจได้ลุล่วงเป็นอย่างดี ขอบคุณคนไทยทั้งประเทศที่ติดตาม รวมทั้งที่สหรัฐฯ ที่มาจากรัฐต่างๆ มาให้การสนับสนุนผมเหมือนกัน แต่ผมไม่มีโอกาสได้ไปพบใกล้ๆ ก็ได้มองเห็นในระหว่างเดินทางในรถที่ไปประชุม ขอบคุณในการช่วยเป็นกำลังใจให้ผมที่มาทำหน้าที่ให้กับประเทศไทยในฐานะประชาคมโลก ทุกท่านถือว่าเป็นกำลังสำคัญทั้งสิ้นให้กับประเทศชาติของเราในการก้าวต่อไปข้างหน้า เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ผมห่วงใยทุกพวกทุกฝ่าย รวมทั้งผู้ที่เห็นต่างด้วย ก็อยากจะหันหน้ามาพูดคุยกัน เราเสียเวลาในเรื่องที่ขัดแย้งกันต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ทุกประเทศในโลกนี้กำลังเดินหน้า กำลังขับเคลื่อนไปสู่สหัสวรรษหน้าคืออีก 15 ปี เราต้องกลับมาพูดคุยกัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะให้บรรดาคนไทยที่อยู่ต่างประเทศรับทราบคือขณะนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น ทรงพระราชทานความห่วงใยให้กับคนไทยเสมอมา หวังว่าทุกท่านคงจะช่วยกันถวายพระพรชัยให้พระองค์ทรงมีพระชนม์มายุยิ่งยืนยาวในขณะนี้ประเทศไทยกำลังเดินไปข้างหน้า อย่างที่ผมเคยกล่าวไว้แล้วว่าเราจะต้องผนึกกำลังกัน เจริญเติบโตเข้มแข็งไปด้วยกันที่เรียกว่า Stronger Together เพราะที่นี่คือบ้านของเรา คือประเทศของเรา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.“


จปร.ปลื้มปีติ!'สมเด็จพระเทพฯ' พระราชทานเงินเดือน26ล้าน

2 ก.ย. 58 พล.อ.ชาญชัย ยศสุนทร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ในฐานะอดีตผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า กล่าวถึงกรณีที่มีการแชร์ข้อความส่งต่อในโซเชียลมีเดียว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานเงินเดือนและค่าตอบแทนทั้งหมดที่ทรงได้รับจากการรับราชการตลอดระยะเวลา 35 ปีจำนวนกว่า 26 ล้านบาทให้กับโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง

โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงพระราชทานเงินเดือนและค่าตอบแทนทั้งหมดเข้ามูลนิธิโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเบื้องต้นก่อนจำนวน 7 ล้านบาท และจะทยอยพระราชทานที่เหลืออีกตามลำดับ เพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการศึกษาและเพื่อพัฒนาโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ซึ่งถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงเกษียณอายุราชการไปแล้ว แต่พระองค์ท่านก็จะยังคงเสด็จมาโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเรื่อยๆ ทั้งในงานพิธีการต่างๆ ของโรงเรียนและเรื่องการศึกษาด้วย


"บิ๊กตู่"ปลื้มไทยได้รับการยอมรับ "โอบาม่า"ชม ปีหน้าไปสหรัฐฯอีก

เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงการร่วมประชุมสหประชาชาติระดับผู้นำเพื่อรับรองวาระการพัฒนาภายหลัง ปี 2015 และการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 70 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ท่าทีของนานาประเทศให้การยอมรับประเทศไทยเป็นอย่างดี ในฐานะที่เป็นมิตรประเทศร่วมกัน โดยไม่มีการต่อต้าน ซึ่งได้ทำความเข้าใจกับต่างประเทศถึงสถานการณ์ภายในประเทศไทย พร้อมชี้แจงเหตุที่โรดแม็พการบริหารประเทศต้องขยายออกไป เนื่องจากรัฐธรรมนูญยังไม่ผ่านความเห็นชอบ ย้ำว่าตนทำตามคำพูดว่า เมื่อรัฐธรรมนูญเสร็จก็เข้าสู่การเลือกตั้ง

ส่วนการพบปะกับนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก็ได้ยินดีที่ได้พบกัน รู้สึกว่าเป็นเพื่อนกัน ในฐานะมิตรประเทศมายาวนาน ตนไม่มีอะไรกับเขา และประธานาธิบดีโอบามา ก็พูดว่าทราบว่าประเทศไทยสงบสุขดีขึ้น ก็ขอให้เดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยให้ได้โดยเร็ว ซึ่งเป็นมารยาทการพูดอย่างนี้อยู่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนความห่วงใยจากนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ถึงการแสดงความคิดเห็นในประเทศ ก็ได้ชี้แจงว่า ไม่ได้ปิดกั้น แต่อยากให้เป็นในเชิงสร้างสรรค์ หากมีการวิพากษ์วิจารณ์ ก็แค่เชิญเข้ามาพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ ไม่ได้ข่มขู่หรือทำร้ายร่างกายผู้เห็นต่าง

นอกจากนี้ไทยก็พร้อมที่จะเตรียมตัวทำหน้าที่ประธานกลุ่มจี77ในปีหน้า ขณะที่การหาเสียงเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จากการเดินสายพูดคุยหลายประเทศแล้ว ก็มั่นใจว่าจะได้การสนับสนุน แม้จะมีคู่แข่งอย่างประเทศคาซักสถาน นอกจากนี้จากการพบสมาคมธุรกิจของสหรัฐฯ ทุกคนดีกับตน และรับปากว่าจะไปพูดกับฝ่ายการเมืองของเขาด้วย ว่าไม่มีปัญหาอะไรกับเรา และในเวทียูเอ็น ตนได้พูดถึงแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะคำพูดหลายคำ แม้กระทั่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังพูดคำว่า อย่าให้ปลาแต่ต้องให้เบ็ดตกปลา ซึ่งเป็นพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ทั้งนี้ตนมีกำหนดการเดินทางไปสหรัฐฯอีกครั้งประมาณเดือน ก.พ.-มี.ค.59 เมื่อถามว่าผ่านเวทียูเอ็นแล้ว ทำให้หัวใจพองโตขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หัวใจเท่าเดิม หัวใจตนยิ่งใหญ่สำหรับประเทศไทยอยู่แล้ว ไม่ต้องสนใจใคร ส่วนจะเป็นการเพิ่มความมั่นใจหรือไม่นั้น ตนมั่นใจตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค แล้ว หากไม่มั่นใจคงไม่เข้ามา วันนี้ประเทศต้องเดินหน้าและสร้างความมั่นใจแก่ต่างชาติ การไปร่วมประชุมในเวทีโลกคิดเพียงว่าทำเพื่อประเทศไทย ไปพูดในสิ่งที่ทำ และยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยเอาเรื่องเสียหายของประเทศไปพูดบนเวทีโลก ซึ่งถือเป็นความแตกต่างจากที่ผ่านมา พร้อมทั้งขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่ให้กำลังใจตนยืนอยู่ในเวทีโลก เชื่อว่าทุกคนสามารถพูดและแสดงออกได้ในเชิงสร้างสรรค์

สำหรับคนที่ต่อต้านก็ปล่อยเขาไป เนื่องจากยังไม่เข้าใจความตั้งใจของเรา "การที่เราไปประจานประเทศตัวเองคงไม่เหมาะ ผมจะพูดเรื่องความเสียหายของประเทศที่ผ่านมาให้น้อยลง ฉะนั้นเวลาฟังใครพูดเสียหายต่อประเทศไทย พูดอะไรก็พูดไป แต่ผมจะแก้ไขและอธิบายว่าไม่ใช่แบบนั้น ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เวลาผมไปต่างประเทศ รู้สึกว่าเขาไม่รู้อะไรหลายเรื่อง สิ่งที่ดี ๆ ที่เราทำ หรือสิ่งที่เป็นปัญหาบ้านเมืองเราอาจไม่รู้ หรืออาจจะไม่คิดว่ายังมีอย่างนี้อยู่อีก การไปยูเอ็นครั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเขาจะเชื่อมั่นเราแค่ไหน แต่ผมก็ใช้ความจริงใจเหมือนที่มีให้พี่น้องคนไทย"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.

หนุ่มบุกยิงนักศึกษาวิทยาลัย ดับ 10 เจ็บ 20 ในโอเรกอน

เกิดเหตุมือปืนบุกยิงคนในวิทยาลัยในรัฐโอเรกอน เมื่อวันพฤหัสบดี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย และบาดเจ็บอีก 20 คน ส่วนมือปืนล่าสุดมีรายงานถูกตำรวจยิงเสียชีวิตแล้ว...

ชายชาวอเมริกันซึ่งคาดว่ามีอายุอยู่ในช่วง 20 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนบุกยิงภายในห้องเรียนของวิทยาลัยชุมชน 'อัมป์ควา' ในเมืองโรสเบิร์ก รัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันพฤหัสบดี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 20 คน

เหตุยิงกันเริ่มขึ้นในเวลาประมาณ 10:30 น. โดยเกิดขึ้นที่อาคารหลังหนึ่ง ก่อนที่มือปืนจะย้ายไปก่อเหตุที่อาคารวิทยาศาสตร์ 'สไนเดอร์ ฮอลล์' ของวิทยาลัยชุมชนอัมป์ควาในเวลาต่อมา โดยนาย เรย์ ชูฟเลอร์ หัวหน้าหน่วยดับเพลิงเขต ดักลาส เคาน์ตีเผยว่า ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บถูกพบในห้องเรียนหลายห้อง

นายชูฟเลอร์ เผยอีกว่า ผู้บาดเจ็บนับสิบคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลายแห่งในพื้นที่ใกล้เคียง แต่มี 2 คนเสียชีวิตระหว่างเดินทาง ส่วนมือปืนมีรายงานว่า เขาถูกยิงเสียชีวิตระหว่างยิงปะทะกับตำรวจในห้องเรียนห้องหนึ่ง

เจ้าหน้าที่เปิดเผยต่อซีเอ็นเอ็นด้วยว่า พวกเขาพบปืนที่เชื่อว่าเป็นของคนร้ายอย่างน้อย 4 กระบอกอยู่ในที่เกิดเหตุ ขณะที่สำนักงานควบคุมแอลกอฮอล์, ยาสูบ, ปืน และวัตถุระเบิด (เอทีเอฟ) ได้ส่งทีมสุนัขดมกลิ่นเข้าไปในที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจหาระเบิด หรืออาวุธอื่นๆ ด้านเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ก็เข้ามาร่วมสืบสวนด้วย

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการสืบสวนคดีนี้ เผยต่อซีเอ็นเอ็นว่า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบข้อความบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นการสื่อสารระหว่างคนร้ายกับคนอื่นๆ โดยการสนทนาเกิดขึ้นในเว็บไซต์ '4chan' เมื่อคืนวันพุธ ซึ่งผู้ต้องสงสัยระบุถึงแผนการของเขา และได้รับเสียงตอบรับแตกต่างกัน บ้างยุยงส่งเสริม รวมทั้งแนะนำวิธีก่อเหตุรวมทั้งอาวุธที่ใช้ บ้างก็ประณามว่าผู้ต้องสงสัยว่า น่าสมเพช

ผู้ต้องสงสัยยังโพสต์ข้อความอ้างถึง เอลิออต รอดเจอร์ มือปืนผู้ก่อเหตุกราดยิงที่โรงเรียนซานตา บาร์บารา และเขียนแถลงการณ์ประกาศเจตนารมณ์ กับถ่ายคลิปตัวเองก่อนลงมือก่อเหตุ โดยผู้ต้องสงสัยระบุว่า นี่เป็นเพียงโอกาสเดียวที่เขาจะได้เป็นข่าว เพราะเขาเป็นคนไม่สำคัญ