ข่าว
ญี่ปุ่นระดม4,000นายล่าคนร้ายข่มขืน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ว่าตำรวจญี่ปุ่นระดมกองกำลังราว4,000 นาย รถตำรวจ900 คันเฮลิคอปเตอร์อีก 2ลำ ติดตามจับกุมตัวนายยูตะซุกิโมโต วัย 20ปี ผู้ต้องหาก่อคดีข่มขืนหญิงรายหนึ่งแล้วลักทรัพย์เธอมูลค่า1,430 ดอลลาร์สหรัฐ(ราว47,000บาท)ที่ถูกจับเมื่อวันที่6 ม.ค.ซึ่งหลบหนีไประหว่างการให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่กฎหมายที่โรงพักในจังหวัดคานากาว่า

เจ้าหน้าที่ได้พยายามสกัดนายซุกิโมโตไว้แล้วแต่ไม่เป็นผลโดยเขาแก้เชือกที่มัดมือออกได้เองระหว่างที่ขอไปเข้าห้องน้ำแล้ววิ่งออกไปจากที่ทำการตำรวจอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันได้ใส่รองเท้าภายหลังการหลบหนีตำรวจพบเพียงเสื้อกีฬาแขนยาวสีขาวชุ่มไปด้วยเหงื่อที่เขาใส่เท่านั้นทั้งนี้การหลบหนีของเขาทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวเกิดความหวาดกลัวและยังทำให้ตำรวจท้องถิ่นได้รับความอับอายอีกด้วย

รวบ “สาวไทย” นอนซุกกระเป๋าแอบหวังเข้าสหรัฐ

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองพอร์ทโนกาเลส รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรและป้องกันชายแดนของสหรัฐสามารถขัดขวางความพยายามลักลอบข้ามพรมแดนจากเม็กซิโก มายังสหรัฐได้สำเร็จ หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นรถยนต์เอนกประสงค์ยี่ห้อฮอนด้าคันหนึ่ง ที่จะเดินทางเข้าสู่สหรัฐเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ปีที่แล้วในเมืองพอร์ทโนกาเลส จนกระทั่งพบน.ส.พรกมล มงคลเสริมศักดิ์ หญิงไทยวัย 48 ปี ซ่อนตัวอยู่ในกระเป๋าเดินทางอยู่ในท้ายรถดังกล่าว

ข่าวแจ้งว่า น.ส. พรกมลมาจากกรุงเทพมหานคร เธอเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ที่วางไว้อยู่ในด้านหลังของรถ โดยมีชายชาวอเมริกันวัย 56 ปีจากเมืองฟีนิกส์เป็นคนขับรถ นายวิคเตอร์ บราบเบิ้ล โฆษกสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า น.ส.พรกมลถูกตั้งข้อหาลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย หลังถูกเนรเทศออกจากสหรัฐไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ทางการสหรัฐได้ควบคุมตัวน.ส.พรกมลและชายคนดังกล่าวเอาไว้ แต่ยังไม่ทราบว่า น.ส.พรกมลมีทนายความแล้วหรือไม่ เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่า การขอวีซ่าเข้าประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย จึงทำให้มีความพยายามที่จะใช้วิธีลักลอบเข้าเมืองซึ่งง่ายกว่า


อากาศหนาวสหรัฐยังโหดต่อเนื่อง

นิวยอร์ก/ชิคาโก (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - สหรัฐยังเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้ายสาหัส ขณะที่มวลอากาศเย็นจากอาร์คติคยังแผ่ขยายไปทางฝั่งตะวันออก และตอนใต้ของประเทศ ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบเกือบทั่วประเทศ

ชาวอเมริกันได้รับคำเตือนจากทางการให้ระมัดระวังสภาพอากาศหนาวเย็น อันเนื่องจากมวลอากาศเย็นจากอาร์คติกที่ยังคงส่งอิทธิพลในแถบตอนกลางฝั่งตะวันตกหรือมิดเวสต์ นอกจากนี้ อากาศเย็นยังแผ่เข้าปกคลุมฝั่งตะวันออกและตอนใต้ของประเทศ ส่งผลให้อุณหภูมิในสหรัฐลดต่ำลงอีก สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติรายงานว่า อุณหภูมิดิ่งลงมาถึงติดลบ 11-22 องศาเซลเซียสในพื้นที่บางส่วนของรัฐมอนแทนา นอร์ทดาโคตา เซาท์ดาโกตา มินนิโซตา ไอโอวา วิสคอนซิน มิชิแกน และเนบราสกา โดยเฉพาะที่เมืองบริมสัน รัฐมินนิโซตา อุณหภูมิดิ่งลงถึงติดลบ 40 องศา ส่วนที่แคนาดาลบ 35 องศา เที่ยวบินกว่าครึ่งที่สนามบินนานาชาติโอแฮร์ในนครชิคาโกต้องยกเลิก อุณหภูมิช่วงบ่ายที่ชิคาโกติดลบ 24 องศา คาดว่าสภาพอากาศหนาวจัดที่สุดในรอบหลายปีและลมกระโชกแรงที่สหรัฐจะแผ่ปกคลุมไปไกลถึงภาคใต้ในรัฐเทกซัสและฟลอริดา

ประชาชนในหลายพื้นที่ตัดสินใจอยู่แต่ในบ้านเรือน เพื่อความอบอุ่น ขณะที่ผู้ที่ต้องออกไปทำธุระนอกบ้าน ต้องแต่งกายอย่างมิดชิดรัดกุมทั้งตัว เพราะอากาศเย็นจัดทำให้เกิดภาวะน้ำแข็งกัดได้แทบจะทันทีที่ผิวหนังโดนอากาศ หลายพื้นที่ เช่น รัฐมิสซูรีเผชิญกับหิมะตกหนัก โดยเฉพาะที่เมืองเซ็นต์หลุยส์ มีปริมาณหิมะตกทับถมสูงถึง 27.4 เซนติเมตร ขณะที่ในแถบชานเมือง หิมะทับถมสูงถึง 38 เซนติเมตร สร้างความลำบากแก่การสัญจร สภาพถนนทั่วรัฐยังคงมีหิมะปกคลุม แต่สถานการณ์ถือว่าดีขึ้นกว่าช่วงสุดสัปดาห์

สภาพอากาศหนาวจัดและหิมะตกหนัก ส่งผลกระทบต่อการสัญจรทางอากาศ เมื่อบ่ายวันจันทร์มีการยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 3,700 เที่ยวบิน ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้น้ำยาละลายหิมะ ฉีดพ่นใส่ตัวเครื่องบิน ขณะที่การนำกระเป๋าขึ้นและลงจากใต้ท้องเครื่องทำได้ยากลำบากส่วนผู้โดยสารที่ตกค้างตามสนามบินต่างๆ โดยเฉพาะที่สนามบินในรัฐอิลินอยส์ ต้องหาทางเลือกในการเดินทางไปยังจุดหมาย เช่น รถโดยสารหรือรถไฟ แต่บริการดังกล่าวก็ต้องยกเลิกเช่นกัน เพราะสภาพถนนและรางรถไฟมีน้ำแข็งจับ ตารางเดินรถล่าช้าปั่นป่วน


ม็อบสื่อพม่าฮือประท้วงศาลสั่งคุกนักข่าว 3 เดือน หลังเจาะหาข่าวคอรัปชั่น

เมื่อวันที่ 7 มกราคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้สื่อข่าวพม่าเกือบ 60 คน สวมเสื้อยืดสีขาวพิมพ์ข้อความต่อต้านการคุกคามเสรีภาพสื่อ และถือป้ายเขียนข้อความว่า"สิทธิในการรับรู้ข่าวสารคือวิถีประชาธิปไตย" เดินประท้วงไปตามท้องถนนในนครย่างกุ้งของพม่า เพื่อแสดงการประท้วงที่ศาลในรัฐกะยาตัดสินโทษจำคุกนางมะ ขิ่น ผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์อีเลฟเว่นของพม่าเป็นเวลา 3 เดือน ในข้อหาบุกรุก ใช้ถ้อยคำดูถูก และข้อหาหมิ่นประมาทในการพิจารณาคดีเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยการดำเนินคดีกับนางมะ ขิ่น มีขึ้นหลังจากนางกำลังหาข่าวเกี่ยวกับการทุจริต

นายเว พโย บรรณาธิการของอีเลฟเว่น เปิดเผยว่า นางมะ ขิ่น ถูกทนายคนหนึ่งยื่นฟ้องหลังจากเธอไปขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นการทุจริต แต่ทนายความคนดังกล่าวรำคาญกับการถูกซักถาม จึงได้ขอให้มะ ขิ่นออกไปจากบ้าน หลังจากนั้นทนายก็ยื่นฟ้องเธอ กรณีนี้จริงๆแล้วผู้พิพากษาอาจสั่งปรับเงินก็ได้ แต่นี่เป็นการจงใจที่จะตัดสินโทษจำคุกนาง ที่ไม่เพียงเป็นการคุกคามผู้สื่อข่าว แต่ยังเป็นการคุกคามเสรีภาพสื่อด้วย

กรณีข้างต้นถือเป็นผู้สื่อข่าวรายแรกในพม่าที่ถูกลงโทษจำคุก นับแต่รัฐบาลประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ยกเลิกการเซ็นเซอร์สื่อไปเกือบหมดและอนุญาตให้มีการตีพิมพ์หนังสือพิมพ์รายวันที่ดำเนินการโดยเอกชนได้เป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปีของพม่า

อดีตนางงามเวเนซุเอลาถูกปล้นยิงดับพร้อมอดีตสามี

8 ม.ค. 57 มีรายงานว่า โมนิกา สเปียร์ มูตซ์ อดีตนางงามเวเนซุเอลาปี 2004 พร้อมด้วย โธมัส เบอร์รี่ วัย 39 ปี อดีตสามีชาวอังกฤษ ได้เสียชีวิตลงแล้ว หลังจากถูกปล้นฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากรถยนต์ของทั้งคู่จอดเสียอยุ่ริมถนนสายหนึ่งในเมือง ปวยร์โต กาเบโญ ในรัฐการาโบโบ ทางภาคเหนือของเวเนซุเอลา ซึ่งหลังจากนั้นได้มีรถยกจำนวน 2 คัน เข้ามายังที่เกิดเหตุ จากนั้นคนร้ายที่อยู่ในรถยกคันดังกล่าวได้แสดงตัวว่าต้องการจะชิงทรัพย์ ทำให้ผู้ตายตัดสินใจล็อคประตูรถ จึงถูกยิงเสียชีวิต ส่วนลูกสาววัย 5 ขวบ ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว