ข่าว
โควิดป่วน'เกาหลีใต้' ศูนย์กระจายสินค้ากลายเป็นแหล่งระบาดใหญ่-ยอดติดเชื้อพุ่ง

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 สำนักข่าว Arirang ของเกาหลีใต้ เสนอข่าว "Nearly 70 COVID-19 infections related to e-commerce logistics center" ระบุว่า ศูนย์กระจายสินค้าคูปัง (Coupang) กลายเป็นแหล่งระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 อีกจุดหนึ่ง โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 69 คน ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในกรุงโซล เมืองอินชอน และจังหวัดคย็องกี

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ทางการเกาหลีใต้กำลังทดสอบกลุ่มเสี่ยงเกือบ 4 พันคน ที่เคยทำงานที่นั่นหรือมีการติดต่อกับผู้ติดเชื้อ ซึ่งมีพนักงานคอลเซ็นเตอร์รายหนึ่งผ่านการตรวจแล้วผลเป็นบวกเช่นกัน โดยมีจำนวนพนักงานคอลเซ็นเตอร์ทั้งสิ้น 1,600 คน สำหรับกรณีศูนย์กระจายสินค้าคูปัง มีรายงานพบผู้ติดเชื้อครั้งแรกเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อีกด้านหนึ่ง เมืองบูชอน อาจต้องยกระดับมาตรการระยะห่างทางสังคมให้เข้มข้นขึ้น

‘หมอธีระ’ฝากรัฐ-ศบค.‘คิดหนักๆ’ 4 ข้อ เตือนยังไร้วัคซีน เปิดรับนักท่องเที่ยว‘หายนะ’มาเยือน

28 พฤษภาคม 2563 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat” แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีเนื้อหาดังนี้

“หากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มากขึ้นเป็นสองหลัก”

แม้จะเป็นคนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศก็ตาม

จะมีความหมายที่รัฐ/ศบค.ควรคิด พิจารณาให้หนักๆ ดังนี้

หนึ่ง เรากำลังรับคนกลับมาอย่างต่อเนื่อง และอัตราติดเชื้อดูจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะประเทศอื่นส่วนใหญ่ยังมีการติดเชื้อเยอะกว่าเรามาก นี่คือศึกที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะจบ

สอง ปลดล็อคระยะที่ 2 ยังไม่เห็นเคสใหม่ชัดๆ แต่ไม่ควรเย็นใจ เพราะสิ่งที่เราเห็น คือ การ์ดเริ่มอ่อนชัดเจนกว่าระยะแรก และเป็นโจทย์สำคัญที่ควรแก้ไขก่อนก้าวไปเสี่ยงเพิ่มขึ้น เนื่องจากกิจการที่จะปลดถัดจากนี้จะเพิ่มการติดต่อระหว่างประชาชนมากขึ้นมาก ยังไม่รวมการเดินทางระหว่างจังหวัดอีกมหาศาล

สาม แผนไทยเที่ยวไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่บางหน่วยงานของบางพรรคที่โฆษณาน่ะ ควรคิดจะนำมาใช้ก็ต่อเมื่อเคสใหม่เป็นหลักหน่วยต่ำๆ อย่างน้อย 30 วัน และ “ไม่มีศึกที่ต้องรับมือ”

สี่ เรื่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ว่าจะชาติโน้นชาตินี้ ชาติหน้าหรือชาติไหน โปรดรู้ไว้ว่า หายนะจะมาเยือนนะครับ คิดไปยาวๆ อย่าคิดสั้นบ้าจี้ตามข้อเสนอที่มุ่งเอาเงินเข้ากระเป๋าระยะสั้น แต่จะล่มจมเพราะนำเชื้อเข้าประเทศ ขณะนี้ไม่มีที่ใดที่จะปลอดภัยครับ ตราบใดที่ยังไม่มียามาตรฐานที่ใช้รักษา และไม่มีวัคซีนป้องกัน


'ไอ้บอด'เจ้าตูบแสนรู้ขวัญใจชาวตลาด แกล้งทำขากระเผลกตอนเดินข้ามถนน

"ไอ้บอดยอดแสบ" ที่มีการแชร์ภาพอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียล ขณะเดินข้ามถนนมีรถยนต์ขวักไขว่ “แกล้งทำเป็นหมาขาพิการ” ด้านแม่ค้าเผย เจ้าบอด มีคนมาปล่อยทิ้งไว้ในตลาด เป็นหมาฉลาดแม่ค้าซื้อขนมให้กินและกินน้ำแข็งทุกวัน

27 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงาน พบความฮาที่มีการถ่ายภาพหมาแสนรู้ ความน่ารักน่าชังของหมาเพศผู้ สีขาวน้ำตาล อายุประมาณ 5-6 ปี ตาข้างซ้ายบอด โดยที่มีภาพแชร์กันอย่างแพร่หลายที่ “แกล้งทำเป็นหมาขาพิการ” เมื่อเดินผ่านถนนไปแล้วก็เดินเป็นหมาขาปกติทั่วไป ขณะเดินข้ามถนนบริเวณสี่แยกอย่างทองที่มีรถยนต์ขวักไขว่ ชาวบ้านที่ขับขี่รถยนต์ผ่านได้ถ่ายคลิปไว้ พร้อมส่งขึ้นสังคมออนไลน์ มีการแชร์ภาพอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียล สร้างความสุขสนุกสนานแก่ผู้ที่เห็นภาพ ความน่ารักน่าชังของเจ้าบอด

จาการสอบถาม นางนารี เปรมประคิน อายุ 48 ปี หรือเจ้นา แม่ค้าผักในตลาดเกษตรสุวพันธุ์ เล่าให้ฟังว่า เจ้าบอด เป็นหมาเพศผู้ อายุประมาณ 5-6ปี ตาข้างซ้ายบอด สีขาวน้ำตาล มีชาวบ้านได้นำมาปล่อยไว้ในตลาดนานหลายปีแล้ว โดยมีเจ้แหว๋ว เป็นคนให้ข้าวปลาอาหารด้วยความสงสาร และต่อมาเจ้าบอด กลายเป็นที่รักของแม่ค้าทุกคน ที่อยู่ในบริเวณตลาด จะซื้อขนมปังให้กินเป็นประจำ เมื่อรถขายขนมหวานผ่านมาบริเวณดังกล่าว เจ้าบอดก็จะวิ่งมารอโดยมีเจ้นาสั่งขนมให้กินเป็นประจำ นอกจากนั้นเจ้าบอดยังชอบกินน้ำเย็นๆโดยที่แม่ค้าจะนำน้ำแข็งใส่กะละมังให้กินเป็นประจำทุกวัน

โดยที่ผ่านมานั้นเจ้าบอด ได้ไปกัดคนที่ขับขี่สามล้อมาส่งของได้รับบาดเจ็บ ทางแม่ค้าและเจ้แหว๋ว ได้นำเจ้าบอดไปไว้ที่จังหวัดสิงห์บุรี แต่ด้วยความฉลาดและอยากอยู่ที่ตลาด เจ้าบอดจึงได้หนีจากจังหวัดสิงห์บุรีกลับมาอยู่ที่บริเวณตลาดเกษตรสุวพันธุ์ดังเดิม และการกลับมาในครั้งนี้มีความฉลาดมากขึ้นเลิกก้าวร้าว โดยชอบนั่งสามล้อแดงติดรถพาไปส่งของเป็นประจำ และจะวิ่งไปมาบริเวณตลาด เวลานอนก็จะนอนอยู่ภายในร้านเจ้นา และเมื่อเจ้แหว๋วเข้ามาขายผักในตอนเย็นเจ้าบอดก็จะมาคลอเคลียไม่ห่างเป็นภาพที่ชินตา ความน่ารักน่าชังของเจ้าบอด ที่แม่ค้าภายในตลาดมีความรักความผูกพันต่อเจ้าบอดต่อไป


'รพ.ผาขาว'วิกฤต! เลยแล้งหนัก คาดอีก 1-2 วัน น้ำแห้งหมดทั้งอำเภอ 100%

จากกรณีเมื่อวานนี้ ( 26 พ.ค.63 ) มีรายงานสถานการณ์วิกฤตภัยแล้ง อำเภอผาขาว จังหวัดเลย ซึ่งที่เป็นพื้นที่สูง มีปริมาณฝนตกในพื้นที่น้อยมากประกอบกับแหล่งน้ำที่มีน้ำน้อย และขณะนี้ประสบปัญหาน้ำในลำน้ำธรรมชาติขาดน้ำไม่มีน้ำเหลือเลย ระบบประปาอำเภอกำลังแย่หนัก โรงพยาบาลก็ต้องใช้น้ำร่วมเริ่มวิกฤติแล้วน้ำแทบไม่ไหล

ล่าสุด วันนี้ (27 พ.ค.) ทีมงาน ปภ.เลยร่วมกับทีม ปภ. ผาขาว,ปภ.ท่าช้างคล้อง และปภ.โนนป่าซาง ร่วมกันนำรถน้ำวิ่งเข้าไปช่วยบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชน หมู่ 8 ในช่วงเช้า จำนวน 72,000 ลิตร ส่วนในช่วงบ่าย 102,000 ลิตร รวมเป็น 174,000 ลิตร ในจำนวนนี้แบ่งใส่ถัง ร.พ.ผาขาว จำนวน 12,000 ลิตร

ว่าที่ร้อยตรี นครชัย แสงมณี นายอำเภอผาขาว นายทัศนัย สุสานนท์ หัวหน้ากลุ่มงานยุทธ ศาสตร์และการจัดการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัง หวัดเลย นายชัยยันต์ สุรสรณ์ นายช่างชลประ ทานอาวุโส โครงการชล ประทานเลย และคณะเดินทางไปตรวจสอบแหล่งน้ำและสำรวจที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำของโครงการชลประทานเลย บริเวณฝายโครงการชลประทานบ้านหัวฝาย หมู่ที่ 5 ต.ผาขาว อ.ผาขาว เพื่อสูบน้ำจากลำห้วยพวยไปเป็นน้ำดิบในการผลิตน้ำประปาของเทศบาลตำบลโนนปอแดง อ.ผาขาว

ก่อนหน้านี้เทศบาลตำบลโนนปอแดง ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ทำกาลัก น้ำเพื่อสูบน้ำผ่านสันฝายแต่ปริมาณน้ำดิบอาจไม่เพียงพอ จึงขอรับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากโครงการชลประทานเลยเพิ่มเติม

ด้านนายอุทัย หอมอ่อน นายกเทศมนตรีตำบลโนนปอแดง ได้แจ้งว่า ขณะนี้น้ำประปาหมู่ที่ 8 บ้านพรสวรรค์ และโรงพยาบาลผาขาว มีน้ำใช้ไม่เพียงพอนั้น เกิดจากสาเหตุหลักและแก้ไขดังนี้ บ้านพรสวรรค์ มีจำนวนครัวเรือน 315 ครัวเรือน และโรงพยาบาลผาขาว 1 แห่ง โดยเฉลี่ยแล้ว ประชาชนมีความต้องการใช้น้ำโดยประมาณ 300,000 ลิตร และโรงพยาบาลต้องการใช้น้ำ 50,000 ลิตร ต่อวัน รวมแล้ว ความต้องการใช้น้ำของบ้านพรสวรรค์โดยประมาณ 350,000 ลิตรต่อวัน

แต่ความต้องการของประชากรในพื้นที่ต้องการประมาณ 1,050,000 ต่อวัน ทำให้ต้องระดมรถน้ำจากองค์การบริหารส่วนตำบลต่างพื้นที่มาช่วยเพิ่มรถอีก 3 คัน รวมเป็น 5 คัน วิ่ง 3 เที่ยวเพื่อเติมน้ำดิบ และต้องทำงานกันตั้งแต่เช้า โดยทางเทศบาลตำบลโนนปอแดงต้องไปขอใช้น้ำในพื้นที่ชาวบ้านก่อนที่น้ำจะแห้งขวดไม่มีน้ำเติมระบบภายใน 1-2 วันนี้พร้อมกับกำหนดเวลาในการใช้น้ำใหม่เป็นเวลาดังนี้ เวลา 05.00-06.00 น. เวลา 12.00-13.00 น. เวลา 17.00 น.เพื่อทยอยน้ำเข้าระบบและปล่อยออกแต่ก็ยังไม่พออยู่ดี

"จากวันนี้ไปทางเทศบาลตำบลโนนปอแดง ซึ่งประสบปัญหาภัยแล้ง ทำให้แหล่งน้ำที่ใช้สำหรับผลิตน้ำประปาแห้งขอดไม่มีน้ำให้บริการประชาชนจำนวน 17 หมู่บ้าน คงจะต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างได้ระดมเข้ามาช่วย ก่อนที่จะไม่มีน้ำใช้ภายอีก 2 วัน"นายอุทัย กล่าว


เพิ่มอีก 4 คน! ผลติดเชื้อโควิดแข้งพรีเมียร์ลีกรีสตาร์ท

พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ยืนยันว่า ในวันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม และวันอังคารที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้เล่นและทีมงานของสโมสร ตรวจโควิด-19 รวม 1,008 คน ปรากฎว่า ติดเชื้อ 4 คน จาก 3 สโมสร

ก่อนหน้านี้ ผู้เล่นพรีเมียร์ลีกและทีมงาน ได้ทำการทดสอบโควิด-19 สัปดาห์ละสองครั้ง และจากการทดสอบรวมทั้งสิ้น 1,744 ครั้งทั่วทั้งลีก ปรากฏว่า มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 8 คน ซึ่งถือว่าเป็นที่น่าพอใจมากๆ เนื่องจากครึ่งนึงคือนักเตะ ที่เหลือคือเจ้าหน้าที่ของทีมฝ่ายต่างๆ

เท่ากับตอนนี้ติดเชื้อรวมทั้งสิ้น 12 คนด้วยกัน จากการเทสต์รวมไปแล้วเกือบ 3 พันครั้ง

ขณะที่ก่อนหน้านี้ สโมสรในพรีเมียร์ลีก ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้สามารถฝึกซ้อมแบบกลุ่มและสามารถเข้าปะทะกันได้แล้ว ถือเป็นระยะที่สองของโปรเจคท์การคืนสนาม หรือ "Project Restart" ของศึกพรีเมียร์ลีก ตามข้อตกลงการประชุมเมื่อวันพุธที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ข้อสรุปจากการประชุมหารือกัน ระหว่างสโมสรผู้เล่นผู้จัดการสมาคมฟุตบอลอาชีพ (PFA) สมาคมผู้จัดการสมาคม (LMA) และรัฐบาล ได้ข้อสรุปว่า การฝึกเป็นกลุ่มให้เริ่มต้นได้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้เป็นต้นไป แต่ถึงแม้จะอนุญาตให้ปะทะกันได้แล้ว แต่ถ้าหากไม่จำเป็นก็ยังควรที่จะเว้นระยะห่างไว้เหมือนเดิม ยังคงดำเนินต่อไปตามแผนที่จะดำเนินการต่อในฤดูกาลเมื่อ "เงื่อนไขอนุญาต" เพิ่มจากรัฐบาลอังกฤษ

สำหรับแผนการสำหรับการเริ่มต้นโครงการกลับมาฝึกซ้อมนั้น เริ่มต้นจากระยะแรก การฝึกแบบไม่สัมผัสตัวกัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นการลงซ้อมร่วมกันนับตั้งแต่พรีเมียร์ลีกถูกระงับในวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา และกำลังเข้าสู่ระยะที่ 2 จากนั้นในแผนการดำเนินงานระยะที่ 3 คือขั้นตอนการฝึกอบรมตามปกติและการลงสนามทำการแข่งขัน

ญี่ปุ่นเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจล็อตใหญ่อีก

โตเกียว (รอยเตอร์/เอ็นเอชเค) – รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่มูลค่า 117 ล้านล้านเยน (ราว 34.67 ล้านล้านบาท) เพื่อยับยั้งไม่ให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาดทำให้เศรษฐกิจใหญ่อันดับสามของโลกแห่งนี้เข้าสู่ภาวะถดถอย

โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่นี้จะใช้เงินสนับสนุนบางส่วนจากงบประมาณพิเศษฉบับที่สอง เพิ่มเติมจากที่ได้ออกมาตรการมูลค่าเท่ากันไปแล้วเมื่อเดือนก่อน และจะทำให้ญี่ปุ่นออกมาตรการสู้โควิด-19 รวมแล้ว 234 ล้านล้านเยน (ราว 69.34 ล้านล้านบาท) คิดเป็นร้อยละ 40 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีเกือบใกล้เคียงโครงการความช่วยเหลือเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของสหรัฐมูลค่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 73.35 ล้านล้านบาท) นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นกล่าวในการประชุมสมาชิกสภาพรรครัฐบาลวันนี้ว่า จะต้องใช้ทุกวิถีทางคุ้มครองธุรกิจและการจ้างงานที่ต้องเผชิญกับหนทางยากลำบากข้างหน้า และจะต้องดำเนินทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการระบาดระลอกใหม่

ร่างงบประมาณดังกล่าวระบุว่า จะมีการใช้จ่ายโดยตรงมูลค่า 33 ล้านล้านเยน (ราว 9.8 ล้านล้านบาท) รัฐบาลจะระดมเงินด้วยการออกพันธบัตรเพิ่มเติมอีก 31.9 ล้านล้านเยน (ราว 9.45 ล้านล้านบาท) ภายใต้งบประมาณพิเศษฉบับที่สองของปีงบประมาณปัจจุบันที่จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2564 ซึ่งจะทำให้การออกพันธบัตรใหม่สำหรับปีงบประมาณปัจจุบันทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 90 ล้านล้านเยน (ราว 26.7 ล้านล้านบาท) และหากรวมกับพันธบัตรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปีงบประมาณนี้จะมีมูลค่าทั้งหมดเกิน 200 ล้านล้านเยน (ราว 59.3 ล้านล้านบาท) กดดันฐานะการเงินญี่ปุ่นที่ตึงตัวมากอยู่แล้ว นักวิเคราะห์คาดว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะทำให้ต้นทุนการออกพันธบัตรต่ำลงด้วยการกว้านซื้อครั้งใหญ่ แต่การออกพันธบัตรเพิ่มขึ้นเกินความคาดหมายอาจทำให้ตลาดเงินตลาดทุนผันผวนได้ ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของญี่ปุ่นอยู่ที่ติดลบร้อยละ 0.1 ส่วนอัตราดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปี อยู่ที่ร้อยละ 0