ข่าว
"ยิ่งลักษณ์" ถึงรัสเซียแล้ว-ร่วมประชุมเศรษฐกิจเอเปค

วันที่ 7 ก.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงนครวลาดิวอสต็อก สหพันธรัฐรัสเซียแล้ว เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 20 ครั้งที่ 20 ระหว่างวันที่ 7- 9 ก.ย.

ภารกิจของนายกรัฐมนตรีนั้น จะเดินทางไปถึงท่าอากาศยานนานาชาติเนียฟวิชี ในเวลา 20.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง และเดินทางต่อไปยังที่พักในมหาวิทยาลัย Far Eastern Federal บนเกาะ Russky ซึ่งรัฐบาลรัสเซียจัดให้เป็นที่พักของผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค

จากนั้นในวันที่ 8 ก.ย. เวลา 09.45 น. นายกรัฐมนตรี มีกำหนดพบหารือกับนายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทยผู้แทนไทยใน APEC Business Advisory Council และเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ในเวลา 15.00 – 16.45 น ก่อนเข้าร่วมหารือระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและผู้นำ APEC Business Advisory Council ในเวลา 17.00-18.00 น.

สำหรับการประชุมเอเปคในครั้งนี้ รัสเซียในฐานะเจ้าภาพกำหนดหัวข้อหลักของการประชุมปีนี้ คือ "รวมตัวเพื่อเติบโต สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อความมั่งคั่ง ( Integrate to Grow, Innovate to Prosper)" ใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) การเปิดเสรีการค้าและการลงทุน และการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค 2) การเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร 3) การสร้างห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อถือได้ และ 4) ความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตอย่างมีนวัตกรรม

สำหรับเป้าหมายของการประชุมครั้งนี้ คือ การรับรองปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค "the 20th APEC Economic Leader’s Meeting: Vladivostok, Russia September 8-9, 2012 Integrate to Grow, Innovate to Prosper"และนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (Retreat 1) ภายใต้หัวข้อเรื่อง "Establishing Reliable Supply Chains" เกี่ยวกับความสำคัญของการเชื่อมโยงการรวมกลุ่มทางภูมิภาค (connectivity)

การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (Retreat 2) ภายใต้หัวข้อเรื่อง "Ensuring Food Security and Encouraging Innovative Growth"เกี่ยวกับการให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาค ที่จะต้องส่งเสริมการค้าที่เปิดกว้างและเป็นธรรม และการสร้างความโปร่งใสในตลาด

" ทั้งสองการประชุมจะได้เปิดโอกาสให้ผู้นำจากเขตเศรษฐกิจต่างๆ ได้แสดงข้อคิดเห็นและวิสัยทัศน์ต่อประเด็นดังกล่าว ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะได้ใช้โอกาสนี้เสนอความคิดเห็นและแสดงจุดยืนและวิสัยทัศน์ของไทย "

รวมถึง การประชุม Working Lunch ภายใต้หัวข้อเรื่อง "Economic Situation at global level and Asia-Pacific Region" เพื่อเสริมสร้างบทบาทของเขตเศรษฐกิจเอเปคในการกระตุ้นความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับโลก ทั้งนี้ การพบหารือกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค (ABAC) ซึ่งมี ดร. ธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย ผู้แทนไทยใน ABAC เข้าร่วมการประชุมด้วย


"สุกำพล"ย่องพบ"ทักษิณ ต่ออายุเก้าอี้รมว.กลาโหม

เมื่อวันที่ 7 ก.ย. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.ร.อ.ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ม.ล.เกษมสันต์ ณ อยุธยา ประธานคณะที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ผอ.สำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปประเทศอังกฤษ โดยออกเดินทางจากประเทศไทย เมื่อเวลา 12.00 น. เพื่อเข้าพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือถึงกรณีพล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ยื่นฟ้องศาลปกครองเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม พร้อมกับขอคำยืนยันในการดำรงตำแหน่งรมว.กลาโหม ต่อไปหรือไม่ สำหรับ พล.อ.นิพัทธ์ก็จะเข้าไปขอบคุณ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ตนเองได้รับตำแหน่งรองปลัดกระทรวงกลาโหม

พล.อ.อ.สุกำพล ได้สั่งการให้ พล.อ.ชัยรัตน์ ชีวะพันธุ์ เจ้ากรมพระธรรมนูญ เตรียมเอกสารข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับทางกฎหมายเพื่อต่อสู้กับเรื่องดังกล่าว เนื่องจากคำสั่ง 383/55 เป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาเพื่อลงโทษทางวินัยทางด้านทหาร ซึ่งอำนาจการพิจารณาทางศาลปกครองไม่สามารถที่จะดำเนินการพิจารณาตัดสินคุ้มครองให้ พล.อ.เสถียร กลับมาทำงานในตำแหน่งเดิม เนื่องจากรมว.กลาโหมมีอำนาจเต็มในการลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชา

โดยตามหลักกฎหมายแล้ว ศาลปกครองไม่มีอำนาจในการตัดสินเกี่ยวกับเรื่องวินัยทหารตามที่ได้มีการบัญญัติไว้ในตามมาตรา 9 วรรค 2 แห่งพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ได้บัญญัติข้อยกเว้นคดีที่ไม่อยู่ในอำนาจของศาลปกครอง 3 ประเภทคือ 1.การดำเนินการเกี่ยวกับวินัยทหาร ไม่ว่าจะเป็นการลงทัณฑ์แก่ผู้กระทำผิดต่อวินัยทหารหรือเป็นการดำเนินการทางวินัยอย่างอื่น 2.การดำเนินการของคณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 ซึ่งมิใช่เป็นการพิจารณาพิพากษาคดี แต่เป็นการบริหารงานบุคคลของผู้พิพากษาศาลยุติธรรม เช่น การแต่งตั้งโยกย้าย การเลื่อนตำแหน่งการลงโทษทางวินัย(ค) 3.คดีที่อยู่ในอำนาจของศาลชำนัญพิเศษต่างๆ ที่อยู่ในระบบศาลยุติธรรม ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นก่อนที่จะมีการจัดตั้งศาลปกครอง อย่างไรก็ตามในหนังสือคำสั่งย้ายปลัดกลาโหมของรมว.กลาโหมนั้น ไม่ได้ระบุว่า พล.อ.เสถียร กระทำผิดด้านวินัยแต่อย่างใด แต่ให้เหตุผลเพียงแค่ว่า เพื่อให้การบริหารราชการในกระทรวงกลาโหมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 มาตรา 9 และมาตรา 24 แห่งพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม(พ.ร.บ.กลาโหม) พ.ศ.2551

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะเดียวกัน พล.อ.เสถียร ได้ทำเอกสารถึงศาลปกครองกรณีที่ พล.อ.อ.สุกำพล ได้เรียกไปสั่งการให้ตั้ง พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วยผบ.ทบ.เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2555 โดยเอกสารดังกล่าวมีรายละเอียดถึง 8 หน้า ว่าในที่ประชุมมีการพูดอะไรอย่างไรบ้างเพื่อให้ศาลพิจารณา นอกจากนี้ยังได้ทำหนังสือถึงกรมพระธรรมนูญว่า หากรมว.กลาโหม มีการเรียกประชุมคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล ก็ขอให้แจ้งให้ตนได้รับทราบด้วย เพราะถือตนว่ายังคงดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมอยู่ ทั้งนี้เมื่อไม่มีหนังสือยืนยันกลับมาให้ตนเข้าร่วมประชุมดังกล่าวในแง่ของกฎหมายถือว่า พล.อ.อ.สุกำพล ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่


เฟซบุ๊กต้านนายกฯ ไทย โพสต์มั่วรูป "ปู" แลกลิ้น

วันที่ 7 ก.ย. เฟซบุ๊กกลุ่มต่อต้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี DislikeYingluckForConcentration Citizen ที่มีสมาชิกเกือบ 3 หมื่นคน โพสต์ภาพผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังจูบและมีสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ชาย พร้อมกับขึ้นข้อความกำกับเป็นคำผวนว่า "อั๊ยยะ "ปั๊ก ยิ่งรู" รึ !!" (อัํยยะ ปู ยิ่งลักษณ์ รึ) ส่งผลให้มีสมาชิกเข้าไปเขียนคอนเมนต์จำนวนมาก ขณะที่สมาชิกบางคนขอร้องให้ทางแอดมินฯ ลบรูปภาพดังกล่าวออก เพราะหญิงในภาพไม่ได้มีหน้าตาคล้ายน.ส.ยิ่งลักษณ์แม้แต่น้อย

ล่าสุด ค่ำวันเดียวกัน พบว่าทางแอดมินฯ ได้ลบภาพดังกล่าวแล้ว และมีประชาชนเข้าไปเขียนคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กนี้จำนวนมาก

'โอบามา' โอ่สร้างงาน ถล่มคู่แข่งไร้ประสบการณ์

โอบามาขึ้นเวทีปิดประชุมใหญ่พรรคเดโมแครต ยอมรับการเสนอชื่อชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯอีกสมัย ให้คำมั่นชาวอเมริกันมีวันดีๆรออยู่ แต่ยอมรับหนทางสู่เป้าหมายยากลำบาก วิจารณ์คู่แข่งขาดประสบการณ์ เมินคนชั้นกลาง....

ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 7 ก.ย. ว่า การประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตที่เมืองชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ทแคโรไลนาของสหรัฐฯ ปิดฉากลงเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ตามเวลาท้องถิ่น โดยประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ขึ้นเวทีกล่าวยอมรับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเพื่อป้องกันตำแหน่งประธานาธิบดีกับมิตต์ รอมนีย์ ผู้แทนพรรครีพับลิกัน ใน 6 พ.ย. และมีนางมิเชลล์ โอบามา สตรีหมายเลข 1 และลูกสาว 2 คนของโอบามาขึ้นโชว์ตัวบนเวทีด้วย

โอบามายังเรียกร้องให้ชาวอเมริกันอดทนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แนวทางของเขาคงไม่ง่ายและต้องใช้เวลา แต่จะนำไปสู่สถานะที่ดีกว่านั่นคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และพวกเรากำลังเดินไปด้วยกัน กล่าวโจมตีรอมนีย์ อดีตผู้บริหารบริษัทด้านการลงทุน ไร้ประสบการณ์ ไม่ดูแลกลุ่มคนชั้นกลาง มุ่งช่วยเฉพาะกลุ่มคนรวย คนชนชั้นสูงด้วยการให้สิทธิ์ด้านภาษี เลิกคุมระบบธนาคารและให้ช่องบริษัทพลังงานขุดเจาะน้ำมันมากขึ้น นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าสร้างงานใหม่ 1 ล้านตำแหน่งภายในปี 2559 และเพิ่มงานครูสอนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ 100,000 อัตรา รวมทั้งผลักดันมาตรการเชิงรุกและจริงจังเพื่อลดการพึ่งพา น้ำมันต่างชาติ

ส่วนคนอื่นๆ ที่ขึ้นเวทีวันสุดท้ายมีรวมทั้งนักแสดงสาว อีวา ลองโกเรีย และรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเป็นคู่หูป้องกันเก้าอี้รองประธานาธิบดีอีกครั้ง โดยไบเดนระบุว่าพวกเรากำลังทำภารกิจขับเคลื่อนประเทศนี้ไปข้างหน้าจากความวิตกสงสัยและความตกต่ำทางเศรษฐกิจสู่ความหวังและความรุ่งเรือง

อย่างไรก็ดี โพลสำรวจช่วงปัจจุบัน โอบามาและรอมนีย์ยังมีคะแนนนิยมสูสีกันมาก รอมนีย์ถูกมองเป็นผู้สมัครที่น่าจะเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ดี ส่วนโอบามาถูกมองว่าเป็นผู้นำติดดินและเข้าใจอเมริกันชนคนทั่วไปดีกว่า

ด้านความเคลื่อนไหวของรอมนีย์ คาดว่าจะเริ่มตระเวนหาเสียงอย่างเต็มที่ภายในไม่กี่วันนี้รวมทั้งกำลังเตรียมตัวซักซ้อมก่อนขึ้นเวทีดีเบต ประชันวิสัยทัศน์กับโอบามาในวันที่ 3 ต.ค.นี้ ซึ่งเป็นการดีเบตครั้งแรกใน 3 ครั้ง เพื่อให้ชาวอเมริกันตัดสินใจว่าใครสมควรได้เป็นผู้นำสหรัฐฯ ก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 6 พ.ย.