ข่าว
สีสันสีกากี 'ศรีวราห์' คัมแบค

"พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล" ชื่อนี้กลับมาบนหน้าสื่ออีกครั้ง หลังเงียบหายไประยะหนึ่งหลังจากเกษียณอายุราชการไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา

เมื่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 มีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ศรีวราห์ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

ข่าวบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการให้พล.ต.อ.ศรีวราห์ มาช่วยงานในเรื่องที่มีความถนัด โดยเฉพาะการป้องกันปราบปรามผู้มีอิทธิพล ปราบปรามการค้ามนุษย์ และการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆที่มีการเคลื่อนไหวชุมนุมประท้วง

ในวันเดียวกัน ( 26 พ.ย.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 672/2562 ให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เป็นที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยให้มีหน้าที่

ให้ข้อมูลและให้คำปรึกษาแก่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเกี่ยวกับงานด้านกฎหมายในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งการประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

และยังมีอำนาจให้คำปรึกษาในด้านอื่นๆ ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะได้มอบหมายเพิ่มเติมตามที่เห็นสมควร

กลับมาคราวนี้ ถือได้ว่า พล.ต.อ. ศรีวราห์ ใหญ่โตเอาการทีเดียว เพราะควบ 2 ตำแหน่งทั้งที่ปรึกษานายกฯและที่ปรึกษา ผบ.ตร. และดูจากสโคปงานที่รับผิดชอบทั้งในฐานะที่ปรึกษานายกฯและที่ปรึกษา ผบ.ตร. ก็เป็นเรื่องสำคัญและกว้างขวาง

เมื่อวาน( 29 พ.ย. ) พล.ต.อ. ศรีวราห์ ได้เข้ารายงานตัวที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมไปกับดูห้องทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ยังไม่พูดถึงภารกิจและงานที่ได้รับมอบหมาย

" พลิกปูม" พล.ต.อ.ศรีวราห์ เมื่อครั้งยังรับราชการเป็นตำรวจ มีข่าวปรากฏเกี่ยวกับ"นายตำรวจใหญ่"ผู้นี้อยู่เสมอแทบทุกวัน เป็นข่าวมากกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ด้วยซ้ำ และเคยเป็นตัวเต็งว่าจะได้นั่งเป็น ผบ.ตร. ต่อจาก พล.ต.อ. จักรทิพย์

กล่าวได้ว่า เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ที่มีบทบาทโดดเด่นมากที่สุดคนหนึ่ง ในช่วงที่ คสช. ยึดครองประเทศ เป็นนายตำรวจสาย พล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ รับบทหนักกำกับดูแลงานด้านความมั่นคงและด้านกิจการพิเศษ เคยกำกับดูแลหน้างานปราบปรามผู้มีอิทธิพล ปราบปรามการค้ามนุษย์ คดีการตายของเสือดำ ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี รวมถึงการปราบปรามอาชญากรรมเงินกู้นอกระบบเอารัดเอาเปรียบประชาชน รวมทั้งคดีต่างๆที่กระทบเกี่ยวกับนักท่องเที่ยว

เป็นมือกฎหมาย ตั้งรับกับม็อบเคลื่อนไหวทางการเมือง ต่อต้านรัฐบาล คสช. เมื่อการชุมนุมของกลุ่มทางการเมืองตั้งเค้า ความเคลื่อนไหวของแนวร่วมต้านรัฐบาลก่อตัว จะเห็น พล.ต.อ.ศรีวราห์ ออกนำทัพขึงกฎหมายรับมือทุกครั้งไป

เป็นนายตำรวจที่ทำงานสไตล์ลุย ลงพื้นที่ด้วยตัวเอง จึงสร้าง"สีสัน" เสมอเมื่อเขาได้รับผิดชอบให้ทำคดีสำคัญ มีทั้งได้รับเสียงปรบมือ และเสียงก่นด่า วิจารณ์ มีทั้งได้รับก้อนอิฐ และดอกไม้

แต่เพราะ" บิ๊กปู" เป็นคนจริงจังในการทำงาน และไม่หวั่นต่อคำครหา หรือสิ่งใดๆ ชื่อเขาจึงเป็นที่เกรงขามของคนทั่วไป

"ทำให้สิ้นกระแสความ และว่ากันไปตามกบิลบ้านกบิลเมือง” เป็นสิ่งที่เขายึดถือในการทำหน้าที่เป็นตำรวจ

การกลับมานั่งในตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯและที่ปรึกษา ผบ.ตร. ในครั้งนี้ คงมีอะไรให้ดูชมอีกแน่ เรื่องที่จะนั่งเฉยๆในห้องแอร์คอยให้คำปรึกษาอย่างเดียว คงไม่ใช่ "ศรีวราห์" แน่นอน

หล่ำชื่นมื่นพบบิ๊กตู่ แต่ที่ฮ่องกง ผู้ประท้วงนัดชุมนุมใหญ่ระลอกใหม่

หล่ำชื่นมื่นพบบิ๊กตู่ – เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ขณะที่นางแคร์รี หล่ำ หัวหน้าคณะบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เข้าพบปะพูดคุยกับรัฐบาลไทย ทั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ที่ฮ่องกง ในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ

ฝั่งฮ่องกง เอเอฟพี รายงานว่า ผู้ประท้วงฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยประกาศชุมนุมใหญ่อีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ต่อไปถึงสัปดาห์หน้า เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านอิทธิพลของทางการจีน หลังจากเมื่อวันพฤหัสฯ ผู้ประท้วงเพิ่งชุมนุมฉลองที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ลงนามบทบัญญัติสนับสนุนประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนฮ่องกง

การชุมนุมครั้งใหม่มีขึ้นหลังจากฝ่ายประชาธิปไตยกวาดชัยในการเลือกตั้งท้องถิ่น วันที่ 24 พ.ย. แต่รัฐบาลของนางแคร์รี หล่ำ กลับไม่ตอบสนองข้อเรียกร้องที่ดำเนินมาเกือบ 6 เดือน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจยุติภารกิจปิดล้อมผู้ชุมนุมบริเวณมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค นานเกิน 10 วัน ทำให้เหตุการณ์นิ่งสงบมาตลอดสัปดาห์

ชาวฮ่องกงต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลฮ่องกงและจีน รวมทั้งเรียกร้องให้มีการนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้ง ผู้เขียนรายหนึ่งเขียนว่า “หากรัฐบาลคอมมิวนิสต์ฮ่องกงเพิกเฉยต่อเสียงเรียกร้องของประชาชน พวกเราจะโผล่ชุมนุมทุกหย่อมหญ้าติดต่อกัน 5 หรือ 6 วัน พวกเราต้องขีดเส้นตายให้รัฐบาล” ซึ่งความคิดเห็นดังกล่าวมีผู้มากดไลก์จำนวนมากในเว็บบอร์ดแอลไอเอชเคจี

สำหรับการพบปะระหว่างนางหล่ำกับพล.อ.ประยุทธ์ ฝ่ายไทยกล่าวว่า รัฐบาลไทยติดตามสถานการณ์การชุมนุมประท้วงในฮ่องกงอย่างใกล้ชิด และขอให้กำลังใจกับทุกฝ่ายให้แก้ไขสถานการณ์ได้อย่างสันติวิธี ทั้งนี้ เชื่อมั่นในภาวะผู้นำของผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกงซึ่งจะแก้ไขปัญหาโดยยึดมั่นถึงประโยชน์และอนาคตของชาวฮ่องกง

ส่วนนางหล่ำกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้โอกาสในการเข้าเยี่ยมคารวะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากมิตรแท้ และเชื่อมั่นว่าสถานการณ์ในฮ่องกงจะคลี่คลายไปในทางที่ดีในเร็ววันนี้

ทั้งสองฝ่ายชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ฮ่องกงที่มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมในหลายมิติ รวมถึงผลการประชุมระดับสูงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างไทย-เขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน ครั้งที่ 1 วันนี้ ประสบความสำเร็จด้วยดี และขอบคุณที่รัฐมนตรีการค้าและพัฒนาเศรษฐกิจฮ่องกง ที่ได้นำคณะนักธุรกิจฮ่องกงกว่า 50 คน มาร่วมงาน


เขาไม่ต้องการเห็นผมในสภา! ‘ธนาธร’ลาออก กมธ. ทุกตำแหน่ง ขอสู้เคียงข้างประชาชน

เมื่อเวลา 16.15 น.วันที่ 29 พ.ย.ที่รัฐสภา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) แถลงว่า ในรอบเดือนที่ผ่านมา ตนได้รับการแต่งตั้งสภาผู้แทนราษฎร ให้เป็นที่ปรึกษาในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 แต่เนื่องจากความผันผวนทางการเมืองในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนจึงตัดสินใจลาออกจากการทำหน้าที่ กมธ.

นอกจากนี้ ตนยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอนุกมธ.พิจารณางบท้องถิ่น งบองค์การบริการส่วนจังหวัด ยกเว้น 5 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งตนได้ลาออกจากการเป็นอนุกมธ.ชุดนี้ด้วย หลังจากนี้จะคัดเลือกคนที่มีความรู้ ความสามารถ ด้านการพิจารณางบประมาณ จากพรรคอนาคตใหม่ ทั้งคนที่เป็นส.ส.และไม่ได้เป็นส.ส.เข้ามาทำหน้าที่แทน

“ถึงแม้ผมจะลาออกจากสภาไป แต่การทำงานของพรรคอนาคตใหม่ในสภาฯ ก็ยังมีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคฯ เป็นผู้นำอยู่ ซึ่งเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ และเป็นนักกฎหมายมหาชนที่หาตัวจับได้ยาก ซึ่งผลงานที่ผ่านมาก็เป็นเครื่องพิสูจน์ และพี่น้องประชาชนก็ตัดสินเองได้ ผมเชื่อว่านายปิยบุตร จะทำให้การทำงานในสภาฯ เป็นไปได้อย่างเต็มกำลัง สร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน การลาออกจากกมธ.งบฯ ครั้งนี้ เพื่อกลับไปอยู่กับประชาชน”

“ในเมื่อพวกเขาไม่ต้องการเห็นผมในสภา ผมก็ไม่ขออยู่ในสภา ผมจึงขอกลับไปอยู่กับประชาชน ผมเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อพี่น้องประชาชนลุกขึ้นยืนตรง ไม่ยอมก้มหัวให้เผด็จการ ไม่ยอมทนกับระบอบที่กดหัวประชาชนไว้อีกต่อไป สิ่งที่อภิสิทธิ์ชนพยายามทำอยู่ในสังคมไทยทุกวันนี้ คือการรวบอำนาจเข้าสู่ตัวเอง และพวกพ้อง และใช้กลไกเครื่องมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพ ส.ว. หรือคนร่างรัฐธรรมนูญที่เขาแต่งตั้งมาเอง นั่นคือการรวบอำนาจมาอยู่ที่กลุ่มอภิสิทธิ์ชน ซึ่งเป็นคนส่วนน้อยของประเทศ”

นายธนาธร กล่าวอีกว่า สิ่งที่เราอยากจะทำคือการเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์ ที่จะทำให้อนาคตของประเทศไทยเป็นอนาคตที่ทุกคนเท่าเทียมกัน แต่พวกเขาไม่ต้องการสิ่งนี้จึงต้องการทำลายเรา ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนจะเห็นถึงความตั้งใจ และความพยายามของเรา ที่อยากจะนำความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นสู่สังคมไทย

เมื่อถามว่า เหตุผลที่ลาออกเพราะถูกกดดันด้านการทำงานในกมธ.ใช่หรือไม่ นายธนาธร ยืนยันว่า ไม่มีแรงกดดัน เพราะการทำงานร่วมกับกมธ.คนอื่นๆ ก็ไม่ได้มีปัญหา ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนสาเหตุที่ลาออกวันนี้ ไม่เกี่ยวกับการพิจารณางบในส่วนของกระทรวงกลาโหมที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่เป็นเรื่องของการพิจารณาว่าในเมื่อเขาไม่ต้องการเห็นตนในสภา และตนก็ถูกตัดสิทธิ์จากการเป็นส.ส. ตนก็จะไม่ขออยู่ และจะขอเริ่มทำงานกับประชาชนตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า “เขา” ในที่นี้หมายถึงใคร นายธนาธร หัวเราะก่อนตอบว่า “ทุกคนก็น่าจะรู้”

เมื่อถามว่า หากมีการเสนอชื่อเข้าเป็นกมธ.ศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเข้าร่วมหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ต้องดูเป็นกรณีไป หากเป็นกรณีที่มีความสำคัญจริงๆ ก็จะเข้ามา ตนยืนยันว่า การเข้ามาทำงานการเมืองไม่ได้ต้องการยศฐาบรรดาศักดิ์ ไม่ได้อยากเป็น ส.ส. หรือรัฐมนตรี ตนตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อนำการเปลี่ยนแปลง และสิ่งที่ดีกว่าให้ประชาชน ดังนั้น การเป็นส.ส.หรือไม่เป็นก็ตาม จึงไม่สามารถหยุดยั้งตน และพรรคอนาคตใหม่ ไม่ให้ก้าวเดินไปข้างหน้าได้ แม้ได้เข้าสภาตนก็ยังทำประโยชน์ให้ประชาชนได้ ด้วยการออกไปพบปะประชาชน และนำปัญหาให้ส.ส.พรรคได้ช่วยแก้ไข

นายธนาธร กล่าวว่า ตนยังมีเวลารณรงค์ และทำความเข้าใจกับประชาชน เรื่องปัญหาทางโครงสร้างว่ารัฐธรรมนูญนี้เป็นเครื่องมือของอภิสิทธิ์ชนอย่างไร เป็นเครื่องมือกดขี่ประชาชนอย่างไร และจะเดินหน้ารณรงค์ร่างพ.ร.บ.ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ร่างพ.ร.บ.ปกป้องสิทธิแรงงาน และร่างพ.ร.บ.ยกเลิกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตนเชื่อว่า ร่างพ.ร.บ.เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน

เมื่อถามว่า การลาออกครั้งนี้จะเป็นการลงถนนอย่างเต็มตัวหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า อย่าเรียกอย่างนั้นดีกว่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนาธร ได้ยื่นหนังสือลาออกต่อนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ในฐานะประธานกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ก่อนที่ลงมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวได้ถามนายธนาธรว่า ลาออกจากทุกตำแหน่งในสภาฯ แล้ว จะกลับเข้ามาอีกครั้งด้วยตำแหน่งนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายธนาธร ยิ้มและหันกลับมาทำท่าชูแขนสู้ๆ ก่อนกลับขึ้นไปยังห้องประชุมงบประมาณ เพื่ออำลาอย่างเป็นทางการ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หนังสือลาออกจากตำแหน่ง กมธ.งบฯ ของนายธนาธร ได้ส่งถึงนายอุตมะ เมื่อวันที่ 29 พ.ย. โดยระบุว่า “ข้าพเจ้าขอลาออกจากตำแหน่ง กมธ. และตำแหน่งอื่นในคณะกมธ. ชุดนี้ ทุกตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป ข้าพเข้าขอขอบคุณท่านประธานฯ และเพื่อนสมาชิกกมธ. ทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุนการทำงานของข้าพเจ้าอย่างดี ในช่วงเวลาที่ได้ทำงานด้วยกัน ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ และได้ประสบการณ์อย่างมากในการทำหน้าที่ในกมธ ชุดนี้ และจะนำความรู้ และประสบการณ์ที่ได้ไปรับใช้ประชาชนให้ดีที่สุดต่อไป ข้าพเจ้าหวังว่าความคิดเห็น และข้อเสนอแนะของข้าพเจ้าจะเป็นประโยชน์กับกมธ.บ้างไม่มากก็น้อย อนึ่ง ข้าพเจ้าขอไม่รับผลตอบแทนใดๆ จากทำงานในฐานะกมธ. ที่ผ่าน มา เมื่อพวกเขาไม่ต้องการให้ข้าพเข้าเข้าสภา ข้าพเจ้าขออยู่กับประชาชน

อย่างไรก็ตาม นายธนาธร เข้าทำงานในกมธ.งบฯ ครั้งแรก เมื่อวันที่ 24 ต.ค.-29 พ.ย.2562 รวมทั้งสิ้น 27 วัน


เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธลงทะเล

โซล/วอชิงตัน (เอเอฟพี/รอยเตอร์) - เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธไม่ทราบชนิดตกทะเลนอกชายฝั่งตะวันออกในวันพฤหัสบดีซึ่งตรงกับวันขอบคุณพระเจ้าในสหรัฐ ขณะที่ การเจรจานิวเคลียร์ระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐ และความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลียังคงชะงักงัน

คณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ระบุในแถลงการณ์ว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธไม่ทราบชนิดจากฐานยิงในจังหวัดทางตะวันออกของเกาหลีเหนือ หลังเวลาประมาณ 03.00 น.วานนี้ตามเวลาในสหรัฐ หรือตรงกับ 15.00 น.วานนี้ตามเวลาในไทย นับเป็นการทดสอบขีปนาวุธครั้งแรกของเกาหลีเหนือในรอบกว่า 1 เดือน ขณะที่

กองทัพเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ขีปนาวุธ 2 ลูก ถูกยิงมาจากจังหวัดทางตะวันออกและตกลงในทะเล

ด้านสำนักข่าวจิจิเพรสของญี่ปุ่นรายงานอ้างแหล่งข่าวจากกระทรวงการป้องกันประเทศของญี่ปุ่นว่าขีปนาวุธ 2 ลูกยิงมาจากชายฝั่งตะวันออกของเกาหลีเหนือ ดูเหมือนเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป ซึ่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติห้ามเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขีปนาวุธดังกล่าวไม่เข้าน่านฟ้าหรือเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น

ก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้และสหรัฐแถลงเลื่อนการซ้อมรบร่วมออกไป เพื่อเป็นความพยายามส่งเสริมบรรยากาศทางการทูตกับเกาหลีเหนือ แต่เกาหลีเหนือปฏิเสธ อีกทั้งยังประกาศว่าไม่สนใจที่จะเจรจากับทั้งสหรัฐและเกาหลีใต้เพื่อฟื้นความสัมพันธ์และคลี่คลายความขัดแย้งประเด็นนิวเคลียร์

ในอีกด้านหนึ่ง กลุ่มนักวิจัยของสหรัฐ เผยภาพถ่ายดาวเทียมบนเว็บไซต์ 38 North ที่ชี้ให้เห็นว่า เกาหลีเหนือยังคงมีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่องที่โรงงานนิวเคลียร์ยองเบียนโดยภาพถ่ายดาวเทียมนี้ถูกถ่ายขึ้นเมื่อวันที่29 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่ามีอาคารหลังหนึ่งเพิ่งสร้างเสร็จใกล้เครื่องปฏิกรณ์แบบน้ำมวลเบา และกำลังมีการก่อสร้างอาคารสูงใกล้อาคารวิจัย อีกทั้งยังมีรถยนต์หลายคันเคลื่อนไหวในบริเวณดังกล่าว อย่างไรก็ดีไม่มีสัญญาณใดที่บ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์

ทั้งนี้ ในการประชุมสุดยอดกับสหรัฐเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เกาหลีเหนือได้ขอให้ยกเลิกการคว่ำบาตรแลกกับการยุติกิจกรรมที่ศูนย์นิวเคลียร์ยองเบียน ขณะที่สหรัฐยืนกรานว่า ต้องยุติทุกโครงการ การประชุมจึงล่มโดยไม่มีข้อตกลง และในเดือนที่แล้ว ทั้งสองประเทศยังเจรจาระดับคณะทำงานร่วมกันที่สวีเดนอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า


อิรักเดือด! ทหารยิงผู้ชุมนุมดับ25ศพ หลังม็อบบุกเผาสถานกงสุลอิหร่าน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สถานการณ์การประท้วงต่อต้านรัฐบาลในประเทศอิรักเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ย. 2562 กลายเป็นหนึ่งในวันที่นองเลือดที่สุดนับตั้งแต่เหตุความรุนแรงเริ่มขึ้นเมื่อเดือนก่อน โดยมีผู้เสียชีวิตในวันเดียวมากกว่า 30 ราย

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวอิรักจำนวนมากออกมาเดินขบวนตามท้องถนนเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลสร้างงาน, ยุติการคอร์รัปชัน และพัฒนาบริการสาธารณะให้ดีขึ้น แต่สถานการณ์บานปลายจนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่หลายครั้ง ซึ่งจนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 350 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายพันคน

เมื่อวันพฤหัสบดี กองทัพอิหร่านส่งกำลังเสริมไปรับมือความไม่สงบที่เมืองนาซิริยา ทางใต้ของปรเทศ ที่ผู้ชุมนุมนั่งปักหลักชุมนุมบนสะพาน 2 แห่ง โดยเจ้าหน้าที่ใช้กระสุนจริงและแก๊สน้ำตายิงใส่ผู้ประท้วงเพื่อสลายการชุมนุม จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย ขณะที่ผู้ชุมนุมตอบโต้ด้วยการจุดไฟเผาสถานีตำรวจ

ในนาจาฟ สถานกงสุลของอิหร่านกลายเป็นซากดำเป็นตอตะโก หลังจากถูกบุกจู่โจมเมื่อคืนวันพุธ ขณะที่ผู้ประท้วงหนุ่มสาวกล่าวหาว่านักการเมืองทุจริต เป็นข้าทาสที่ต้องตอบสนองบุญคุณมหาอำนาจต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิหร่าน และยังกล่าวหารัฐบาลล้มเหลวในการฟื้นฟูประเทศทั้งที่บ้านเมืองค่อนข้างสงบนับจากที่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) แตกพ่ายไปในปี 2017


นายกฯคนที่ 45 ญี่ปุ่น ถึงแก่อสัญกรรม

นายยาซุฮิโร นากาโซเนะ" นายกรัฐมนตรีคนที่45ของญี่ปุ่น ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว ด้วยวัย 101 ปี เขาเป็นผู้นำร่วมสมัยตรงกับรัฐบาลยุค"พลเอกเปรม"

ข่าวร้ายจากแดนอาทิตย์อุทัย เมื่อ "นายยาซุฮิโร นากาโซเนะ" อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว ด้วยวัย 101 ปี ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2562 เวลาประมาณ 7.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น

สื่อประเทศญี่ปุ่น รายงานข่าวเศร้าสลด เมื่อนายยาซุฮิโร นากาโซเนะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว ด้วยวัย 101 ปี ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 29 พ.ย. เวลาประมาณ 7.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น

โดยนายยาซุฮิโร นากาโซเนะ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนที่ 45 เป็นระยะเวลานาน 5 ปีช่วงระหว่างเดือนพ.ย.2525 ถึงเดือนพ.ย.2530

ไม่เพียงเท่านั้น ยาสุฮิโระ นากาโซเนะ ถือเป็นหนึ่งในนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นที่ครองตำแหน่งยาวนานที่สุด

เหนืออื่นใด ยาซูฮิโระ นากาโซเนะ เป็นนักการเมืองญี่ปุ่นที่ทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 1982 ถึง 6 พฤศจิกายน 1987 ร่วมสมัยกับ ไบรอัน มัลโรนี, โรนัลด์ เรแกน, เฮ็ลมูท โคล, ฟร็องซัว มีแตร็อง, บ็อบ ฮอว์ก, มาร์กาเรต แทตเชอร์, เบ็ตตีโน กรักซี, เติ้ง เสี่ยวผิง, มีฮาอิล กอร์บาชอฟ, พลเอกเปรม ติณสูลานนท์, ราอุล อัลฟอนซิน, เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส (จนถึง 25 กุมภาพันธ์ 1986), คอราซอน อากีโน (จาก 25 กุมภาพันธ์ 1986) และ ราชีพ คานธี,

ยาซูฮิโระ นากาโซเนะ เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในการผลักดันการแปรรูป บริษัท ที่รัฐเป็นเจ้าของและเพื่อช่วยฟื้นฟูชาตินิยมญี่ปุ่น ระหว่างและหลังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เขามีอายุครบ 101 ปีในวันที่ 27 พฤษภาคม 2562

สำหรับบทบาททางการเมืองของ นายยาสุฮิโระ นากาโซเนะ เป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่มีความโดดเด่นมาก ในสมัยยังดำรงตำแหน่งราว 36 ปีที่แล้ว โดยเขาเคยเฉิดฉายบนเวทีโลกร่วมกับนายโรนัลด์ เรแกน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 40 และนางมาร์กาเรต แทตเชอร์ อดีตนายรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอังกฤษ

ยาซูฮิโระ นากาโซเนะ ได้มีบทบาทในการเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญใฝ่สันติ ซึ่งสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ร่างขึ้นหลังญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อให้เกิดความกระจ่างกับสถานะที่ยังคลุมเครือของประเทศ ดังเช่นรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวมีข้อห้ามกองกำลังป้องกันตนเองไปร่วมภารกิจแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ นากาโซเนะ ได้ถูกพ้นจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ในปี 2530 หลังจากพยายามจะนำเสนอการเก็บภาษีทางอ้อม จนถูกต่อต้านอย่างหนัก

ล่าสุดด้วยวัย 101 ปีนายยาซุฮิโร นากาโซเนะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2562 เวลาประมาณ 7.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น

กรมป่าไม้ ลั่น ที่ดินปารีณาไม่มีมวยล้มต้มคนดู

นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า หนึ่งในคณะทำงานตรวจสอบการครอบครองพื้นที่ป่าของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ

ได้กล่าวถึงกรณีที่น.ส. ปารีณาแจ้งความเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้บุกรุกที่ซึ่งน.ส. ปารีณาครอบครองโดยไม่มีหมายค้นของศาลว่า ทราบเรื่องการแจ้งความแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้หวั่นเกรงใดๆ โดยภาพที่น.ส. ปารีณามาแสดงเป็นรถของของเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพรและอีกคันหนึ่งเป็นของเจ้าหน้าที่รังวัดของกรมป่าไม้ซึ่งไปเก็บข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์เพิ่ม

ทั้งนี้บริเวณที่เจ้าหน้าที่เข้าไปนั้น ไม่ได้เข้าไปในฟาร์มไก่ที่น.ส. ปารีณายึดถือครอบครองจึงไม่จำเป็นต้องใช้หมายศาล ยืนยันว่า ที่ผ่านมาการเข้าตรวจสอบได้มีคณะทำงานร่วมเข้าไปตรวจสอบโดยการใช้แผนที่แนวเขตของกรมป่าไม้ที่ถูกต้องและมีตัวแทนระดับชุมชนมาเป็นผู้ชี้แนวเขต เนื่องจากน.ส.ปารีณา ไม่ได้มาชี้แนวเขตด้วยตัวเอง

เมื่อเจ้าของที่อ้างว่าแผนที่ตรวจสอบทั้ง 2 ฉบับคือของกรมป่าไม้ และของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) มีมาตราส่วนต่างกันก็ให้ความเป็นธรรมโดยการตรวจสอบรังวัดใหม่และวิเคราะห์ร่วมกันจนได้แนวเขตที่ชัดเจน กระทั่งหลักฐานพร้อมที่จะแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์นั้นลบล้างไม่ได้ ที่มีข้อกังขาว่า การเข้าตรวจสอบใหม่เป็นความพยายามช่วยเหลือน.ส. ปารีณานั้นเป็นการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ กรณีนี้ไม่เป็น “มวยล้มต้มคนดู” แน่นอน

แหล่งข่าวจากส.ป.ก. ระบุว่า คำสั่งทางปกครองของส.ป.ก. ที่ให้น.ส. ปารีณานำเอกสารสิทธิ์ในที่ดินแปลง “เขาสนฟาร์ม 1” เนื้อที่ 691 ไร่นั้นจะครบกำหนดในวันที่ 4 พ.ย. นี้ซึ่งน.ส. ปารีณายังไม่ได้นำเอกสารใดๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ นอกจากที่นำหนังสือร้องเรียนให้รังวัดที่ดินใหม่มาส่งยังศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาที่ดินของส.ป.ก.

ทั้งนี้เดิมนั้นทางส.ป.ก.นัดหมายกับกรมป่าไม้จะแถลงข่าวร่วมกันในวันที่ 6 ธ.ค. แต่เนื่องจากพยานหลักฐานการบุกรุกที่ของกรมป่าไม้แน่นหนาแล้ว กรมป่าไม้จึงแถลงข่าวในวันที่ 2 ธ.ค.นี้เพียงหน่วยงานเดียวแล้วดำเนินคดีเลย ส่วนทางส.ป.ก. จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ต้องติดตามหลังวันที่ 4 ธ.ค. ไปแล้ว