ข่าว
เสื่อมหนัก!กลุ่มสาวม.2 เสร็จกิจโพสต์บอกสังคม

โลกออนไลน์วิจารณ์แหลก ภาพนักเรียน ม.2 โผล่ว่อนเฟซบุ๊ก ระบุข้อความชวนสยิวเสร็จกิจโพสต์บอกสังคม ขณะที่หลายคนกังวลร้องสอบสวนข้อเท็จจริง หวั่นแนวคิดแข่งกันไลค์เหมือนในต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ในโลกของสังคมออนไลน์มีการแชร์ภาพนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหลายคน ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเกี่ยวกับเรื่องเพศ หลังจากมีการนำภาพของตัวเองในลักษณะโป๊เปลือยมาลงผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนจะมีการแชร์ภาพดังกล่าวไปทั่ว ทั้งนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "เราชื่อ..." อ้างตัวว่า เป็นนักเรียนชั้น ม.2.โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคกลาง ลงโพสต์ภาพอยู่ในชุดนักเรียน และเปลือยกายโชว์ให้เห็นหมดทุกสัดส่วน แถมบรรยายประกอบภาพในเชิงลามกอนาจาร นอกจากนี้ยังมีภาพตัวเองนั่งกอดกับแฟนหนุ่ม ก่อนจะถ่ายภาพลักษณะ "เซลฟี่" โดยมือของแฟนหนุ่มจับหน้าอกของตัวเองอยู่ สำหรับการโพสต์ครั้งนี้นักเรียนสาวยังอ้างด้วยว่า เพิ่งมีอะไรกับแฟนหนุ่ม ก่อนจะเดินทางไปเรียน หากใครกดไลค์ให้เยอะ ๆ ตามเกณฑ์กำหนด ก็จะโชว์ภาพลับเฉพาะ ขณะมีอะไรกับแฟนหนุ่มให้ดูด้วย

ทั้งนี้เมื่อภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปในวงกว้าง ส่วนใหญ่ต่างเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ตั้งแต่กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งสืบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าวโดยเร็ว เพราะไม่ว่าจะเป็นเจ้าตัวทำเองหรือไม่ หรือเกิดจากมือดีโพสต์กลั่นแกล้งก็ตามถือเป็นเรื่องที่เสียหายอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ยังมีความเห็นบางรายระบุว่า การโพสต์ภาพดังกล่าว เป็นสิ่งที่น่าห่วงเป็นอย่างมาก เพราะจุดมุ่งหมายของเด็กสาวที่กำลังอยู่ในวัยคึกคะนอง อาจต้องการแชร์ภาพดังกล่าวแข่งขันกันในหมู่เพื่อนฝูง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทยเท่านั้น แต่เหล่าวัยรุ่นในต่างประเทศต่างก็โพสต์ภาพลับลงในเพจเฟซบุ๊กเฉพาะกลุ่ม เพื่อแข่งขันเช่นเดียวกัน ผู้ปกครองต้องระมัดระวัง เอาใจใส่ดูแลบุตรหลาน ไม่ให้ทำอะไรคึกคะนองเกินกว่าเหตุ ไม่เช่นนั้นอาจทำให้เด็กหมดอนาคตได้..

"ปู-แม้ว"โชว์ภาพกินแมคที่ญี่ปุ่น ไม่ไปทำบุญกับ”พายัพ”ที่อินเดีย

“ปู-แม้ว”ชื่นมื่น โชว์ภาพกินแมคที่โตเกียว ปัดข่าวร่วมคณะอดีต ส.ส.ทำบุญอินเดีย บอกเป็นเรื่องของ "พายัพ" ยันกลับไทยตามกำหนด

เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ได้ทำหนังสือขออนุญาตจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อพาด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชาย ไปพักผ่อนในช่วงปิดเทอมที่ประเทศญี่ปุ่น ว่า วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมด้วยบุตรชาย ได้ใช้เวลาพักผ่อนอยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยได้นัดเจอกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พี่ชาย ที่ร้านแมคโดนัลล์ ฮาโลวีน ซึ่งคนใกล้ชิด ได้เผยแพร่ภาพการพบกันของพี่ชายและน้องสาว เพื่อเป็นการยืนยันกับผู้สื่อข่าว อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวจากคนใกล้ชิดน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยันว่าการขออนุญาต คสช.เพื่อเดินทางออกนอกประเทศครั้งนี้ ไม่มีกำหนดการที่จะเดินทางไปยังประเทศอินเดียตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ตั้งแต่ต้น รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ได้มีกำหนดที่จะเดินทางไปวัดป่าพุทธคยา เมืองคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ตามที่มีข่าวด้วย ทั้งนี้อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ยืนยันผ่านคนใกล้ชิดว่าจะเดินทางกลับตามกำหนดเวลาที่ได้ขออนุญาตไว้กับทาง คสช.อย่างแน่นอน

สำหรับกำหนดการทำบุญทอดกฐินสามัคคี 2557 ที่วัดป่าพุทธคยา เมืองคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดียนั้น เป็นเรื่องของนายพายัพ ชินวัตร ซึ่งเป็นแกนนำในการดำเนินการครั้งนี้ โดยได้เชิญอดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส. และผู้สนใจร่วมเดินทางด้วย โดยได้มีการใส่ชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคนในครอบครัว“ชินวัตร”ร่วมคณะไปด้วย แต่ทั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยืนยันไปแล้วว่าไม่สามารถร่วมคณะในครั้งนี้ได้

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สำหรับกำหนดการนัดหมายของแกนนำ รวมถึงสมาชิกพรรคเพื่อไทย นำโดยนายพายัพ ชินวัตร เพื่อเดินทางร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคี 2557ที่วัดป่าพุทธคยา เมืองคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ได้นัดหมายออกเดินทางวันที่ 25 ต.ค.เวลา 05.00 น.จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเป็นเที่ยวบินเช่าเหมาลำ สายการบินไทย สไมล์ เที่ยวบิน 8052 โดยคณะจะร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ จากนั้นร่วมทอดกฐินในเวลา 13.00 น.ร่วมกับอดีตรัฐมนตรี รวมถึงแกนนำบางส่วนที่เดินทางเป็นการส่วนตัวในวันที่ 24 ต.ค.นี้ จากนั้นจะเดินทางกลับในช่วงค่ำวันเดียวกัน.


ตั้ง3ข้อหาหนัก! พรชนก-สมชาย คดีฆาตกรรมอำพราง "โยชิโนริ"

พลตำรวจโทเรืองศักดิ์ จริตเอก รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการจับกุม นายสมชาย แก้วบางยาง อายุ 47 ปี และนางพรชนก ไชยะปะ ในข้อกล่าว ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันหน่วงเนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย รวมไปถึงร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย

ทั้งนี้คดีดังกล่าว เริ่มต้นเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา นายเทสซึโอะ ชิมาโตะ ลูกชายนายโยชิโนริ ชิมาโตะ ครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่น ได้มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ว่านายโยชิโนริ พ่อของตนได้หายออกจากที่พัก ศรีวราแมนชั่น เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร โดยไม่ทราบชะตาชีวิต ขอให้ตำรวจช่วยติดตาม

ต่อมานายเทสซึโอะ ได้เดินทางไปยังที่พักของนายโยชิโนริ ปรากฎว่าเมื่อไปถึง ได้พบกับนางพรชนก ซึ่งคบหาเป็นแฟนกับ นายโยชิโนริ อยู่ในห้องพัก มีลักษณะเป็นพิรุธ โดยใส่วิกผมปิดบังใบหน้า ซึ่งจากการค้นตัวนางพรชนก พบบัตรเอทีเอ็ม ของนายโยชิโนริ นายเทสซึโอะจึงได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนางพรชนก ในข้อหาลักบัตรเอทีเอ็ม โดยนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ดำเนินคดี โดยนางพรชนก ได้ประกันตัวจากชั้นศาล แล้วหลบหนีไป

ต่อมาได้ตรวจสอบบัญชีเงินฝากของนายโยชิโนริ พบว่านางพรชนก ได้นำบัตรเอทีเอ็มดังกล่าว ไปกดถอนเงิน ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา โดยกดถอนไปเป็นจำนวน 14 ครั้ง รวมเป็นเงิน 720,000 บาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ได้มีการประสานความร่วมมือกัน เพื่อออกสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายในคดีนี้ เพราะคดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของสื่อมวลชน และมีความสำคัญซึ่งอาจจะกระทบต่อความสัมพันธ์และความมั่นคงระหว่างประเทศ

ซึ่งจากการสืบสวน เชื่อว่า นางพรชนก น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายโยชิโนริ จึงได้ออกสืบสวนและติดตามตัว จนในที่สุดทราบว่านางพรชนกได้หลบหนีไปอยู่ที่บ้านพัก ใน จ.อ่างทอง โดยหลบหนีไปพร้อมกับ นายสมชาย แก้วบางยาง ซึ่งเป็นสามี โดยมีอาชีพขับรถแท๊กซี่รับจ้าง

โดยต่อมาวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารได้พบตัว นางพรชนก และนานสมชาย จึงอาศัยอำนาจตามกฎหมาย เชิญตัวมาเพื่อซักถามข้อเท็จจริง ซึ่งจากการซักถามเบื้องต้น นางพรชนกให้การว่า เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ขณะที่นายโยชิโนริ เดินทางไปสอนภาษาญี่ปุ่น ที่การเคหะบางพลี ได้มีอาการเจ็บป่วยอย่างกะทันหัน จึงได้พาไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาลบางนา 2 โดย และเมื่อแพทย์ตรวจพบอาการเบื้องต้น พร้อมแจงค่าใช้จ่ายแล้ว นางพรชนกเห็นว่า ค่าใช้จ่ายสูง จึงได้นำตัวนายโยชิโนริ ออกจาก รพ.บางนา 2 แล้วพาไปส่งขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีอุดมสุข เวลา 7.00 น. วันเดียวกัน หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีก

แต่จากการสอบถามเบื้องต้นนายสมชาย ยอมรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 21 กันยายน เวลาประมาณ 17.00 ขณะขับรถแท๊กซี่รับจ้างอยู่ ได้รับโทรศัพท์จากพรชนก ให้ไปพบที่บ้านพัก หมู่บ้านออร์คิด อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เมื่อไปถึง นางพรชนก ได้พาขึ้นไปที่สองของบ้าน ในห้องนอนพบ นายโยชิโนริ นอนนิ่งใบหน้าเขียวคล้ำ เชื่อว่าตายแล้ว นางพรชนก กลัวความผิด จึงได้ร่วมกันวางแผนจะทำลายศพเพื่อปกปิดการตาย โดยนายสมชายได้ใช้มีดและค้อน หั่นศพออกเป็นชิ้นๆ บรรจุในถุงปุ๋ย 4 ถุง แล้วนำใส่ท้ายรถแท๊กซี่ โดยมีนางพรชนกนั่งรถไปด้วย จากนั้นได้ร่วมกันนำชิ้นส่วนศพ นายโยชิโนริ ไปทิ้งยังสะพานข้ามคลองสนามพลี หรือคลองนางทิ้ม อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

ทั้งนี้จากการซักถามจากผู้สื่อข่าว นางพรชกยังให้การปฏิเสธ และอ้างว่านายโยชิโนริ เสียชีวิตภายในบ้านพักเอง และตนกลัวความผิด จึงเรียกนายสมชายมายังบ้านพัก แล้วให้นายสมชายตัดสินใจเองทั้งหมดว่าจะทำอย่างไรกับนายโยชิโนริ ส่วนตนอยู่ชั้นล่างของบ้าน โดยไม่ได้ร่วมชำแหละศพนายโยชิโนริด้วย

ส่วนนายสมชาย ยอมรับสารภาพว่าตนตัดสินใจชำแหละศพนายโยชิโนริด้วยตัวเอง นางพรชนกไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งตนกลัวความผิดเช่นเดียวกันกับนางพรชนก จึงไม่แจ้งกับตำรวจว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านพัก

หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนางพรชนก และนายสมชาย ไปส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ทันที

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว 2 ผู้ต้องหา คดีฆ่าหั่นศพ นายโยชิโนริ ชิมาโตะ อายุ 79 ปี ครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่น มาจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ถึงที่สถานีตำรวจภูธรบางเสาธง

พลตำรวจโทเรืองศักดิ์ จริตเอก รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ก็จะดำเนินคดีและสอบปากคำเพิ่มเติมโดยจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนร่วมระหว่าง ตำรวจนครบาล กับตำรวจภูธรภาค1 โดยจะมีการเน้นในส่วนของประเด็นเรื่องแรงจูงใจในการก่อเหตุ แต่เบื้องต้นได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่าเป็นการประสงค์ต่อทรัพย์ ส่วนที่จะทำเป็นขบวนการหรือจุดประสงค์อื่นหรือไม่ ต้องรอการสอบสวนจากคณะกรรมการก่อน

เบื้องต้นพบว่านางพรชนกเคยทำงานในสถานบริการย่านสุขุมวิท ก่อนที่จะพบกับนายโยชิโนริ ซึ่งชอบเข้าไปใช้บริการในสถานบันเทิงดังกล่าว ส่วนประวัติของนายสมชาย ซึ่งผู้สื่อข่าวตั้งข้อสงสัยว่า อาจจะเคยทำอาชีพในโรงฆ่าสัตว์มาหรือไม่ ตำรวจต้องไปตรวจสอบอาชญากรรมเพิ่มเติม

ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของอดีตสามีนางพรชนก คือ นายคัทซึโตชิ ทานากะ ที่ตกบันไดเสียชีวิต ทางตำรวจขอนุญาตทำคดีฆ่าหั่นศพ นายโยชิโนริ ให้แล้วเสร็จเสียก่อน จากนั้นค่อยมาขยายผล และรื้อคดีดังกล่าว กลับมาดำเนินคดีอีกครั้ง

ในขณะเดียวกัน นางเค็กโกะ มัตตะ ลูกสาวของนายคัทซึโตชิ ก็ได้เดินทางมาที่ สถานีตำรวจภูธรบางเสาธง เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรช่วยรื้อคดีเก่า เนื่องจากส่วนตัวมีข้อสงสัยในการเสียชีวิตของพ่อ

ล่าสุด ทางพลตำรวจโทเรืองศักดิ์ ได้โทรเข้าไปสอบถามกับสถาบันนิติเวช ผลตรวจดีเอ็นเอ ชิ้นส่วนร่างที่พบทั้ง 4 ถุงปุ๋ยบริเวณคลองนางทิ้ม จ.สมุทรปราการ พบว่า ดีเอ็นเอ ตรงกับนายโยชิโนริ ส่วนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น ต้องขึ้นอยู่กับผู้ต้องหาทั้งสอง ว่าจะยอมรับสารภาพทั้งหมดหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้นางพรชนกยังให้การปฏิเสธอยู่ ส่วนนายสมชายยอมรับสารภาพแล้ว

'กาละแมร์'แจ้งความ ปอท. จัดการกับนักเลงคีย์บอร์ด

'กาละแมร์' ผู้ดำเนินรายการชื่อดังช่อง3 ลุย แจ้งความ ปอท.ขอพึ่งกฎหมายจัดการ นักเลงคีย์บอร์ด จี้ ต้องออกมาขอโทษ ยัน ไม่ได้พูดคำว่า"ลาว"เกรงคนเข้าใจผิด

วันที่ 24 ตุลาคม น.ส.พัชรศรี เบญจมาศ พิธีกรหญิงชื่อดัง ช่อง3 "กาละแมร์" เดินทางมายังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อแจ้งความเอาผิดนักเลงคีย์บอร์ด ที่โพสต์ข้อความเป็นเท็จในเว็บพันทิป พร้อมยืนยันว่า พูดคำว่า "เรา" ไม่ได้พูดคำว่า "ลาว" แต่อย่างใด ขอให้ผู้เขียนบล็อกดังกล่าว ออกมาชี้แจงและขอโทษในกรณีที่เกิดขึ้นด้วย พร้อมทั้งแก้ไขให้ถูกต้องโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด และทำให้ความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศลดลง ถ้าไม่มีการแก้ไข ตนขอดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวที่ถูกกล่าวอ้างว่า เกิดขึ้นในรายการ"กาละแมร์"ทางช่อง 3SD นั้น กาละแมร์ กล่าวว่า ในช่วงแรกของรายการที่ตนพูดเปิดตัวแขกรับเชิญ ก่อนจะพูดคุยหยอกล้อมุกต่างๆ กับแขกรับเชิญ โดยมีประโยคคำถามแรกๆ ที่ถามว่า "ไม่เคยมีใครบอกเหรอว่า หน้าอย่างเรา สาระร่างอย่างเรา ทำไมเราไม่ไปทำอย่างอื่นนอกจากร้องเพลงอะ" เป็นเพียงการหยอกล้อแขกรับเชิญ ไม่ได้มีเหตุจงใจพูดพาดพิงถึงประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ ประโยคดังกล่าวอาจมีคนสังเกตและวิเคราะห์ว่า ตนได้ออกเสียงคำว่า "เรา" แบบลากเสียงยาวและไม่ได้ออกเสียงคำควบกล้ำ ทำให้เกิดความกำกวม จนอาจจะทำให้เกิดการตีความหมายเป็นอย่างอื่น.