ข่าว
จีนคว้าโครงการสร้างทางรถไฟในเมืองไทย เตรียมลงนามกันยายนนี้

People′s Daily สื่อของพรรคคอมมิสต์จีนรายงานว่า หลังการเจรจากว่า 6 รอบ ไทยและจีนเตรียมที่จะลงนามในสัญญาความร่วมมือระหว่างรัฐบาลในการสร้างทางรถไฟเส้นทางจีน-ไทย ภายในต้นเดือนกันยายนนี้ และจะมีพิธีประกาศการดำเนินโครงการอย่างเป็นทางการก่อนสิ้นเดือนตุลาคม ทั้งนี้จากการเปิดเผยของ นายจู ซีจุน ผู้จัดการใหญ่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของบริษัทก่อสร้างทางรถไฟจีน (CRCC)

นายจู ซีจุน อ้างว่าโครงการนี้จะสำเร็จภายใน 3 ปี ซึ่งจะสร้างประโยชน์ในการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมกับประเทศไทย หลังเสร็จสิ้นการก่อสร้างและเริ่มการเดินรถจะช่วยให้ประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางระหว่างจีนและไทยที่สะดวกและประหยัด โดยค่าตั๋วสำหรับเดินทางระหว่างคุนหมิงกับกรุงเทพฯคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายราว 3,600 บาท หรือ 700 หยวน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียงครึ่งหนึ่ง หรือหนึ่งในสามของตัวเครื่องบิน และค่าการขนทางรถไฟก็มีค่าใช้จ่ายเพียง 1 ใน 9 ของการขนส่งด้วยเครื่องบิน

สื่อจีนกล่าวต่อไปว่า เส้นทางจีนไฟนี้น่าจะช่วยเพิ่มนักท่องเที่ยวจีนในเมืองไทยอีกกว่า 2 ล้านคนในแต่ละปี และช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าเกษตร ซึ่งจะทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งของอาเซียนอีกด้วย

โครงการนี้จะมีระยะทางยาว 867 กิโลเมตร ขบวนรถไฟวิ่งด้วยความเร็ว 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช้ากว่ารถไฟรุ่นเดิมที่เคยเจรจากันก่อนหน้าซึ่งมีความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องจากเหตุผลด้านการควบคุมค่าใช้จ่าย โดยทางรถไฟจะเชื่อมต่อหนองคายทางตะวันออกเฉียงเหนือและระยองทางตะวันออกกับกรุงเทพฯเมืองหลวงของไทย

‘ป๋าเปรม’ติงร่าง‘รธน.’ไม่บัญญัติเรื่อง‘ตอบแทนคุณแผ่นดิน’

วันที่ 3 กันยายน 2558 พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พูดกับเยาวชน ในชายแดนภาคใต้จำนวน 117 คนว่า

อยากให้พวกเธอกลับไปบ้านและไปบอกว่าการทะเลาะกันไม่เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และชาติบ้านเมือง ฉะนั้นขอให้จำไว้ว่าเธอเกิดในประเทศนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในจังหวัดใดก็ตาม ไม่ใช่เฉพาะใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่จังหวัดใดก็ตามที่นับถือศาสนาอิสลามทุกจังหวัด ขอให้พวกเธอเข้าใจว่าเธอเกิดในประเทศไทย มีสัญชาติไทย และเป็นเจ้าของประเทศไทย เหมือนกับคนอื่นๆ ที่ต้องมีหน้าที่ตามที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญว่า คนไทยมีหน้าที่อะไรบ้าง ในทำนองเดียวกันร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้กำลังจะโหวตกันในวันที่ 6 กันยายน นี้

“อยากให้กลับไปดูรัฐธรรมนูญฉบับเดิมๆ ว่าคนไทยมีหน้าที่อะไรต่อชาติบ้านเมืองบ้าง แต่มีอย่างหนึ่งที่ไม่ได้เขียนในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ แม้แต่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ก็คือการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน เราคิดเรื่องนี้มา 20 ปี คือ ต้องสอนคนไทย ไม่ว่าจะนับถือศาสนา อิสลาม ศาสนาพุทธ ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู แต่เราก็มีหน้าที่เหมือนกัน คือ ตอบแทนแผ่นดินเกิด โดยวิธีง่ายๆ จะทำเดี๋ยวนี้ก็ได้ คือทำตนเป็นคนดี ไม่ก่อความเดือดร้อนให้ใคร นี่คือหน้าที่ และเป็นเรื่องหนึ่งที่อยากบอกให้ทราบ” พล.อ.เปรม กล่าว

พล.อ.เปรม กล่าวต่อว่า อยากให้เธอเข้าใจ ว่าเราเกิดมาเป็นคนไทย ต้องมีหน้าที่ตอบแทนคุณแผ่นดิน มีหน้าที่ผูกมิตรปรองดอง สามัคคีกัน และขออย่าลืมว่าเธอทุกคนเป็นเจ้าของประเทศเท่าๆ กันตน เรามีหน้าที่เดียวกัน แม้จะนับถือคนละศาสนา สิ่งสำคัญที่ต้องการบอกเธอ คือเรามีหน้าที่ในฐานะคนไทย ดูแลแผ่นดิน รักกัน สามัคคีกัน ใครจะยุ่งกับแผ่นดินเราไม่ได้ เพราะเราเป็นเจ้าของแผ่นดินนี้


รวบชายต่างชาติเสื้อเหลือง มือบึมราชประสงค์ คาชายแดนเขมร

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 ก.ย. 58 ขณะ พ.อ.ปรมาธร บุนนาค ผบ.ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา นำกำลัง ทหารพรานและชุดปฏิบัติการร่วมลาดตระเวนมาตามถนนศรีเพ็ญซึ่งเป็นถนนเลียบแนวชายแดน มาถึงบริเวณป่าละเมาะริมชายแดน เขตพื้นที่บ้านดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ตรวจพบชายต้องสงสัยเดินสะพายกระเป๋าเป้สีดำ เดินผ่านป่าละเมาะมุ่งหน้าสู่เขตแดนกัมพูชา เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมและสามารถสกัดจับไว้ได้ก่อนที่ผู้ต้องสงสัยจะสามารถลักลอบข้ามตะเข็บชายแดน เบื้องต้นพบว่าเป็นชายชาวต่างชาติ ใบหน้าและลักษณะคล้ายภาพสเกตช์ผู้ต้องหาชาวต่างชาติที่ลอบวางระเบิดแยกราชประสงค์ ทำให้มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยศาลได้ออกหมายจับตามภาพวงจรปิด จึงรีบรายงานให้ พล.ต.ศรีศักดิ์ พูนประสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ทราบเป็นการด่วน

พล.ต.ศรีศักดิ์ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ได้รุดเดินทางมาตรวจสอบด้วยตนเองพบว่าชายคนดังกล่าวมีใบหน้า และลักษณะคล้ายแขกขาว ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ จึงควบคุมตัวมาไว้ที่กองร้อยทหารพรานคลองลึก หน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว


บิ๊กตู่ เม้งพิธีกรจ้อปมบึ้ม เก่งนักทำไมไม่เป็นตร.

เมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 2 กันยายน ที่ศูนย์แสดงสินค้าและศูนย์ประชุมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เทศบาลนครแม่สอด จ.ตาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดีวางระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ จากสืบสวนผู้ต้องสงสัยที่จับได้ ว่า

ผลการสอบสวนจะสามารถรู้ต้นสายปลายเหตุของผู้ก่อเหตุอย่างไรนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีการสอบสวน ถ้ายังสืบไม่ถึงแล้วเขายังไม่ตอบ จะให้ทำอย่างไร หรือจะให้ไปซ้อม รัดคอ บีบคอเขาหรืออย่างไร โดยระหว่างนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบ ด้วยมาตรการที่เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งเวลานี้เขาปฏิเสธไม่ได้ จากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ดีเอ็นเออะไรต่างๆ และทางตำรวจก็แถลงแล้ว ว่าคนที่จับได้ยังไงก็ต้องเกี่ยวข้องกับระเบิดที่พบในแฟลต เพราะดีเอ็นเอติดอยู่แต่จะโยงไปตรงเหตุระเบิดที่ราชประสงค์หรือเปล่า ตำรวจกำลังสอบต่อ ถ้าไม่ใช่คนนี้ก็ต้องมีอีกคนหนึ่ง ส่วนผลการสืบสวนสอบสวนก็ค่อยๆดี และเจอมาเรื่อยๆ

“ถ้าอยากให้การสอบสวนเสร็จเร็ว ไปดูหนังเรื่องซีเอสไอ จับผู้ร้ายได้หมด ทุกอย่างจะทำได้หมด โธ่... ต่างชาติยังทำไม่ได้ กี่คดีที่ยังจับไม่ได้ ทำไมไม่ดูเขาบ้างมันก็ธรรมดา เครื่องมือเราทันสมัยหรือยัง เราก็พยายามพัฒนาประสิทธิภาพอยู่นี่ไง ฉะนั้นขอให้ช่วยกัน อย่าติติงกันมากนักอย่าใจร้อน

วันนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ทุกวัน ทุกช่อง โอ้ มันเก่งกว่าตำรวจอีก ไอ้นั่นต้องอย่างนี้ สงสัยอย่างนั้น ทำไมไม่เป็นตำรวจซะ แต่มาเป็นพิธีกร วิเคราะห์กันเป็นบ้าเป็นหลัง ทำให้สังคมสับสน ตำรวจเขามีวิธีการสอบสวนอยู่ จะเชื่อมโยงยึดโยงด้วยสาเหตุอะไร อย่าเพิ่งไปสรุปมากนัก ถ้าสรุปอย่างนี้ ไอ้ผู้ร้ายเกิดมันไม่ใช่ขึ้นมาก็ดีใจ ว่ารอดแล้ว ไม่เกี่ยว มันไม่ใช่” นายกฯ กล่าว


สกอ. สั่งสอบคลิป "รับน้อง" คร่อมเต้นอนาจารไม่เหมาะ

วันพุธที่ 2 กันยายน 2558 เวลา 15:19 น. กรณีโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปวีดีโอ จากเพจเฟซบุ๊ก “รับน้องสร้างสรรค์” ซึ่งเผยแพร่ภาพการทำกิจกรรมรับน้อง ของนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดยให้ผู้ร่วมกิจกรรมร้องเพลง ที่มีเนื้อหาสองแง่สองง่าม และเต้นท่าล่อแหลม ลักษณะอนาจาร โดยเฉพาะการให้รุ่นน้องขึ้นคร่อม และเด้งใส่กัน หลังคลิปวีดีโอดังกล่าว ถูกเผยแพร่ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก หลายคนแสดงความเห็นว่า เป็นการรับน้องที่ไม่สร้างสรรค์ มีการทำกิจกรรมราวกับสอนเพศศึกษา ในขณะที่รุ่นพี่ผู้จัดกิจกรรมบางส่วน ได้ออกมาเปิดเผยว่า บุคคลในคลิปมีเพียงนักศึกษาชาย และสาวประเภทสอง ไม่มีการกระทำเช่นนั้น กับนักศึกษาหญิง และเป็นแค่การเล่นสนุกกันเท่านั้น แต่คนส่วนใหญ่ยังมองว่า ไม่เหมาะสมแม้จะเป็นสาวประเภทสอง พร้อมเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยเร่งตรวจสอบ ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.ย. นางชญาภา แจ่มใส ผู้อำนวยการกองพัฒนานักศึกษามหาวิทยาลัยดังกล่าว ได้เปิดเผยกับ “เดลินิวส์ออนไลน์” ว่า ทางมหาวิทยาลัยได้รับทราบ และเห็นคลิปที่ถูกเผยแพร่แล้ว โดยคลิปวีดีโอดังกล่าว เป็นกิจกรรมรับน้องของคณะสาขาหนึ่งในมหาวิทยาลัย ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา และในขณะนี้ทางฝ่ายกิจการนักศึกษา และคณะของนักศึกษากลุ่มดังกล่าว ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว นอกจากนี้อธิการบดีของมหาวิทยาลัย ได้กำชับให้มีการสอบสวนเรื่องดังกล่าว โดยไม่ได้ปล่อยปละละเลยแต่อย่างใด พร้อมระบุหากได้ข้อสรุป จะประชาสัมพันธ์เรื่องดังกล่าวให้ทราบอีกครั้ง..“

มะกันระดมกำลังล่าครั้งใหญ่ 3 คนร้ายยิงตำรวจดับ

เมื่อวันที่ 2 ก.ย.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ทางการสหรัฐฯระดมกำลังตำรวจปฏิบัติการตามล่ากลุ่มคนร้ายครั้งใหญ่ อย่างสุดระทึก หลังลงมือก่อเหตุสะเทือนขวัญ ยิงนายชาร์ลส์ โจเซฟ กลินิวิคซ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เสียชีวิต ที่เมืองฟอกซ์ เลค รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐฯ เมื่อเช้าวันอังคารที่ 1 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่น โดยทางการได้ระดมส่งกำลังตำรวจหลายสิบนาย พร้อมด้วยเฮลิคอปเตอร์ อาวุธปืนไรเฟิลครบมือปฏิบัติการค้นหาคนร้ายที่หลบหนีไปด้วยการเดินเท้า หลังก่อเหตุ

ซีเอ็นเอ็น แจ้งว่า ก่อนหน้านายกลินิวิคซ์ จะถูกยิงเสียชีวิตนั้น นายตำรวจเคราะห์ร้ายผู้นี้ได้แจ้งผ่านวิทยุสื่อสารไปยังหน่วยงานของตัวเองว่า เขากำลังถูกชาย 3 คน เดินตาม จากนั้นสัญญาณวิทยุก็ดับไป เพียงแต่เมื่อกำลังตำรวจมาถึงจุดเกิดเหตุ ปรากฏว่านายกลินิวิคซ์ถูกยิง และได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่ 3 คนร้าย ยังฉวยอาวุธปืนของนายกลินิวิคซ์ และเสื้อเกราะกันกระสุนของเขาไปด้วย

หลังเกิดเหตุร้ายกับนายกลินิวิคซ์ อดีตทหารผ่านศึก ที่ทำงานตำรวจมานานกว่า 30 ปี ทางการสหรัฐฯได้ปฏิบัติการล่ากลุ่มคนร้ายทั่วเมืองฟอกซ์ เลค ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่ประมาณ 60,000 คน และตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองชิคาโก โดยทางการ ทั้งส่งเฮลิคอปเตอร์บินวนค้นหา รวมทั้งยังใช้สุนัขตำรวจ และให้ตำรวจลุยค้นตามป่าและริมหนองน้ำ รวมถึงการเคาะบ้านถามประชาชนในแต่ละหลัง โดยปฏิบัติการไล่ล่าคนร้ายยังได้รับความช่วยเหลือจาก เจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ), ตำรวจศาล และตำรวจปราบปรามยาเสพติด


หญิงสาวเสนอทำ"ออรัล เซ็กส์"ให้เหล่าตร.-เลี่ยงถูกจับ

เกิดเหตุสุดช็อก เมื่อหญิงสาวรายหนึ่งได้เสนอจะทำ"ออรัล เซ็กส์"ให้แก่ตำรวจ 3 นาย เพื่อแลกกับไม่ถูกจับในข้อหาเมาแล้วขับ และมีสิ่งเสพติดไว้ในครอบครอง ขณะที่ตำรวจได้ปฏิเสธ และได้ตั้งข้อหาเธอว่าติดสินบนเจ้าพนักงาน

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมืองเคลียร์วอเตอร์ รัฐฟลอริด้า โดยหญิงสาวรายหนึ่ง คือ น.ส.เอเรียล เอ็นเกิร์ต ได้ถูกตำรวจนายหนึ่งสั่งให้หยุดรถ และถูกตรวจวัดแอลกฮอล์ ก่อนพบว่า เธอมีอาการมึนเมา ทำให้ตำรวจบอกว่า จะนำเธอไปยังศูนย์กักกันควบคุมตัว ปรากฏว่า เธอได้เสนอที่จะกระทำ"ออรัล เซ็กส์"ให้ตำรวจนายนี้ เพื่อแลกกับการถูกปล่อยตัว

ทว่า ตำรวจนายนี้ได้ปฏิเสธ ก่อนที่จะส่งเธอไปยังเรือนจำแห่งหนึ่ง และตำรวจอีก 2 นายได้ตรวจค้นร่างกายเธอ ปรากฏว่าพบห่อโคเคนซุกอยู่ในชุดชั้นใน และปรากฏว่า หญิงสาวรายนี้ได้กระทำพฤติกรรมฉาวแบบเดิม โดยเสนอที่กระทำ"ออรัล เซ็กส์"ให้แก่นายตำรวจ 2 นายดังกล่าว เพื่อแลกกับการปล่อยตัวเธอ แต่ตำรวจทั้งสองได้ปฏิเสธ และได้ตั้งข้อหาเธอหลายกระทง ตั้งแต่ครอบครองสิ่งเสพติด ขับรถขณะมึนเมา และติดสินบนเจ้าพนักงาน 3 ราย

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ต่อมาเธอได้รับการประกันตัวด้วยวงเงิน 5,000 ดอลลาร์ ส่วนประวัติของเธอในเฟซบุ๊กระบุว่า เธอเคยเป็นนักศึกษาสาขาวิชาปรัชญาในมหาวิทยาลัยรัฐฟลอริด้า