ผู้เชี่ยวชาญการบินตั้งคำถาม ปริศนา 4 นาทีโศกนาฏกรรมเครื่องบินเกาหลีใต้ “เชจู แอร์” 5 ปมสงสัยอุบัติเหตุ “ล้อไม่กาง-ระบบเกียร์-รันเวย์สั้น” เกาหลีใต้เผยระบุตัวตนเหยื่อเจจู แอร์ ครบ 179 ศพแล้ว และกำลังเร่งสืบสวนสาเหตุโศกนาฏกรรมเครื่องบิน “เจจู แอร์” อีกลำ ต้องบินกลับ ระบบล้อมีปัญหาแบบเดียวกับเครื่องที่ตก
เจ้าหน้าที่สอบสวนเกาหลีใต้ พบขนนกและเลือดในเครื่องยนต์ทั้ง 2 ของเครื่องบินสายการบินเจจูแอร์ ที่ตกในเกาหลีใต้เมื่อเดือนที่แล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 179 ศพ
บุคคลที่ทราบเรื่องการสอบสวนเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนเกาหลีใต้ พบขนนกและเลือดในเครื่องยนต์ทั้ง 2 ของเครื่องบินสายการบินเจจูแอร์ ที่ตกในเกาหลีใต้เมื่อเดือนที่แล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 179 ราย เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ซึ่งออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานานชาติมูอัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ ลงจอดโดยที่อุปกรณ์สำหรับลงจอดไม่ทำงาน และพุ่งเลยรันเวย์ของสนามบิน ก่อนจะระเบิดเป็นไฟหลังจากชนกำแพงคอนกรีต โดยมีลูกเรือเพียง 2 คนที่บริเวณท้ายเครื่องบินเท่านั้นที่รอดชีวิตจากภัยพิบัติทางการบินครั้งร้ายแรงที่สุดบนแผ่นดินเกาหลีใต้
ตามรายงานของทางการเกาหลีใต้ ประมาณ 4 นาทีก่อนเกิดเหตุเครื่องบินตก นักบินคนหนึ่งรายงานว่ามีนกชนและประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก่อนจะบินวนกลับ และพยายามลงจอดที่ปลายรันเวย์ฝั่งตรงข้าม สองนาทีก่อนที่นักบินจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ฝ่ายควบคุมการจราจรทางอากาศได้เตือนให้ระมัดระวังเนื่องจากมีนกบินอยู่ในบริเวณดังกล่าว
ในเดือนนี้ เจ้าหน้าที่สอบสวนระบุว่า พบขนนกในเครื่องยนต์เครื่องหนึ่งที่เก็บกู้ได้จากที่เกิดเหตุ และจากวิดีโอยังแสดงให้เห็นนกบินชนเครื่องยนต์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นว่าพบขนนกและเลือดในเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องหรือไม่
กล่องดำ 2 กล่องของเครื่องบินซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการหาสาเหตุของการตกของเครื่องบินเมื่อเดือนที่แล้ว หยุดบันทึกภาพประมาณสี่นาทีก่อนเกิดอุบัติเหตุ ถือเป็นความท้าทายต่อการสืบสวนที่ยังคงดำเนินอยู่
ซิม ไจ ดอง อดีตเจ้าหน้าที่สอบสวนอุบัติเหตุของกระทรวงคมนาคม กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า การที่ข้อมูลที่หายไปนั้นเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจ และชี้ให้เห็นว่าอาจมีการตัดไฟทั้งหมด รวมถึงพลังงานสำรอง ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก
การที่นกบินชนเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องนั้นเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในการบินทั่วโลก แม้ว่าจะมีกรณีที่นักบินสามารถนำเครื่องบินลงจอดได้สำเร็จโดยไม่มีผู้เสียชีวิตในสถานการณ์ดังกล่าว เช่น เหตุการณ์ "ปาฏิหาริย์บนแม่น้ำฮัดสัน" ที่สหรัฐอเมริกาในปี 2009 และเหตุการณ์เครื่องบินลงจอดในไร่ข้าวโพดที่รัสเซียในปี 2019.
ที่มา Reuters
เมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2568 ดร. สุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน เอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา ได้มาพบกับตัวแทนชุมชนไทยในนครลอสแจเลลิสที่ห้องประชุมสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส โดยมี กสญ.ต่อ ศรลัมพ์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ให้การต้อนรับและรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ไฟป่าที่เพิ่งเกิดขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา “ข่าว/ประมวลภาพหน้า 11”
(ภาพ/ข่าว: วลัยพรรณ เกษทอง)
เดวิด ลินช์ ผู้กำกับภาพยนตร์ Dune ในยุค 80 และเป็นผู้สร้างหนังคัลท์สุดคลาสสิกมากมาย เสียชีวิตแล้วขณะมีอายุ 78 ปี หลังล้มป่วยด้วยโรคถุงลมโป่งพอง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เดวิด ลินช์ ผู้กำกับภาพยนตร์มากประสบการณ์ชาวอเมริกัน ผู้กำกับหนังไซไฟฟอร์มยักษ์ “Dune” ฉบับปี ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) และเป็นผู้กำกับหนังคัลท์สุดคลาสสิกอย่าง “ปริศนาแห่งฝัน” (Mulholland Drive) พ.ศ. 2544 และ “Twin Peaks” พ.ศ. 2535 เสียชีวิตแล้วในวันที่ 16 ม.ค. 2568 ขณะมีอายุได้ 78 ปี
ข่าวการเสียชีวิตของนายลินช์ได้รับการเผยแพร่ผ่านหน้าเพจเฟซบุ๊กของครอบครัวของเขา โดยโพสต์ระบุว่า “ตอนนี้มีรูโหว่ขนาดใหญ่เกิดขึ้นบนโลกเมื่อเขา (ลินช์) ไม่อยู่กับเราอีกแล้ว แต่อย่างที่เขา (ลินช์) คงจะพูด ‘จงมองที่โดนัทไม่ใช่ที่รูของมัน’ มันจะเป็นวันที่สวยงาม แสงอาทิตย์สาดส่อง และมีท้องฟ้าสีครามสุดลูกหูลูกตา”
ทั้งนี้ นายลินช์เปิดเผยในเดือนสิงหาคม 2567 ว่า เขากำลังต่อสู้กับโรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งเป็นโรคปอดเรื้อรังชนิดหนึ่ง อันเป็นผลมาจากการสูบบุหรี่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก่อนที่อาการของเขาจะทรุดในช่วงไม่กี่เดือนหลังจากนั้น ซึ่งลินช์เผยในเดือนพฤศจิกายนว่า แค่เดินเขาก็ต้องได้รับออกซิเจนแล้ว
แม้จะถูกมองว่าเป็นผู้กำกับอินดี้ แต่ตลอดอาชีพผู้กำกับของเขา ลินช์เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมถึง 3 ครั้ง จากภาพยนตร์เรื่อง “Blue Velvet” ปี 2529, มนุษย์ช้าง (The Elephant Man) ปี 2523 และจากเรื่อง ปริศนาแห่งฝัน จนกระทั่งได้รับรางวัลออสการ์กิตติมศักดิ์ในปี 2563
ลินช์ได้มีโอกาสกำกับภาพยนตร์เรื่อง Dune ซึ่งดัดแปลงจากวรรณกรรมไซไฟขึ้นหิ้งของ แฟรงก์ เฮอร์เบิร์ต แต่ภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี 2527 เรื่องนี้กลับล้มเหลวทั้งในแง่รายได้และเสียงวิจารณ์ เมื่อหนังถูกนำไปเปรียบเทียบกับภาพยนตร์ที่ดูตื่นตาเร้าใจมากกว่าอย่าง สตาร์วอลส์ ขณะที่ทำรายได้เพียง 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 50 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป Dune ของลินช์กลับค่อยได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชื่นชอบหนังคัลท์ จน Dune เวอร์ชั่นนี้กลับกลายเป็นหนังขึ้นหิ้งอีก 1 เรื่องจากยุค 80
หนังฟอร์มใหญ่เรื่องสุดท้ายของลินช์คือซีรีส์เรื่อง “Twin Peaks: The Return” ซึ่งออกอากาศในปี 2560 และเป็นการสานต่อซีรีส์ “เมืองดิบคนดุ” (Twin Peaks) ที่ฉายจำนวน 2 ซีซั่นในช่วงต้นยุค 90
ที่มา : bbc
เอเอฟพี รายงานวันที่ 17 ม.ค. ว่า ทางการท้องถิ่น นครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา แจ้งประชาชนหลายหมื่นคนที่ได้รับคำสั่งให้อพยพออกจากเขตประสบภัยไฟป่าก่อนหน้านี้ว่ายังไม่อนุญาตให้เดินทางกลับเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์
เพราะเกรงว่าอาจเกิดดินถล่ม รวมถึงมีความเสี่ยงของการถูกไฟฟ้าชอร์ต และสัมผัสกับสารพิษที่ตกค้าง แม้ประชาชนจำนวนจะแสดงความไม่พอใจจากคำสั่งห้ามกลับเข้าที่อยู่อาศัย แต่ทางการย้ำว่าพื้นที่กว่า 40,000 เอเคอร์ หรือประมาณ 101,200 ไร่ซึ่งได้รับความเสียหายจากไฟป่ารุนแรงถือเป็นสถานการณ์ที่อันตรายเกินกว่าจะกลับเข้าไป
นายโรเบิร์ต ลูนา นายอำเภอเขตลอสแองเจลิส กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่า ไฟฟ้า ระบบก๊าซ และท่อระบายน้ำได้รับความเสียหายอย่างหนัก หนำซ้ำยังมีสารพิษกระจายไปทั่วและมีแนวโน้มว่าจะเกิดดินถล่ม “คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ผมจะบอกว่าอย่างน้อยที่สุดว่าอีก 1 สัปดาห์ นั่นเป็นเพียงการประมาณการแต่เชื่อว่าน่าจะนานกว่านั้น”
ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากไฟป่าในนครลอสแองเจลิสเพิ่มเป็นอย่างน้อย 27 ราย ยังสูญหาย 31 ราย สำหรับไฟป่าพาลิเซดส์ไฟร์ที่ลุกลามเผาวอดเกือบ 60,000 ไร่ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมได้แล้วร้อยละ 27 ส่วนไฟป่าอีตันที่สร้างความเสียหายกว่า 35,700 ไร่ สามารถควบคุมได้ร้อยละ 55
ด้านสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (อีพีเอ) เปิดเผยว่าเริ่มดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยไฟป่าเพื่อกำจัดยาฆ่าแมลง เชื้อเพลิง และแบตเตอรี่ลิเธียมออกจากซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือนก่อนจะเดินหน้าทำความสะอาดเก็บกวาดเศษซาก
นายมาร์ก เพสเตรลลา ผู้อำนวยการฝ่ายโยธาธิการของนครลอสแองเจลิส กล่าวว่าโครงสร้างที่ไม่ได้รับผลกระทบอาจเสียหายได้จากดินถล่มและฝน “ในกรณีที่มีฝนตกหนักเราคาดว่าถนนและชุมชนทั้งหมดจะได้รับผลกระทบจากการไหลบ่าของเศษซากซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้”...
“ไฟป่า” พ่นพิษ “นายกเล็กแอลเอ” ชาวเมืองแห่ลงชื่อนับแสนคนไล่พ้นตำแหน่ง ซัดบริหารจัดการผิดพลาด ขาดผู้ภาวะผู้นำจนล้มเหลวดับไฟ
เมื่อวันที่ 17 ม.ค.68 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประชาชนชาวนครลอสแอนเจลิส หรือแอลเอ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ ร่วมกันลงชื่อในเว็บไซต์เชนจ์ดอทโออาร์จี (Change.org) จำนวนมากถึง 150,000 รายชื่อ เพื่อเรียกร้องให้นางแคเรน แบสส์ นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากบริหารจัดการผิดพลาดร้ายแรง และขาดภาวะผู้นำ จนนำไปสู่การล้มเหลวดับไฟป่า ซึ่งไฟป่าบางจุดจนถึง ณ ขณะนี้ก็ยังไม่สามารถดับได้ หลังเกิดไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.เป็นต้นมา
โดยบรรดาชาวนครลอสแอนเจลิส ต่างพากันตำหนิวิพากษ์วิจารณ์นายกเทศมนตรีแบสส์ว่า บริหารจัดการผิดพลาดตั้งแต่เรื่องปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่จะใช้ดับไฟ การจัดสรรเงินภาษีอย่างไม่เหมาะสม จนส่งผลกระทบต่อการดับไฟป่า ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากไฟป่า เช่น บ้านเรือนถูกไฟไหม้จนไร้ที่อยู่อาศัย รวมถึงมีผู้เสียชีวิต ซึ่งสวนทางแตกต่างกับเจ้าหน้าที่นักผจญเพลิงที่พยายามทุ่มเทดับไฟป่า
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน เมื่อวันที่ 16 มกราคม มาร์ค คาร์นีย์ อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา วัย 59 ปี ประกาศเสนอชื่อเข้าร่วมชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีนิยม หลังจากที่ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ประกาศลาออก ที่งานในเมืองเอ็ดมันตันทางตะวันตก โดยแสดงตนว่าเป็นคนนอกที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลของทรูโด
หลังจากที่ ทรูโด ได้ประกาศลาออกเมื่อต้นเดือนมกราคม ท่างกลางความไม่พอใจของสมาชิกรัฐสภาที่กังวลกับผลสำรวจความคิดเห็นของพรรคที่ออกมาไม่ดีมากนัก ด้านทรูโดจะยังคงดำรงตำแหน่งจนกว่าจะมีคนมาแทนที่เขาในวันที่ 9 มีนาคมนี้
นายกฯ คนใหม่ดูท่าทีว่าจะไม่ได้ตำรงตำแหน่งได้นานมากนัก และด้านรัฐบาลเสียงข้างน้อยเองก็อาจถูกโค่นล้มในรัฐสภาได้ทันทีเมื่อถึงเดือนมีนาคม ส่งผลให้การเลือกตั้งที่ผลสำรวจชี้ว่าพรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นฝ่ายค้านจะชนะในการเลือกตั้ง
พรรคอนุรักษ์นิยม กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 16 มกราคม ว่า คาร์นีย์นั้นต่างจากทรูโดเล็กน้อย และยังเป็นคนที่อยู่ห่างไกลจากคำว่าคนนอกมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ด้านคาร์นีย์กล่าวสุนทรพจน์ว่า “ผมช่วยจัดการวิกฤตการณ์ต่างๆ มามากมาย และช่วยรักษาเศรษฐกิจไว้ได้ตั้งสองแห่ง ผมรู้ว่าธุรกิจจะดำเนินไปอย่างไร แล้วก็รู้วิธีที่จะทำให้ธุรกิจนั้นประสบความสำเร็จได้เพื่อพวกคุณ”
คาร์นีย์ ทำงานให้กับบริษัทโกลด์แมน ซาคส์ ก่อนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีฯการคลังของแคนาดาปี 2004 ต่อมาก็ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าฯธนาคารกลางแคนาดาในปี 2007 และต้องรับมือกับผลกระทบจากวิกฤตโลกในปี 2008 อย่างรวดเร็ว และต่อมาในปี 2013 ก็ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าฯธนาคารกลางอังกฤษ ทำให้เขากลายเป็นบุคคลแรกที่เป็นหัวหน้าธนาคารกลางหลักทั้ง 2 แห่ง
หลังจากออกจากธนาคารในปี 2020 เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตพิเศษของสหประชาชาติด้านการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศและการเงิน นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงที่ Brookfield Asset Management และอยู่ในคณะกรรมการบริษัทต่างๆ รวมถึงนักลงทุนในพันธบัตร PIMCO และบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงินยักษ์ใหญ่ Stripe
ท้ายที่สุดนี้ เขาได้ออกจากตำแหน่งการเป็นทูตพิเศษของสหประชาชาติและทิ้งหน้าที่ทั้งหมด ก่อนมาเปิดตัวชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีนิยม...
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012