ข่าว
ป้าละออ วัย 99 ปี ถึงแก่กรรม จัดพิธีศพที่วัดไทย 13-16 มี.ค.นี้

ป้าละออ อเนกานนท์ อายุ 99 ปี อุบาสิกาผู้มั่นคงในพระพุทธศาสนา และวัดไทยแอล.เอ. ได้จากลูกๆ ไปอย่างสงบแล้ว เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม 2556 เวลา 06.02 น. ที่บ้านเมืองฮาเซนด้า ไฮท์ ลูกๆ เตรียมจัดพิธีศพตามประเพณี ณ วัดไทย แอลเอ. ระหว่างวันที่ 13-15 มีนาคม ศกนี้

ป้าละออ อเนกานนท์ เป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิด เกิดที่บ้านถนนอรุณอัมรินทร์ หลังกรมอู่ทหารเรือ เขตบางกอกน้อย สมัยที่ยังเป็นจังหวัดธนบุรี เมื่อวันที่ 16 มกราคม2458 เป็นลูกสาวโทนของนายศรีภักดี (อั๋น) และนางมะปริง สัมฤต จบการศึกษาวิชาพยาบาลจากโรงพยาบาลศิริราช หลักสูตรอนุปริญญา พยาบาลผดุงครรภ์อนามัยเมื่อปี พ.ศ. 2481 แต่งงานกับคุณพ่อพยุง อเนกานนท์ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2482 มีบุตรธิดา 5 คน เป็นชาย 2 หญิง 3 เดินทางมา อเมริกาครั้งแรก เมื่อต้นปี พ.ศ. 2497 โดยติดตามสามีมาที่นครลอสแอนเจลิส และในกลางปี พ.ศ.2498 ได้เดินทางมา อเมริกาอีกครั้งพร้อมสามี โดยนำลูกสาวคนโต อรพรรณ “อี๊ด” อเนกานนท์ มาเรียนต่อระดับไฮสคูลที่โรงเรียนในเมือง พาสดีน่า อยู่กับครอบครัวอเมริกัน ป้าละออและสามีพักอยู่ประมาณ 2 เดือน ก็เดินทางกลับเมืองไทย

ปี พ.ศ. 2505 ป้าละออ พร้อมด้วยครอบครัวและลูกๆ ได้เดินทางมาประกอบอาชีพในนครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐ อเมริกาเป็นการถาวร แม้ว่าป้าละออจะต้องกลับเมืองไทยในปี พ.ศ.2509 เพื่อดูแลมารดาซึ่งป่วยเป็นอัมพาต และเดินทาง กลับมาอีกครั้งในปี 2514 หลังจากที่อยู่เมืองไทยดูแลมารดาจนกระทั่งมารดาจากไป ได้จัดพิธีศพให้มารดาและทำธุรกิจทุก อย่างเสร็จสิ้นเป็นเวลา 5 ปี เริ่มต้นชีวิตใหม่ในอเมริกาด้วยการช่วยเหลือกิจการของลูกๆ และเริ่มทำงานพยาบาลให้คนไข้ ส่วนตัวในปี พ.ศ. 2516 โดยได้เป็นกำลังสำคัญในการจัดตั้ง “สมาคมพยาบาลไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้” เมื่อปี พ.ศ.2520 และได้จัดงาน “ราตรีพยาบาล” เป็นครั้งแรกระดมเงินช่วยสร้างวัดไทยฯได้เป็นจำนวน 16,154.16 เหรียญ

ปี พ.ศ. 2522 ป้าละออได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมคนที่ 2 ต่อจาก คุณจิราพร เครือโสภณ ได้ริเริ่มจัดงาน “นิทรรศการ อาหารและตรวจสุขภาพ” เป็นครั้งแรกที่วัดไทยฯ โดยจัดซุ้มอาหารฟรี และเชิญหมอและพยาบาลตั้งซุ้มตรวจสุขภาพ และ แจกยาฟรีเป็นครั้งแรก นับเป็นจุดสำคัญให้ป้าละออช่วยงานสังคมไทยเป็นต้นมา ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้รู้ขนบธรรมเนียม ประเพณีไทยแม่นที่สุดคนหนึ่งของชุมชนไทย ได้รับเชิญให้เป็นนักเขียนประจำหนังสือพิมพ์ “ประชามติ” ตอบปัญหาชีวิต ในคอลัมน์ “เรียนป้าละออ” ได้รับเชิญเป็นผู้ใหญ่จัดพิธีรดน้ำสังข์งานแต่งงานของคนไทยอยู่เสมอ

ในส่วนของวัดไทยฯ นับได้ว่าป้าละออเป็นอุบาสิกาผู้มั่นคงของวัดไทยฯ ได้ช่วยเหลือกิจการของวัดมาตั้งแต่เริ่มสร้างวัดใหม่ๆ โดยริเริ่มตั้งโรงเรียนแกะสลักผักผลไม้ร่วมกับป้าเรณู หิรัญรัตน์ (ปัจจุบันเป็นแผนกหนึ่งของโรงเรียนพุทธศาสนาวัดไทยฯ) รณรงค์หาเงินสร้างวัดร่วมกับสมาคมพยาบาลไทย เป็นผู้ริเริ่มงานวางพวงมาลาถวายบังคมพระบรมรูปทรงม้าครั้งแรกของวัด จัดงานนมัสการหลวงพ่อแก้วศักดิ์สิทธิ์ และริเริ่มจัดทำก่อพระเจดีย์ทรายในงานสงกรานต์ เป็นต้น

คณะสงฆ์และกรรมการวัดไทยฯ โดย หลวงพ่อใหญ่ ท่านเจ้าคุณ พระราชธรรมวิเทศ เจ้าอาวาส ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัว “อเนกานนท์” มา ณ โอกาสนี้ คณะเจ้าภาพกำหนดจัดพิธีบำเพ็ญกุศล รดน้ำศพและสวดพระอภิธรรมที่วัดไทย ระหว่างวันที่ 13-14-15 มีนาคม 2557 โดยวันแรกที่ 13 มีนาคม เวลา 18.00 น. หรือ 6 โมงเย็น เป็นพิธีรดน้ำศพ เวลา 19.30 น. พระสงฆ์ 4 รูป สวดพระอภิธรรม วัดไทยฯ และมูลนิธิวัดไทยฯ สมาคมพยาบาลไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ

ขอเชิญท่านที่เคารพนับถือไปร่วมพิธีตามวันและเวลาดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

'ฝน วีรสุนทร' เจ้าของรางวัลออสการ์ ผู้อยู่เบื้องหลังหนังยอดเยี่ยม FROZEN

หลังพรมแดงถูกพับเก็บ เมื่องานประกาศผลรางวัลออสการ์ปีล่าสุดได้ปิดฉากลง สำหรับคนไทยจำนวนหนึ่งซึ่งสนใจข่าวสารภาพยนตร์แบบเกาะติดสนิทแนบและรู้ทุกรายละเอียด ก็เริ่มมีการแชร์เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งใช้ชื่อว่า “ฝน วีรสุนทร” ในฐานะคนไทยผู้เป็นหนึ่งในทีมเบื้องหลังของหนังแอนิเมชั่นอย่าง Frozen

และสำหรับใครก็ตามที่เป็นแฟนเพจของวอลต์ ดิสนีย์ จะพบว่า หนึ่งในข่าวที่ถูกฟีดออกมาจากดิสนีย์ คือภาพของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งยืนถือตุ๊กตาทอง ซึ่งทางค่ายเพิ่งได้รับมาสดๆ ร้อนๆ จากเวทีออสการ์ กับหนังเรื่อง Frozen ซึ่งเป็นแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมของออสการ์ปีนี้ “ฝน วีรสุนทร” มีบทบาทร่วมในฐานะ “Story Artist” รับผิดชอบในด้านการทำสตอรี่บอร์ด ทั้งนี้ ยังมีคนไทยอีกสองคนซึ่งมีส่วนร่วมในงานชิ้นนี้ด้วย ตามที่ปรากฎ Sunny Apinchapong กับตำแหน่ง Visual Development Artist และ Rattanin Sirinaruemarn ในตำแหน่ง Effects apprentice

ตามประวัติที่มีการแชร์กันนั้น ฝน วีรสุนทร จบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหิดล เพราะมีใจรักงานด้านศิลปะและแอนิเมชั่น เธอจึงเดินทางไปศึกษาต่อที่ Columbus College of Art & Design ก่อนจะพัฒนาฝึกฝนตนเองจนเกิดความเชี่ยวชาญในงานด้าน Storyboarding, Feature Films, Character Animation, Visual Development และ Illustration

ที่ผ่านมา เธอมีผลงานด้านอนิเมชั่นออกมาอย่างต่อเนื่อง และสามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีม Story Artist แห่งค่าย Walt Disney Feature Animation โดยมี Frozen เป็นผลงานล่าสุดในฐานะนักสตอรี่บอร์ด อาร์ทิสต์ ปัจจุบัน เธอพักอาศัยอยู่กับสามีที่บอร์แบงก์ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา


ฝนกระหน่ำ’แอล.เอ.’ หนักสุด-เสี่ยงดินถล่ม

พายุทำให้เกิดฝนตกหนักในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในพื้นที่ทางใต้ โดยลอสแอนเจลิสต้องเผชิญฝนตกติดต่อกัน 12 ชั่วโมงเมื่อวันศุกร์...

เมื่อวันที่ 1 มี.ค. เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ในสหรัฐอเมริกา ในวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังพายุเข้าเมื่อวันพุธ แม้จะทำให้รัฐ ซึ่งพยากรณ์อากาศระบุว่ากำลังแห้งแล้งที่สุดในรอบ 100 ปี ชุ่มชื้นขึ้น แต่ชุมชนแถบภูเขากำลังเสี่ยงเผชิญกับดินถล่ม และคาดว่าลอสแอนเจลิสจะเผชิญฝนตกหนักที่สุดในรอบ 3 ปี

ที่นครลอสแอนเจลิสเกิดฝนตกหนักติดต่อกัน 12 ชั่วโมงเมื่อวันศุกร์ วัดระดับน้ำได้ 1.53 นิ้ว เทียบเท่ากับปริมาณฝนที่ตกในลอสแอนเจลิสช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ทางการต้องประกาศเตือนภัยน้ำท่วมในบางจุด ถนนหลายสายถูกปิด เพราะระดับน้ำที่เพิ่มสูง ส่วนที่ซานฟรานซิสโก ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมขังเช่นกัน และท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโก ต้องยกเลิกเที่ยวบิน 57 เที่ยว

กรมพลังงานและน้ำแห่งลอสแอนเจลิส ประกาศเฝ้าระวังไฟดับ จะมีผู้บริโภคไฟฟ้าราว 14,000 รายไม่มีไฟฟ้าใช้ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดย 3,190 รายในจำนวนนี้ อยู่ที่เมืองอีสต์ฮอลลีวูด ส่วนที่เหลืออยู่ที่เมืองเวอร์มอนต์, วิสตา, ซอร์เทลล์, เอโค ปาร์ค และ คาโนกา ปาร์ค แห่งละไม่ต่ำกว่า 1,500 ราย

นอกจากนี้ ทางการยังออกคำสั่งอพยพครอบคลุมประชาชน 1,000 ครัวเรือน ในเมืองอาซูซา และเกรนโดรา ทางตะวันออกของลอสแอนเจลิส เนื่องจากเสี่ยงเกิดโคลนถล่ม เพราะต้นไม้ที่เคยยึดหน้าดิน ถูกไฟป่าเมื่อเดือน ม.ค. เผาทำลายไปมาก อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านบางส่วนตัดสินใจที่จะอยู่เฝ้าทรัพย์สินในบ้านของตัวเอง

เจ้าหน้าที่กรมดับเพลิงลอสแอนเจลิส ต้องออกแถลงข่าวเตือนให้ประชาชนในเมืองเกรนโดรา ปฏิบัติตามคำสั่งอพยพ เพราะพายุฤดูหนาวลูกที่ 2 ทำให้เกิดฝนตกหนักในรัฐแคลิฟอร์เนียต่อไปอีก และหากเกิดภัยพิบัติ เจ้าหน้าที่จะไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีได้

ด้านสำนักงานสภาพอากาศแห่งชาติ (เอ็นดับเบิลยูเอส) ของสหรัฐฯ ประกาศเตือนว่า ตั้งแต่วันศุกร์ไปจนถึงช่วงเช้าวันอาทิตย์ พายุจะทำให้เกิดฝนตกปริมาณน้ำ 2-4 นิ้ว บริเวณชายฝั่งและหุมเขา และจะทำให้ฝนตก 4-8 นิ้วในพื้นที่แถบภูเขาและตีนเขา

ทั้งนี้ ฝนที่ตกลงมาในแคลิฟอร์เนีย ช่วยต่อลมหายใจแก่เกษตรกรและชาวบ้านแถบชนบท ที่ปริมาณน้ำสำรองจะหมดลงใน 2 เดือนข้างหน้า เนื่องจากอากาศที่แล้งจัดที่สุดในรอบ 100 ปี จนรัฐต้องประกาศรับมือภัยแล้ง โดยให้ประชาชนลดการใช้น้ำลง แต่นายทิม ควิน ผู้อำนวยการบริหารของสมาคมองค์กรน้ำแห่งแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า ฝนที่ตกลงมาช่วยได้บ้างจริง แต่แคลิฟอร์เนียอาจต้องการน้ำมากกว่านี้เกือบ 20 เท่า จึงจะพ้นวิกฤติ


ลาสเวกัส อันดับหนึ่งสถานที่ นักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก

เว็บไซต์ด้านการท่องเที่ยวยอดนิยมของสหรัฐอเมริกา เผยอันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดในโลก 50 อันดับ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของอเมริกา ติดอยู่ในรายชื่อถึง 27 แห่ง...

เว็บไซต์ เลิฟ โฮม สแวป เผย 50 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดในโลก โดยอันดับ 1 คือลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวน 39,668,221 คนต่อปี โดยเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวก็ คือ กาสิโนขนาดใหญ่จำนวนมากสร้างสีสันให้เมืองนี้น่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อย

ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ ย่านไทม์สแควร์ นครนิวยอร์ก ของสหรัฐอเมริกาเช่นกัน โดยมีนักท่องเที่ยวถึง 39,200,000 คนต่อปี โดยเฉพาะช่วงเดือน มกราคม-มีนาคม และ มิถุนายน-สิงหาคม จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสความทันสมัย และความแข็งแกร่งของมหานครที่ไม่เคยหลับไหลของโลกอย่าง ไทม์สแควร์ด้วย เช่นเดียวกับบริเวณใกล้เคียงอย่าง เซ็นทรัล ปาร์ค ในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ ที่ตามมาเป็นอันดับ 3 โดยมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมามากถึง 37,500,000 คนต่อปี

นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศสหรัฐอเมริกาติดอยู่ใน 50 อันดับมากถึง 27 แห่ง รองลงมา คือ ประเทศฝรั่งเศส ที่ติดอันดับทั้งหมด 6 แห่ง ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวในเอเชียที่ติดอันดับก็มีทั้ง ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ และประเทศจีน แต่สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยไม่ติดอันดับแต่อย่างใด.


กสญ.แจ้งคนไทยในต่างแดน กำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้า

ตามที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ได้ประกาศเชิญชวนลงทะเบียนการขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 นั้น

สถานกงสุลใหญ่ฯ ขอประกาศว่า บัดนี้ ได้มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเป็นการทั่วไป ในวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2557 แล้ว สถานกงสุลใหญ่ฯ จึงประกาศกำหนดวัน เวลา ที่เลือกตั้ง และวิธีการลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ดังนี้

ให้มีการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งทางไปรษณีย์ โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ จะจัดส่งบัตรเลือกตั้ง และเอกสารที่เกี่ยวข้องพร้อมด้วยซองจดหมายติดอากรแสตมป์ไปยังผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร และเมื่อลงคะแนนเลือกตั้งแล้วให้ส่งบัตรเลือกตั้งกลับมายังสถานกงสุลใหญ่ฯ ภายในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 โดยถือตามตราประทับไปรษณีย์

นอกจากการจัดส่งบัตรเลือกตั้งกลับมายังสถานกงสุลใหญ่ฯ ทางไปรษณีย์แล้ว ผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้ง นอกราชอาณาจักรที่ได้รับบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ สามารถหย่อนบัตรเลือกตั้งที่บรรจุในซองใส่บัตรด้วยตนเอง ณ ที่ทำการสถานกงสุลใหญ่ฯ ที่อยู่ 611 North Larchmont Blvd., 2nd Fl., Los Angeles, CA 90004 ระหว่างวันที่ 18 - 21 มีนาคม 2557 ในเวลาราชการ (เวลา 09.00 น. – 16.00 น.)

ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่ลงทะเบียนกับสถานกงสุลใหญ่ฯ สามารถตรวจสอบข้อมูลการลงทะเบียนได้ที่เว็ปไซด์ www.Khonthai.com ในหน้าแรก ด้านซ้ายมือ ให้เลือกตรวจสอบข้อมูลการเลือกตั้ง จะเห็นภายในช่องสีเขียวข้อมูลการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร จากนั้นกดเลือกตรวจสอบข้อมูลผู้ลงทะเบียน โดยใส่เลขประจำตัวบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก จะพบข้อมูลการลงทะเบียนรวมทั้งที่อยู่ของท่าน ในกรณีข้อมูลที่อยู่ของท่านไม่ถูกต้อง ท่านสามารถแจ้งขอให้สถานกงสุลใหญ่ฯ แก้ไขข้อมูลได้ที่โทร. (323) 962-9574 ต่อ 215, 208, 223 และ 224 หรือแจ้งผ่านอีเมล์สถานกงสุลใหญ่ฯ ที่ info@thaiconsulatela.org ภายในวันที่ 14 มีนาคม 2557

พบเหรียญทองคำ $10 ล้าน อาจเป็นของที่ถูกขโมยมา

คู่รักชาวแคลิฟอร์เนียที่ขุดพบกล่องบรรจุเหรียญทองคำโบราณมูลค่ากว่าสิบล้านเหรียญสหรัฐคงต้องพบกับความผิดหวัง เนื่องจากมีการค้นพบว่าเหรียญทองคำเหล่านั้นอาจถูกขโมยมาอีกทีจากโรงกษาปณ์ในปี 1990 ซึ่งถือว่าควรจะตกเป็นสมบัติของรัฐ

สำนักข่าว San Francisco Chronicle รายงานว่า Jack Trout ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตกปลาแห่ง Northern California และยังเป็นนักประวัติศาสตร์ กับนักสะสมเหรียญโบราณ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการขโมยเหรียญที่ได้มาจากหนังสือพิมพ์ฉบับเก่าที่ค้นได้จากห้องสมุดออนไลน์ (Haithi Trust Digital Library)

สองสามีภรรยาชาวแคลิฟอร์เนีย ที่ยังคงถูกปกปิดรายละเอียดตัวตน พบส่วนของกระป๋องเก่าที่ถูกฝังอยู่ในดินโผล่ขึ้นมาให้เห็นตรงทางเดินที่เขามักจะใช้เดินออกกำลังอยู่หลายครั้งจึงลองเขี่ยออกมาดู ทำให้เจอเหรียญทองคำมูลค่าร่วมสิบล้านเหรียญสหรัฐตามข่าว

“อยู่ๆมันก็เหมือนเจอปัญหาก้อนใหญ่เข้าให้” สองสามีภรรยาบอกกับผู้เชี่ยวชาญด้านเหรียญสะสม Don Kagin จากบริษัท Kagin’s ซึ่งทั้งสองเองยังว่าจ้างให้ประธานบริษัทของ Kagin’s และ Holabird-Kagin Americana ตัวแทนจำหน่ายและขายทอดตลาด ให้เป็นตัวแทนสานต่อเรื่องแทนเขาอีกด้วย

เหรียญทองดังกล่าวยังไม่เคยถูกหมุนเวียนใช้ในระบบและยังอยู่ในสภาพที่เพิ่งถูกผลิตเสร็จจากโรงกษาปณ์ และมีมูลค่าในขณะนั้นอยู่ที่ $27,000 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวนี้ตรงกับข่าวการปล้นทองจากโรงงานกษาปณ์ของSan Francisco ในปีค.ศ. 1900

Jack Trout บอกกับนักข่าวว่า เหรียญที่ถูกพบนี้มีส่วนหนึ่งที่เป็นเหรียญทองของปี 1866 มูลค่า $20 ซึ่งมีรูปเทพีเสรีภาพสลักอยู่เป็นเหรียญอันที่มีชื่อเสียงที่สุดเนื่องจากด้านหลังไม่มีคำว่า“In God We Trust” ซึ่งอาจเชื่อมโยงได้ว่าเหรียญส่วนนี้เป็นสมบัติส่วนตัวของใครคนหนึ่งที่ถูกผลิตขึ้นมาเองโดยผู้คุมของโรงงานกษาปณ์ (Granite Lady) หรือใครก็ตามที่สามารถเข้าไปด้านในนั้นได้ Trout ยังบอกกับนักข่าวอีกว่า “มีความเป็นไปได้สูงว่ามันจะถูกผลิตขึ้นมาเพื่อแก้แค้นจากเหตุการณ์การลอบสังหารประธานาธิปดี Lincoln ที่เกิดขึ้นใน 1 ปีก่อนหน้า (14 เมษายน ค.ศ 1865) ผมไม่เชื่อว่าเหรียญพวกนี้จะถูกเคลื่อนย้ายออกจากโรงผลิตได้ถ้าไม่ถูกขโมยไป ซึ่งการค้นพบที่เกิดขึ้นนี้ เป็นข้อมูลที่สำคัญที่สามารถเชื่อมโยงไปสู่การทุจริตภายในที่เกิดขึ้นในโรงกษาปณ์กว่าทศวรรษที่ผ่านมา”

ตัวแทนฝ่ายโรงผลิตเหรียญ Adam Stump กล่าวเมื่อได้ให้สัมภาษณ์กับทางข่าว ABC News ว่า “เรายังไม่มีข้อมูลที่บ่งบอกว่ามีการขโมยเหรียญทองคำจากโรงงานกษาปณ์ภายในประเทศเลย ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโรงงานกษาปณ์San Francisco ก็หมดอายุไปแล้ว และถูกย้ายไปเก็บที่คลังข้อมูลของประเทศ the National Archive and Records Administration (NARA) อยู่ภายใต้กลุ่มที่ 104 สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.archives.gov/."

หลังจากข่าวของเหรียญทองคำที่ถูกค้นพบแพร่ออกไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ตัวแทนจำหน่ายเหรียญ Kagin ได้พูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “ตั้งแต่ปี 1981 มีคนหลายคนนำเหรียญที่ค้นพบจำนวน 1 ถึง 2 เหรียญที่มีมูลค่าแค่ไม่กี่พันเหรียญมาติดต่อเขา แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เจอคนที่ขุดพบเหรียญทองคำจำนวนมากมายขนาดนี้ และยังมีมูลค่าเป็นล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าโอกาสเกิดขึ้นไม่ง่ายเลย ยากยิ่งกว่าการถูกหวยเสียอีก” Kagin บอกแก่ ABCNews.com

คู่สามีภรรยาที่ตกเป็นข่าวหลังจากค้นพบกระป๋องบรรจุเหรียญทองคำ 5 กระป๋องที่เมือง Tiburon ที่พวกเขาอาศัยอยู่เมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา และหลังจากให้สัมภาษณ์กับทาง Kagin ไปแล้วนั้นพยายามปกปิดตัวตนของพวกเขา “ฉันไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่มันก็แปลกที่ฉันก็รู้สึกมีลางสังหรณ์เหมือนกันว่าสักวันจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับฉัน” ทั้งคู่กล่าว

“ฉันเห็นกระป๋องเก่าโผล่ออกมาจากพื้นดินตรงทางที่เราใช้เดินออกกำลังทุกวันมานานหลายปี ฉันเลยก้มลงไปมองใกล้ๆ ก็เลยเห็นว่าเป็นด้านข้างของกระป๋อง พอลองโยกไปมาจนตะไคร่ที่ปกคลุมหลุดออก เลยทำให้เห็นชัดว่ามันคืออะไร”

“เหรียญทองจำนวน 1,427 เหรียญ เกือบทั้งหมดนั้นมีอายุอยู่ในช่วงปี 1847 – 1894 สภาพเพิ่งถูกผลิตออกมาจากโรงกษาปณ์ และยังไม่ถูกหมุนเวียนใช้ในระบบการเงิน” Kagin กล่าวต่อ ABCNews.com

เขายังบอกอีกว่าสองสามีภรรยามีแผนที่จะขายเหรียญเกือบทั้งหมด แต่ก่อนจะทำเขาได้ให้ทางองค์กรที่ศึกษาเกี่ยวกับเหรียญแห่งสหรัฐอเมริกา ยืมไปจัดแสดงในงาน National Money Show ที่จะเปิดในวันพฤหัสนี้ ที่ Alanta

“บางส่วนของเหรียญหายากนี้สามารถขายได้ในราคาชิ้นละมากกว่าหนึ่งล้านเหรียญสหรัฐ” Kagin กล่าว เขายังบอกอีกว่าคู่รักทั้งสองมีความประสงค์จะขายเหรียญในสัดส่วน 90% ของทั้งหมดผ่านทาง Amazon.comและผ่านทางเว็ปไซต์ของบริษัทเขา“

“เราอยากนำเงินส่วนนี้ไปช่วยเหลือคนอื่นๆ ยังมีคนอีกหลายคนในชุมชนของเราที่หิวโหยและไม่มีอะไรจะกิน และเราก็จะนำส่วนหนึ่งไปบริจาคช่วยเหลือด้านศิลปะและบรรดามูลนิธิที่ไม่ได้รับการเหลียวแล นี่เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะเป็นผู้ให้คืนสู่สังคมบ้าง” ทั้งคู่กล่าว

Kagin และเพื่อนร่วมงานของเขา David McCarthy นักวิจัยและนักสะสมเหรียญรุ่นอาวุโสของบริษัท Kagin เจอกับคู่สามีภรรยาเมื่อเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา สองเดือนถัดมาหลังจากเหรียญทองถูกค้นพบ เมื่อ McCarthy และ Kagin บอกกับทั้งสองว่าการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของการสะสมเหรียญเร็วๆนี้อย่างแน่นอน คู่รักกล่าวตอบว่า “มันต้องน่าเสียดายมากแน่ๆถ้าไม่ได้บอกเล่าต่อถึงการค้นพบที่สำคัญของเรา เราอยากให้บันทึกและเก็บเรื่องราวของเหรียญที่มีค่านี้ไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ต่อไป”


(แปละและเรียบเรียงโดย ธัญญ่า บราวน์)