ข่าว
'สุเทพ' ปลุกม็อบ รับคำท้า 'ยิ่งลักษณ์' สู้แดง

"สุเทพ" ปลุกม็อบ รับคำท้า "ยิ่งลักษณ์" สู้ม็อบแดง ขอทหารอย่าตกเป็นเครื่องมือรัฐ ดักคอ "แจ๊ส" อย่าลุอำนาจ เอาคนนอกไปฝึกมาปราบผู้ชุมนุม...

เมื่อเวลา 20.10 น. วันที่ 8 พ.ย. 56 นายสุเทพ เทือกสุบรรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะแกนนำการชุมนุมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กล่าวปราศรัยบนเวทีการชุมนุมคัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ตอนหนึ่งว่า ตนเชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้จะไม่มีวันหายไปจากสารบบของสภาฯ ตามเวลาที่กำหนด คือ 18.00 น.ของวันที่ 11 พ.ย. ขณะนี้มีทางเดียวคือ ให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ นำกฎหมายชั่วนี้ กลับมาประชุมร่วมกับประธานคณะกรรมาธิการสามัญทุกคณะ เพื่อให้ลงมติว่าเป็นกฎหมายการเงิน เพื่อให้นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เซ็นรับรองว่า ไม่รับรองกฎหมายนี้ ภายในเวลา 18.00 น.ของวันที่ 11 พ.ย. ถือเป็นคำขาดของมวลมหาประชาชน แล้วศาลไคฟงจะเปิดดำเนินการ แต่วันนี้สัญญาณชัดเจนจากนายกฯ ที่หลอกลวงเราว่าจะถอย แต่กลับแอบไปสั่งให้คนเสื้อแดงออกมาสู้กับพวกเรา ที่สนามเมืองทองธานี สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขึ้นป้ายเชียร์กฎหมายชั่วนี้ ขณะเดียวกันก็สั่งระดมตำรวจทั่วประเทศมาฝึกขว้างแก๊สน้ำตาทุกเช้า นายกฯย่ิงลักษณ์กำลังเตรียมเผชิญหน้ากับประชาชนโดยไม่แยแส กำลังท้าท้าย อวดดี ว่าเป็นรัฐบาล เป็นนายกฯ มีอำนาจระดมคนได้มากกว่าคนที่มาต่อต้าน เมื่อนายกฯท้าประชาชนแล้ว ถ้าพวกเราจะรับคำท้ามันหรือไม่ ขอให้ออกมาจากบ้านมานอนที่ถนนราชดำเนินด้วยกัน ว่ามันหรือเราใครจะมากกว่ากัน ขณะที่ผู้ชุมนุมตะโกนว่า "ออกไป" และเป่านกหวีดเสียงดังลั่น

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ขอส่งสารไปยังตำรวจ ที่นายกฯเกณฑ์มาลำบากใน กทม. ว่า ประชาชนไมได้ทำผิดกฎหมาย มาชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้ทำอะไรผิดขอให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.จำใส่กะโหลกเอาไว้ ประชาชนอยู่ดีๆ อย่ามายุ่ง ขอให้ตำรวจมีสติ เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ อย่าลุแก่อำนาจต่อประชาชนผู้บริสุทธ์ิและเป็นพลเมืองดีเป็นเด็ดขาด ขอให้ทำใจให้เที่ยงธรรม อย่าทำตัวน่าละอาย เพราะเสื้อแดงมาชุมนุมไม่จับ แต่วันนี้ประชาชนมาชุมนุมจะมาจับต้องปฏิบัติตรงไปตรงมา ไม่จับเสื้อแดง พวกเราก็ต้องชุมนุมได้ สำหรับทหารทุกกองทัพ ตนขอเป็นตัวแทนประชาชนส่งความปรารถนาดีไปยังทหารทุกคน ที่เราเคยกอดคอกันปกป้องรักษาบ้านเมืองกฎหมายมาด้วยกัน เพื่อนทหารที่ตนรักคือ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม เสียชีวิตที่นี่ ภรรยาท่านก็อยู่ที่ พี่น้องทหารที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ เพราะคนของพวกรัฐบาลนี้กระทำ ยังเจ็บปวดจนถึงวันนี้ และจะไม่ลืมทั้งชีวิต ขอให้ทหารอย่าลืมความเจ็บปวดว่า พวกมันทำกับพี่น้องเราอย่างไร ตนไม่ได้ร้องขอให้ทหารออกมาต่อต้านรัฐบาล ขอเพียงอย่าเป็นเครื่องมือของรัฐบาลเท่านั้นพอ

"ขอให้ทหารทุ่มเทสมาธิจิตใจไปดูแลพื้นที่เขาพระวิหาร อย่าให้แผ่นดินเสียไปแม้แต่ตารางนิ้วเดียว อย่ายอมให้เพื่อนไอ้แม้วเอาแผ่นดินไปไทยไป ไม่ว่าศาลโลกจะตัดสินอย่างไร คนไทยเอาใจช่วยทหาร ขอให้รบเพื่อชาติ ส่วนศัตรูของประชาชนพวกเราจะจัดการกันเอง ประกาศผู้ชุมนุมอย่าต่อสู้ หากเจ้าหน้าที่บุกจับ" นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า วันนี้คนของพรรคเพื่อไทยไปแจ้งความเพื่อจับตนว่าเป็นกบฏจะตั้งศาลประชาชน ขอชี้แจงว่า ศาลที่จะตั้งขึ้น เราจะถามมติของมวลมหาประชาชนว่า จะเอาอย่างไรกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์และพี่ชาย ทั้งนี้แกนนำได้ตกลงกันแล้วว่าจะสู้ที่นี่ต่อไป เราจะไม่บุกโจมตี จะนั่งสู้อยู่ตรงนี้ หากจะมาจับขอหากบฏก็มาจับ แต่ถ้าจับประชาชนก็จะคล้องแขนให้จับไปให้หมดในที่นี่เลย ไม่มีคุกที่ไหนที่จะจับเราได้ทั้งหมด ถ้าเจ้าหน้าที่มาจับหรือสลายการชุมนุม เราจะนั่งเฉยๆ ไม่สู้กับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง แต่เรามีสิทธิสู้เพื่อรักษาชีวิตของเรา ตนจะขอสู้ไปกับพี่น้องจนกว่าพวกเราจะชนะ เพราะทราบว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เอาคนนอกไปฝึกมาเพื่อปราบเรา มันผิดกฎหมาย วันหน้าจะเอาคืนแน่ ตอนมี ศอฉ. มีทหารแตงโม มีตำรวจมะเขือเทศ แต่ใน ศอ.รส. สุเทพก็มีเพื่อนสุเทพเหมือนกัน มันทำอย่างไรเราก็รู้หมดเช่นกัน.

'ปู'ย้ำจนท.อดทน ห้ามทำร้ายปชช.

'นายกฯ' ย้ำจนท.ใช้ความอดทนอดกลั้น ห้ามทำร้ายประชาชนเด็ดขาด ห่วงตำรวจ 4,800 นายดูแลม็อบ สั่ง 'หมูปิ้ง-ไก่ย่าง' เลี้ยงพรุ่งนี้

8 พ.ย.56 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในวันนี้ว่า นายกฯได้เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาโปรยปรายและการรักษาความปลอดภัยภายใต้การประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรที่มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งภายในและรอบนอกทำเนียบรัฐบาลจำนวนมาก

โดยเมื่อเวลา 09.15 น. นายกฯทำการบันทึกเทปประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียและแปซิฟิก Connect Asia-Pacific Summit 2013 และการจัดงาน ITU Telecom World 2013 จากนั้นมีคณะนักกีฬาเทควันโดที่ชนะเลิศการแข่งขันจากประเทศเกาหลี เข้าเยี่ยมคาระ และต่อจากนั้นนายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้และผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ เข้าพบเพื่อรายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาการบริการขั้นพื้นฐานของสถานีรถไฟหัวลำโพง

ทั้งนี้เนื่องจากในวันนี้ที่ฝนตกลงมาต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อคืนทำให้ตำรวจต้องยืนรักษาการคุ้มกันท่ามกลางสายฝน และต้องหาที่กำบังหลบฝนตามมีตามเกิด จนกระทั่งเวลา 10.00น. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลและได้เดินสำรวจความเป็นอยู่ของเจ้าหน้าที่ และจากนั้นได้ขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อเข้าพบนายกรัฐมนตรี และมีกระแสข่าวว่านายกฯจะลงจากตึกไทยคู่ฟ้ามาพบและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้บริเวณนอกรั้วด้านนอกสนามหญ้าตึกไทยคู่ฟ้า มีการเรียกตรวจแถวตำรวจชุดควบคุมฝูงชนที่มารักษาการในทำเนียบรัฐบลาลเพื่อรอนายกฯ

จนกระทั่งเวลา 10.30น. พล.ต.อ.พงศพัศ เดินลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้าและแจ้งกับสื่อมวลชนว่านายกฯติดภารกิจไม่สามารถลงมาพบตำรวจได้ ทำให้พล.ต.อ.พงศพัศ ทำการพูดจากับกับตำรวจที่ตั้งแถวรอว่า ตนเป็นตัวแทนนายกรัฐมนตรีนำเรียนความปรารถนาดีของนายกฯที่อยากออกมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเอง แต่เนื่องจากติดภารกิจจำนวนมาก จึงไม่สามารถมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเองได้ แต่ก็จะพยายามหาเวลาว่างมาเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ใช้ความอดทนและไม่ทำร้ายประชาชนโดยเด็ดขาด ซึ่งวันพรุ่งนี้ (9 พ.ย.) นายกรัฐมนตรีจะเป็นเจ้าภาพนำข้าวเหนียว ไก่ย่าง หมูปิ้ง มาเลี้ยงอาหารกลางวันแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4,800 นาย ที่ดูแลปฏิบัติหน้าที่ทุกคนที่รักษาความปลอดภัยรอบทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา และจะประสานเรื่องจัดหารถสุขาจาก กทม.มาเพิ่มเติมให้ เนื่องจากปัจจุบันมีรถสุขา ของ กทม.เพียงคันเดียว ซึ่งไม่เพียงพอกับจำนวนเจ้าหน้าที่ รวมทั้งจะจัดหาสถานที่พักผ่อนเพิ่มให้ด้วย

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังเป็นห่วงสุขภาพเนื่องจากขณะมีฝนตกลงมา ซึ่งตนจะประสานและนำเรียนไปทาง ผบ.ตร.อีกครั้ง อย่างไรก็ตามนโยบายสำคัญ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำและฝากถึงเจ้าหน้าฝ่ายปฏิบัติทุกคนว่าขอให้ใช้ความอดทน อดกลั้นบนพื้นฐานการรักษากฎหมายและการดูแลความปลอดภัยของประชาชนทุกคน และขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคน

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าพรุ่งนี้นายกฯเลี้ยงข้าวกลางวันจะมีการหักเบี้ยเลี้ยงค่าอาหารตำรวจในมื้อที่นายกฯเลี้ยงหรือไม่ ปรากฏว่า พล.ต.อ.พงศพัศ ยิ้ม แต่ไม่ตอบคำถาม เมื่อถามว่าการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงของตำรวจครั้งนี้จะมีปัญหาและล่าช้าหรือไม่ พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ในส่วนของเบี้ยเลี้ยงมีการเบิกมาและจ่ายเข้ากระเป๋าตำรวจหมดแล้วเพื่อให้ตำรวจมีเงินใช้จ่ายในช่วงที่มาปฏิบัติหน้าที่ผลัดละ 10 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายให้ข้อมูลตรงกันว่า ได้รับเบี้ยเลี้ยงในการมาปฏิบัติราชการที่ทำเนียบรัฐบาลภายใต้พรบ.ความมั่นคงว่า ได้รับเบี้ยเลี้ยงวันละ 500 บาท แต่โดนหักค่าอาหาร 4 มื้อ จำนวน 200 บาท ต่อวัน ทำให้เหลือเงินมาถึงมือวันละ 300 บาท ส่วนเรื่องที่หลับที่นอนนั้นก็ลำบากโดยเฉพาะช่วงฝนตก รวมทั้งการเข้าห้องน้ำและอาบน้ำก็ลำบากด้วยเช่นกัน


"ชูวิทย์" โพสต์อัดปชป "ได้ทีขี่แพะไล่" รั้งม็อบ

ภายหลังจากที่เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แถลงการณ์หน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยระบุว่า รัฐบาลได้ถอนร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับการปรองดองทั้ง 6 ฉบับแล้ว ทั้งพรรคเพื่อไทยและสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่าจะถอนกฎหมายนิรโทษกรรมนี้ออก ดังนั้น เรื่องนี้จึงน่าจะจบสิ้นได้แล้ว ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการชุมนุม และยืนยันว่า วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของร่างนี้ต้องการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลพวงรัฐประหาร ไม่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริต ขณะที่ การชุมนุมของมวลชนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน ในเวทีประชาชน ภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังคงดำเนินการจัดกิจกรรมคัดค้าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย ของนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อยู่ เนื่องจากต้องผ่านการพิจารณาของ สมาชิกวุฒิสภาก่อน แล้วถึงจะตีกลับไปที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พิจารณา ภายใน 180 วัน และไม่ได้เป็น พ.ร.บ. ที่นายกฯ ระบุว่า มีการถอดถอนไปทั้ง 6 ร่างที่ว่าแต่อย่างใดนั้น ประกอบกับ บนเวทีปราศรัยของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำในการชุมนุม ประกาศบนเวทีปราศรัยว่า ในวันที่ 11 พฤศจิกายน เวลา 18.00 น. หากรัฐบาลไม่ถอนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้พ้นจากสารบบ จะตั้งศาลประชาชนขึ้นกลางถนนราชดำเนิน เพื่อให้ประชาชนพิจารณาพฤติกรรมทั้งหลายทั้งปวงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมทั้งคนในตระกูลชินวัตร ที่กระทำต่อประเทศไทย ว่าสิ่งที่ได้ทำมานั้นผิดหรือถูกอย่างไร นั้น

เมื่อประมาณ 01.00 น. วันที่ 8 พฤศจิกายน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทสไทย ได้เขียนข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก "ชูวิทย์ I′m No.5" ระบุข้อความ ท่าทีของกลุ่มประชาชนที่ออกมาคัดค้าน ภายหลังนายกฯ ออกแถลงการณ์ ดังนี้

"ได้ทีขี่แพะไล่

นี่เป็นสิ่งที่ "ประชาธิปัตย์" ถนัด มีคนเขาแซวว่า พรรคประชาธิปัตย์เหมาะสมกับการเป็น "พรรคฝ่ายค้าน" เพราะบางอาชีพต้องการ "ความคิดในเชิงลบ" (Negative Approach) เช่น ทนายความ ตำรวจ นักข่าว หรือแม้กระทั่งการเป็นฝ่ายค้านที่จะต้องค้นหา "ความผิดพลาด" หรือ "จับโกง" ของฝ่ายรัฐบาล

แต่บางอาชีพก็ต้องการ "ความคิดในเชิงบวก" (Positive Approach) เช่น สถาปนิก ศิลปิน งานโฆษณา หรือแม้กระทั่งนักบริหาร ที่ต้องใช้ความคิดในเชิงสร้างสรรค์

เมื่อเย็นนี้กลางสายฝน คุณสุเทพได้ปราศรัยกับผู้ชุมนุม จะจัดตั้ง "ศาลประชาชน เพื่อพิจารณาความผิดของทักษิณ" (ห๊ะ!?) และให้ประชาชนในที่ชุมนุมเป็นผู้ตัดสินใจ ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไรดี? หรือจะเลิกม็อบ กลับบ้านใครบ้านมัน?

เพราะสภาฯรีบถอนร่าง พรบ.ที่เกี่ยวกับการนิรโทษกรรม และปรองดองออกทุกฉบับ ด้วยคะแนนเสียง 310 ต่อ 6

ว่าแต่... ทำไมรอบนี้ผมรู้สึกเหมือน "นายกฯสั่งได้”? ทุกทีคุณยิ่งลักษณ์บอกว่า "ฝ่ายบริหารไม่สามารถไปก้าวก่ายฝ่ายนิติบัญญัติ" แล้วรีบ "บินนอก" ออกไปแบบเนียนๆ แต่คราวนี้ เมื่อ "เรือใกล้จะล่ม" นายกฯออกมาแถลงข่าวทีเดียว สภาฯ "รับลูก" ถอนกราวรูดอย่างรวดเร็ว

คุณสุเทพแกจะจัดตั้ง "ศาลประชาชน" ไปแข่งกับ "ศาลไทย" ไม่รู้ว่าผู้พิพากษาเป็นใคร? ผ่านการสอบมาหรือเปล่า? มันไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับที่จะไปตัดสินใคร จะเอาความรู้กฎหมายจากที่ไหนมา? จะเป็นผู้พิพากษามันต้องสอบเอานะครับ จะว่าไปคุณสุเทพแกก็หน้าคล้าย "เปาบุ้นจิ้น" สงสัยจะเอา "ศาลไคฟง" เป็นแบบอย่าง

ดูเหมือนประชาธิปัตย์ไม่มีเหตุผลที่จะ "รั้ง" ม็อบให้อยู่ต่อ เพราะประกาศกร้าวไว้แค่ "หยุดกฎหมายนิรโทษกรรม" แต่ประชาธิปัตย์ก็คือประชาธิปัตย์ ที่เป็นฝ่ายค้าน เชี่ยวชาญการคิดในเชิงลบ ตอนนี้คุณสุเทพคงต้องการจะยื้อให้ถึงวันจันทร์ที่ 11 เพราะ "ศาลโลก" จะมีคำพิพากษาเกี่ยวกับ "คดีเขาพระวิหาร" หากไทยแพ้เสียดินแดน เลือดรักชาติมันพุ่งพล่าน ไฟที่มอดลงจะกลับมาลุกโชนอีกครั้ง รุนแรงหนักกว่าเก่า

คราวนี้ประชาธิปัตย์ "ได้ทีขี่แพะไล่" อย่างที่ผมบอกไว้ตอนแรก บางครั้งเราต้องการอะไรที่มัน "สร้างสรรค์" เราจึงไม่สามารถที่จะให้คน "ถนัดคิดในแง่ลบ" มาคิดเรื่องสร้างสรรค์ได้

ผมมันคนไม่มีพวก และชอบพูดตรงๆ เพราะมันเป็นผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่จะเอาประชาชนมาเป็น "เกราะกำบัง" ใครๆมันก็อ้างประชาชนกันทั้งนั้น

ถ้าเป็นสมัย "นายกฯเปรม" ท่านชอบพูดว่า "กลับบ้านเถอะลูก มันดึกแล้ว"

‘ทักษิณ’ให้สัมภาษณ์สื่อนอก จวกฝ่ายค้านแพร่ข่าวจนสับสน

แม้วโผล่ให้สัมภาษณ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ ยอมรับนิรโทษฯผ่านยาก เมื่อประชาชนไม่ยอมรับก็ต้องถอย จวกฝ่ายค้านทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย เพื่อหาทางยึดอำนาจด้วยวิถีทางที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. เว็บไซต์ข่าวไฟแนนเชียล ไทมส์ โดยนายไมเคิล พีลล์ รายงานข่าวหัวข้อ“Thaksin tries to take sting out of Thailand amnesty fight.” เป็นบทสัมภาษณ์พ.ต.ท.

ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากดูไบ

พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์สั้นๆโดยกล่าวหาพรรคฝ่ายค้านว่าแพร่ข้อมูลข่าวสารจนทำให้ประเด็นพรบ.นิรโทษกรรมเกิดความสับสนวุ่นวายเพื่อหาทางยึดอำนาจด้วยวิถีทางที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

นายไมเคิลถามว่า ต้องการกลับประเทศไทยหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบว่า อยากกลับ แต่ก็ไม่จำเป็นเสมอไป การกลับประเทศไทยของตน ต้องไม่เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา แต่ต้องเป็นหนทางหนึ่งในการแก้ปัญหา “ผมไม่แคร์อยู่แล้ว เพราะอยู่ที่นี่ผมก็มีอิสระ” อดีตนายกฯ ไทย กล่าว

นอกจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณยังปฏิเสธด้วยว่า จุดประสงค์ของพรบ.นิรโทษกรรมนั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์ออกมาเพื่อฟอกขาวตนเอง รวมถึงแกนนำคนอื่นๆ ที่ต้องคดีอาญา

ไฟแนนเชียล ไทมส์ ระบุด้วยว่า ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณส่งสัญญาณว่า ตนไม่คิดว่ากฎหมายนิรโทษกรรมจะผ่านไปได้ ท่ามกลางการประท้วง โดยระบุว่า “เมื่อมีความสับสน และประชาชนไม่ยอมรับ เราก็ถอนมันออกมา”