บอกข่าวซานฟรานฯ
นายดาบ



บอกข่าวซานฟราน 6 มิถุนายน 2558

เป็นข่าวใหญ่โต ทั่วประเทศไทย คงจะหนีไม่พ้น เกี่ยวกับเรื่องพระ เรื่องเจ้า เรื่องภาษี และการปฏิรูปพระพุทธศาสนา ของคณะกรรมการปฏิรูปพระพุทธศาสนา ที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะกรรมการ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เป็นต้น และคณะกรรมการ ข่าวว่าพวกนี้ จะมาทำลายพระพุทธศาสนา หรือ จะปฎิรูปพระพุทธศาสนา กันแน่ แต่ข่าววงในแจ้งว่าพวกนี้จะทำลายพระพุทธศาสนามากกว่า แล้วก็อย่างที่คิด .. ทุกประการออกข่าวใหญ่โตมโหฬาร จะเก็บภาษีพระ จะเก็บภาษี องค์กร ทางพระพุทธศาสนา ออกข่าวโจมตีพระขนาดหนัก พระท่านก็ดูเหตุการณ์ สักพัก หนึ่งมาเข้า พวกนี้จะทำลายองค์กรทางพระพุทธศาสนา ปากก็พูดว่าพระไม่ควรจับเงิน แล้วใครจะจ่ายแทนพระบ้าง ไม่มี ใครอาสาจะจ่ายแทนพระ เวลา พระท่านจะซื้อของ ซื้อโน้น ซื้อนี้ ซื้อตั๋วเครื่องบิน เดินทางไปปฏิบัติศาสนกินตามหน้าที่ของพระ ใครจะจ่าย รัฐบาลเคยสนใจพระบ้างไหม สนใจ มีแต่ถามว่าทำอะไร ที่อเมริกา บ้าง พระไปทำอะไรที่ต่างประเทศ หลายประเทศที่มีพระเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจเกี่ยวกับพระศาสนา รัฐบาลไม่เคยสนใจ ถวายนิตยภัตร พุทธศาสนิกชนลูกศิษย์พระช่วยถวายค่าเครื่องบินบ้าง ค่าอาหารบ้าง ทั้งหมด นี่เป็นตัวอย่าง .การที่คณะกรรมการเหล่านี้เข้า มาพูดเรื่องเงิน จะเก็บภาษีพระ มีรายได้ 20,000 บาทขึ้นไป ต้องเสียภาษี เก็บภาษีองค์กรทางพระพุทธศาสนา อะไรกัน นี้คือการทำลายพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง พระพุทธศาสนาถือว่าเป็นศาสนาประจำชาติไทยก็ว่าได้เพราะว่า คนไทยเกือบ 95% นับถือศาสนาพุทธและมีจิตเลื่อมใสศรัทธาตั้งอยู่ในหลักธรรมคำสอนและนำไป ประพฤติปฏิบัติกันมาช้านานตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน และนอกจากนั้นพระมหากษัตริย์ไทยยังเปิดให้โอกาสศาสนาอื่น ๆ เข้ามาอยู่ในประเทศไทยเพื่อความสมัครสมานสามัคคีเป็นปึกแผ่นแน่นหนา สามารถเป็นกำลังของชาติได้และไม่เคยคิดที่จะก้าวก่ายในกฎข้อระเบียบของแต่ละ ศาสนาซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของแต่ละบุคคล... หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาทำให้สังคมเกิดความสงบสุข มีจิตใจเมตตาอารี เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ต่อกันและกัน ช่วยเหลือกันมาตลอด ถ้อยที ถ้อยอาศัยกันและกัน เคยเข้าไปอยู่ในหัวใจของคณะกรรมการปฏิรูปพระพุทธศาสนาบ้างหรือไม่ คณะกรรมการที่แต่งตั้งมาเป็นชาวพุทธหรือไม่ หรือเป็นคนนอกศาสนา เมื่อเป็นเช่นนั้นจะเข้ามาจัดการปฏิรูปพระพุทธศาสนาได้อย่างไร ชาวพุทธคิดกันบ้างหรือไม่ น่าคิดนะครับ.. อย่าปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้ผ่านไปได้อย่างไร พระพุทธศาสนาจะเสียหายย่อยยับ หรืออาจจะล่มสลายไปจากเมืองไทยเหมือนกับทีเกิดขึ้นที่ประเทศอินเดีย มีเสาเหตุมาจาก เกิดจากผู้มีอำนาจ ใช้อำนาจไปในทางไม่ถูกต้อง เกิดจากคนนอกาศาสนา ที่จะเข้ามาทำลายองค์กรของทางศาสนาอื่น เกิดจากชาวพุทธด้วยกันเอง ทำลายกันเอง เกิดจากชาวพุทธ ไม่ได้สนใจในพระพุทธศาสนาที่ตนนับถือ เกิดจากผู้ไม่หวังดี หวังประโยชน์ส่วนตัว มากกว่าประโยชน์ส่วนร่วม เหตุการณ์ดังกล่าวกำลังจะเกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนาในประเทศไทย


@@@.พูดถึงเรื่ององค์กรศาสนา บุคคลากรทางศาสนา เป็นองค์กร บุคคลากร ยังได้รับการยกเว้นเรื่อง ต่าง ๆ ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญในการบริหารประเทศ ไม่ต้องเสียภาษี ใดทั้งสิ้น เช่นสหรัฐอเมริกา อินเดีย ออสเตรีย เอาเป็นว่าทั่วโลก ไม่มีประเทศไหนจะไปแตะต้องศาสนา ให้เกียรติ ยกย่องบุคคลากรทางศาสนา ได้รับการยกเว้นภาษีรายได้ทุกชนิด ถ้าคิดว่าพูดไม่ถูกต้องไปเปิดตำรารัฐธรรมนูญดูแต่ละประเทศเขียนกันว่าอย่างไร ทำไมหนอประเทศไทย เป็นประเทศพุทธแท้ ๆ มีพระมากที่สุด พระทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมมากมาย ไม่เคยเป็นข่าว แต่พระทำผิดบ้าง พวกเล่นส่งข่าวทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค สร้างความเสียหาย พระไม่มีกระบอกเสียงช่วยแก้ข่าว พระเป็นบุคคลน่าสงสาร เนื่องจากพระไม่ได้มีเงินเดือน เหมือนกับข้าราชการที่ได้รับเดือนเงินประจำ ..พระสงฆ์ไม่มีเงินเดือน แต่มีเพียงผู้จิตศรัทธาบริจาคถวายเงินหรือปัจจัย ไว้เป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่ารถ ค่าภัตตาหาร ค่าของใช้ส่วนตัวไม่ได้มากมาย แล้วจะเอาอะไรไปเสียภาษี พระอย่างน้อยแสนรูปไม่ได้เปิดธนาคาร อย่ามองเพียงพระในกรุงเทพ ต้องมองภาพกว้าง ภาพรวม คณะกรรมการชุดนี้ สายตาสั้นมาก มองแค่เฉพาะพระในกรุงเทพเท่านั้น จะมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวง ต่อวงการทางพระพุทธศาสนา ต้องทำความเข้าใจกันก่อน เงินเดือนกับ นิตยภัตร ต่างกัน อย่านำมาตีความรวมกัน เงินเดือนรับเป็นประจำทุกเดือน ส่วนนิตยภัตร คือเงินที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานถวาย พระคุณเจ้า ที่ทำคุณประโยชน์ต่อชาติ ต่อพระศาสนา สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค เฉพาะบางรูปเพื่อเป็นค่าภัตตาหาร ในชีวิตของพระคุณเจ้า ในเพศบรรพชิต เท่านั้น..แต่ก่อนรัฐบาลเคยให้การสนับสนุนอุปถัมภ์ถวายพระสงฆ์ เช่น ขึ้นรถไม่ต้องเสียค่าโดยสารยนต์ทุกชนิด ค่าเครื่องบินลดครึ่งราคา ค่าน้ำ ค่าไฟ ทางรัฐบาลโดยกรมการศาสนา แต่ปัจจุบัน พระสงฆ์จะต้องจ่ายเอง ทั้งหมด เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจ ในต่างประเทศ ลองถามใครซิใครเป็นคนจ่ายค่าพาหนะทั้งหมด ลูกศิษย์พระ ศรัทธาในพระอาจารย์ถวาย คณะกรรมการปฏิรูปศาสนา เคยคิดกันไหม คณะกรรมการเหล่านี้เป็นใคร จะออกกฎหมายให้พระปฏิบัติตาม น่าจะมากไปหน่อย พูดแบบหยาบ ทะลึ่ง ไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำ


@@@.เรื่องตำแหน่งเจ้าอาวาส จะมีการย้ายทุก 5 ปี เจ้าอาวาสไม่ใช่ข้าราชการประจำ จะทำเช่นนั้นไม่ได้ คิดแบบตื้น ๆ เห็นแก่ตัว คิดเข้าตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อผู้อื่น มีคำถามว่า ถามว่าจะย้ายท่านไปไหน ใครจะรองรับการ สลับกับใคร ไปวัดไหน เกิดวัดนั้นประชาชนทั้งหมดไม่ยอมรับเจ้าอาวาสรูปใหม่จะทำอย่างไร จะเกิดปัญหาใหญ่โตมากขึ้น นี่คือการทำลายบุคคลากรทางศาสนา ท่านเกิดความเบื่อหน่าย ลาสึกขา วัดจะร้างทันที นั้นคือจุดประสงค์คณะกรรมการปฏิรูปศาสนา จะให้พระพุทธศาสนาล่มสลายหมดไปจากเมืองไทยเร็วขึ้น คณะกรรมการชุดนี้สักพูดอย่างเดียว ไม่สร้างสรรค์ ให้กับองค์กร หรือบุคคลากรทางศาสนาเลยแม้นิดเดียว กฎหมายคณะสงฆ์ พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2484 แก้ไขเพิ่มเติม 2505 ก็มี นอกจากนี้การแก้ไขเพิ่มเติมออกระเบียบมหาเถรสมาคม กำหนดวิธีปฏิบัติในหน้าที่เจ้าอาวาส แต่งตั้ง เจ้าอาวาส อีกหลายอย่างทางคณะสงฆ์ไทยพยายามปรับปรุงแก้ไขมาเรื่อย ๆ ตามยุค ตามสมัย ..พุทธศาสนิกชนไม่ได้ทำหน้าทีของพุทธศาสนิกชน กลับไปทำในสิ่งที่มิใช่หน้าที่ของตนเอง หน้าที่ของพุทธศาสนิกชนคือ ทะนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาที่ตนนับถือ ให้เจริญก้าวหน้า การปฏิรูปพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่ดี เชื่อว่าพระสงฆ์เห็นดีเห็นงาม แต่การจะทำอะไรก็ตาม ต้องสอบถามพระสงฆ์ ก่อนไม่ใช่ไปบังคับข่มขู่ขูดรีดพระสงฆ์ ไม่ใช่การปฏิรูป แล้ว แต่เป็นแก๊งกองโจรมาปล้นพระพุทธศาสนามากกว่า ชาวพุทธจะนิ่งเฉยอยู่อย่างนี้หรือ.. ช่วยกันปกป้องและ เพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาไนประเทศไทยยืนยาวเพื่อลูกหลานของท่านตลอดไป ข่าวคืบหน้าเสนอต่อไป..