บอกข่าวซานฟรานฯ
นายดาบ



บอกข่าวซานฟรานฯ 7 กรกฎาคม 2555

ข่าวการบ้านการเมือง ผมมีโอกาสได้ติดตามข่าวสารบ้านเรา ทุกวัน ทั้งมีข่าวดี และข่าวร้าย สะสมกัน แต่เมืองวกกลับมาดูข่าวการเมือง ครั้นจะไม่สนใจเลย ก็ดูจะน่าเกลียด จะปิดปิดตากันทำไม มีอะไรเอามาเล่าสู่กันฟัง ตอนนี้ กำลังดังไปทั่วโลก คือศาลรัฐธรรมนูญระงับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเตรียมลงมติต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรพรรคฝ่ายค้าน ไปทำเรื่องร้องศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมกับแนบข้อกล่าวหาพรรครัฐบาลร่วมกันค้นคิดล้มล้างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เรื่องก็เลยไปกันใหญ่ ทั้งสองไม่ยอมกัน ก็ต้องหาข้อยุติให้ศาลรัฐธรรมนูญเปิดเผยชื่อบุคคลที่คัดค้าน ปรากฏว่า เจอต้นตอ คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เคยประกาศร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่หักหลัง แล้วแอบใส่ชื่อนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเจ้าตัวไม่รู้อีโหน่อีเห่น อะไรเลย แล้วอยู่ที่หนก็ไม่รู้ มีนายเจิ่มศักดิ์ ปิ่นทอง ขาเก่า ที่ถูกถอดออกจากรายการ เอาแต่ด่ารัฐบาล พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว. ปัจจุบัน นายถาวร เสนเนียม ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์,นายแก้วสรร แก้วโพธิ์ นักวิชาการตกยาก เป็นต้น ในวันที่ 4 กรกฏาาคม 2555 คณะศาลรัฐธรรมนูญเตรียมประชุมในดังกล่าวก็ติดตามกันต่อไป


@@@. ชาวไทยในต่างประเทศ บ่นกันอุบ เมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน และสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน เล่นการเมืองแรงเกินไป จนทำให้ประเทศชาติเสียหาย ขาดรายได้ เข้าประเทศนับหมื่นล้าน เกี่ยวกับองค์การนาซ่า มาขอเช่าสนามบินภู่ตะเภา จังหวัดชลบุรี เพื่อขอสำรวจสภาพดินฟ้าอากาศ และภูมิภาคประเทศในแถบเอเชีย เช่นแผ่นดินไหว สึนามิ เป็นต้น โดยประเทศไทยไม่ต้องออกค่าใช่จ่ายใด ๆ มีงบประมาณ หลายหมื่นล้านบาท นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ,นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาโจมตีให้ข่าวหาสหรัฐอเมริกา จะมาแสวงน้ำมัน ขุดน้ำมัน ขนทหารมาตั้งฐานที่อู่ตะเภา เรื่องเลยไปกันถึงเรื่องความมั่นคงของประเทศ ผิดกฏหมายรัฐธรรมนูญ ต้องให้รัฐสภาผู้แทนราษฏร เป็นผู้พิจารณา ต้องอภิปรายกัน เมื่อเหตุการณ์เช่นนี้ ทางคณะรัฐมนตรี เห็น สมควรให้รัฐสภาอภิปรายหาข้อยุติ ทางสหรัฐอเมริกาเห็น เรื่องน่าจะไปกันใหญ่ ทางนาซ่า เลยขอยกเลิกการสำรวจภูมิภาคฟื้นเอเชียดังกล่าว ทำให้ไทยขาดรายได้ ทันทีหลายหมื่นล้านบาท แต่ตอนสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี นาซ่ามาขอเช่าสถานที่ดังกล่าวไม่มีปัญหา

แต่พอตนเองเป็นค้าน กลับเป็นปัญหา น่าคิดเหมือนกัน ใครกันแน่โกหก ประชาชน .. แสดงให้เห็นว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ค่อยอยู่กับร่องรอย ดีแต่พูด เท่านั้นเอง... ประเทศเสียหายเพราะว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เวลาเดินทางไปไหน จึงได้รับต้อนรับโดยการโห่ร้องขับไล่ ทุกหนทุกแห่ง..กรรมชัดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ทางที่ดีเลิกการเมืองไปทำอย่างอื่นดีกว่า อยู่ไปคนก็เกลียดไม่ชอบขี้หน้า จะอยู่ไปทำไม อย่าลืมว่าคนไทย ลืมยาก เกี่ยวการสั่งสังหารหมู่กลุ่มผู้ประท้วง ญาติพี่น้องของผู้ตายใครจะยอม.. มาร์ค ต้องเปลี่ยนอาชีพใหม่แล้ว..


@@@. ฉลองวันเกิดอย่างเงียบ ๆ ข่าวในวงการสังคมไทยนครซานฟรานซิสโก ไม่เงียบอย่างคิดกัน เถ้าแก่เนี้ย บังอร พงษ์สุวรรณ ร้านวนิดา ไทยคูซิน บนถนน ทราเวล พนักงานของร้านและลูกๆ หลานๆ เพื่อนๆ สนิทมิตรสหาย เกือบห้าสิบกว่าคนจัดงานฉลองวันเกิดเซอร์ไพร์ให้เป็นพิเศษ ที่ มิลเลี่ยบนไทย บนถนน 5 ซานฟรานซิสโก ได้ยุทธนา สิทธิประเวศ มณี แก้ววิเศษ เจ้าของร่วมหุ้นธุรกิจ เปิดฟลอร์ คาราโอเกะ จัดเต็ม ให้ จนถึงเกือบตีสามแน่.. เจ้าของวันเกิดชื่นใจกับคำอวยพรของเหล่าน้อง ๆ ทั้งหลาย ยิ้มแก้มตุ่ยเลยเชียวแหละ.. 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา..

@@@.ผลพวงจาการประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกาที่วัดไทยลอสแองเจลิส พระเถรานุเถระ เจ้าคณะเจ้าพระสังฆาธิการ รองสมเด็จพระราชาคณะ ฯ พระเดชพระคุณพระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดยานนาวา,พระเดชพระคุณ พระพรหมสิทธิ เจ้าคณะภาค 10 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เลขานุการ เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานฝึกอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ,พระธรรมโกศาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดประยูรวงศาวาส , พระธรรมคุณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา รองเจ้าคณะภาค 7, และพระเถระจำนวนมาก ตัวแทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งคณะสงฆ์ไทย ตัวแทนจากพระธรรมทูตสายยุโรป รวมไปถึงภาครัฐส่วนอื่นจากประเทศไทย ได้เดินทางมาเยี่ยมวัด เยี่ยม พระธรรมทูต ที่เดินทางออกมาปฏิบัติศาสนกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล มีประชากรเพียงแค่ 200 -300 ล้านคนเท่านั้น มีทั้งหมด 56 รัฐ มีวัดไทยฝ่ายมหานิกาย จำนวน 97 วัด ฝ่ายธรรมยุตินิกาย 69 วัด ยังไม่รวมไปถึงวัดชาวพุทธ จากประเทศพม่า ,ลาว ,เขมร,อินเดีย,ศรีลังกา ,บังคลาเทศ,ทิเบต ,จีน ,เกาหลี ,เวียดนาม ,ฏูฏาน เป็นจำนวนมาก กระจัดกระจายไปตามรัฐต่าง ๆ ของอเมริกา ประชาชนชาวพุทธแต่ละประเทศก็ไปนมัสการกราบไหว้ที่ตนเองนับถือ เป็นชาวพุทธทั้งนั้น..ชาวไทยบางท่านได้มีโอกาสกราบไหว้อย่างใกล้ชิด ถวายการต้อนรับ ถวายภัตตาหารเพล สนทนากับพระมหาเถระเหล่านั้น เป็นความโชคดี โอกาสบุญหล่นทับจะหายากเต็มทน ยิ่งมาอยู่ในต่างประเทศนาน ๆ เข้าสนทนากับพระไม่ค่อยจะถูก วัน.. วันหนึ่ง จะถูกตะหลิว กระทะ มากกว่า , ผมตั้งข้อสังเกตพระเถระเหล่านี้ ท่านมาดูชื่นชมผลงานของพระธรรมทูต ที่จากบ้านมา จากเพื่อน จากพ่อแม่พี่น้อง จากครูอาจารย์ จากตำแหน่งหน้าที่การงาน ท่านยอมเสียสละ ยอมอดทน เพื่อเป็นสื่อสารความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐบาล ภาคเอกชน และพุทธศาสนิกชน รักษาประเพณี-วัฒนธรรมไทย รักษาภาษาไทย เป็นศาสนทูตทางศาสนา ไม่ธรรมดา เป็นตัวแทนประเทศไทย เป็นตัวแทนรัฐบาล ในรูปของศาสนา ในรูปแบบของพระสงฆ์ไทย เดินทางไปทางไหนก็ชุดยูนิฟรอมของพระไทย.. จากประเทศไทย เด็กฝรั่งบางคนไม่รู้จักพระไทย ต้องไปถามพ่อแม่ นี่คือพระไทย.. ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับท่าน พระครูวรสิทธิวิเทศ หรือ ท่านพระอาจารย์สิทธิพร เจ้าอาวาสวัดพุทธประทีป ซานฟรานซิสโก เป็นหนึ่งในคณะกรรมการอำนวยการบริหารสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ประธานอุปถัมภ์รายการธรรมส่องโลก และประธานโครงการเผยแผ่พระพุทธศาสนาทางสถานีโทรทัศน์-วิทยุ และสื่อมวลชนทุกแขนง สนับสนุนงานส่งเสริมงานสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา กล่าวกันว่าเป็นพระเถระหนุ่มไฟแรง โดดเด่นเป็นตัวอย่างของพระธรรมทูตสายต่างประเทศในยุคปัจจุบัน ที่ทำงานอย่างไม่เห็นความเหน็ดเหนื่อย ต้องช่วยส่งเสริมให้กำลังใจ ท่านกล่าวว่า “เป็นนิมิตหมาย ของพระธรรมทูตทุกรูป ที่มีพระมหาเถระระดับรองสมเด็จพระราชาคณะ กรรมการมหาเถรสมาคม มาเยี่ยมถึงวัด พุทธศาสนิกชน ได้มีโอกาสทำบุญถวายการต้อนรับ ถึงแม้จะมีเวลาเพียงน้อยนิดใช่จะไม่มีความหาย.. พญาเหยียบเมือง แต่ละครั้งต้องยิ่งใหญ่

ต้องมีความหมาย หมายถึงความเจริญก้าวหน้า ต่อแต่นี้ไป สายงานพระธรรมทูตสายต่างประเทศ คงได้เห็นเห็นภาพการทำงานของพระไทยในต่างแดนในประเทศสหรัฐอเมริกา ทางสถานีโทรทัศน์หลายช่องประเทศไทย ชาวไทยที่เมืองไทยคงได้ชมกันบ้างในเร็วนี้ ท่านพระครูฯ กล่าวอีกว่า จะจัดโครงการเทศน์ปุจฉาวิสัชชนา เผยแผ่หลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา ทางสถานีโทรทัศน์ ตอนนี้กำลังจัดทีมงานรายการธรรมส่องโลกและรายการท่องธรรมและร่วมกับสำนักงานเลขาธิการสมัชชาสงฆ์ไทยประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าว คงจะเป็นข่าวดีและเป็นการโครงการที่ดีของคณะสงฆ์ไทยในต่างประเทศ ท่านกล่าวทิ้งท้าย....