ข่าวลูกศิษย์วัดพุทธประทีป ซานฟรานซิสโก กำลังคึกคัก แวะมาเข้ากราบแสดงความยินดีกับพระอาจารย์ พระครูวรสิทธิวิเทศ เจ้าอาวาสวัดพุทธประทีป ซานฟรานซิสโกทั้งทางเฟ๊สบุ๊คไลน์ ทางไลน์ ทางยูทูป และเดินทางมาที่วัดทราบว่าท่านพระอาจารย์สำเร็จดุษฏีบัณฑิตปริญญาเอก เรียกว่า “ ดอกเตอร์ “ รูปใหม่ ชาวไทยนครซานฟรานซิสโก เมื่อย้อนรอยอดีตที่ซานฟราน ฯ เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา พระสงฆ์ไทยที่สำเร็จการศึกษา ในขณะที่ดำรงตำแหน่งในสถานภาพของพระภิกษุ คือ พระมหานักร้อง บุญสังข์ เปรียญธรรม 9 เคยปฏิบัติศาสนกิจที่วัดพุทธประทีป ซานฟรานซิสโกเรียนจบการศึกษาปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัย West Coast university ปัจจุบันได้ลาสิกขาไปประกอบอาชีพส่วนตัวที่ Palm Spring , ในกรณีของพระครูวรสิทธิวิเทศหรือ พระมหาสิทธิพร เมธงฺกโร นามสกุล มิตรวิเชียร เป็นพระธรรมทูตสายต่างประเทศ ปฏิบัติศาสนกิจที่วัดพุทธประทีป ซานฟรานซิสโกเป็นพระนักพัฒนา เป็นพระนักสร้าง เป็นพระนักปฏิบัติ เป็นพระที่ขยันมาก ทำงานไม่มีความเหน็ดเหนื่อยและ เป็นพระที่มีมนุษยสัมพันธ์ติดต่อสื่อสารกับบุคคลทั่วไปได้อย่างดียิ่ง ผลงานปรากฏชัดเจนท่านสามารถสร้างวัดได้หลายที่หลายเมือง จนเป็นที่เป็นที่รู้จักของพระเถรานุเถระ พระธรรมทูตสายต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา ได้รับการเลือกตั้งเป็นกรรมการอำนวยการบริหารของสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกามาเป็นเวลาหลายสิบปี จนถึงปัจจุบัน พระอาจารย์มีลูกศิษย์ชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก เช่น ชาวจีนแผนดินใหญ่ จีนฮ่องกง จีนใต้หวันชาวเวียนนาม ชาวพม่า ชาวลาว ชาวอเมริกัน และชาติอื่นๆ อีกมาก ที่เดินทางมาขอคำปรึกษาบ้าง สนทนาธรรมบ้าง ทำบุญขึ้นบ้านใหญ่ แล้วแต่วาระและโอกาส แต่ละวันจะมีชาวต่างชาติมาปรึกษาหารือเรื่อง ๆ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 ได้รับการแจ้งข่าวว่า พระครูวรสิทธิวิเทศ จะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อมาร่วมงานประสาทปริญญาบัตร ที่มหาวิทยาลัยสงฆ์ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงฆ์ แห่งคณะสงฆ์ไทย วังน้อย อยุธยาแด่ผู้ที่สำเร็จการศึกษา ซึ่งท่านพระอาจารย์เป็นผู้สำเร็จการศึกษาและเข้ารับดุษฏีบัณฑิต ปริญญาเอก คณะครุศาสตร์ สาขาการสอนสังคมศึกษา ถือว่าเป็นเกียรติยศอันสูงสุดชั้นสูงสุดของการศึกษาที่มีอยู่ในโลก การศึกษาระดับปริญญาตรี ใช้เวลาเรียน 4 ปี และการศึกษาระดับปริญญาโท ใช้เวลา 2 ปี และการศึกษาระดับปริญญาเอกใช้เวลาเรียน 3 ปี หรืออาจจะมากกว่านั้น สุดแล้วความรู้ความเข้าใจ บางคน อาจจะใช้เวลา 5-8 ปี สำหรับท่านพระอาจารย์ ดร. พระครูวรสิทธิวิเทศ ใช้เวลาศึกษาปริญญาเอก เป็นเวลา 3 ปี จนประสบความสำเร็จอย่างภาคภูมิใจ และมีเพื่อนๆ ร่วมรุ่นเดียวกันสำเร็จปริญญาเอกอีก 3 รูป|คน สรุปแล้วจบแค่ 4 รูป|คน รุ่นเดียวมี 19 รูป\คน การศึกษาปริญญาเอกมิใช่จะจบกันง่าย ๆ ต้องมีเวลา มีจังหวะ มีโอกาส และปัจจัยอื่นเข้ามาเป็นส่วนประกอบ มีการพบปะ มีสันทนาการ มีการเรียนนอกพื้นที่ มีการดูงานในต่างประเทศ มีการพบกลุ่มคณะครูอาจารย์ และงานกลุ่มอีกมากมาย เรื่องเวลาสำคัญมาก ต้องตรงต่อเวลา ต้องเข้าเรียนหลักวิชาการ ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ การทำรายงาน ส่งครูอาจารย์เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน เมื่อทราบข่าวจึงแจ้งความขอเข้าร่วมงานติดตามพระอาจารย์ ดร.พระครูวรสิทวิเทศ ถวายการต้อนรับอำนวยความสะดวกขณะที่อยู่เมืองไทย จนกว่าจะกลับอเมริกา วันที่ 6 ธันวาคม เวลา 10.30 น. ผมและคณะจึงเดินทางไปที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเช่น นายผล มิตรวิเชียร พี่ชายและพี่น้อง ๆ ญาติหลายสิบคน มี พันตำรวจเอกจักรพงศ์ ผู้กำกับสถานที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นำทีมลูกน้องหลายคนอำนวยความสะดวก คุณนายแอ๊ด เจ้าหน้าที่ขับรถและลูกศิษย์อีกหลายสิบคน พร้อมกันอำนวยความสะดวกคุณนิคร คำราพิช เมื่อทักทายสนทนากันพอสมควรแก่เวลา พาคณะทั้งหมดมุ่งสู่มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วังน้อยอยุธยา เข้าพักห้องรับรองที่ศูนย์วิปัสสนากรรมฐานสิริมหายามา บางปะอิน อยุธยา และร่วมปรึกษาหารือ เรื่องเวลาเรื่องสถานที่ การลงทะเบียน พบกันเรื่องหมายกำหนดการ ประสาทปริญญาบัตร การซักซ้อมก่อนเข้ารับปริญญาบัตร จะมีขึ้นในวันที่ 7-8 ธันวาคม 2567 นี้ เพื่อให้เกิดความพร้อมเพรียงกัน ซึ่งมีผู้สำเร็จการศึกษามีบรรพชิตและคฤหัสถ์ จะร่วมรับพร้อมกันประมาณ 2000 รูปคน หลายคณะ หลายสาขา หลายสถาบัน เป็นเรื่องที่ภาคภูมิใจของผู้สำเร็จการศึกษาเป็นเป้าหมายสูงสุด ทำเอาคณะของลูกศิษย์ต่างชื่นชมและตื่นเต้นกันทุกคนไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น รวมไปถึงลูกศิษย์ที่อยู่ในต่างประเทศด้วย เฝ้ารอเฝ้าติดตามพระอาจารย์ ดร.อย่างไม่พลาดสายตากันเลยทีเดียว หลังจากส่งพระอาจารย์เข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็กลับห้องใครห้องฉันอาบน้ำพักผ่อนกันตามสบาย นัดพบกันรุ่งเช้าวันที่ 7 ธันวาคม 2567 เวลา ตี 5 พบกันที่มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วังน้อย อยุธยา รายละเอียดต่าง ๆจะนำมาเล่าในโอกาสต่อไป