บอกข่าวซานฟรานฯ
นายดาบ



บอกข่าวซานฟราน 30 เมษายน 2565

จัดงานสงกรานต์ส่งท้ายเดือนเมษายน ชาวไทยเมืองริโน ไม่ปล่อยให้เวลาแห่งความสุข ผ่านไปอย่างไร้รอย ทางสภาวัฒนธรรมไทยรัฐเนวาด้า ภาคเหนือเมืองริโน ร่วมกับวัดพุทธประทีป ริโน เมืองสปาร์ค รัฐเนวาด้า จัดงานสงกรานต์รักษาสืบสานประเพณีไทยในต่างแดน ในวันที่ 24 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ทีมงานข่าวจากนครซานฟรานซิสโก มีโอกาสเดินทางไปร่วมงาน หลังจากว่างเว้นหายไปหลายปี ติดโควิด ทางการไม่สนับสนุนการเดินทางไปไหนมาไหนอย่างสะดวกเหมือนสมัยก่อน สร้างความอึดอัดหัวใจ หลายประเทศตกอยู่ในสภาพเดียวกันหมด หันหน้าไปทางไหนมองลอดหน้าต่างเจอต้นไม้ต้นหญ้า ใบเขียวชอุ่ม ทำให้จิตใจเริ่มมีความหวังขึ้นมาให้เห็นได้ชัดเจน เมื่อไม่นานทางการได้ประกาศถอดแมสต์ออกจากใบหน้าสามารถถอดหน้ากากคุยกันได้แล้ว ความสว่างไสวเริ่มมีแววหวนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง หลายคนหลายท่านได้ฉีดยาวัคซินเกือบจะหมดแล้ว บางท่านฉีด 3 เข็มแล้ว ถึงจะติดโควิด ก็อยู่ในอาการที่รักษาง่าย เพราะว่ามีเชื้อโควิด คอยป้องกันโควิดอยู่ในร่างกายแล้ว ไปถึงเมืองริโน รัฐเนวาด้าใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง ถ้าออกเดินทางแต่เช้าครู่ ถึงก่อนพระฉันเพล ได้โอกาสเป็นลูกศิษย์อีกด้วย แต่พอถึงริโน จะหมดเวลาในการชมบรรยากาศ สรุปทีมงานออกเดินทางตั้งแต่ตอนเย็นของวันเสาร์ ไปพักชมบรรยากาศนอนที่เมืองริโนในยามค่ำคืนจะได้โอกาสท่องราตรีด้วย ไปถึงเมืองริโน ประมาณสามทุ่มยังสว่างอยู่ในช่วงนี้ เป็นช่วงฤดูร้อนความสว่างมีมากความมืดท่องราตรีตามประสาคนหนุ่ม เดินเก็บภาพสวยๆ ในยามค่ำคืนอย่างมีความสุขใจ จนเกือบเที่ยงคืนยังมีคนเดินเข้าเดินออก เมืองริโน เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับ สี่ห้าสิบปีก็ยังเหมือนเดิม แต่ประชากรชาวไทยโยกย้ายไปตั้งหลักปัดฐานที่ลาสเวกัสสร้างเนื้อสร้างตัวเป็นจำนวนไม่น้อย จนปัจจุบันลาสเวกัสยิ่งใหญ่กว่าเมืองริโนหลายสิบเท่า พูดถึงริโน เป็นเมืองตั้งอยู่ในหุบเขาล้อมรอบ สองสามปีที่ผ่านมา มีคนย้ายเข้าอาศัยทำมาหากิน บ้านเรือนที่อยู่อาศัย ราคาบ้านและที่ดินตามดัชนีสูงขึ้นสามสี่เท่าตัว ได้เวลาพักผ่อนตื่นเช้าจะได้ทำหน้าที่เก็บภาพบรรยากาศ สิบโมงเช้าพบกันที่ลานจอดรถของวัดพุทธประทีป ริโน เมืองสปาร์ค ตามเวลากำหนด มีประชาชนหอบลูกจูงหลานเข้าไปในบริเวณวัดหลายสิบครอบครัว เห็นลูกศิษย์วัดวิ่งเข้าวิ่งออกเพื่อรองรับพี่ป้าน้าอา ที่หอบข้าวของมาจำหน่ายหาเงินเข้าวัด มาถวายสังฆทานบ้าง เดินตามเข้ามาในโบสถ์ ทางวัดได้จัดตบแต่งสถานที่ ทำพิธีทำอุทิศไปให้บุพพการีบุคคลที่ล่วงลับไปแล้ว ถูกจัดตั้งไว้อย่างสวยงามตรงกลางอุโบสถ เข้าไปกราบพระครูวรสิทธิวิเทศ ที่เดินทางมาจากนครซานฟรานซิสโก มาถึงไม่นานสนทนากับท่านพอสมควร เว็บไปขมบรรยากาศร้านอาหารของวัดมีขนมนานาชนิด อาหารนานาชนิด วางเรียงรายบนเค้าน์เตอร์ที่จำหน่ายอาหารมีเจ้าหน้าที่ ลูกศิษย์วัดช่วยกันจำหน่ายแทบไม่ทัน มีทั้งชาวไทยชาวต่างชาติ เดินทางมาร่วมงานและซื้ออาหารจำนวนมาก มีขนมถังแตก มีกล้วยทอด ก๋วยเตี๋ยวเรือ มีขนมหม้อแกง ข้าวเหนียวปิ้ง ลอดช่อง เล่นเอาตาลายไปเลย น่าทานทั้งนั้น ท้องเริ่มออกอาการ แอบลองชิมก๋วยเตี๋ยวเรือของคุณทราย รสชาติอร่อยดีสองถ้วยทีเดียว เรียบร้อยแล้ว ทางวัดได้ประกาศเตรียมตัวจะใส่บาตรมีพระสงฆ์จำนวน 8 รูปนำโดย พระครูวรสิทธิวิเทศ และพระอาจารย์สมชาย ธมฺมสํวโร หัวหน้าสงฆ์ นำพระสงฆ์ออกรับบิณฑบาต จากพุทธศาสนิกชน ที่เข้าเรียงรายรอใส่บริเวณลานจอดรถของวัด ใส่บาตรเสร็จได้ร่วมกันถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์ มีกลุ่มรักษาได้ร่วมกันสวดมนต์ขณะที่พระสงฆ์กำลังกระทำภัตตกิจ หลังจากสวดมนต์ ชาวไทยพร้อมกันเป็นลูกศิษย์วัดรับประทานอาหารอย่างมีความสุขใจ เวลาบ่ายโมงมีการจับฉลากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท คุณโดยคุณอมรรัตน์ เป็นเจ้าภาพ นำทองคำมาถวายให้กับทางวัด เพื่อเป็นของขวัญวันสงกรานต์สำหรับผู้โชคดี ได้สร้างความสนุกสนานรื่นเริง ผู้โชคดีคือ คุณเฮี้ยง ชินวรโรภาค รับสร้อยคอทองคำโดย มี คุณอมรรัตน์ เจ้าภาพทองคำ ขึ้นมอบรางวัลด้วยตนเอง ได้รีบเสียงตบมือขอบคุณอย่างเกรียวกราว และรางวัลอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ได้รวมตัวกันสรงน้ำพระรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ตามประเพณีไทยเสร็จเสียงดนตรีบรรเลง ขึ้นมีนางรำวงเต็มฟลอร์เลย ด้านหน้าวัดสนามหญ้า มีคุณพรทิพย์ บุญทารำนำขบวนมีนางสาวหลายรุ่นวัยห้าสิบปีขึ้นไปถึงแปดสิบปี คุณวิโรจน์ ลี กำกับแสงและเสียงเร้าใจยิ่งนักเสียงเพลงกระหึ่ม เล่นเอาบรรดาสาวรำวงนั่งไม่ติดเก้าอี้เลยทีเดียว มีสาวรำวงจากนครซานฟรานซิสโก ร่วมวงด้วยเช่นกัน สร้างความครื้นเครงสนุกสนาม ได้เวลาพอสมควรเดินทางกลับบ้านใครบ้านฉัน ส่วนสาวรำวง ก็ยังมีกันต่อไปจนถึงเย็น พาทีมงานเข้ากราบพระประธาน ลาทุกท่านเดินทางบ้าน เพื่อเตรียมตัวทำงานในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ พบกันใหม่