สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยฉาย
เรื่องสำคัญ

ขี่ม้าเลียบค่ายมาหลายเพลา ผู้อ่านกระทุ้งถามว่าใช้โกรทฮอร์โมนมาขวดหนึ่งแล้ว ทำไมยังต้องใช้ไวอะกร้าอยู่อีก ผู้เขียนไม่อยากเป็นด็อกเตอร์รูท เลยต้องไปค้นดูว่าแพทย์เขาว่าอย่างไรในเรื่องเตะปี๊ปดังไปกับโกรทฮอร์โมน

ที่ไวอะกร้าขายดีในกลุ่มผู้ชาย เคยคิดกันว่ามีสาเหตุมาจากระบบประสาท แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ลงความเห็นว่า เป็นเรื่องของร่างกายมากกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด และเป็นกับชายอายุเกิน 50 ปี มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ สถาบันสุขภาพแห่งชาติเกี่ยวกับสมรรถนะทางเพศชี้แจงว่า กว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชายที่มีปัญหานี้เกิดจากปัญหาเส้นเลือดที่บริเวณอวัยวะเพศ การที่เส้นเลือดนำเลือดไปเลี้ยงอวัยวะทำให้อวัยวะแข็งตัว ถ้าไม่มีเลือดไปเลี้ยงอวัยวะ ก็เหมือนกับที่ไขมันโคเลสเตอรอลพอกพูนผนังเส้นเลือดอาจเป็นเหตุให้หัวใจวายได้ ปัญหาเล็กอาจลุกลามไปสู่ปัญหาใหญ่ เหมือนนกกระจิบตัวหนึ่งตายในเหมืองถ่านหิน การที่เลือดไม่ไปเลี้ยงอวัยวะอาจส่ออันตรายว่า หัวใจอาจวายได้ในวันข้างหน้าได้เหมือนกัน นี่เป็นรายงานของ เจ.อี.มอร์เล่ย์ ในรายงานของเขาเรื่อง “ยาหลังการเรียนจบ” ที่จาระนัยว่าความเสี่ยงของหัวใจวายอาจมาจาก ไขมันที่ดีต่ำ ไขมันโคเลสเตอรอลสูง หรือ HDL ต่ำ LDL สูง ไตรกลีเซอรไรด์สูง และการสูบบุหรี่ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุของการสูญเสียสมรรถภาพทางเพศได้ทั้งนั้น นอกจากนี้ ปัญหาเบาหวานที่ต้องพึ่งอินซูลินก็เห็นสาเหตุหนึ่ง รวมทั้งความเครียดที่ไม่ได้รับการบำบัดรักษา และที่ร้ายยิ่งไปกว่านั้น ก็คือยารักษาความเครียดมีผลข้างเคียงทำให้สูญเสียสมรรถภาพทางเพศเสียอีก

อีกสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดความปวกเปียกคือระดับฮอร์โมนเพศชายเทสโพสเตอโรนต่ำ ความลับสุดยอดของผู้ชายก็คือการผ่านภาวะวิกฤติเช่นสตรีเหมือนกัน เรียกว่า แอนโดรพอส (andropause) เมื่อเปรียบเทียบกับ เมโนพอส (menopause) ของสตรีที่รังไข่ยุติการผลิตฮอร์โมนสตรีเอสโตรเจนโดยสิ้นเชิง แต่บุรุษค่อยเป็นค่อยไปในการผลิตเทสโทสเตอโรนน้อยลง ผู้ชายสุขภาพดีอายุเกือบห้าสิบปีหรือห้าสิบปีกว่า จะมีระดับเทสโทสเตอโรนเพียงหนึ่งในสาม หรือเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของผู้ชายวัยยี่สิบเท่านั้น ยิ่งถ้าสุขภาพไม่ดียิ่งมีระดับต่ำกว่านี้ มร.แบลดแมน กล่าวว่า ภาวะวิกฤติของผู้ชายเป็นเรื่องจริงจังมาก เมื่อเทียบกับวัย “เลือดจะไปลมจะมา” ของผู้หญิง มันมีอาการเหมือนผู้หญิงยังไงยังนั้น เพียงแต่อาการเบากว่า ผู้ชายบางคนมีอาการร้อนวูบวาบที่เรียกว่าฮอทแฟลชของผู้หญิง เหงื่อแตก ปวดไปหมด หมดแรง ผิวแห้ง และเครียด การที่ระดับฮอร์โมนชายเทสโทสเตอโรนลดระดับต่ำลงจะก่อให้เกิดลักษณะแก่เหมือนกับการลดระดับโกรทฮอร์โมนเช่นกัน อาทิเริ่มลงพุงสะสมไขมัน กล้ามเนื้อเหลว หย่อนยาน หมดอารมณ์โรแมนติค และอวัยวะสำคัญอ่อนปวกเปียก บางทีการลดระดับเทสโทสเตอโรนก็ก่อให้เกิดโรคของต่อมทิทุอิพารี และระบบต่อมไร้ท่อทำงานไม่สมบูรณ์ก่อให้เกิดระดับฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ต่ำ ซึ่งส่งผลให้หมดสมรรถภาพทางเพศ

แน่นอนวิสัยการดำรงชีวิตประจำวันก็ส่งผลไปถึงเรื่องสมรรถนะทางเพศด้วย เช่น การดื่มสุราและการสูบบุหรี่ จากผลการค้นคว้าระยะล่าสุดสองสามปีมานี้ยืนยันว่าการสูบบุหรี่ทำให้เลือดส่งไปสู่อวัยวะสำคัญทางเพศน้อยลง ถ้าคุณเป็นนักสูบบุหรี่อยู่ในขณะนี้ มันไม่ใช่เป็นของโก้เก๋ เพียงแต่คอยใครสักคนมาบอกคุณว่า คุณน่าจะหยุดสูบบุหรี่ได้แล้วเพื่อรักษาชีวิตรักของคุณให้หวานฉ่ำ จะน่าเชื่อกว่าควรหยุดสูบบุหรี่ได้แล้วเพื่อรักษาชีวิตของตัวคุณเอง

ผลของโกรทฮอร์โมนขนานกับสมรรถนะทางเพศ เมื่อโกรทฮอร์โมนใหญ่ลดลง ก็ลดความสามารถปฏิบัติการด้วย เมื่อโกรทฮอร์โมนสูงสุดตอนแตกพาน เด็กชายแทบจะมีการตื่นตัวตลอดเวลา ได้ยินว่าไอ้หนูไม่ยอมหลับ อะไรทำนองนั้น พอโตเป็นหนุ่มเต็มตัว ระยะเวลาที่ไอ้หนูหลับ แทบไม่มี สามารถทำการบ้านได้ทุกวัน หรือวันละเจ็ดเพลา พออายุสี่สิบ ก็เหลืออาทิตย์ละสองสามกริ๊ง พออายุหกสิบก็เหลืออาทิตย์ละหน และการขาดสมรรถนะก็เพิ่มมากขึ้น การค้นคว้าทุกรายงานเหมือนกัน มันมาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น จากการค้นคว้าของคีนเซ่ย์ แสดงว่า 2 เปอร์เซ็นต์เริ่มหมดสมรรถภาพเมื่ออายุ 40 ปี พออายุ 80 ปี ก็ไม่สามารถใช้การได้กว่า 75 เปอร์เซ็นต์ จากากรค้นคว้าการย่างเข้าสู่ความชราของชายที่รัฐแมสซาชูเสทท์ (Massachusetts Male Aging Study) โดยการสุ่มตัวอย่างผู้ชาย 1,290 คน พบว่าอาการไม่สู้ของอวัยวะสำคัญเริ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่อายุ 40 ปี ถึง 15 เปอร์เซ็นต์เมื่ออายุ 79 ปี และมีปริมาณถึง 52 เปอร์เซ็นต์ของชายสูงอายุที่ไม่สามารถปลุกไอ้หนูให้ลุกขึ้นได้ แพทย์วินิจฉัยว่าโกรทฮอร์โมนลดลงจะเป็นสาเหตุโดยตรงของอาการเสื่อมทางเพศหรือว่ามีสาเหตุแวดล้อมอย่างอื่นประกอบด้วย ด็อกเตอร์ แอล. แคส เทอรี่ และ ด็อกเตอร์เอดมัน เชน ได้ทำการทดลองให้โกรทฮอร์โมนกับกลุ่มผู้สูงอายุ 202 คน รวมทั้งผู้ชายสูงอายุอีก 172 คน ได้ผลว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้โกรทฮอร์โมนบอกว่าสามารถเพิ่มการทำการบ้านได้บ่อยครั้งขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และกลุ่มผู้ชาย 62 เปอร์เซ็นต์สามารถดำรงความแข็งตัวได้นานขึ้น ทั้งนี้ส่วนใหญ่ของผู้ใช้โกรทฮอร์โมนรายงานว่าเพิ่มความต้องการและประสบผลสำเร็จทางเพศได้มากขึ้น แพทย์จึงค่อนข้างจะเชื่อแน่ว่าโกรทฮอร์โมนเป็นตัวการแห่งสุขภาพทางเพศ

ผู้หญิงไม่ค่อยมีการลดสมรรถภาพทางเพศเหมือนผู้ชาย สตรีสุขภาพดีสามารถมีความสุขกับการสำเร็จสมประสงค์สุดยอดจนแก่ แต่ปัญหาความแก่อย่างอื่นอาจบั่นทอนความสุขนี้ลงไปได้ เริ่มจากอายุ 45 ปี ที่เริ่มขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน และร้ายแรงมากขึ้นเมื่อหมดประจำเดือน เพราะเริ่มการแห้งภายในเนื้อเยื่อ ทำให้สตรีเลี่ยงความไม่สะดวกนี้ ยิ่งไม่ฝึกฝนทำการบ้านบ่อยๆ ยิ่งมีความยากลำบากในการมีความสุขสุดยอด เฉกเช่นบุรุษ ต้องหมั่นทำการบ้าน หรือไม่ก็เสี่ยงต่อการไม่ได้เกรดสูง

สตรีหลายคน พอมีอายุมากขึ้นหมดความโรแมนติคไป ถึงจะมีคู่อยู่เคียงข้าง ก็ไม่อยากจะยุ่งขิงบ่อยๆ หญิงที่ไม่มีคู่อยู่ใกล้ เลยพึงพอใจกับสภาวะเช่นนั้นมากกว่า เรียกว่าหมดชายที่ฉันจะเชยชม หมดอารมณ์ที่ฉันจะใฝ่ฝันอีกแล้ว เหตุเหล่านี้ไม่เป็นเฉพาะการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน แต่ขาดฮอร์โมนอื่นๆ ด้วย เช่น เทสโทสเตอโรน DHEA และโกรทฮอร์โมน เอสโตรเจนอาจช่วยให้เนื้อเยื่อตรงช่องนั้นไม่แห้ง ในขณะนี่เทสโทสเตอโรนและ DHEA ช่วยกระตุ้นความดู๋ดี๋

แต่ตัวการที่ทรงพลังที่สุดในเรื่องนี้อยู่ที่โกรทฮอร์โมน ที่จะนำความสนใจและความสุขสุดยอดกลับมาเหมือนตอนยังสาว สตรีที่ได้รับการบำบัดด้วยโกรทฮอร์โมนมีอารมณ์โรแมนติคและพบความสุขสุนทรีย์สูงขึ้น และเหนือกว่าชายเสียอีก ด้วยการสำเร็จซ้ำซ้อน ส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้มาจากการที่มีความรู้สึกว่าเธอมีรูปร่างลักษณะน่าปราถนามากขึ้น ผิวเต่งตึงขึ้นและสาวขึ้น ไม่มีอะไรจะช่วยให้ตกหลุมรักหรืออยู่ในห้วงเสน่หาได้ง่ายไปกว่าการที่รูปร่างหน้าตาแข็งแรงสุขภาพดี และการฝึกฝนความอ่อนหวานต่อคนรักจะช่วยให้ต่อมพิทุอิทารีผลิตโกรทฮอร์โมนและส่งเสริมให้ต่อมอื่นๆ ผลิตฮอร์โมนอื่นๆ ไปตามๆ กัน โกรทฮอร์โมนจะช่วยลดความสูญเสียทางอารมณ์และร่างกายอันเนื่องมาจากไม่มีประจำเดือน ด็อกเตอร์จอห์น บารอน แห่งคลินิคบารอน ที่ คลิฟแลนด์ บำบัดอาการเครียดรุนแรงก่อนมีประจำเดือนของสตรีคนหนึ่งอายุ 35 ปีด้วยโกรทฮอร์โมนและโปรเจสเตอโรน ปรากฎว่าเธอแทบไม่รู้สึกว่ามีรอบเดือนมา และแพทย์สตรีคนหนึ่งอายุห้าสิบห้าปี หายจากอาการฮอทแฟลชโดยสิ้นเชิงด้วยการใช้โกรทฮอร์โมน

การส่งผลของโกรทฮอร์โมนต่ออารมณ์โรแมนติคนี้เกิดรุนแรงทั้งชายและหญิง นายแพทย์วินเซ็นต์ เกียมพาปา กล่าวว่าถ้าทั้งสามีภรรยาไม่ใช้ โกรทฮอร์โมน ชีวิตสมรสจะยุ่ง แซมบาซาส เห็นด้วย “ไม่อย่างนั้นพวกผู้ชายจะเริ่มมองเด็กสาวๆ จึงจำเป็นต้องให้ภรรยาใช้โกรทฮอร์โมนด้วย” เขาเองให้ภรรยาใช้โกรทฮอร์โมนและเอสโตรเจนกับโปรเจสเตอโรน เพื่อบรรเทาอาการเมโนพอส จากผลของฮอร์โมนเพศหญิง “เธอเริ่มประจำเดือนใหม่เหมือนสาวอายุ 20 ปี และทำตัวราวกับสาวรุ่น เธออายุ 65 ผมอายุ 61 แต่เรารู้สึกเหมือนกับคู่หนุ่มสาวแรกรักกัน” ตัวแซมบาซาส เองก็ใช้โกรทฮอร์โมนด้วย

แพทย์อเมริกันที่ฉลาด จะแนะนำสตรีวัยหมดประจำเดือนให้ใช้แอสโตรเจนในรูปของทรีมาริน 21 วัน ต่อด้วยโพรเวอรา 7 วัน เมื่อครบรอบนี้ประจำเดือนจะมา 2-3 วัน หลังจากนั้นคุณจะรู้สึกถึงความสะอาดภายใน การใช้ฮอร์โมนเสริมเอสโตรเจนไม่ควรใช้เป็นระยะเวลานาน เพราะข้อสงสัยเกี่ยวกับผลข้างเคียงอันตราย ปัจจุบันนี้ ใช้โกรทฮอร์โมนสเปรย์ใต้ลิ้นและในขณะเดียวกันก็ใช้ครีมฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนทาที่หน้าท้อง จะซึมซาบเข้าไปกระตุ้นการผลิตเอสโตรเจนที่รังไข่ เพราะโปรเจสเตอโรนเป็นฮอร์โมนกลางที่ทำให้เกิดความสมดุลย์ของฮอร์โมนเพศ ทาโปรเจสเตอโรนฮอร์โมนครีม 21 วัน เว้น 7 วันแล้วเริ่มทาใหม่ ใช้ทาที่ใต้คางสองชั้น จะลดคงย้อยลง เพราะเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมัน ผู้ชายถ้าใช้ครีมโปรเจสเตอโรนทาที่หน้าท้อง นอกจากจะลดไขมันแล้วยังช่วยให้การบวมของต่อมลูกหมาก ไม่เป็นหนทางไปสู่มะเร็งต่อลูกหมาก และไม่ต้องปวดท้องฉี่ตอนกลางคืนบ่อยๆ