ร่างกายของเราได้รับอาหารที่เรากิน เรียกว่า อะมิโนแอซิกจำเป็น (essential amino acids) ได้แก่ เนื้อ ปลา ไข่ นม ผัก ร่างกายสร้างพวกนี้เองไม่ได้ ต้องมาจากอาหารที่เราบริโภคเท่านั้น ซึ่งระบบของร่างกายจะนำไปสร้างโปรตีนอะมิโนแอซิดประเภทรอง เรียกว่า nonessential amino acids ต่อไปยกตัวอย่างเช่น อาหารที่เราบริโภคให้อะมิโนแอซิด 10 ตัว ระบบของร่างกายสร้างต่อไปอีก 12 ตัว จึงครบ 19-22 ตัว ที่จะนำไปใช้สร้างผม 1 เส้น ถ้าไม่ครบ ก็ไม่สร้างผมขึ้นแทนที่เส้นที่หลุดร่วงไป ผมก็จะบางลง ถ้าบริโภคอาหารไม่ครบสมบูรณ์

ตอนนี้เชื่อว่า ทุกคนเริ่มหันมาสนใจการกินอาหารที่ไม่เป็นพิษเป็นโทษต่อสุขภาพกันมากขึ้น เรารู้ว่าควรบริโภคโปรตีน เพราะเป็นหน่วยสายใยหลักของหน่วยโมเลกุลอะมิโนแอซิด ใช้ในการเจริญเติบโตของร่างกายและการทำงานของเซลล์ เป็นหน่วยสร้าง DNA (Desoxyribonucleic acid) ซึ่งเป็นตัวสั่งการให้เซลล์ปฏิบัติการต่างๆ โปรตีนคือส่วนสำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อ โลหิต น้ำย่อย โปรตีนเป็นการสร้างคีราตินสำหรับผม ผิวและเล็บ และระบบภูมิคุ้มกันทำงานโดยอาศัยโปรตีนคอยอารักขาและจับตาดูสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้ามาทำอันตรายต่อเซลล์ คนขาดโปรตีนจึงติดหวัดได้ง่ายๆ

เรารู้ว่า เมื่อไวรัสโคโรน่าเข้าสู่เซลล์ มันจะแย่งน้ำไปจากเซลล์ ทำให้เซลล์ติดต่อถึงกันไม่ได้ โปตัสเซี่ยมจะช่วยการสื่อสารระหว่างเซลล์ และการหดตัวของกล้ามเนื้อ เช่นการเต้นของหัวใจ โปตัสเซี่ยมจึงสำคัญในการป้องกันความดันโลหิตสูง หรือ หัวใจไม่เต้น คือ หัวใจวาย โปตัสเซี่ยมช่วยกระตุ้นการทำงานสื่อสารของประสาท ช่วยการหดตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยการส่งข่าวสารระหว่างเซลล์ประสาท อาหารที่จะให้โปตัวเซี่ยม เช่น การบริโภค ส้ม กล้วย เม็ดองุ่นแห้งที่รู้จักในนามของเรซิน นอกจากนี้ ลูกฟิค figs ก็อุดมไปด้วยโปตัสเซี่ยม มันฝรั่งเผากินทั้งเปลือก ถั่ว โยเกิร์ตไขมันต่ำ และข้าวพองซีเรียล นอกจากนี้ อยู่ในอาหารประเภทถั่ว ซึ่งจะให้แมกนีเซี่ยม สำหรับความแข็งแกร่งของกระดูก อยู่ในผักสปินา ข้าวซีเรียลโอ้ต ถั่วพินโต้ ถั่วเลนทิล การกินอาหารถ้าต้องการให้แคลเซี่ยมสมบูรณ์ ควรบริโภคอาหารที่มีแมกนีเซี่ยมด้วย เพื่อมิให้สลายแคลเซี่ยมเสียเปล่า

แป้ง อาจเป็นตัวสังเคราะห์น้ำตาลเพื่อพลังงาน เช่น น้ำตาลธรรมดาจากของหวาน น้ำผึ้ง ผลไม้ น้ำตาลสังเคราะห์ซูโครส (sucrose) ได้แก่น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทราย น้ำตาลจากผลไม้ฟรัคโตส น้ำตาลจากนม lactose และน้ำตาลในเลือด (glucose)

แป้งประเภทที่สองคือแป้งที่มาจากผัก ข้าว ซีเรียล ขนมปัง มันฝรั่ง ก๋วยเตี๋ยว

แป้งประเภทที่สาม คือไฟเบอร์มาจากกลูโคส ดีสำหรับช่วยการย่อยอาหาร เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต รำข้าว ถั่ว แครอท ข้าวโพด

แป้งเมื่อรวมกับโปรตีนจะสร้างสารเรียกว่า mucopolysaccharides หรือ glycosaminoglycans ทำหน้าที่รักษาความชุ่มชื้นในผิว ทำให้ผิวตึง

การบริโภคอาหาร มีแป้ง โปรตีน เพื่อความสมบูรณ์ในการทำงานของ 10 ระบบในร่างกาย ทั้งกล้ามเนื้อ กระดูก และประสาท ที่สำคัญในการป้องกัน 10 ระบบให้ทำงานอย่างปลอดภัย ก็คือไวตามิน แร่ธาตุ

ในระยะการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าที่เรารู้ว่า มันจะแย่งน้ำไปจากเซลล์ ถึงกับวัคซีนก็อาจทำให้เกิดอาหารที่เรียกว่า clot ในเซลล์ได้ เพราะอาจถูกแย่งน้ำ ไวตามินซี ascorbic acid นอกจากจะช่วยรับผิดชอบในการสร้างสายใยคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ช่วยให้ผิวแต่งตึงแล้ว ไวตามินซียังทำหน้าที่สำคัญต่อเซลล์ ด้วยการป้องกัน DNA หรือตัวสำคัญในเซลล์ให้รักษาระดับน้ำในเซลล์ไว้ หน้าที่นี้เป็นเรื่องใหญ่ และง่ายต่อการรักษาหน้าที่นี้ไว้ เพียงแต่กินอาหารที่ประกอบด้วยไวตามินซี เช่น ส้ม ผัก ผมไม้สด เราก็อาจยืนหยัดการทำงานของเซลล์มิให้สูญเสียน้ำ นอกเหนือไปจากการรักษาผิวมิให้ย่น แตกเป็นขุย

มะม่วง ให้ไวตามินมากมาย ตั้งแต่ ไวตามินบี 2 บี 3 บี 6 บี 9 แล้วยังมีไวตามินซี ไวตามินเอ ไวตามินเค ไวตามินพี ไวตามินอี และเบต้าคาโรทีน ล้วนสำคัญต่อการปกป้อง ดี.เอ็น.เอ. หรือหัวใจของเซลล์มิให้สูญเสียน้ำมากเกินเหตุ นอกจากนี้ มะม่วงยังมีแมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ซิลิก้า กับ ซัลเฟอร์ ซึ่งให้ผลดีโดยรวมต่อเนื้อเยื่อของร่างกาย ทั้งผิว กระดูก ผม เล็บ และดีสำหรับกล้ามเนื้อ ช่วยให้แผลหายเร็ว

น้ำผลไม้ที่ควรดื่มเป็นประจำ นอกจาก น้ำส้มคั้น ก็มีน้ำองุ่น น้ำผลไม้ที่วางขายตามตลาด นอกจากดื่มน้ำกลั่นเพื่อช่วยการย่อย การขับถ่ายของเสีย ก็ควรคำนึงถึงน้ำที่จะเพิ่มไวตามินซีอยู่ตลอดเวลา ในระยะที่เรากำลังการ์ดร่างกายต่อการระบาดของไวรัส แล้วจะรู้สึกว่า เราพอจะสู้กับวัยที่ร่วงโรยได้อย่างไรเป็นธรรมดาที่เราจะแก่ แต่เป็นความสามารถในการการ์ดร่างกายด้วยการบริโภคที่สมบูรณ์ด้วยแป้ง โปรตีน ผัก ผลไม้สด ที่อุดมด้วยคุณค่าในการบำรุงร่างกาย ถึงจะเดินไม่ไหว ก็ให้คงไว้ซึ่งความสุขแห่งสุขภาพดีไว้ จะได้ไม่มีทุกข์เกินเหตุ อย่างน้อยก็เติมไวตามินซีอยู่เสมอ แล้วจะช่วยให้เรื่องที่เกือบจะร้ายกลายเป็นดีเอง

ไวตามินซี ไม่ใช่ไวตามินซี้