สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
บำรุงผิวด้วยคาเวียร์

ยุคกินก็ได้ ทาก็ได้ นี่ช่างดีเหลือเกิน เราเดินเข้าครัว หยิบของต่างๆ จากครัวมาบำรุงผิวได้ตั้งหลายอย่าง หรือว่าคุณไม่เคย ใช้ไข่แดง (หรือไข่ขาวสำหรับคนหน้ามัน) ผสมน้ำผึ้ง และน้ำมะนาวพอกหน้า สระผมเสร็จแล้วก็โกรกด้วยน้ำมะกรูด พอเทคนิควิทยาการก้าวหน้าขึ้น เขาใช้กรรมวิธีแปรรูปสารในครัวต่างๆ มาเป็นในรูปที่เราจำเกือบไม่ได้ พอเขาบอกจึงจะถึงบางอ้อ ก็ของธรรมดาที่เรารู้จักนี่เอง

นี่ถ้าเรารู้ว่า เขาได้คอลลาเจนมาจากปลาดุกสำหรับบำรุงผิวที่มีความย่น เราก็คงลอกหนังปลาดุกเสียก่อนที่จะทอดกรอบทำปลาดุกผัดเผ็ดเป็นแน่แท้ เผื่อว่าถ้าทนกลิ่นตอนพอกหน้าไหวจะได้ลองเสียเลย นอกจากนี้เขายังใช้อีลาสตินมาจากไข่ปลาเซลมอนมาบำรุงผิว หรือบางทีก็ได้อีลาสตินมาจากหนังปลาทูน่า เราคงรู้กันแล้วว่าสายใยคอลลาเจนและสายใยอีลาสตินประสานกันอยู่เพื่อสร้างความยืดหยุ่นแต่งตึงของผิว เด็กทารกมีสายใยคอลลาเจนเรียกว่าเบอร์ 3 ตอนแก่สายใยคอลลาเจนกลายเป็นเบอร์ 1 เพราะเซลล์ชื่อไฟโบรบลาสต์หมดแรงส่งโปรตีนไปเลี้ยง ความตึงเลยหย่อนลง ต้องหันไปพึ่งความตึงจากสารภายนอก เรียกว่าคอลลาเจน 3 ซึ่งอาจจะมาจากสารสังเคราะห์ หรือสารประเภทเดียวกันของสัตว์ที่มีผิวตึงโดยธรรมชาติดังกล่าว

สานในผิว นอกจากสายใยคอลลาเจน และอีลาสตินแล้ว ยังมีน้ำมันช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น สารนี้ก็จำเป็นต้องมีการทดแทนธรรมชาติที่อ่อนแรงลงไปด้วยเพราะอายุ และวัฎจักรแห่งความชรา แหล่งน้ำมันที่มาจากพืชก็มีมาก เช่น น้ำมันจากสมุนไพรชื่อ เซนต์จอห์นวอร์ท (St. John’s Wort Oil) น้ำมันจากข้าวสาลี (Wheat Germ Oil) น้ำมันจากดอกดาวเรือง และน้ำมันจากสมุนไพรอื่นๆ เป็นพันชนิด จากสัตว์ก็มีเช่น จากแกะ จากนก อย่างเช่น นอกกระจอกเทศ นกเป็นน้ำของเยอรมัน เป็นต้น

เราใช้น้ำมันจากปลา มานานเป็นสิบๆ ปีแล้ว สมัยก่อน อุตสาหกรรมทำน้ำหอมต้องใช้น้ำมันปลาวาฬเป็นสารที่จะเก็บความหอม อย่างเช่น ดอกกุหลาบ ดอกมะลิจะมีน้ำมันทั้งนั้น เราจึงได้กลิ่นหอมกุหลาบ หรือกลิ่นหอมมะลิ แต่ความที่ปลาวาฬมีชีวิตการเดินทางที่เหลือรอดไม่มากนัก กฎหมายเลยห้ามใช้น้ำมันปลาวาฬในการทำน้ำหอม ต้องหันไปใช้น้ำมันจากลูกนักชื่อโฮโฮบา แทน และใช้การบำรุงผิวด้วยเหมือนกัน

สมัยนี้เขาใช้น้ำมันจากไข่ปลาในการบำรุงผิว เช่น ไข่ปลาคอดใช้มานานแล้ว เร็วๆ นี้กำลังใช้ไข่ปลาเซลมอน แต่สงสัยว่าถ้าไม่แปรรูปเสียก่อน คงไม่เหลือถึงผิวหน้าเป็นแน่ ไข่ปลาคาเวียร์กำลังเป็นที่ฮือฮา ในวงการบำรุงผิว นัยว่าช่วยผิวที่ด้านหนา ไร้เลือดฝาด เพราะขาดออกซิเจนให้แปรสภาพเป็นผิวสาวได้ ซึ่งก็มีหลักความจริงโขอยู่ เพราะอะไรก็ตามที่กำลังเติบโต ต้องอุดมไปด้วยสารดีๆ ทั้งนั้น เห็นได้จากมะพร้าวอ่อน หน่อไม้ ไข่ ถั่วงอก มีสารอุดมสมบูรณ์ต่อร่างกาย ทีนี้เรอพอจะมีแนวแล้วว่า เข้าครัวคราวนี้จะหยิบอะไรมาพอกหน้าบ้าง

แน่นอนวัตถุดิบสดๆ ย่อมมีคุณค่า แต่ก็ต้องใช้ให้หมดไปในครั้งเดียว จึงจะไม่สูญค่าของสารที่ต้องการ การผ่านกรรมวิธีการผลิต ดีตรงที่ว่ามีการทำให้บริสุทธิ์ กำจัดน้ำแล้ว ทำให้เก็บได้นาน และผสมสารอื่นจนมีความเข้มข้นตามเป้าหมายของผลลัพธ์ ย่อมเป็นที่ไว้วางใจได้ว่าไม่มีพิษภัย มิฉะนั้น แทนที่จะสวยพริ้ง อาจจะต้องไปหาหมอ

วิธีการบำรุงผิวก่อนบำรุงด้วยไข่คาเวียร์ หรือไข่ปลาแซลมอน เริ่มต้นด้วยการชำระทำความสะอาดผิวด้วยครีมหรือนมล้างหน้าตามชนิดของผิว แล้วตามด้วยเจลโปรตีนเอนไซม์ล้างหน้า แล้วขัดสีฉวีวรรณด้วย Golden Tone จากนั้น ใช้ Marine Serum A ประกอบด้วยสารอีลาสติน ไข่ปลาแซลมอน ว่านหางจระเข้ และโปรตีนจากสาหร่ายทะเล ซึ่งมีโปรตีนแร่ธาตุสูงมาก และซึมเข้าสู่ผิวได้ดี เพราะเชื่อกันว่ามีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับผิว อาจเป็นเพราะความเชื่อว่าชีวิตมาจากทะเลก็ได้ จากนั้นตามด้วยหลอด B ซึ่งประกอบด้วยน้ำมันจากเซนต์จอห์นวอร์ท น้ำมันจากข้าวสาลี และน้ำมันดอกดาวเรือง นวดตามวิธีการที่จำเป็นต่อผิวแต่ละชนิด สัก 10-15 นาที เช่น ผิวที่อักเสบง่าย หรือไวต่อความรู้สึกใช้วิธีนวดแบบกระตุ้นต่อมน้ำเหลือง (Lymph Drainage Massage) แล้วจึงพอกด้วยครีมพอกหน้า หลังจากชำระออกแล้ว บำรุงด้วยครีมบำรุงผิวอีลาสติน ซึ่งส่วนประกอบหลัก มาจากไข่ปลาเซลมอนทั้งชุด

นี่คือผลดีของการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตสมัยใหม่ ที่จะให้ผิวได้ประโยชน์สูงสุดจากคาเวียร์