สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
คนสร้างชีวิต ชิพสร้างคน

โชดดีที่เราเรียนรู้การทำงานของสมองไปเมื่อเร็วๆนี้ ก็พอดีมีข่าวว่า อีลอน มัสค์ กำลังตกลงใจจะใส่ชิพเล็กๆที่สมองของเขาเพื่อสั่งงานด้วยคอมพิวเตอร์ข้างนอกได้ตามที่ใจต้องการจะทำ เพราะเราเรียนรู้แล้วว่า การสื่อสารของเซลล์สมองทำได้ผ่านระบบไฟฟ้า (electrical system) ของการสื่อสารระหว่างเซลล์ กับระบบสารเคมี ที่ผลิตจากต่อมต่างๆ เรียกว่า Endocrine System ฉะนั้น หลักพื้นฐานเบื้องต้นในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ จึงอาจเป็นไปได้ผ่านคอมพิวเตอร์ข้างนอก สั่งงานให้สมองทำตามคำสั่งจากระบบคอมพิวเตอร์ที่บงการด้วยมือคน อาจเป็นมือของผู้เชี่ยวชาญคนอื่น หากวางยาให้ผู้อยู่ในการทดลองไม่เคลื่อนไหวใดๆ ในกรณีของข่าวเร็วๆนี้ที่ว่า อีลอน มัสค์จะฝังชิพคอมพิวเตอร์ผลิตขึ้นมาจากการค้นคว้าไว้ที่สมองของเขา และสั่งงานตามความต้องการของตนเองหรือใครก็ตามที่วางแผนไว้ในระบบ ให้ดำเนินการตามคำสั่งที่กำหนดให้ทำ อีลอน มัสค์ จะต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจในชิพมากพอที่จะใช้ตนเองเป็นผู้ดำเนินการตามคำสั่งของคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด หรือ อยู่ในการบงการของผู้ใด แต่หลักการเบื้องต้น อยู่ที่ว่า ขึ้นอยู่กับธรรมชาติของการสื่อสารระหว่าง ระบบไฟฟ้าในสมองทำงานกับระบบสารเคมีของเซลล์ที่ผลิตเป็นปกติอยู่แล้ว ถ้าคนที่มีค่ามหาศาลไว้ใจเครื่องจักรกลในระบบคอมพิวเตอร์ขนาดลงทุนด้วยตัวเองจะได้มีความรู้สึกและความเข้าใจของตัวเองประกอบกับ การสื่อสารทางเคมีและไฟฟ้าของเซลล์ตนเอง ก็น่าจะเชื่อได้ว่า สักวันหนึ่งคนเราอาจไปอยู่ดวงจันทร์ และสื่อสารกับคนอยู่บนโลกได้ เพียงแค่ผ่านชิพคอมพิวเตอร์เล็กๆที่ฝังไว้ในสมอง เรื่องนี้ ดูเหมือนว่า คนสร้างชีวิต แต่คอมพิวเตอร์สร้างคนให้ทำงานตามต้องการได้ ไม่ต้องรอน้ำหรือสารเคมีจากระบบต่อมไร้ท่อผลิตเองในร่างกายอีกแล้ว เพราะขึ้นไปบนดวงจันทร์ ไหนเลยจะได้กินผักสด ผลไม้สดเพื่อร่วมสร้างน้ำที่มีคุณสมบัติตามที่ระบบต่อมไร้ท่อต้องการใช้เพื่อสื่อสารการทำงานของสมองอีกแล้ว เพราะสมองสื่อสารด้วยชิพที่ฝังไว้ในสมองผ่านการสั่งงานของคอมพิวเตอร์ข้างนอก แต่ระดับปริญญาโททางด้าน Health and Human Services อย่างที่ผู้เขียนเรียนมา ก็ยังเป็นประโยชน์ที่จะสร้างความเข้าใจในการสั่งงานคอมพิวเตอร์อยู่ดี เพราะสั่งผิดพลาดไม่ได้เลย สมองสับสน ระบบ Neuralink ของอีลอน มัสค์ จะไม่สามารถทำงานได้ เอาเป็นว่า ยังต้องเริ่มต้นด้วย คนสร้างชีวิต ชิพสร้างคน แทน จิตสร้างคน คือไม่มีโอกาส คนโง่ หรือคนขาดสุขภาพอีกแล้ว เพราะสั่งงานจากภายนอก แต่เอาเป็นว่า คนยังต้องสร้างชีวิต เพราะชีวิตจะต้องมีสิบระบบครบถ้วน ไม่ง่อยเปลี้ยเสียขา หรือ ไม่มีไอคิวเอาเสียเลย เข้าใจว่า อีลอน มัสค์ มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์ ภาวะสมองปราดเปรื่อง คิดล้ำหน้าจากคุณภาพของน้ำจากระบบ Endocrine System ซึ่งได้มาจากโครงร่างของเซลล์ดี อาหารการกินอยู่สมบูรณ์ดี การศึกษาให้ความคิดที่ล้ำเลิศ คิดแล้วก็น่าจะเลี้ยงลูกโดยเตรียมตัวตั้งแต่ ตัวแม่หรือตัวพ่อจะต้องสมบูรณ์ คือสามารถสร้างคนหรือชีวิตของลูกให้ดีเลิศ มีระบบน้ำสำหรับสื่อสารในระบบต่อมไร้ท่อได้เฉียบพลัน นั่นคือ คิดไกล คิดกว้าง ล้ำลึก ก้าวหน้า แบบที่เห็นได้จาก อีลอน มัสค์ อย่างน้อย ก็เห็นได้จากการที่ไม่มีใครทำเงินได้มากกว่าเขา ถ้าเขารับสมัครคนที่จะฝังชิพที่เขาผลิตขึ้นไว้ในสมอง ก็คงต้องมีการทดสอบคุณภาพหลายด้าน อย่างน้อย ก็ดูถึงพ่อแม่ปู่ย่าตายาย และการศึกษารอบตัว รอบสังคมกันเลยทีเดียว เฮ้อ คนสร้างชีวิต คงต้องเตรียมคนมากกว่าเก้าเดือนเป็นแน่ และตลอดชีวิตของคนที่อยู่ในการทดลองนั้น คงต้องเตรียมอาหารการเป็นอยู่รวมทั้งการศึกษารอบด้าน น่าคิดไหม โลกเราจะเปลี่ยนไปอย่างไร หัวข้อเรื่อง การทำงานมหัศจรรย์ของสมอง คงจะต้องเขียนใหม่ เป็น คนสร้างชีวิต ชิพสร้างสมอง

คงจะดีหลายอย่าง ความจำเสื่อม คงไม่มี การเดินเหินกระย่องกระแย่งเพราะกล้ามเนื้ออ่อนแรง คงกระตุ้นด้วยคอมพิวเตอร์ได้ คงปรับอุณหภูมิอยู่นอกโลกได้นานๆ คิดแล้ว รีบเกิดใหม่ ดีไหม หรือเตรียมตัวสร้างชีวิตใหม่ ได้แล้ว กว่าจะเห็นผล คงต้องเป็นรุ่นหลาน นอกเสียจาก หาคนติดชิพไว้ได้แล้ว จากนั้น ก็เริ่มป้อนอาหารที่เสริมคุณค่าสำหรับย่อยเอาสิ่งที่ต้องการมาทำงานกับชิพ และให้การศึกษาด้านคอมพิวเตอร์ที่จะสั่งงานไว้ตั้งแต่มัธยมต้นเลยทีเดียว ศาสนาสำคัญไหม ที่จะต้องเรียนรู้หลักการอะไรต่างๆ คงจำเป็นมั๊ง เพื่อให้การเข้าสังคมกับคนอื่น ดูเป็นปกติ คือไปวัดไปวา ไปโบสถ์ ไปมัสยิด ตามธรรมเนียมของครอบครัว เพราะเรายังสร้างคนจากหลอดแก้วไม่ได้ ยังจำเป็นต้องสร้างชีวิตจากชีวิตคนอยู่

พอคิดมาถึงตอนนี้ บทความที่เขียนคงต้องกลับไปเรียนคอมพิวเตอร์ เรียนการตั้งต้นชีวิต การศึกษา และการสังคมก็ต้องระวังมิให้คนอื่นรู้ และทำลายแผนการสร้างชีวิตที่จะฝังชิพไว้ที่สมอง เมื่ออายุเท่าไหร่การศึกษาระดับอะไร คงต้องเตรียมกันตั้งแต่พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย กันเลยทีเดียว จะได้สร้างชีวิตที่ต้องการกับคนที่เตรียมไว้สำหรับฝังชิพในสมองต่อไปในอนาคต จะฝังอายุเท่าไหร่ ก็ต้องดูหรือศึกษาจาก อีลอน มัสค์ ก่อนแหละ ว่าผลจะเป็นอย่างไร จะได้วางแผนหาคน เลี้ยงคนนั้นให้สมประกอบที่จะฝังชิพต่อไปเมื่ออายุสมควร

พอคิดไปเรื่อยๆ การศึกษา การแพทย์ การบำบัดใช้ คงจะเปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน ที่เคยมีหลักสูตรการเรียน การสอน คงจะต้องปรับให้เข้ากับความเข้าใจการบงการใช้คอมพิวเตอร์ให้ประสานงานกับชิพในสมองได้ตามต้องการ แต่ชีวิตประจำวัน ก็คงต้องปลูกผัก ทำสวนครัว เพื่อหย่อนอารมณ์อยู่ตามปกติ ผู้เขียน ดูทีวี แสดงการเตรียมที่ดินสร้างสวนหน้าบ้าน ต้องใช้รถไถดิน ขุดรากพืชที่อยู่ลึกในดินออกให้หมด แล้วใช้รถถมดินใหม่เรียงตามพื้นที่ให้เรียบร้อย เพื่อที่จะได้กำหนดวางหินสำหรับทางเดินเข้าประตูบ้านให้เป็นรูปโค้งสวยมีศิลป์ ไม่ตรงเข้าประตูอย่างขาดศิลป์ การเลือกซื้อไม้ดอกไม้ใบในกระถางก็เรียงไว้ก่อน เพื่อดูบรรยากาศว่าเข้ากันได้อย่างมีความงดงามประสานกัน แล้วจึงเอาลงปลูกในดิน และท่อสายยางรดน้ำก็ต้องออกแบบให้ใหญ่ยาวกระจายเป็นฝอย เพื่อที่จะไม่ทำลายต้นไม้ที่ยังเล็กอยู่ การทำสวนก็ต้องวางแผน ไม่ใช่คิดแล้วก็เอาลงดิน เพราะความคิดผ่านการกรองอย่างรอบคอบดูแล้วว่าดีและสวยงาม นี่ถ้าเป็นสมัยคนสร้างด้วยชิพ หรือฝังชิพในสมอง จะทำสวนครัว สวนดอกไม้ หรือไม่ เพราะอย่างสวนดอกไม้ของผู้เขียน หิ้วถังน้ำจากที่พักชั้นสาม ไปหัวมุมที่เคยจอดรถ เพื่อรดน้ำต้นไม้ชื่ออะไรไม่รู้นับสิบปี จึงออกดอกสวยงามพรีบเต็มต้นเป็นดอกเล็กสีขาวฝอยอยู่บนก้านยาวเรียงกันสวยมาก ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก็คุ้มกับเวลาสิบปีที่เพียรรดน้ำอยู่ตลอดมา นี่ถ้าสมองฝังชิพ คงไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ไหม จะได้เห็นผลอันสวยสมใจไหม เพราะชิพคงคิดเร็ว ทิ้งเร็วกว่าสมองคนธรรมดา ดูอย่างเลี้ยงแมวไร้บ้านรอบสวน คนยังถามเลยว่า เลี้ยงแล้วได้อะไร หรือบางคน พูดออกมาจากปากเขาเลยว่า คนเลี้ยงแมวนี่น่ะเป็นหมา ทั้งๆที่ตัวเองเป็นอะไรไม่รู้

นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า นี่ขนาดชราวัยไม่ใส่ชิพในสมองนะ ถ้าใส่ชิพ คงน่าดู แต่ก็สงสัยว่า ถ้าใส่ชิพแล้วจะเรียนสมาธิได้ไหม เพราะปัจจุบันนี้ แค่ไปเรียนทำสมาธิตอนตีสี่กับท่านพระอาจารย์ไพบูลย์ นิสัยสุตานุยุติ ที่เดินทางมาจากจังหวัดนครสวรรค์ ที่ตึกกรรมฐานวัดไทยลอสแองเจลิสเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว มีผู้เขียนคนเดียวที่นอนค้างและท่านลงกุฏิมาสอนตอนตีสี่ ท่านบอกว่าจะส่งดวงแก้วมาให้ผู้เขียนทางสมาธิ รับให้ได้นะโยม ผู้เขียนก็ปรากฎเห็นดวงแก้วสีเงินพุ่งประกายระยิบระยับขึ้นสูงสีเงินที่ดวงตาข้างซ้าย ที่ดวงตาข้างขวาปรากฎดวงแก้วสีทองพุ่งประกายสีทองขึ้นสูง ที่กลางระหว่างดวงตาทั้งสอง ปรากฎเห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงดำเนินอยู่ ด้วยพระบาทก้าวย่างและพระหัตถ์เยื้องตามจัวหวะพระบาท ชายจีวรโบกพริ้วตามสายลม ทั้งหมดนี้ ถ้าใส่ชิพในสมอง จะเห็นหรือไม่ เพราะระยะเวลาที่พระองค์ท่านจากไปนั้นกว่า 2500 ปีมาแล้ว สมองคนธรรมดาในสมาธิ คือจิตว่าง สามารถเห็นพระองค์ท่านทรงดำเนินอยู่ได้ ท่ามกลางสายลมโบกพลิ้วชายจีวรอย่างกับว่าเป็นความจริง อยากรู้จัง ว่าชิพจะทำงานเหมือนกันได้ไหม