สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
พลังจิตรักษาโรค

การค้นคว้ากล่าวว่า stem cell จากโพรงกระดูก bone marrow สามารถนำไปใช้แก้ภาวะบกพร่องของร่างกายอย่างได้ผล ดังที่ปรากฏแล้วว่าผู้ป่วยสามารถใช้ไม้เท้าช่วยเดินได้ภายใน 5 เดือน และ 10 เดือนก็สามารถเดินและมีชีวิตตามปกติได้ที่บ้าน เรียกว่า เป็นการใช้การทำงานของเซลล์สมองในการบำบัดรักษา หรือเรียกว่า new stem cell therapy โดยใช้ brain motor สามารถช่วยให้การทำงานของสมองฟื้นการทำงานขึ้นอีกได้ เริ่มจากการสร้างเซลล์ในกล่องทดลอง messenger stem cell therapy ครั้งละหนึ่งเซลล์มีค่าใช้จ่ายสูงถึงหนึ่งแสนเหรียญในหนึ่งห้องทดลอง

ก็เลยลองคิดเปรียบกับการบำบัดด้วยจักระ ที่เรียกว่า การรักษาโรคด้วยมือสองข้าง เริ่มแต่สมัยอาร์เดียในอียิปต์ ที่อาณาจักรบาบิโลน ปรากฏในภาพเขียนอายุหมื่นปี เป็นการรักษาด้วยฝ่ามือ จากพลังภายในที่ส่งผ่านฝ่ามือออกมา ผ่านพลังคอสมิคที่มีรอบตัว และสัมผัสผ่านมือ ดังที่เราเห็นจากหนังจีนที่ต่อสู้ด้วยพลังฝ่ามือ พลังนี้ผ่านพลังคอสมิคในบรรยากาศ นำมาใช้ในการรักษาโรคด้วยฝ่ามือ ผ่านศูนย์ประสาทระบบต่างๆ เรียกว่าจักระ เนื่องจากการเจ็บป่วยอาจเป็นผลเนื่องมาจากการเปลี่ยนตัวของพลังไฟฟ้า electron-proton ในร่างกาย ถ้าไม่เกิดความสมดุลก็ป่วย การใช้ฝ่ามือเป็นพลังคอสมิค cosmic energy ผ่านพลังแสงอาทิตย์ solar power ปรับให้ขั้วบวก ลบ เรียงแถว เสมือนหนึ่งปลาวาฬในมหาสมุทรเรียงเป็นแถวตรงยาวเหยียด เพื่อต้องการสนทนาและหาคู่ เมื่อสมประสงค์แล้วก็แตกแถวแยกย้ายกันไป ด้วยพลังแห่งน้ำในมหาสมุทรและแสงแดด ปลาวาฬก็สามารถสื่อสารส่งจิตถึงกันได้ คนเราก็ใช้พลังจิตผ่านพลังในอากาศที่เรียกว่า cosmic energy ในการบำบัดรักษาโรคสำหรับตัวเอง หรือสำหรับผู้อยู่ตรงหน้า หรือสำหรับผู้อยู่ไกล เพียง 5 นาทีก็หาย เพราะพลังคอสมิคแรง การกินอยู่ สิ่งแวดล้อม อารมณ์ที่ไม่โกรธ ไม่อารมณ์เสีย ไม่รังแกตัวเอง ไม่ทานเหล้า สูบบุหรี่ เป็นปัจจัยส่งพลังหรือทำงายพลังถ้าไม่สมดุลในศูนย์รวมประสาท ณ จักระใดจักระหนึ่ง

วิชาการบำบัดด้วยจักระเป็นการรักษาที่ต้นเหตุ ต้องตรวจเช็คร่างกายปีละ 2 ครั้ง เพื่อตรวจว่าอะไรผิดปกติ ก็ใช้วิชาการบำบัดด้วยจักระรักษาที่ต้นเหตุ เซลล์จากภายในโพรงกระดูกจะฟื้นการทำงานของเซลล์สมอง และปรับภาวะทำงานของเซลล์ภายในให้ประสานงานกัน เพราะเซลล์เพียงหนึ่งเดียวในหนึ่งห้องถึงจะมีค่าใช้จ่ายมากถึงหนึ่งแสนเหรียญก็ได้ผลโดยใช้เซลล์ของตัวเองให้มีประสิทธิภาพที่สุด มร.ฟูจุมูระ ที่มหาวิทยาลัยฮอคไคโด ญี่ปุ่น เรียกการทดลองนี้ว่า Autologous มีคนไข้หญิงรายหนึ่งมือขวาเป็นอัมพาตอยู่นานหลังจากสโตร้ค สามารถใช้มือเป็นปกติได้หลังจากการทดลอง การใช้งานของมือสามารถป้องกันมิให้เกิดสโตร้คอีก เพราะเป็นการสื่อสารไปสู่ระบบการหายใจ และการทำงานช่วงท้อง

ความสำคัญของสมอง เป็นที่ตั้งของจักระที่ 7 ตรงกับต่อมไพนีล และจักระที่ 6 ตรงกับต่อมพิจุอิทาริ เป็นศูนย์กลางการบังคับบัญชา จักระที่ 6 เป็นตัวหลักเกี่ยวกับสุขภาพ ความจำ กระแสโลหิตกระจายฮอร์โมน 12 ชนิด เกี่ยวกับสมรรถนะทางเพศชาย การหดตัวของมดลูกเกี่ยวกับการคลอดบุตร สามารถระงับปวดได้ การบำบัดใช้ฝ่ามืออังที่จักระ 7 กับบริเวณที่ปวด ส่วนสำคัญอยู่ที่สมอง พลังคอสมิคจะส่งพลังงานเข้าสู่จักระที่ 5 ตรงหว่างกระดูกบ่า และจักระที่ 4 ตรงข้ามกับหัวใจ เผาผลาญพลังชั่วร้ายให้หมดไป

จักระที่ 7 ตรงสมอง คือความรู้ ความว่องไว รักษาเซลล์ในสมอง รักษาข้อต่อกระดูกทั่วร่างกาย กฎของการบำบัด คือรักษาทุกวัน วันละ 5 นาที ยกเว้นมะเร็ง ไตเสื่อม กระดูกเสื่อม รักษา 2 ครั้ง ห่างกัน 6 ชั่วโมง

เด็กอายุ 1-8 ขวบ หรือ 8-12 ขวบ ให้วางฝ่ามือที่จักระ 1 ตรงหน้าผาก และอีกมือหนึ่งที่จักระ 7 ตรงกลางกันกบ ครั้งละ 5 นาที

จักระที่ 6 ตรงกลางหน้าผาก จะช่วยให้มีหูทิพย์ มีดวงตามองเห็นด้วยจิต ช่วยความจำ ความสามารถพิเศษคือหยั่งรู้ปัจจุบัน อนาคต และอดีต มีตาทิพย์ ถ้ามีความโลภ โกรธ หลง จะไม่สามารถเห็นดวงตาที่ 3 ได้ความฝันจะเกิดเหตุการณ์เหมือนในฝัน รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า การเรียนรู้สิ่งต่างๆเหล่านี้จะทำให้รักษาจิตวิญญาณ รักษาตัวเองได้ เชื้อโรค 20% ทำให้ป่วยอีก 80% มาจากอารมณ์

การฝึกโยคะจะช่วยให้เปิดตาทิพย์ เสมือนเป็นตาที่สาม ควบคุมสติปัญญา ความเฉลียวฉลาด รับรู้สิ่งต่างๆในจักรวาล ขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปจากร่างกาย

จักระนี้ช่วยรักษาโรคพาร์กินสัน คือความสั่นของอวัยวะ โรคอัลไซม์เมอร์ คือความจำหลงลืม อาจเรียนช้า การบำบัดด้วยจักระจะช่วยให้เห็นผล

จักระที่ 5 กับที่ 4 ระหว่างกระดูกบ่า กับตรงข้ามหัวใจ เมื่อมีการส่งพลังจากศูนย์กลางประสาท ติดต่อสัมพันธ์กับเสียง จะมีวาทะในการพูด เกิดความรัก ความสามัคคี มีอำนาจจากเสียง ส่งเสริมให้คนมีความดี จักระนี้เป็นตัวแทนของการได้ยิน รู้วาระของจิตของมนุษย์ ในคราวคับขันจะได้ยินความลึกลับของเสียงก่อนเสียงมาถึง พยายามสวดมนต์ ร้องเพลง เล่นดนตรี เพราะเสียงมีความสำคัญในการรักษาโรค เช่นเวลาปลูกต้นข้าวโพดก็ร้องเพลงให้ฟัง จะเติบโตเร็วกว่า ศาสนาคริสต์มีการอธิษฐานเพื่อสำรวมจิตเพื่อการสวด ในศาสนาคริสต์มีสามพระภาค คือ พระเจ้าสูงสุด พระเยซู และพระวิญญาณบริสุทธิ์ อาทิ การสวดในวันอีสเตอร์ ที่เรียกว่า Easter Sunday ที่ผ่านมาสัปดาห์ที่แล้ว เป็นการสำรวมจิตอยู่ในพระภาคทั้งสาม เพื่อระลึกถึงพระเยซูซึ่งได้หายจากหลุมฝังเป็นการบังเกิดใหม่ และส่งพลังจิตในการสวดถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าสูงสุด และรวมทั้งระลึกถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ ด้วยพระเยซูทรงทราบถึงความเจ็บปวดหรือปัญหาของเรายามที่เราทุกข์ จะทรงปรากฏยามที่เราร้องไห้ พระเยซูจะทรงเรียกด้วยเสียงแผ่วเบาเปลี่ยนจากความเศร้า เป็นความคิดดี อย่าคิดว่า พระองค์ในหลุมฝังศพ ขอให้เป็นผู้เชื่อว่า เราได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ความคิดนี้จะช่วยให้มีพลังจิตเพิ่มขึ้น

จักระที่ 5 เกี่ยวกับระบบหายใจ โรคหอบหืด คอหอยพอก ระบบต่อมไทรอยด์ ผิวหนัง ผม

จักระที่ 4 อยู่กลางหลัง ตรงข้ามหัวใจ เป็นอนัตตา เป็นความรักที่มนุษย์ให้กับมนุษย์โดยไม่หวังผล ที่ใดมีความทุกข์เราก็นำความสุขไปให้ ที่ใดมีความเจ็บป่วย เราจะรักษา การกระตุ้นจักระที่ 4 ตัดกิเลส 3 ประการที่ทำให้เดือดร้อน คือ 1.โลภ 2.โกรธ 3.หลง เวลาออกไปรับพลังจากคอสมิค ให้หลับตา รักษาที่หัวใจ ส่งจิตไปที่การควบคุมหัวใจ รักษาโรคหัวใจ รักษาการเต้นของหัวใจ หรือหัวใจเต้นผิดปกติ ให้เน้นลมปราณ มีประโยชน์ในการเดินลมปราณ ใช้สำหรับการทำโยคะ ทำสมาธิ หายใจนาทีละกว่า 16 ครั้ง สูดลมหายใจลึกๆ ยาวๆ แรงการรับพลังงานเป็นต้นตอตั้งต้นชีวิต เรียกว่า อากาศ cosmic energy เป็นการดึงพลังคอสมิคเข้าร่างกาย เป็นการสร้างปัญญา มนุษย์มีสติสัมปชัญญะ สัตว์เดรัจฉานไม่มี มีแต่สัญชาติญาณ มนุษย์ใช้สติสัมปชัญญะเพื่อฝืนกรรม ฝืนได้ คิดว่าในอนาคตจะไม่ก่อกรรมอีก ทำสมาธิแล้วจะเกิดปัญญา ความหลงลืมจะหายไป จึงควรระลึกถึงศีล 5 เป็นประจำ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักขโมย ไม่ประพฤติผิดทางเพศ ไม่โกหก ไม่เสพของมึนเมา ศาสนาคริสต์เพิ่มอีก 5 ประการ เป็นบัญญัติ 10 ประการ ได้แก่ 1.ห้ามมีพระอื่นใดนอกจากเรา 2.ห้ามทำความเคารพ 3.ห้ามใช้พระนามในทางที่ผิด 4.จงระลึกถึงวันสบาโต ถือเป็นวันบริสุทธิ์ 5.จงให้เกียรติบิดามารดา 6.ห้ามเป็นพยานเท็จ ใส่ร้ายเพื่อนบ้าน 7.ห้ามโลภ เอาความหยาบออกไป 8.อย่าฆ่าคน 9.อย่าล่วงประเวณี 10.อย่าลักขโมย