สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
ตกใจเกือบหัวใจตกพื้น

อุทาหรณ์เรื่องนี้คุณเคยมีประสบการณ์มาบ้างไหม แหมเป็นใครถ้าประสบกับตัวเองแบบนี้ก็ต้องตกใจกันบ้างละ ยิ่งในอนาคตเรารับพลเมืองจากต่างแดนมามากๆขึ้น ยิ่งต้องเกิดมากขึ้น เย็นวันหนึ่งผู้เขียนเลี้ยงอาหารแมวกว่าจะเสร็จก็ดึกแล้ว ออกไปตัดกิ่งกุหลาบนอกรั้วก็แล้ว ยังไม่เสร็จ เจ้าแมวเหมียวตัวเล็กวิ่งออกไปนอกรั้วแล้วก็รีบกลับเข้ามาในรั้วเหมือนเจออะไรเข้า ผู้เขียนมองตามไปดูที่บันไดระหว่างทางเท้ากับยกพื้นเป็นสวนกุหลาบ เห็นมีกองถุงสีดำมีสายพาดสีน้ำตาลตรงขั้นบันได ก็ยกสายยางฉีดน้ำรดกุหลาบไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นก็มีเสียงละเมอดังออกมาจากกองสีดำที่ขั้นบันได ตายละวา นั่นเป็นโฮมเลสนอนหลบอากาศเย็นตอนกลางคืนอยู่ตรงขั้นบันไดนี่นา อุ๊ย Sorry แล้วรีบรดน้ำส่วนอื่นให้เสร็จ ตายละวา นี่เราทำบาปนะเนี่ย ความรู้สึกผิดที่ไปทำให้ผู้ไร้ที่อยู่ต้องโดนน้ำเปียกเลยเกิดความตกใจไม่สงบใจอยู่จนบัดนี้

หัวใจขนาดเล็กเท่ากำปั้นเท่านั้น แต่บริการทั้งร่างกายภายใน และส่งจิตไปทำงานภายนอกได้ไกลข้ามทวีป หัวใจปั๊มโลหิตไปทั่วร่างกายวันหนึ่งราว 5 ควอทซ์หรือประมาณ 60,000 ไมล์ไปเลี้ยงกว่า 5 เนื้อเยื่อ หรืออย่างน้อยๆ หรืออย่างน้อยๆ เดินทางกว่า 60,000 ไมล์ และเต้น 2-3 พันล้านครั้งเมื่อคนอายุถึง 80 การเต้นของหัวใจเริ่มจากกลุ่มเซลล์ pacemakers หรือเรียกว่า sinus atrial หรือ หรือ SA node หัวใจเต้นเองโดยอัตโนมัติ และรับคำสั่งจากสมอง ซึ่งสมองจะคอยรับฟังสัญญาณความต้องการจากร่างกาย เช่น เมื่อออกกำลังกาย จะต้องการออกซิเจนมากขึ้น หรือเกิดตื่นเต้นอะไรขึ้นมา ก็ต้องการออกซิเจนในเส้นโลหิตเพิ่มเติม ความดันโลหิตจะตกต่ำลงเมื่อมีอาการวิงเวียน จะรับสัญญาณผ่านปลายประสาทเส้นโลหิต ซึ่งส่งข่าวสารไปยังสมอง สมองก็จะส่งข่าวต่อไปยัง SA node ให้เพิ่มการทำงานของหัวใจให้เต้นแรงเร็วขึ้น

เนื้อเยื่อบางๆ ที่ทำหน้าที่ประกอบในการประสานงานกันนี้ หากเกิดการอักเสบ จะขัดขวางการทำงานปั๊มโลหิตของหัวใจ และก่อให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก เป็นการส่งสัญญาณอันตรายต่อการเดินทางของเลือดด้วย หากการสะดุดเกิดขึ้น เส้นทางอันตรายจะไปสู่สมอง จึงเป็นที่น่าพิศวง และน่าชมเชยการปฏิบัติงานของหัวใจขนาดเล็กเท่ากำมือนี้ ที่มีความสำคัญมหาศาลต่อมวลมนุษย์ และสัตว์มีชีวิตทั้งมวล นับเป็นการสร้างอันชาญฉลาด และการทำงานที่น่าพิศวง ไม่มีวันหยุดพัก แม้เวลาเราหลับ หัวใจก็ทำงานในขณะที่อวัยวะภายในทำงาน

การเดินทางของโลหิตจากหัวใจ

1.จากห้องขวาบน right atrium ลงสู่ห้องขวาล่าง right ventricle

2.แล้วเดินทางไปสู่ปอด Pulmonary artery to the lungs

3.ปอดทำงานป้อนออกซิเจนเพื่อปรับภาวะอากาศในโลหิต

4.โลหิตใน Pulmonary vein ในปอดส่งลมหายใจออกเป็นคาร์บอนไดออกไซด์

5.หัวใจรับโลหิตบริสุทธิ์จากปอดเข้าสู่ aorta

6.เส้นโลหิต aorta ส่งไปเลี้ยงเซลล์สมองและร่างกาย

7.โลหิตบริสุทธิ์เดินทางไปสู่ส่วนต่างๆของร่างกาย

8.ไปสู่ลำไส้

9.ไปสู่ตับ เพื่อให้ตับกำจัดสารพิษออก และเติมสารดีๆให้โลหิตเพิ่มเติม

10.เดินทางไปสู่ไต เพื่อเพิ่มกรดและแร่ธาตุ

11.ไปสู่ม้าม spleen เพื่อเติมและกำจัด ส่วนดีและส่วนเสียในโลหิตอีก

12.เซลล์โลหิตสร้างจากกระดูกภายใน bone marrow เช่านที่กระดูกอก เชิงกราน ซี่โครง สันหลัง และกระดูกขาส่วนบน จะสร้าง stem cells เป็นเซลล์แรกเกิดที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างเซลล์โลหิตขาว หรือ lymphoid stem cells ที่มีบทบาทใสการสร้าง เม็ดเลือดขาว lymphocytes ที่จะมีส่วนสร้างโลหิตให้สมบูรณ์ เป็น megakaryocytes ซึ่งจะสร้าง blood platelets หรือเกร็ดเลือดสำหรับปิดปากแผลเมื่อมีการขีดข่วนถึงขั้นเลือดออก จะมีเลือดนี้มาปิดปากแผลป้องกันมิให้เชื้อโรคมีโอกาสเข้าไปในแผล

อย่าว่าแต่เท่านี้เลย ที่ผลงานของระบบโลหิตและอวัยวะในร่างกายสามารถป้องกันตัวคุณได้ มันเป็นการเหลือคณานับ ขอให้ใส่อาหาร และอากาศบริสุทธิ์ เว้นจากยาเสพติด สารมึนเมา

การย่างเข้าสู่สูงวัย อาจส่งอาการเสื่อมได้หลายอย่างต่อระบบร่างกาย ขอให้พยายามติดต่อกับบุคคลอื่นไว้ และมีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ทำประจำวัน เช่นทำสวนครัว ได้แดดอ่อน ได้ออกซิเจนจากพืช การคบหาสมาคมกับกลุ่มใหม่ที่มีอัธยาศัยไมตรีก็ช่วยให้เกิดความสุขทางใจได้ บุคคลที่สร้างความสนใจใหม่ๆขึ้นจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน และสร้างการสื่อสารใหม่ให้เกิดขึ้นในระบบประสาท ขวนขวายเรียนอะไรใหม่ ไปเที่ยวสถานที่ใหม่ และการสร้างมิตรใหม่ ไม่ว่าจะทำอะไรใหม่ ดูเหมือนว่าจะได้ผลดีต่อระบบประสาทที่จะส่งผลต่อร่างกายและรักษาจิตให้ตื่นตัวอยู่เสมอ

คนที่ย่างเข้าสู่สูงวัยอาจได้รับผลเสียจากอาการข้างเคียงของยา นอกเหนือไปจากร่างกายร่วงโรยไปตามวัยทำให้ระบบเสื่อม เช่นเหนื่อยเพลีย หงอยเหงา ท้องผูก หลงลืม และการไม่คงเส้นคงวา อย่าไปคิดว่าเป็นผลจากอายุมากขึ้น เพราะไม่มีอาการข้างต้นนี้อยู่ในระบบความเสื่อมตามอายุ หากเราบริโภคอาหารที่ให้ประโยชน์ นอนหลับสนิทเพียงพอกับร่างกายต้องการ และรักษาอารมณ์ให้เป็นสุขอยู่เสมอ ผู้เขียนเลือกที่จะไม่กินยา หากอ่านผลข้างเคียงแล้วมีอันตรายต่อร่างกาย เลือกกินผักสดสีเขียวหรือสีแก่ ผลไม้สีแก่เช่นลูกพรุนหรือเบอรี่สีดำ ลูกเชอรี่สีดำ พวกนี้ไว้ใจในคุณค่าได้เพราะผ่านแสงอาทิตย์มามากไม่จำเป็นว่า ความชราจะมาพร้อมกับอาการหลงลืม เบื่ออาหาร และอารมณ์หงุดหงิด เราปรับนิสัยเสียใหม่ได้ และกินอาหารที่มีประโยชน์ที่เราชอบ ไม่จำเป็นต้องกินยาแก้อาการจากความชรา จัดห้องที่อยู่ให้สะอาด รับฟังสารคดีที่ให้ความรู้และวิวสวยเพื่อความเพลิดเพลิน คบคนใกล้ตัวที่ส่งเสริมความสุข เหล่านี้เป็นยาอายุวัฒนะที่ดี