สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
จิตบงการ (ได้ไหม?)

กระหยิ่มใจว่าตัวเองสุขภาพดี เนื่องจากไม่เจ็บหัวใจหรือปวดข้อ เพราะยุติการทานแคลเซี่ยม ความจริง ยังมีเรื่องที่คนเราต้องคำนึงถึงอีกมากมายเกี่ยวกับ อากาศร้อนจัดอาจเป็นอันตรายต่อการทรงตัวและการทำงานของสมองได้ ความเปลี่ยนแปลงของอากาศ เราไม่ทันเตรียมตัวให้เหมาะสม ว่าจะส่งผลถึงการทรงตัวตลอดไปถึงการทำงานของสมองอย่างไรแค่ไหน อย่างผู้เขียนเองเมื่อเปิดประตูออกไปข้างนอกทันทีที่ความร้อนกระทบร่างกาย ก็รู้ผลทันที เพราะแตกต่างกับอากาศในห้องปรับความเย็น ทันทีที่ถูกความร้อน หรือเมื่อสะดุดอะไรนิดหน่อยก็ถึงกับเสียหลักล้มหัวฟาดกับรั้วเหล็กมือฉีกเพราะยันจับรั้วไว้ กว่าจะเข้าใจว่าความร้อนและการกระเทือนศีรษะไปถึงสมอง จะส่งผลต่อร่างกายและสมองมากแค่ไหน ก็ต่อเมื่อสมองหมดภาวะรับรู้ อย่างเช่นคนที่หมดสติเรียกว่า unconscious คือเรียกก็ไม่รับรู้ หลับไปแล้วตื่นขึ้นมาก็ไม่รู้ตัว สมองว่างเปล่า ไม่รู้ภาวะรอบตัวใดๆทั้งสิ้น เป็นความว่าง ไม่คิดไม่รับรู้อะไรเลย นอนเฉยอยู่ เขาถึงแนะนำว่า ถ้าสามารถเรียก 911 ได้ก็ควรขอความช่วยเหลือ หรือเมื่อคนอื่นเห็นอาการเช่นนั้นก็ควรโทรเรียกขอความช่วยเหลือด่วน อุบัติเหตุจึงมักเกิดขึ้นเมื่อออากาศร้อนจัด โดยเฉพาะผู้สูงวัย หรือแม้คนทั่วไปที่มีโรคประจำตัวอยู่ เช่นมีเบาหวาน ระดับน้ำตาลในร่างกายค่อนข้างสูง เพราะชอบทานหวาน หรือทานข้าวขาวหรือแป้งจากขนม หรือกลุ่มคนที่มีอาการทางระบบสมองส่วนกลางไม่สมดุล เรียกว่า Multiple Sclerosis ที่ส่งสัญญาณจากสมองผ่านกระดูกสันหลังไปยังระบบกล้ามเนื้อ และระบบกระดูกและอื่นๆ เมื่อความร้อนกระทบศีรษะร่างกายก็เสียหลัก เสียการทรงตัวง่ายขึ้น นอกจากนี้ อาจมีสาเหตุมาจากการทำงานของเซลล์ในตับที่อาจถูกทำลายจากการฉายแสงบำบัดโรคต่างๆ เช่น มะเร็ง คนที่มีโรคประจำตัวเช่นตับแข็ง (Cirrhosis) คือการสะสมไขมันในเซลล์ที่ตับทำให้เซลล์ตับหมดอายุ หรือการดื่มสุราเป็นประจำ ผู้หญิงจะส่ออันตรายด้านนี้เร็วกว่าเพศชาย หรือการไม่ทานยาป้องกันซีสต์ในตับ (Antitrypsin) เพียงพอ หรือมีโรคประจำตัวที่ร่างกาย สะสมสารพิษทำร้ายตับของตัวเอง เช่นสะสมธาตุเหล็กมากเกินไป (Hemachromatosis) หรือสะสมธาตุทองแดง (Wilson disease) มากเกินไป หรือเกิดจากแบคทีเรียบางชนิด การค้นคว้ายังไม่ระบุว่ามาจากไวรัสโควิด 19 หรือเปล่า เพราะยังเป็นไวรัสสมัยใหม่ ไม่สู่การทดลองที่จะยืนยันผลขณะนี้ได้ ระวังป้องกันตัวไว้ก่อน เป็นดีที่สุด นอกจากนี้คนที่มีอาการดีซ่านคือตาขาวและผิวเป็นสีเหลือง หรือคนที่แพทย์ให้ยาระงับการทำงานของภูมิต้านทานไว้ทานไว้ก่อนชั่วคราวเพื่อวัตถุประสงค์ในการผ่าตัด เป็นต้น

คนที่จะรู้สึกถึงอากาศร้อนเป็นภัยต่อสุขภาพอีกกลุ่มหนึ่งได้แก่คนที่สะสมน้ำที่ช่วงท้องมาก เป็นแหล่งของแบคทีเรียท่องเที่ยวอยู่ในระบบเลือดง่ายขึ้น อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต อย่างน้อยก็ส่งผลต่อกล้ามเนื้อที่เล็กลง ขาไม่แข็งแรง ทำให้เสียหลักล้มหัวฟาดพื้นง่ายขึ้นเมื่อกระทบการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิรอบตัว อีกอย่างหนึ่งอาจมาจากขาดธาตุอัลบูมิน (Albumin) ซึ่งเป็นโปรตีนผลิตจากตับ แพทย์จะวินิจฉัยสาเหตุของภาวะร่างกายร้อนเกินมักมาจากการดูว่า มีความสับสนแค่ไหน มีการเจริญอาหารตามปกติแค่ไหน อาเจียนไหม มีโรคระบบสมองหรือไม่ (Sclerosis)

เรารวมเรียกอาหารที่ร่างกายกระทบความร้อนรอบตัวนี้โดยรวมว่า Heat Stroke อาจมีอันตรายแก่ชีวิต เมื่ออุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 105 องศาฟาเรนไฮต์ และไม่ลดลง รู้เพียงแต่ว่าตัวร้อน ผิวแดง ไม่มีเหงื่อออก ภาวการณ์รับรู้ของสมองไม่มี อาจเป็นจากหัวฟาดพื้น หรือเพราะความร้อนก่อเหตุ ให้เรียก 911 ขอความช่วยเหลือ เปิดทางกายใจ อ้าปาก ขยายการรัดตัวของเสื้อผ้า หรือปั๊มหัวใจ

อาหารที่ควรคำนึงถึงเพื่อรักษาร่างกายให้มีแรงต้านทานต่ออุณหภูมิสูง โดยทั่วไปคืออาหารที่ป้อนภูมิต้านทาน ได้แก่กลุ่มไวตามินซี ส้ม ผลไม้ ไวตามินเอจากแครอท ซึ่งจะช่วยบำรุงสายตา และเนื้อเยื่อต่างๆ เบต้าคาโรทีนจากแครอท จะช่วยควบคุม Free radicals คือตัวร้ายที่คอยทำลายระบบภูมิต้านทาน

ไวตามินเอ ดีสำหรับสายตา เสริมเบต้าคาโรทีน แต่ถ้าสูงมากเกินกว่า 15,000 หน่วย R.E. (Retinol Equivalent) อาจทำลายตับ ตับอ่อนและอวัยวะส่วนอื่นได้ สังเกตได้จากการที่ผมร่วง ปากแห้งแตกเป็นขุย

ไวตามินดี จากแสงแดด แพทย์กล่าวว่าจะป้องกันโควิด 19 ควรถูกแดดวันละ 2 ชั่วโมง และอากาศถ่ายเทอย่างดีในที่อยู่อาศัย

ไวตามินอี จะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ โดยเฉพาะทำงานกับไวตามินเอเพื่อป้องกันมิให้แสงแดดทำอันตรายต่อสุขภาพและผิว โดยเฉพาะผิวไหม้แดด

การดื่นน้ำให้เพียงพอ ช่วยเซลล์ให้ทำงานได้ตามปกติ การขาดน้ำเพียง 2% ก็ส่งผลต่อความจำเสื่อมแล้ว นอกจากนี้จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียง่าย โดยเฉพาะตอนอากาศร้อนเช่นนี้

อาหารประเภทแป้งและโปรตีนเป็นสิ่งจำเป็นต้องพิจารณา ดังที่เคยกล่าวแล้วว่า ผู้เขียนนิยมทานข้าวน้ำตาลบราวไรซ์ที่ปรุงสำเร็จพร้อมอุ่นในไมโครเวฟเพียง 90 วินาที รู้สึกว่าระบบขับถ่ายดี สุขภาพแข็งแรง ส่วนโปรตีนที่ทานตอนนี้คือสเต็กเนื้อ ซื้อจากคอสโคเป็นเนื้อก้อนแบบสเต็กฝานบางปรุงสุกภายนอกและแช่เย็นเป็นแพ็คสองถุงในหนึ่งถาด ก่อนรับประทาน จะทานแบบเนื้อสเต็กก็ทอดในกระทะ หรือปรุงกับน้ำพริกผัดพริกขิงก็เติมรสตามชอบ โรยหน้าข้าวร้อนๆ แกล้มผักเขียวลวกในน้ำกลั่น เพื่อป้องกันสารตะกั่วจากน้ำประปาเข้าสู่ระบบร่างกาย เนื้อกล่องนี้เรียกว่า Sliced Grass-Fed Beef Sirloin ไม่มีเครื่องปรุงอย่างอื่น เพื่อให้หลายชนชาติจะชอบทานแบบไหน พร้อมรับประทานทันที เพียงแต่อุ่นหรือปรุงรสตามชอบ หรือไม่ต้องปรุงสเต็ก เนื้อจะให้สารฟอสฟอรัสสร้างกระดูกและฟัน และช่วยแป้งสร้างพลังงาน สร้างเนื้อเยื่อของเซลล์เพื่อให้เซลล์สื่อสารต่อกันมีประสิทธิภาพดีขึ้น เนื้อมีสารแมกนีเซียมสำหรับช่วยสร้างกระดูก และโปรตีน ให้พลังงานไกลโคเจนต่อกล้ามเนื้อ ส่งเสริมให้การส่งสัญญาณจากสมองไปกระตุ้นกล้ามเนื้อให้ทำงานดีขึ้น การทานเนื้อทอดอาจแกล้มด้วยแกงส้มมะละกอใส่ปลาแซลมอนที่จะเพิ่มไขมันชนิดดี HDL เอาไว้ทำลายไขมันชนิดร้ายจากเนื้อที่เป็น LDL ประเภทแป้งนอกจากได้จากข้าวแล้ว ได้จากมันสำปะหลัง ปอกแล้วหั่นบางเป็นชิ้นลงกระทะเคลือบทองแดงที่สเปรย์ไว้ด้วย cooking spray ทำจากพืชคาโนล่า ต้องการเลี่ยงการอบมันฝรั่งหน้าร้อนเพราะสร้างความร้อนในห้องอยู่นาน หรือไม่ก็ซื้อมันฝรั่งผง เติมน้ำกลั่นใส่กระทะแก้วคนจนสุกได้ที่พร้อมรับประทาน ไม่ต้องสร้างความร้อนในที่อยู่เกินจำเป็น นอกจากนี้ เนื้อให้สารซัลเฟอร์เพื่อส่งเสริมการผลิตอะมิโนแอซิดสำหรับหน่วยโปรตีนของเซลล์ผิว ผม เล็บ เรียกว่าอาหารปรุงง่ายให้สารที่ร่างกายต้องการเลี่ยงการโรยเกลือ เพราะรบกวนการทำงานของการหมุนเวียนโลหิต และทำให้ระดับกรดกับด่างไม่สมดุล

การใส่อาหารให้ระบบร่างกาย สำคัญพอๆกับการระมัดระวังกายมิให้กระทบกับสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานของสมอง เพราะอาการของสโตร้คเป็นอาการเฉียบพลัน ตั้งตัวไม่ทัน ป้องกันไว้ก่อน โดยให้ภายในร่างกายเตรียมรับมือไว้พร้อมทุกส่วน ตั้งแต่สมอง แขน ขา กล้ามเนื้อ กระดูก ถึง การย่างก้าวก็ระมัดระวัง เพราะความร้อนมีรังสีรอบตัวทำให้การทรงตัวไม่สมบูรณ์เหมือนอากาศเย็น